ดาบในมือของไทเริ่มเปล่งแสง ใบดาบเริ่มสั่นอย่างรุนแรง
“วัตถุดิบระดับต่ำเกินไป รองรับพลังงานได้ไม่มากเท่าที่ควร เอ่อ..”
เขาลดพลังงานลงมาจนดาบเริ่มสงบลง
“น่าจะไม่เกินสองร้อยคือขีดจำกัดแล้ว? อืม..”
มิมิคหมาป่าที่เหลือโอบล้อมเขาทุกทิศทาง พวกมันคำรามเสียงต่ำ ทว่ากับศัตรูระดับที่มากกว่า สัญชาตญาณของพวกมันเริ่มระมัดระวัง
ไทไม่ได้ประหม่า คู่ต่อสู้ระดับนี้ เขาสู้กับพวกมันไม้รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง หลังจากทำความเข้าใจกับอาวุธในมือ เขาจ้องมองไปที่พวกมิมิค
“เฮ้ รู้จักคลื่นดาบปราบมารไหมเด็กๆ”
เหมือนกับการพูดของเขาเป็นเสียงระฆังเริ่ม มิมิคหมาป่าทั้งสี่ที่ล้อมเขาเอาไว้กระโจนเข้าหาเขารอบทิศทาง
ในตอนนี้เขาย่อตัวลงดาบในมือที่เปล่งประกายมีละอองอีเธอร์หมุนวนอยู่รอบใบดาบ
ภายในเสี้ยววินาที ไทกวาดดาบไปรอบตัวเขา คลื่นอีเธอร์ที่รุนแรงกระจายไปตัวทั้งดาบ
ภายใต้สายตาที่ไม่เชื่อของกลุ่มของชาน คลื่นดาบสีขาวถูกวาดออกเป็นคลื่นวงแหวนรอบตัวไทก่อนกระจายออกเป็นวงกว้าง
ร่างของมิมิคหมาป่าทั้งสี่ถูกคลื่นดาบผ่าออกเป็นสองท่อนในทันทีที่มันปะทะกับคลื่นวงแหวน
เปรี๊ย!!
“กะแล้วว่าไม่น่าจะทนไหว” จบคำพูดของไท ใบดาบในมือของเขาเกิดรอยร้าวขึ้นก่อนที่มันจะแตกกระจายเหลือเพียงด้ามจับ แต่ทันทีที่เขาคลายมือออก แม้แต่ด้ามดาบเองก็ไม่อาจรับพลังของมันอีกต่อไป
ชานกับพวกเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
เฟย์ หญิงสาวมือปืน หยิบเครื่องวัดพลังงานออกมาไม่รู้ตัว
[ตรวจพบมนุษย์ สายเลือดดั้งเดิม ระดับพลังงาน 1450 นักรบ 4 ดาว]
[ไม่พบการลงทะเบียนประชากรใหม่]
4 ดาว!!!
เนื่องจากไม่มีการปกปิดเสียงของเครื่องวัดพลังงาน แน่นอนว่าไทที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนักย่อมได้ยิน
“อืม ก็คิดไว้ว่าน่าจะประมาณสี่ดาว แต่เข้าใกล้ระดับ 5 ดาวแล้วนี่ไม่คิดมาก่อน” ไทกำมือของเขาเหมือนกับต้องการจับความรู้สึกพึงพอใจของพลังในร่าง
กี๊สสส
พวกมิมิคระดับเบี้ยที่เหลือส่งเสียงร้องสูง พวกมันตัวสั่นอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะหันกลับหลบหนีทันที!
ไทยกปืนในมืออีกข้างของเขาก่อนจะยิงกระสุนออกไปทันที
“มือปืนตามผมมา กวาดล้างพวกมันให้ได้มากที่สุดในรัศมีร้อยเมตร”
“นักดาบดูแลคนเจ็บ หาจุดปลอดภัยบริเวณใกล้เคียงก่อนทำสัญลักษณ์ให้ทีมทันที”
“ระ รับทราบ!!”
ทั้งห้าคนตอบรับโดยสัญชาตญาณทันที
หลังจากเผลอตอบรับ คนอื่นๆรีบมองไปที่ชาน อย่างน้อยที่สุดเขาคือหัวหน้าของทีมนี้!
ชานขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนมองไปที่ไทแล้วพยักหน้าตอบรับ
“ช่วยดูแลพวกเขาด้วย พวกเขาเป็นแค่นักเรียนที่เพิ่งจบหลักสูตร”
“ได้”
ไทพามือปืนทั้งสามพุ่งออกไปทันที เขาอยากให้คนอื่นๆกระจายกันออกไป แต่เมื่อรับรู้ว่าพวกเขาเป็นเด็กใหม่ เขาล้มเลิกแผนทันที
โอกาสล้มตายของพวกเขาเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์หากออกล่าคนเดียว
หลังจากหนึ่งชัวโมงผ่านไป
ไทพามือปืนทั้งสามกลับมาก่อนจะหาสัญลักษณ์ที่ชานวางไว้
ไม่นานเขาก็พบมัน
ภายในอาคารเก่า ไทพบทั้งสองทันที ชานตอนนี้มีผ้าพันแผลว่าอยู่รอบอกนั่งพักอยู่ขณะที่นักดาบอีกคนเฝ้าระวังรอบด้านด้วยปืนในมือ
พวกเขาพบไทแล้วเช่นกัน นักดาบถอนหายใจออก สีหน้าที่วิตกกังวลดูผ่อนคลายทันที
“เป็นยังไงบ้าง ยังดีที่คุณมีความรอบคอบมากพอที่จะพกอุปกรณ์การแพทย์” ไทถามออกไป แน่นอนว่าเขาหมายถึงชาน
ชานรู้สึกแปลกเล็กน้อย ที่เห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าตอบโต้เขาแบบห้วนๆ อย่างน้อยเขาอายุยี่สิบแปดแล้ว เขาถอนหายใจก่อนจะตอบ
“ขอบคุณ แต่นี่คือพื้นฐานของทั้งหมด อาการจะดีขึ้นหลังผ่านไปสี่ถึงห้าชั่วโมง”
“ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่นเราจะย้ายที่กันอีกครั้ง คุณไหวใช่ไหม พวกมิมิคที่หลบหนีน่าจะได้รับสัญญาณจองพวกที่ระดับสูงกว่าให้ล่าถอย เพราะฉะนั้นต้องมีมิมิคที่มีระดับพลังสูงกว่าสั่งการพวกมันอยู่ข้างหลัง จะดีกว่าที่เราทำการย้ายอีกครั้ง”
คนอื่นมีสีหน้ากังวลทันที มิมิคระดับที่สูงกว่าหมาป่า!!
“ผมยังไหว”
คนอื่นในทีมช่วยเขาลุกขึ้น ใช้เวลาไม่นานในการทำความรู้จักกันเล็กน้อย
โดยไม่รู้ตัว ไทกลายเป็นผู้นำกลุ่มชั่วคราวแทนชานที่บาดเจ็บ
“ผมถามได้ไหมว่าตอนนี้วันที่เท่าไหร่”
ระหว่างการย้าย ไทถามขึ้นด้วยความสงสัย
“20 ธันวาคม ปีที่ 5 ของปฏิทินใหม่”
“ปีที่ 5??”
“ใช่ คุณไม่รู้เหรอ ผมลืมไปคุณเพิ่งออกมาจากแก่นแท้ของโลกใช่ไหม” ชานเอ่ยขึ้น
“เหมือนคุณจะรู้เรื่องนี้ดี” ไทตอบ
“ไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้ แต่มันสองปีแล้วที่มีข่าวถึงการกลับมาของพวกคุณ”
“อืม ให้ผมเดามันคงจริงๆ”
“ใช่ ล่าสุดคือเมื่อสองปีก่อน เธอชื่อกาเซีย ตอนนี้เธอเป็นพันเอกของกองทัพพันธมิตรไปแล้ว”
“กาเซีย?”
“คุณรู้จักเธอรึเปล่า?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ไทสอบถามกับชานในเรื่องต่างๆเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่
เขาพบว่านี่คือชายแดนที่มีอาณาเขตติดทะเล ค่ายที่ใกล้ที่สุดคือค่ายทหารอาสา G107 ที่ห่างออกไปยี่สิบกิโลเมตร
หลังจากที่ไทถูกส่งไปที่โลกแก่นแท้ โลกภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกเนื่องจากการขยายตัวของโลก ทวีปเดิมถูกแยกออกจากกัน พื้นดินยกตัวสูงขึ้นจากมหาสมุทร มีแผ่นดินใหม่ปรากฏตัวขึ้นจำนวนมากอีกทั้งมหาสมุทรเองยังขยายตัวแบ่งพื้นแผ่นดินออกเป็นสี่ทวีปใหญ่ เจ็ดทวีปเล็กกลางมหาสมุทร
มีการจัดตั้งและปฏิรูปการปกครองใหม่ทันทีที่มนุษย์สามารถผลักดันพวกมิมิคให้ถอยกลับ
กองทัพพันธมิตรถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลานี้
ในพันธมิตรเลือกผู้นำทั้งแปดเป็นประธานาธิบดีที่เกิดจากการเลือกตั้งชั่วคราว ดำรงตำแหน่งวาระแรกที่แปดปีจากผู้มีอำนาจสูงสุดของทั้งหมด
เนื่องจากมีประธานาธิบดีแปดคนในกองทัพพันธมิตร กองกำลังภายใต้ชื่อกองทัพพันธมิตรจึงถูกแบ่งออกเป็นแปดกองทัพใหญ่ และภายในกองทัพขนาดใหญ่ยังแบ่งออกเป็นสี่กองกำลังอีกทีหนึ่ง
ค่าย G107 เป็นค่ายที่อยู่ในทวีปตะวันออก ทวีปตะวันออกถูกควบคุมดูแลโดยกองทัพแห่งยูเรเซีย และ กองทัพแห่งอาชาเนียภายใต้กองทัพพันธมิตร
ค่าย G107 อยู่ในการควบคุมของยูเรเซีย
‘นอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราที่ต่างจากอดีต สิ่งอื่นๆไม่ต่างกัน กองทัพยูเรเซีย และ ไอ้โง่นั่น’
ก่อนพระอาทิตย์ตก พวกเขาพบหลุมหลบภัยชั่วคราวก่อนตั้งค่ายพัก
“รถของพวกคุณอยู่ที่ไหน? ทำไมผมไม่เห็นมันเลย” ไทถาม
เนื่องจากพวกเขาเริ่มจะคุ้นเคยกัน เพราะไทช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ประกอบกับที่รู้ว่าไทเป็นคนที่ได้รับการส่งผ่านมรดกจากแก่นโลก ทัศนคติของพวกเขาต่อไทจึงอบอุ่นขึ้นมาก
“พี่ไท เอ่อ พวกมันพัง” มิรุ มือปืนสาวจบใหม่เป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับไทได้อย่างรวดเร็วตอบ
“งั้นก็แย่หน่อย ถ้าไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นคงถึงค่ายของพวกคุณในเย็นพรุ่งนี้”
“ใช่ ที่ค่ายมีคนอยู่หลายพันคนเลย ที่นั่นมีบาเรียที่พวกมิมิคไม่สามารถทำลายได้อยู่ พวกเราจึงปลอดภัยในนั้น” มิรุเบ่าอย่างตื่นเต้น
ไทยิ้มตอบหลับ
‘บาเรียขนาดเล็กนั่น ขอแค่ถูกพวกระดับต่ำโจมตีอย่างต่อเนื่องสักห้าชั่วโมงก็คงแตกแล้ว ไม่ต้องพูดถึงพวกที่สูงกว่านั้น’ แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกไป
ก้อนค่ำ ชานส่งแคปซูลสารอาหารให้กับไท มันคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้น เพียงหนึ่งเม็ดจะแทนที่สารอาหารบำรุงร่างกายได้ถึงสามมื้อ ซึ่งสามารถช่วยมนุษยชาติในเรื่องการขาดแคลนอาหารในหลายพื้นที่ได้ อีกทั้งมันยังสะดวกกับนักรบเวลาเดินทางไกลในการพกพาพวกมัน
“ขอบคุณ” ไทรับมาก่อนจะกินมันลงไปทันที
คืนนั้นผ่านไปด้วยการที่ไทเป็นยามเฝ้าในช่วงแรก เนื่องจากความเหนื่อยล้าของคนอื่นๆ เขาจึงอาสา
ไทรู้สึกว่าหลังจากการสู้รบครั้งแรกนี้ พลังงานอีเธอร์ของเขาฟื้นฟูอย่างเร็วกว่าเมื่อชีวิตก่อนหน้าของเขาถึงห้าเท่า!!
ในอัตรานี้ แม้แต่การใช้พลังต่อสู้อย่างต่อเนื่องสักสี่ถึงห้าชั่วโมง พลังงานของเขาก็ยังไม่มีทางหมด นอกจากการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เขาต้องใช้พลังเต็มที่ตลอดเวลา เขาก็ยังอยู่ได้นานกว่านักรบคนอื่นๆอย่างมาก
ไทตรวจสอบปืนสองกระบอกกับเขาและดาบยาวสามฟุตที่เขาถืออยู่
“ผ่านมานานแล้วที่ไม่ได้กลับมาที่นี่ ผ่านมาแค่ห้าปี สิ่งนั้นอาจยังอยู่”
ก่อนออกเดินทาง ไทขออนุญาตจากทีมของชานเพื่อปลดสายรัดและเข็มขัดสำหรับจัดเก็บปืนทั้งสองกระบอกที่เอว และดาบที่เขาสะพายไว้ด้านหลัง
เนื่องจากศพของนักรบโล่ทั้งสามกลายเป็นมิมิคหมาป่าไปแล้วหลังจากที่ตาย พวกมันก็กลายเป็นหินอุกกาบาตสีดำที่แตกกระจายไป
‘เสียดายแต่ไม่มีช่องว่างมิติ…อืม หวังว่าพวกมันจะโพล่ออกมาในอนาคต’ ไทนึกไปถึงมิมิคประเภทหนึ่ง พลังสู้รบของมันไม่สูง นอกจากร่างกายที่ใหญ่โตสูงกว่าสิบเมตรและยาวกว่าสามสิบเมตร พลังเพียงหนึ่งเดียวของมันคือการขนส่งข้ามมิติ
ชิ้นส่วนในร่างกายของพวกมันสามารถนำมาสร้างช่องว่างเก็บของได้
ตอนกลางคืนผ่านไปได้ด้วยดีแม้จะพบกับพวกมิมิคแต่ไทจัดการกับพวกมันทันทีที่พวกมันปรากฏตัว เสียดายที่มีเพียงระดับเบี้ย..
“มันน่าจะอยู่แถวๆนี้”
“มีอะไรรึเปล่า” ชานเอ่ยถามขึ้น
“ผมกำลังยานพาหนะพาเรากลับค่ายน่ะ” ไทยิ้มตอบ
“แต่บริเวณนี้ส่วนใหญ่เราสำรวจไปจนหมดแล้ว ถ้าเคยมีที่ตั้งโชวรูมรถเก่าหรือสถานที่ทั่วไปอื่นๆ”
“พวกของกินของใช้ล่ะ”
“ส่วนใหญ่น่าจะสำรวจแล้ว นอกนั้นก็เน่าเสียไปตามเวลา”
“เอาเถอะ งั้นพวกคุณอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะไปดูหน่อย”
“ไปด้วยกันเลยครับจะได้ไม่เสียเที่ยว” ชานตอบ
ไทค้นหาในความทรงจำของเขาก่อนจะนำพาทั้งทีมเดินไปตามเมืองร้าง
“ที่นี่เหรอ ?” ชานถาม เขามองไปรอบๆ
ห้างสรรพสินค้าเก่า?
“ตึกหลังนี้มันพังลงมานานแล้ว พวกเราเคยสำรวจแล้ว จะพูดว่าสถานที่อย่างห้างเก่า ป้อม สถานีตำรวจกับเขตตลาดต่างๆเป็นที่แรกๆที่พวกเราค้นหา”
“อืม แล้วลานจอดรถใต้ดินล่ะ”
“ลานจอดรถ?”
“ใช่ ถึงตึกมันจะพังลงมาแต่แล้วด้านล่างละ อีกอย่างนึง รากฐานของตึกเองก็ไม่ได้พังเสียหายมากนัก มีเพียงขั้นสองกับชั้นสามที่ถล่ม หรือคุณไม่เห็น?”
“ผมไม่แน่ใจเช่นกัน เป็นทีมอื่นที่ส่งรายการไปที่ค่อยว่าได้วสำรวจที่นี่แล้ว เมื่อปีก่อนมีการขนย้ายสิ่งของจำเป็นจำนวนมากออกไป” ชานตอบ
“งั้นเหรอ งั้นลงไปดูกัน ระวังด้วยนะครับ อย่าประมาท หากเจอพวกมิมิค ให้แจ้งเตือนคนอื่นๆทันที”
“รับทราบ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 16
Comments