กัวเหวินหมินยิ้มหวานพลางสยายผมยาวสลวยของเธอ
"เธอคิดว่าฉันจะแวบออกมาได้เหมือนพวกผู้ชายนั่นหรือไง"
"ห้ะ ว่าไงนะ!?!" เสี่ยวซานขมวดคิ้วตะโกนเสียงดัง "กระซิบอะไรไม่ได้ยินเลย"
"ก็แล้วทำไมไม่เอาหูฟังออกล่ะ!" กัวเหวินหมินพยายาตะโกน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
"อะไรนะ!" เสี่ยวซานมองเพื่อนตัวเองด้วยสีหน้ารำคาญ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดเสียงเบาขนาดนั้นด้วย
กัวเหวินหมินเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจย่างเอือมระอาพร้อมกับชี้ไปที่หูของเธอ ในที่สุดเสี่ยวซานก็เข้าใจว่าที่แท้เป็นเพราะตัวเองยังใส่หูฟังเอาไว้นั่นเอง เธอจึงยิ้มแหะๆ โชว์ฟันเขี้ยวออกมาแบบอายๆ จนกัวเหวินหมินก็พลอยขำไปด้วย แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกัน
เสียงหัวเราะดังกังวานใสราวกับเสียงกระดิ่ง รวมกับรอยยิ้มที่หวานใสราวกับเหล่านางฟ้า ฉากแบบนี้ยิ่งดึงดูดสายตาหนุ่มๆ ให้หยุดมอง แต่บางครั้งก็ดึงดูดรุนแรงเกินไปจนบางคนถึงกับเดินชนเสากันเลยก็มี กระทั่งเสี่ยวซานี้รู้สึกตัวและหันไปถลึงตาใส่สายตาเหล่านั้นอย่างโหดๆ ทุกอย่างจึงกลับสู่สภาวะปกติ จากนั้นเสี่ยวซานจึงลาก
กัวเหวินหมินไปทางหลังโรงเรียน
พวกเธอเดินผ่านสนามกีฬาและสนามบาสเกตบอล ระหว่างทางนั้น
คนเริ่มบางตาน้อยลงทุกๆที จนในที่สุดเมื่อเข้าไปไก้ลอาคารนั้นไม่มีใครเลยนอกจากพวกเธอเเค่สองคน
รู้ตัวอีกทีบรรยากาศรอบตัวก็มืดสลัว
ดูเงียบสงัดไร้ผู้คน ชวนให้ขนลุกขนชันได้ไม่น้อย อีกทั้งแถวนี้ยังเป็นมุมเปลี่ยวที่สุดในบริเวณโรงเรียน หนำซ้ำสันนี้ฟ้าก็ดูมืดเร็วกว่าปกติ ทำให้ตอนนี้ความหนาวเย็นเริ่มแผ่ไปทั่วร่างกายของเด็กสาวทั้งสองกัวเหวินหมินและเสี่ยวซานเดินตัวแนบชิดติดกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่างคนต่างกุมมือกันไว้แน่น เพียงไม่นานก็ค่อยได้ หยุดเดินพร้อมกันอย่างช้าๆ
อาคารสูงตระหง่านที่อยู่เบื้องหน้าพวกเธอเป็นอาคารชมรมที่มีประวัติยาวนานที่สุดในโรงเรียน มันถูกล้อมด้วยรั้วสีขาวกระดำกระด่าง แม้มันจะดูเก่าแก่แต่ก็ยังไม่ถูกรื้อถอน ที่น่าประหลาดที่สุดคือนอกจากชมรมวิจัยของมู่จื้อหวี่แล้ว ก็ไมีเคยเห็นชมรมไหนใช้อาคารหลังนี้มาก่อนเลย ด้วยเหตุนี้ทำให้มีข่าวลือต่างๆ นานานับไม่ถ้วน จนที่นี่ถูกขนานนาใก็กลายเป็นสถานที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุดในโรงเรียน
กัวเหวินหมินเดินหลบอยู่ด้านหลังของเสี่ยวซาน ทั้งคู่ค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดเดิ นเข้าไปในตัวอาคารอย่างช้าๆ เบื้องหน้านี้พวกเธอเป็น คยมาที่นี่แล้ว คงไม่มีทางเชื่อว่ามีคนอยู่ที่นี่จริงๆ อย่างแน่นอน
พวกเธอเดินหน้าไปด้วยหัวใจเต้นรัว ด้านในยังพอมีเเสดงอาทิตย์สีส้มลอดมาอยู่รำไร มันส่องทะลุผ่านประตูห้องชมรมวิจัย สถานที่เผ้าหมายของพวกเธอนั่นเอง
เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูก็เหลือบไปมองกล่องจดหมายสีแดงเข้ม
ที่อยู่ข้างๆ ประตู มันดูแดงฉานราวกับมีใครเอาเลือดสดๆ มาป้าย ช่องใส่จดหมายสี่เหลี่ยมถูกตกแต่งจนกลายเป็นแบบนี้ไปได้ มิน่าล่ะ...เจ้ากล่องจดหมายนี่ถึงถึงได้กลายเป็น หนึ่งในเรื่องเล่าที่พวกนักเรียนร่ำลือกัน
เขาเล่ากันว่า หากเขียนความปรารถนาของตัวเองลงในโปสการ์ดตอนเวลาเที่ยงคืน หลังจากนั้นก็ให้ 'เสี่ยงชีวิต' มาหย่อนใส่ตู้จดหมายนรกใบนี้แล้วควาปรารถนานั้นจะเป็นจริง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments