คิดได้ถึงตอนนี้ กัวเหวินหมินก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าข่าวลือนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะหากเป็นเรื่องจริงล่ะก็ จดหมายรักที่เธอหย่อนลงไปฉบับนั้น คงจะสัมฤทธิผลไปนานแล้ว
"คิดอะไรอยู่ ใจลอยเชียว " เสี่ยวซานจ้องมองเพื่อนสาวที่กำลังยืนใจลอยหน้าแดงอยู่ แล้วเอ่ยถามด้วยตวามแปลกใจ
"ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร เข้าไปกันเถอะ"
กัวเหวินหมินสะดุ้งรู้สึกตัว จึงแก้เขินโดยการจะยกมือเคาะประตู แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากข้างใน เสียงนั้นเเข็งกร้าว เยือกเย็นซึ่งเป็นเสียงที่ดังเกวินหมอนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
"เข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อก"
ทั้งคู่หันมาสบตากันด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่มาจนถึงตอนนี้พวกเธอยังไม่ได้เสียงดังเลยสักครั้ง จะมีแค่
การกระซิบกันเบาๆ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าพวกเธอยืนอยู่หน้าประตู กัวเหวินหมินเสียการควบคุมไปชั่วขณะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ถ้าอยู่ต่อหน้ามู่จื้อหวี่จะปั้นหน้าแบบไหนก็ยังไม่รู้แต่ต่อจะให้คิดตอนนี้ก็เห็นจะไม่ทันเสียแล้ว เพราะเสี่ยวซานนั้นได้ผลักประตูเข้าไปเรียบร้อย
ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงแสงแดดที่สาดจ้ามาจนแสบตากับแค่แสงสีส้มอ่อนทั้งคู่หลับตาอยู่ครู่หนึ่ง จนเมื่อตาสามารถปรับสภาพได้จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เด็กสาวสองคนเผลอสำรวจการตกเเต่งของห้องภายในชมรมแห่งนี้
มันดูไม่ต่างจากครั้งที่พวกเธอเคยมาสักเท่าใดนัก เพราะยังสอาดสะอ้านหมดจด ตู้หนังสือโซฟาและโทรทัศน์ ทั้งยังมีโต๊ะทำงานสีน้ำตาลขนาดใหญ่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่าง
ชายหนุ่มนั่งเอาแขนเท้าโต๊ะ พลางเคาะนิ้วที่ข้างแก้ม พร้อมกับจ้องมองแขกผู้มาเยือนทั้งสองคนตาไม่กะพริบ
แสงแดดสีส้มอ่อนๆ ส่องทะลุหน้าต่างบานใหญ่มายังด้านหลังของเขานั่นยิ่งทำให้เขาดูลึกลับเข้าไปอีก
ไม่รู้ว่าควรจะให้คำจำกัดความกับมู่จื้อหวี่ว่าหล่อหรือป่วยดี เพราะใบหน้าของเขานั้นดูดีราวกับถูกวาดขึ้น ทั้งคิ้วและดวงตาดูคมเข้มไร้ที่ติหากแต่สีผิวนั้นซีดขาวราวกับพอกแป้งจึงดูขัดแย้งจนน่ากลัวอย่าบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อตอนเห็นริมฝีปากสีแดงสดของเขาแล้ว หากบนโลกนี้มีผีดูดเลือดอยู่จริงพวกเธอคงคิดว่าเขาเป็นแวมไพร์ไปแล้ว
แต่ที่แน่ๆ คือเขาเป็นผีดูดเงินแน่นอนไม่มีผิดเพี้ยน...
อย่าคิดดูถูกว่านี่เป็นแค่ชมรมวิจัยเล็กๆ ในโรงเรียน เพราะค่าจ้างของเขาแพงกว่ามืออาชีพข้างนอกเสียอีก
"มีธุระอะไร"
มู่จื้อหวี่ยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาไร้แววตาของเขากดดันจนคนฟังแทบลืมหายใจ ยังดีที่ตอนนี้ยังพอมีแสงสว่างอยู่บ้าง ไม่เช่นนั่นพวกเธอคงเผลอคิดว่าตัวเองกำลังถูกผีหลอกอยู่
"นายรู้ได้ยังไงว่าเรามา"
เสี่ยวซานถามด้วยความแปลกใจ หันไปมองรอบๆ เพื่อสำรวจหาว่ามีกล้องวงจรปิดด้อยถ่ายติดอยู่ตรงไหนบ้างหรือเปล่า แต่ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าในห้องที่เงียบสงบไม่มีอะไรอยู่เลย แม้แต่โทรศัทน์ก็ไม่ได้เปิด
"ฉันเห็นตอนพวกเธอเดินจ้ำอ้าวมาที่ตึกนี้"
มู่จื้อหวี่ยังคงตอบเสียงเรียบ สายตาจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวซาน เขาไม่มองกัวเหวินหมินเลยสักนิด
เสี่ยวซานไม่เชื่อ
"ไปหลอกเด็กอมมือเถอะนายนั่งหันหลังให้หน้าต่างแบบนั้นเเล้วจะเห็นพวกเราเดินมาได้ยังไง นายมีตาหลังหรอ นึกว่าพวกฉันโง่หรือไงยะ!"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments