กรี๊ดดดดด!!
เสียงกรีดร้องที่ดังแว่วมาตามลมทำให้คนที่นั่งขุดมันกันอยู่ต่างชะงักแล้วมองหน้ากัน เทียนหรงหันมองหาบุตรสาวแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา นั่นทำให้เข้าใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม หรือว่าเสียงเมื่อครู่จะเป็นเสียงบุตรสาวตัวน้อยของเขากัน!
ร่างสูงโปร่งทิ้งเสียมที่อยู่ในมือลงพื้นอย่างไม่ใยดี เขารีบวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต เทียนเฉินเองก็กำลังจะวิ่งตามไปแต่หลิวห้าวคว้าไหล่เขาเอาไว้แล้วบอกว่าเขาจะไปเอง เด็กหนุ่มวิ่งตัวปลิวตามเทียนหรงไปอย่างรวดเร็ว เห็นแผ่นหลังของชายหนุ่มรุ่นพี่อยู่ไกลๆ ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปให้ทัน
"เสี่ยวหลิน! ลูกอยู่ที่ใด!"
"เสี่ยวหลิน!"
ร่างเล็กจ้อยหันไปตามเสียงเรียก นั่นเป็นเสียงของบิดากับท่านอาห้าวคนงาม ที่กำลังตะโกนเรียกนางอย่างร้อนรน คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดกรีดร้องออกไปเสียงดังจึงเบิกตากว้าง ทำให้คนอื่นเป็นห่วงแล้ว!
"ท่านพ่อ! ลูกอยู่นี่เจ้าค่ะ!" นางโบกมือหยอยๆ เทียนหรงที่มองเห็นบุตรสาวแล้วก็รีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
ร่างเล็กถูกอุ้มจนตัวลอยเพื่อสำรวจดู เมื่อไม่เห็นว่าบุตรสาวจะมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเทียนหรงก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เขานึกว่าบุตรสาวจะถูกสัตว์ป่าทำร้ายเอาเสียแล้ว
"พ่อบอกว่าอย่าออกมาไกลมากอย่างไรเล่า เหตุใดจึงดื้อดึงถึงเพียงนี้ หากเป็นอะไรไปจะทำอย่างไร" เทียนหรงกอดบุตรสาวตัวน้อยอย่างห่วงใย เสี่ยวหลินเองก็รู้สึกผิดอย่างมากที่ทำให้บิดาเป็นห่วงถึงขนาดนี้ นางมองเห็นท่านอาห้าวที่ยืนหอบตัวโยนอยู่ไม่ไกลก็เบะปากน้ำตาซึม
"ขอโทษเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านอาห้าว"
"เอาเถอะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว" หลิวห้าวมองเด็กน้อยที่เบะปากน้ำตาคลอก็รู้สึกสงสาร
"ว่าแต่ที่ลูกร้องเสียงดัง เกิดอะไรขึ้น หืม" เห็นบุตรสาวทำท่าจะร้องไห้ เขาจึงเอ่ยเปลี่ยนเรื่องไม่อยากดุนางอีก เพราะเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของนาง
"ลูกเห็นนั่นเจ้าค่ะ" นิ้วป้อมชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยเห็ดหลินจือเกิดอยู่ตามลำต้นมากมาย
"นั่นมัน.." เป็นหลิวห้าวที่เบิกตาค้างจะกลัวว่ามันจะหลุดออกมาจากเบ้า แต่เทียนหรงกลับมองอย่างไม่ได้ตื่นเต้นอะไรทำให้เสี่ยวหลินเข้าใจได้ว่าบิดาของนางไม่รู้จัก แต่หลิวห้าวคงจะรู้จักเป็นอย่างดีแน่ๆ
"เจ้ารู้จักเห็ดนี่หรืออาห้าว"
"ท่านไม่รู้จักหรือพี่หรง!"
"ไม่รู้จักน่ะสิ"
"พี่หรง นี่คือสุดยอดสมุนไพรที่หายากและราคาแพงมาก มีมากถึงเพียงนี้ข้าคาดว่าท่านคงสามารถขายจนกลายเป็นเศรษฐีเล็กๆ ได้เลย" เพราะเมื่อก่อนเขาเคยได้เข้าไปเรียนในสำนักศึกษาอยู่เกือบสองปี แต่พอบิดามารดาเสียชีวิตไปเขาจึงลาออกมา เพราะอย่างนี้เขาจึงพอจะมีความรู้ติดตัวอยู่บ้าง ต่างจากเทียนหรงที่เอาแต่ทำงานเลี้ยงดูน้องชายคนเดียว
"นี่.. จริงหรืออาห้าว" เทียนหรงอ้าปากค้าง เขามองเห็ดประหลาดอย่างคาดไม่ถึง
"จริงขอรับ"
"ท่านพ่อรีบเก็บกันเถิดเจ้าค่ะ เร็วเข้า"
เสี่ยวหลินสะกิดบิดาที่ยืนค้างอยู่นาน เขาจึงได้สติแล้วเดินเข้าไปดูใกล้ๆ หลิวห้าวเองก็เดินเข้ามาดูเช่นกัน เขาเองก็อยากได้เห็ดหลินจือไปขายสักดอกเหมือนกัน ท่านย่าจะได้ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ แต่ถึงจะอยากได้มากแค่ไหนเขาก็คงไม่ใจกล้าหน้าด้านขอเทียนหรงแน่นอน
"ว่าแต่ต้องเก็บอย่างไร" เทียนหรงหันไปถามหลิวห้าวแต่เด็กหนุ่มก็ส่ายหน้า ถึงจะรู้จักแต่เขาก็ไม่เคยเจอของจริงสักครั้ง
เสี่ยวหลินมองสองหนุ่มที่เอาแต่ถามกันไปมาก็หายใจฮึดฮัด นางดิ้นลงจากอ้อมแขนของบิดาแล้วเดินไปหยุดที่ดอกเห็ดที่ขึ้นอยู่โคนต้น มันมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของนางรวมกันสองข้างเสียอีก นางจับเห็ดดอกนั้นงัดขึ้นลงแล้วมันก็หลุดออกได้ไม่ยากนัก
เทียนหรงเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาเก็บทันที เขาถอดเสื้อตัวนอกออกมาปูที่พื้นแล้ววางเห็ดลงไป เก็บไปยิ้มไปเหมือนกับคนบ้า เสี่ยวหลินหันมองเด็กหนุ่มที่ยืนหน้าเศร้ามองบิดาของนางเก็บเห็ดอย่างไม่เข้าใจ
"ท่านอาไม่เก็บหรือเจ้าคะ"
"อาจะเก็บได้อย่างไร หรือว่าเจ้าจะให้อาช่วยเก็บ" หลิวห้าวมองเด็กน้อยที่เอ่ยถามขึ้นมา
"ท่านก็เก็บไปขายบ้างสิเจ้าคะ"
"ได้อย่างไร นี่มัน.. เจ้าเป็นคนเจอข้าจะไปแย่งได้อย่างไร"
"ท่านอา เห็ดก็มีตั้งมากมาย เก็บไปสักสองสามดอกเถิดเจ้าค่ะ" เสี่ยวหลินมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างพอใจ ดีที่เขารู้จักคิด ไม่โลภเพื่อแย่งของคนอื่น เมื่อยังเห็นเขาอึกอักนางจึงเอ่ยออกมาอีก
"เสี่ยวหลินไม่ได้ให้ท่านสักหน่อย ข้าให้ท่านยายหลิวต่างหาก" นางเอาเห็ดในมือยัดใส่มือเด็กหนุ่มที่ยืนบื้อใบ้อยู่ ดอกนั้นน่าจะมีน้ำหนักเกือบหนึ่งชั่งได้
เสี่ยวหลินเดินไปเก็บเห็ดมาอีกหนึ่งดอกแล้วยัดใส่มือเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งค้างกลายเป็นหินไปแล้ว ส่วนบิดาของนางนั้นก็ใกล้จะเหมือนคนบ้าไปเสียทุกที
เฮ้อ
เทียนเฉินเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ พี่ชายของเขากับพี่ชายห้าวหายไปครู่ใหญ่แล้วไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเลย เขาอยากจะตามเข้าไปแต่ก็ห่วงท่านยายหลิวที่นั่งหมดแรงพิงต้นไม้อยู่ นางเป็นห่วงเสี่ยวหลินน้อยจนเกือบจะเป็นลม ต้องนั่งพักเอาแรงเสียหน่อย
เสียงพูดคุยกันดังออกมาจากด้านในป่าทำให้เทียนเฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก เขายืนรอคนทั้งสามที่กำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ดูมีความสุขมากทั้งยิ้มและหัวเราะ ทำให้เทียนเฉินขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าหลานสาวของเขามีอันตรายหรอกหรือ เด็กหนุ่มมองพี่ชายที่อุ้มหลานสาว ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถือตะกร้าใบเล็กของเสี่ยวหลิน หลิวห้าวเองก็กอดห่อผ้าอย่างหวงแหน
"มีอะไรกันหรือขอรับพี่ใหญ่ แล้วเสี่ยวหลินเป็นอะไรหรือไม่" เทียนเฉินที่เห็นท่าทางมีความสุขของทั้งสามก็พอวางใจได้บ้างแล้วแต่ก็ยังคงมีความเป็นห่วงหลานสาวอยู่ไม่น้อย
"ไม่มีอะไรหรอกเสี่ยวเฉิน เสี่ยวหลินหลานเจ้าไปเจอของดีเข้าน่ะสิ" เทียนหรงวางบุตรสาวลงบนพื้น นางวิ่งเข้าไปหาท่านยายหลิวที่นั่งหมดแรงอยู่ ในมือมีเห็ดหลินจือดอกเล็กอยู่ด้วย ปล่อยให้บุรุษพูดคุยกันอยู่ริมลำธาร
"ท่านยายเจ้าคะ" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นตรงหน้าทำให้หญิงชราเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าเล็กๆ น่ารักแก้มป่องนั้นทำให้นางโล่งอกเป็นอย่างมาก มือเหี่ยวรวบเอาเด็กน้อยมานั่งตัก
"เสี่ยวหลิน เด็กน้อยอย่าเข้าป่าไปคนเดียวอีกเด็ดขาดเลยนะ รู้หรือไม่ว่าข้าเกือบจะหัวใจวายตายแล้ว" มือเหี่ยวลูบหัวลูบหน้าเด็กน้อยอย่างห่วงใย
"ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ไปเจออันตรายเพียงแต่ไปเจอสิ่งนี้เจ้าค่ะ" มือน้อยๆ ยื่นเห็ดสีแดงเข้มให้กับหญิงชรา นางหลิวรับมาดูอย่างไม่เข้าใจ
"นี่คืออะไรหรือ"
"เห็ดหลินจือเจ้าค่ะ ท่านอาห้าวบอกว่าเป็นสมุนไพรราคาแพงมากๆ"
"อย่างนั้นหรือ ดีแล้วบ้านเจ้าจะได้มีเงินเก็บไว้สำหรับฤดูหนาว" นางส่งคืนให้เด็กน้อย แต่เสี่ยวหลินกลับยิ้มหวานไม่ได้รับคืนไปแต่อย่างใด
"ทำไมไม่รับไปเล่า"
"ข้าให้ท่านเจ้าค่ะ"
"เพ่ย! จะให้ข้าได้อย่างไร ไหนบอกว่ามันมีราคาแพง"
"ใช่เจ้าค่ะ แต่ท่านพ่อเก็บได้เยอะแล้วข้าจึงอยากเอามาแบ่งท่าน" ได้ยินดังนั้นนางหลิวก็น้ำตาปริ่ม นางรวบกอดเด็กน้อยพร้อมกับโยกตัวไปมา
"เด็กดี ขอบใจเจ้า แต่ถึงอย่างไรข้าก็รับไว้ไม่ได้"
"ฮึ ถ้าไม่รับไว้ข้าจะโกรธแล้วนะเจ้าคะ" นางกอดอกหันหน้าหนีไปอีกทาง นางหลิวที่กลัวเด็กน้อยจะโกรธแล้วลุกหนีไปก็รีบรวบเอาตัวเล็กป้อมนั้นไว้
"เจ้าเด็กคนนี้ใยดื้อดึงนัก"
