Disaster Mimic ภัยพิบัติมิมิค
“ ความตายมันก็ไม่ได้เจ็บปวดเท่าไหร่” ร่างของชายหนุ่มออกเสียงแผ่วเบา ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว เขามองไปที่สัตว์ประหลาดสีดำข้างหน้าก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง
ร่างกายที่นอนพิงซากปรักหักพังของเขาเต็มไปด้วยด้วยสีม่วงส่องประกายไปทั่วร่างกาย ขณะที่เลือดสีม่วงไหลออกจากบาดแผล มันค่อยๆส่งกลิ่นเหม็นสังกะสีก่อนที่ความเป็นประกายของมันจะเริ่มหม่นลงกลายเป็นสีดำ
ความเจ็บปวดไล่ขึ้นมาจากปลายเท้าสู่แขนขาและร่างกายที่ไม่สมประกอบ
ชุดรบสีดำแดงที่ขาดรุ่งริ่ง เกราะที่ดูเหมือนเศษขยะ เขามองไปที่แขนขวาที่ไม่มีอยู่จริงอีกต่อไป ไม่ทราบว่ามันตกไปอยู่ในท้องของสัตว์ประหลาดสีดำที่กำลังย่างกายเข้ามาพร้อมความหิวโหยหรือกระเด็นไปตกอยู่ส่วนในของสนามรบ เช่นเดียวกับขาทั้งสองข้างที่หลังจากความเจ็บเข้าครอบงำก็รู้สึกเพียงความชา เขาแทบขยับร่างกายไม่ได้อย่างสมบูรณ์
“ถ้าเพียงแต่ไม่เชื่อเรื่องบ้าๆนี่!” เขาสบถอย่างหัวเสียด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่
กรรร..
“อ่า… โทษทีนะคู่หู” เสียงคำรามต่ำได้ยินอยู่ไม่ไกลจากเขา มันพยายามลุกขึ้นมา ทว่าสิ่งที่มันเหลือมีเพียงร่างกายที่ไม่มีแขนขา ปีกข้างหนึ่งถูกฉีกขาด ที่ดวงตาของมันแสงสีม่วงประกายที่เคยเจิดจรัสใกล้ดับแสงลง
“มนุษย์” เสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวของเขา สัตว์ประหลาดสีดำตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาในที่สุด เสียงนี้ไม่ได้ออกมาจากอวัยวะที่เหมือนปากของมัน แต่กลับดังขึ้นในหัวของเขาโดยตรง
“ว่าไงไอ้สัตว์ประห…” เขาตอบโต้กลับไป แต่ก่อนจะจบประโยค เขาไอเป็นเลือดออกมาก่อน
“นักรบจากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำที่ถูกทอดทิ้ง พวกเจ้าซ่อนมันไว้ที่ไหน”
“ฮ่าๆ เจ้าหมายถึงสิ่งนี้” เขาใช้แขนข้างที่เหลืออยู่หยิบบางอย่างออกมา มันเป็นกล่องเหล็กสีเงินที่รอบๆมีพลังงานที่โกลาหล เขาปลดสลักด้วยคำสั่งเสียงก่อนที่สิ่งที่อยู่ด้านในจะปรากฏขึ้น
สัตว์ประหลาดสีดำแสดงท่าทางบ้าคลั่งทันทีที่เห็นมัน กรงเล็บที่แข็งแกร่งแทงลงมาทันที่หวังฆ่าชายหนุ่มให้ตาย ทว่ากลับต้องหันไปด้านข้างรีบป้องกันลำแสงสีม่วงที่โจมตีเข้ามา
“หึ่ม!! เดรฉานชั้นต่ำนอกคอก” มันปัดลำแสงออกไปอย่างง่ายดายด้วยโล่ที่เกาะติดบนแขน ก่อนจะดึงขวานขนาดมหึมาของมันออกมาจากด้านหลัง ทุบเข้าใส่ร่างที่อยู่ด้านข้างของชายหนุ่ม
ดวงตาของเขามองคู่หูที่ร่างถูกแยกออกมาอย่างไม่กะพริบตา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ต่อศัตรูตรงหน้า ต่อตัวเขาเอง และเผ่าพันธุ์ของเขาก็เช่นกัน
“ถ้าเพียงไม่โลภสิ่งบ้าๆที่ไม่รู้จักนี่!” ชายหนุ่มสบถด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนที่สัตว์ประหลาดสีดำจะทันตั้งตัว เขาโยนมันเข้าไปในปากก่อนจะกลืนมันลงไป
“ไม่! มนุษย์” เสียงคร่ำครวญของสัตว์ประหลาดดังขึ้น
ทว่าร่างกายที่ระเบิดออกของชายหนุ่มไฉนเลยจะได้ยินมัน
‘แบบนี้ก็ดีแล้ว ได้พักผ่อนสักที’ ความคิดสุดท้ายของเขาดังสะท้อนอยู่ในความว่างเปล่า ทว่าก่อนที่ความปรารถนาของเขาจะเป็นจริง ความเจ็บปวดรวดร้าวก็เข้ามาพร้อมเสียงดัง
“ตื่น! ไท ตื่น! เทศกิจมาแล้วโว้ย รีบเก็บของ”
“หื้ม!” เขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน แสงที่สาดเข้ามาทำให้เขาไม่สามารถปรับโฟกัสได้ในทันที ทว่าไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว ความเจ็บปวดก็แล่นเข้าสู่หัวของเขาอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะน้ำตาของเขาไหลจากความเจ็บที่หัว ทำให้ในที่สุดเขาก็มองไปรอบๆได้ชัดเจน เขารีบหันไปทางที่สิ่งที่โจมตีเขาเมื่อสักครู่
“อะไร! พวกมิมิค? แต่…” เขาตายแล้วนี่ หรือนรกเป็นที่อยู่ของพวกมัน
“มิมิค? มิมิคบ้านป้าเอ็งซิโว้ย พ่อเอ็งมาแล้ว รีบเก็บของ ข้าไม่รอแล้วนะโว้ย” ชายวัยกลางคนตะโกนอย่างรีบร้อน
“เอ๊ะ! ลุง…” สมองของเขาเหมือนกับเบลอไปในทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า
“ลุงก็ตกนรกเหมือนกันเหรอ?” เขาอุทานด้วยความตกใจ ทว่าชายวัยกลางคนไม่ได้อยู่ฟังแต่มีเสียงตะโกนตอบกลับมา
“นรกบ้านเอ็งสิ ถ้าเอ็งยังไม่หนีเอ็งได้ตกนรกจริงๆแน่ถ้าของเอ็งถูกพวกมันเอาไป”
ชายหนุ่มแสดงสีหน้างุนงงก่อนจะรีบหันไปสำรวจรอบข้าง
“ที่นี่มัน?” เขาอุทานออกมาก่อนจะลุกพรวดขึ้นเหมือนไฟฟ้าช็อต เขาเห็นตำรวจในชุดเทศกิจพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับภาพของพ่อค้าแม่ค้าที่รวบของหนีกันวุ่นวาย
“จับเขา!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวแขนสองข้างก็ถูกรวบอย่างแน่นหนา
“เอ่อ คือ?”
“ยังไม่ต้องพูดไอ้หนุ่ม ตามไปที่สถานี”
“ไม่ ผมไม่ได้จะอะไร แต่ขอถามได้ไหม” เมื่อเห็นว่าแขนทั้งสองข้างที่ถูกจับนั้นมาจากชายชุดเทศกิจสองคนหาใช่จากสิ่งที่เขาคิด เขาไม่ได้แสดงอาการขัดขืนว่ากลับถามคำถามแทน
“มีอะไรไปคุยกันที่สถานี”
“ไม่ๆ ผมแค่จะถามว่านี่ปีอะไร”
“บ้าอะไรเนี้ย กลัวจนสมองกลับรึไงถ้าไม่ใช่ 2023!”
“2023!! ค.ศ.เก่า?”
“รับพาตัวไปพร้อมของ อย่ามัวแต่คุย!”
“รับทราบ” เทศกิจที่ล็อคตัวเขาไว้โต้ตอบกันไปมา
ทว่าในหัวของชายหนุ่ม ไม่สิ!ในหัวของเด็กหนุ่มตอนนี้นั้นว่างเปล่า ความรู้สึกเหมือนถูกกนะแสไฟฟ้าสายน้อยแล่นเข้าสู่ร่างกาย
‘นะ นี่! การย้อนเวลา??’
ไม่นานเขาถูกส่งตัวในรถตำรวจพร้อมกับพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆที่หนีไม่ทันสี่ห้าคน
เสียงพร่ำบ่นเซ็งแซ่ของพวกเขาดังอยู่ข้างๆ เขาพบว่ามีใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ในความทรงจำของเขา แม้จะยินดีที่ได้พบกันใหม่แต่จิตใจของเขาตอนนี้กลับไม่ได้โฟกัสอยู่ที่มัน ถ้าเขาจำไม่ผิดวันที่เทศกิจได้จับกุมพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของผิดกฏหมาย เช่นพวกซากของสัตว์แปลก เขี้ยวและเล็บของพวกมัน
เป็นเวลาสามปีกว่าแล้วที่พวกสัตว์แปลกๆปรากฏขึ้นทั่วโลก รัฐบาลออกแถลงถึงการกลายพันธุ์ของสัตว์ธรรมดาตั้งแต่ปี 2020 พวกมันดุร้ายขึ้นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขนาดที่ต้องมีการปราบปราม ชิ้นส่วนของพวกมันพบว่ามีคุณค่ามหาศาลต่อการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ พวกมันถูกมนุษย์ล่าด้วยความโลภและอยากรู้อยากเห็นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้สกว่าของมนุษย์ เช่นอาวุธปืนยังสามารถจัดการพวหมันอย่งง่ายดาย ตั้งแต่นั้นอุตสาหกรรมหลายอย่างก็ก่อตัวขึ้นตั้งแต่เล็กๆไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ร่วมมือกับทั้งรัฐบาลและเอกชน แม่กระทั้งลักลอบ
ในช่วงเวลานี้เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16 ปีที่อาศัยในย่านสลัมหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพ่อค้าที่นำชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์กลายพันธุ์ที่ผิดกฏหมายมาขายในตลาดมืด
ระหว่างที่กำลังรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆของเขา รถได้มาถึงสถานีตำรวจ พวกเขาถูกพาตัวไปฝากขังไว้ในห้องต่างๆ
“ไท?” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนดังขึ้น
“คุณ?”
“อะไร วันนี้เอ็งกินยาผิดขนาดหรือยังไง นี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วที่เอ็งถูกจับมา” นายตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาก่อนฝ่ามือของเขาจะตกลงหวังฟาดหัวของเด็กหนุ่ม
ทว่าต่างจากความคิดที่นายตำรวจคิดว่ามันจะเหมือนทุกครั้งที่เขาตีหัวเด็กหนุ่มเพื่อสั่งสอน ฝ่ามือของเขาทำได้เพียงหวดไปในอากาศ
“เอ๊ะ!”
“สวัสดีครับหมวด นานแล้วนะครับที่ไม่ได้พบกัน” ชายหนุ่มตอบ
“อุ๊บ๊ะ ไอ้ไทเดี๋ยวนี้เอ็งหลบเก่งรึ หึ รอบนี้สามวัน อย่าคิดว่าจะได้ปล่อยตัวง่ายๆถึงแม้จะมีกฎหมายคุ้มครองเยาวชน”
ชายหนุ่มทำเพียงขดยิ้มตอบก่อนจะถูกพาตัวไป เขาต้องการเวลาในการทำความเข้าใจและนึกถึงความทรงจำในอดีต
เสียงดังแก๊ง! ห้องฝากขังถูกล็อค
ไท เด็กหนุ่มถูกนำมาขังไว้ในห้องแยกด้วยเหตุที่ตำรวจไม่อยากให้เยาวชนถูกขังรวมกับผู้ต้องขังผู้ใหญ่รายอื่น
ไทมองสำรวจไปรอบๆ ชิ้นส่วนความทรงจำที่ขาดหายเริ่มปะจอดปะต่อกันในที่สุดหลังจากพยายามนคกถึงเหตุการณ์ต่างๆ
ไมเหลือบมองที่กระดานในห้อง ก่อนจะพบว่ามันเป็นวันที่ 3 มกราคม ปี 2023 หลังวันขึ้นปีใหม่ได้เพียงสองวัน
‘เดี๋ยวก่อน!! วันที่ 3 มกราคม!’ ในตอนนี้เองเขารีบหันไปหานาฬิกาแขวน
18 นาฬิกา 50 นาที!
‘บ้าจริง! ทำไมถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ตอนนี้ อีกสิบนาที อีกแค่สิบนาที!!’
เขาไม่คิดอย่างอื่น ร่างกายของเขาบิดจัวก่อนที่จะฟาดขาของเขาเข้าใส่กรงห้องฝากขัง
ปัง!!
กรงห้องฝากขังสั่นสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าขาของเขากลับรู้สึกได่ถึงความเจ็บปวด
ไม่นานเสียงเอะอะก็ดังขึ้นพร้อมกับนายตำรวจคนเดิมที่เขารู้จักเดินเข้ามาด้วยใบหน้าอึมครึม
“ไท ไอ้เด็กบ้านี่ วันนี้เงเป็นอะไร กล้าถึงกับจะแหกห้องขังรึไง”
ไทกำลังอยูากับอาการเจ็บขา เขาเพิ่งคิดได้ว่าร่างกายนี้เป็นร่างกายของเขาตอนกาอนเกิดภัยพิบัติ
“หมวดเร็ว ไม่มีเวลาแล้ว ปล่อยผม!!”
“ปล่อยบ้านเอ็งสิ อยู่เงียบๆอย่ารบกวนผู้ใหญ่กำลังทำงาน”
“หมวด ไม่ ปล่อยผม ภัยพิบัติกำลังมา หมวด!!” ไทตะโกน
ทว่านายตำรวจคนดังกล่าวกลับทำเพียงหัวเราะเสียงดังก่อนจะโบกมือให้เขาแล้วเดินจากไป
“โถ่ หมวด จำไว้ จับหินเรืองแสงให้ได้เข้าใจไหมหมวด จับหอนเรืองแสง!” ไทตะโกนตามหลังไป เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสนใจคำพูดเขาไหม แต่เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องได้ยิน
ใบหน้าตื่นตระหนกของเขากลับมาสู่ความสุขุมอีกคนั้งก่อนที่จะนั่งลงกับพื้น
เขาหลับตาลง ถ้าหากไม่อาจออกไปได้ เขาทำได้เพียงภาวนาอยู่ภายใน
‘ขอแค่มันปรากฏออกมา’
เวลาบนหน้าปัดดิจิตอลเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
19 นาฬิกา
มันเป็นเวลาที่โลกทั้งใบดับแสงจมลงสู่ความมืด
ในตอนนี้เองที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับละอองของแสงสว่างสีขาวค่อยๆผุดขึ้นจากพื้น
ไทลืมตาขึ้นมา เขาเพ่งมองไปที่ละอองสีขาว ขณะที่เสียงเอะอะดังขึ้นทั้วทั้งสถานีตำรวจ ในใจของเขาได้แต่ภาวนา ภาวนาว่ามันจะปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาเหมือนครั้งก่อน
‘หากแต่ตอนนั้นเอื้อมมือไปหยิบมัน เพียงแค่ตอนนั้นหยิบมันขึ้นมา!’
ผ่านไปไม่ถึงห้าวินาทีละอองแสงตรงหน้าเขาค่อยๆหลอมรวม มันกลายเป็นหินสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนชิ้นเล็กขนาดเท่าเม็ดถั่ว จากนั้นก็ขยายใหญาขึ้น
‘สำเร็จ!’ ไทมองไปที่หินเรืองแสงตรงหน้า เขาไม่ได้รีบหยิบมันในทันที แต่กลับยังคงรอต่อไปเมื่อเห็นว่ามันยังขยายใหญ่ขึ้น
ในตอนนี้เองที่แผ่นดินไหวอีกครั้ง มันไม่ได้เหมือนครั้งก่อน คราวนี้แผ่นดินไหวเกิดจากการกระแทกของบางอย่าง ทั่วโลก อุกกาบาตสีดำจำนวนมากฝ่าชั้นบรรยากาศก่อนตกกระทบพื้นดิน
‘พวกมันมาแล้ว’
ไทสงบนิ่งผิดปกติ ในตอนนี้เขายังเริ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายด้านนอก พร้อมกับเสียงคำรามต่ำของบางสิ่ง
ปัง! เสียงปืนดังขึ้น
ไทไม่สนใจเล็กน้อย เขาจดจ่ออยู่กับหอนเรืองแสงตรงหน้าของเขาที่ตอนนี้ขยายขนาดจากเมล็ดถั่วเท่ากับลูกปิงปอง
“ไม่น่าเชื่อว่ามันจะขยายใหญ่ขนาดนี้!”
กรรร!! เสียงคำรามต่ำของสัตว์ประหลาดสีดำดังขึ้นจากด้านหลัง มันมีขนาดใหญ่กว่าแมวบ้านทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้ย แต่จำนวนของมัน!!
“หนึ่ง..สี่..แปด..สิบเอ็ดตัว” เขามองไปที่พวกมันด้วยสีหน้าเรียบเฉยทว่าหากใครที่รู้จักเขาในอดีต จะรู้ได้จากแสงเย็นในดวงตาของเขาว่ามันสั่งสมความโกรธมากมายขนาดไหน
“พวกแกสนใจอีเธอร์พวกนี้ใช่ไหม แต่ขอโทษด้วย”
มันเหมือนกับว่าพวกสัตว์ประหลาดเข้าใจเขา พวกมันรีบกระโจนเข้ามาอย่างเร่งรีบ
แขนของไทคว้าไปที่หินอีเธอร์ตรงหน้าของเขา ขณะที่ดวงตาของเขายังจ้องมองพวกมัน ร่างกายของเขาค่อยๆหายไป
“แล้วเจอกันมิมิค!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 16
Comments