"เก็บไว้เถิดขอรับท่านยาย ข้าได้มาเยอะแล้ว เสี่ยวหลินตั้งใจเก็บมาให้ท่าน" เทียนหรงที่เดินเข้ามาเอ่ยขึ้น เขาดีใจที่บุตรสาวเป็นเด็กที่มีน้ำใจรู้จักแบ่งปัน ท่านยายหลิวเองก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่คอยแวะมาดูเขากับน้องชายบ่อยๆเมื่อยามเขาเป็นเด็กหนุ่ม ยังแบ่งของกินมาให้บางครั้งจึงถือว่าเป็นคนที่มีบุญคุณกับเขาคนหนึ่ง
"ท่านยังต้องเก็บเงินไว้สู่ขอหลานสะใภ้ให้อาห้าวอีกนะขอรับ รับไว้เถิด" เมื่อเห็นหญิงชราจะอ้าปากแย้งเขาก็เอ่ยดักขึ้นมาก่อน นางหลิวได้แต่ถอนหายใจออกมากับความดื้อรั้นของสองพ่อลูก
"เอาเถิด ข้าจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน" นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาห่อดอกเห็ดขนาดเท่าฝ่ามือเด็กอย่างดีก่อนจะเก็บเข้าอกเสื้อ
"นั่งพักกันสักหน่อยเถิดขอรับ ค่อยขุดมันกันต่อ" เทียนเฉินเอ่ยขึ้น ทุกคนจึงพากันมานั่งพักกันครู่หนึ่งแล้วลุกไปขุดมันต่อ
เสี่ยวหลินที่อยากจะออกไปหาต้นมะนาวอีกครั้งแต่ก็ถูกบิดาเอ่ยดุจึงได้แต่นั่งคอตกอยู่ใต้ต้นไม้ ท่านอาหนุ่มน้อยที่เห็นว่าหลานสาวนั่งอยู่นานกลัวจะเมื่อยจึงถอดเสื้อมาปูให้เด็กน้อยนอนเล่น นอนไปนอนมาก็เผลอหลับไปจริงๆ
ช่วงเที่ยงเสี่ยวหลินถูกปลุกขึ้นมากินข้าว นางถูกบิดาจับไปล้างหน้าล้างตาที่ข้างลำธารแล้วมานั่งจุ้มปุ้กรอกินข้าว วันนี้มารดาของนางทำปลาย่างอีกเช่นเคย แต่เป็นปลาตัวเล็กจะได้ห่อง่าย บิดาแกะปลาแยกก้างแล้วป้อนข้าวให้เพื่อความรวดเร็ว มีผักต้มที่ท่านยายหลิวแบ่งมาให้แกล้มด้วย อร่อยไปอีกแบบ
เพราะมันเทศเหลืออยู่ไม่มากแล้วนางจึงขอให้ท่านอาหนุ่มน้อยพาไปเก็บผลไม้ เมื่อบิดาอนุญาตแล้วสองอาหลานก็จับจูงมือกันเดินป่าไปอีกด้านหนึ่ง
"เสี่ยวหลินอยากหาผลไม้อะไรหรือ" เทียนเฉินก้มลงถามหลานสาวที่หันหัวดุ๊กดิ๊กไปมา
"เสี่ยวหลินอยากได้ผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ"
"แต่นั่นมันก็ไม่อร่อยน่ะสิ"
"เสี่ยวหลินจะเอาไปให้ท่านแม่ทำอาหารเจ้าค่ะท่านอา น้ำแกงปลาเมื่อวานอร่อยมาก แต่ถ้าเพิ่มรสเปรี้ยวลงไปหน่อยเสี่ยวหลินคิดว่าจะอร่อยมากกว่าเดิมแน่เจ้าค่ะ" เทียนเฉินได้ฟังก็คิดตาม เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"อย่างนั้นเดี๋ยวอาพาไปเก็บ อาเคยเจออยู่ต้นหนึ่งมันมีผลกลมสีเขียวกับสีเหลือง"
"จริงหรือเจ้าคะ" เสี่ยวหลินถามอย่างตื่นเต้น นั่นต้องเป็นมะนาวที่นางตามหาแน่ๆ
เทียนเฉินพาเด็กน้อยไปยังต้นผลไม้รสเปรี้ยวที่เขาเคยเจอ ตรงหน้าเป็นต้นมะนาวสูงท่วมหัว บนต้นมีลูกมะนาวผลอวบใหญ่อยู่เต็มไปหมด เสี่ยวหลินรีบวิ่งเข้าไปอย่างดีใจ
"ท่านอา! เก็บเลยเจ้าค่ะ เก็บไปเยอะๆ เลย" นางจะขอไหใบเล็กของมารดามาบีบน้ำมะนาวใส่ลงไปเก็บไว้ แต่ต้องรอดูว่าจะเก็บได้กี่วันเพราะยุคโบราณไม่มีสารกันบูด
"เสี่ยวหลินจะเอาผลสีอะไร"
"เอาสีเหลืองเจ้าค่ะ แต่ไม่ต้องเอาเหลืองมากเพราะมันใกล้จะเน่าแล้ว"
เทียนเฉินพยักหน้ารับแล้วช่วยกันเก็บใส่ย่ามของเทียนเฉิน ส่วนตะกร้าของเสี่ยวหลินนั้นเอาใส่เห็ดหลินจือจนเต็มแล้วแถมยังล้นอีกด้วยเพราะมีแต่ดอกใหญ่ๆ
เสี่ยวหลินจับจูงมือเทียนเฉินกลับไปหาบิดาอย่างอารมณ์ดี นอกจากมะนาวแล้วนางยังขุดต้นเล็กๆ ไปปลูกด้วย วัตถุดิบทำน้ำจิ้มซีฟู๊ดอย่างง่ายของนางได้มาครบแล้ว พรุ่งนี้นางจะทำปลาหมึกย่างแสนอร่อยกับปลาหมึกนึ่งมะนาวให้ทุกคนกิน แต่คงต้องพึ่งมารดาไปก่อนเพราะก็นางตัวเล็กแค่นี้
แค่คิดก็น้ำลายไหล นางทำปากแจ๊บๆ จนเทียนเฉินคิดว่านางหิว จึงส่งผิงกั่วป่าที่เก็บได้ข้างทางมาให้ นางหัวเราะน้อยๆ แต่ก็รับมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
อื้อ! ผิงกั่วป่านี่เปรี้ยวดีจัง
พอกลับมาถึงบิดาของนางกับท่านอาห้าวก็กำลังช่วยกันแบกกระสอบมันเทศไปใส่รถเข็น ท่านอาเทียนเฉินจึงรีบวิ่งไปช่วย ส่วนท่านยายหลิวกำลังล้างไม้ล้างมืออยู่ที่ข้างลำธาร นางจึงเดินไปหาหญิงชรา
"ท่านยาย เสี่ยวหลินเก็บผิงกั่วมาฝากเจ้าค่ะ" มือน้อยยื่นผิงกั่วให้นางสามลูก
"ทำไมไม่เก็บไว้กินเอง หือ จะได้โตเร็วๆ"
"ท่านยายเองก็ต้องกินนะเจ้าคะ ผลไม้จะช่วยให้ขับถ่ายคล่องเจ้าค่ะ"
"อย่างนั้นหรือ ขอบใจเจ้ามากนะ" นางหลิวรับไปเพราะนางเองก็ขับถ่ายลำบาก หากมันช่วยได้คราวหลังจะได้เก็บไปกินบ้าง
"เสี่ยวหลินกลับบ้านกันเถิดลูก" เทียนหรงข้ามฝั่งมารับบุตรสาว เด็กน้อยถูกอุ้มจนตัวลอยพร้อมกับตะกร้าใบน้อยของนางที่เต็มไปด้วยเห็ดหลินจือ แต่บิดาเอาเสื้อตัวนอกของเขาห่อไว้ปิดบังสายตาคนอื่นที่อาจจะเดินสวนกันแล้วมาเจอเข้า
"ท่านพ่ออย่าลืมจับสัตว์ประหลาดมาให้ลูกนะเจ้าคะ" เสี่ยวหลินเอ่ยขึ้นมา เทียนหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาสัญญากับนางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า
"ได้สิลูก ว่าแต่จะเอามาทำอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ หือ"
"ทำอาหารเจ้าค่ะ"
"มันกินได้หรือ" เขาหันมองบุตรสาวที่เอ่ยตอบเจื้อยแจ้ว
"กินได้สิเจ้าคะ อร่อยด้วยนะเจ้าคะท่านพ่อ ลูกจะเอาตัวใหญ่ไปย่างกินกับน้ำจิ้มรสเผ็ด ส่วนตัวเล็กลูกจะเอาไปนึ่งแล้วราดน้ำจิ้มเจ้าค่ะ"
"แล้วลูกรู้ได้อย่างไรว่ามันกินได้ เสี่ยวจงบอกอีกแล้วหรือ"
"แหะๆ" เสี่ยวหลินหัวเราะแห้งๆ เมื่อถูกบิดาเอ่ยดัก นางพยักหน้าน้อยๆ เทียนหรงเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขาวางบุตรสาวลงบนกระสอบมันเทศแล้วเข็นรถเข็นออกไปโดยมีหลิวห้าวมาช่วย
########################################
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments