ตอนที่2 เสี่ยวจง

หลังจากกินข้าวกันจนอิ่มหนำและนั่งพักจนหายเหนื่อย สองสามีภรรยาก็พากันสะพายตะกร้ากับเข็นรถเข็นไม้ไปด้วย เพราะตรงที่เจอมันเทศไม่ได้อยู่บนเขาสามารถเอารถเข็นเข้าไปได้ อีกทั้งจะได้ไม่ต้องขนกลับหลายรอบ

ส่วนเทียนเฉินนั้นถูกไล่ให้ไปนอนพักเพราะต้องตื่นแต่เช้ามืดไปเก็บตาข่ายดักปลาอีกทั้งยังต้องพากันเข้าไปขายปลาตั้งแต่เช้า แต่เพราะเขาชินกับการตื่นแต่เช้ามืดแล้วจึงไม่ได้เข้าไปนอนพักแต่อย่างใด เพียงนอนเล่นที่แคร่หน้าบ้านเท่านั้น

"ท่านอาเจ้าคะ" เสี่ยวหลินเดินเข้ามาสะกิดท่านอาหนุ่มน้อยที่นอนอยู่ เขาผงกหัวขึ้นมามองหลานสาวตัวน้อยก่อนจะลุกขึ้นมา

"ว่าอย่างไรเสี่ยวหลินน้อย มีอะไรอย่างนั้นหรือ" เด็กหนุ่มช้อนใต้รักแร้เด็กน้อยอุ้มขึ้นมาวางบนตัก

"เจ้าวัวน้อยยังไม่มีบ้านเลยเจ้าค่ะ เราไปตัดไม้ไผ่มาสร้างคอกให้มันได้หรือไม่เจ้าคะ"

"ได้สิ อย่างนั้นเจ้าเล่นกับวัวน้อยรออาอยู่ที่บ้าน เดี๋ยวอาไปตัดไม้ไผ่ครู่เดียวอย่าพากันออกไปนอกบ้านเล่า เข้าใจหรือไม่" มือสากลูบหัวหลานสาวตัวน้อยเบาๆ

"เจ้าค่ะท่านอา" นางพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ ท่าทางน่ารักนั่นทำให้เทียนเฉินอดใจไม่ไหวก้มลองหอมแก้มขาวๆ ฟอดใหญ่

"คิกคิก"

"อึ้บ! เอาล่ะ อย่างนั้นอาไปตัดไม้ไผ่แล้วจะรีบกลับมา" เด็กหนุ่มอุ้มหลานสาวลงไปวางที่พื้นดังเดิม เขาลุกขึ้นบิดขี้เกียจสองสามครั้งก่อนจะเดินเข้าไปหยิบมีดในครัวแล้วเดินจากไป

"เจ้าวัวน้อย เจ้าจะชื่อว่าอะไรดี"

มอ\~

"ดูไปดูมาเจ้าเหมือนวัวขนยาวทางฝั่งยุโรปเลยแฮะ" มือน้อยลูบขนปุยๆ ของเจ้าวัวเล่น

"อืม เจ้ามีขนสีน้ำตาล ชื่อเสี่ยวจงก็แล้วกัน"

เมื่อตั้งชื่อให้เจ้าวัวแล้วนางก็ปล่อยให้มันนอนพักอยู่ข้างกะละมังนมของมัน ส่วนนางก็เดินสำรวจรอบบ้านเพราะยังไม่เคยเดินดูอย่างจริงจังเลยสักครั้ง

ห่างจากบ้านไปไม่ไกลเป็นลำธารเล็กๆ ซึ่งคงเป็นสายเดียวกับตรงที่นางเจอเสี่ยวจง ด้านข้างลำธารมีกอหญ้าขึ้นอยู่หลายกอ แต่มันออกจะสีขาวกว่าหญ้าทั่วไปอยู่มากหน่อย นางจึงเดินไปดูอย่างสงสัย

"ตะไคร้! มีเยอะด้วย สุดยอดไปเลย หากเจอพริกเผ็ด กับมะนาวจะดีมากเลย ซีฟู๊ดจ๋าา" เมื่อนึกภาพอาหารทะเลย่างกับน้ำจิ้มแซ่บๆ นางก็กลืนน้ำลายลงคออย่างหิวโหย แต่ด้วยสภาพตัวเองในตอนนี้คงจะกินเผ็ดมากไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรแค่กินให้หายอยากไปก่อนก็ได้ อีกทั้งนางยังอยากหมักปลาร้าไว้ด้วย กว่าจะได้กินอย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายเดือน

อาหารอันโอชะรอข้าก่อนนะ!

หลังจากเก็บตะไคร้ติดมือมานิดหน่อย ร่างเล็กๆ ก็เดินหาพืชที่ตนต้องการแต่ก็ไม่เจอ จึงเดินกลับมาที่บ้านหลังน้อย หางตานางมองเห็นสีแดงๆ อยู่ข้างรั้วอีกด้านหนึ่งจึงรีบวิ่งไปดู

"พริกล่ะ! มีอยู่สองต้น เก็บเมล็ดมันไว้เพาะดีกว่า" นางเก็บเม็ดพริกสีแดงที่มีอยู่ไม่ถึงสิบเม็ดอย่างทะนุถนอมก่อนจะเอาไปใส่กระด้งแล้วตากไว้ให้แห้งค่อยมาเก็บ

เทียนเฉินเองก็หอบไม้ไผ่หลายลำมากองไว้ที่ข้างบ้าน เขาเริ่มตัดไม้แล้วสร้างโครงขึ้นเพื่อทำคอกเล็กๆ ให้เจ้าวัวน้อย หากมีเวลาค่อยสร้างให้มันแข็งแรงและใหญ่กว่านี้หน่อย เขาทำโครงหลังคาเอาไว้ด้วย แต่คงต้องหาหญ้ามามุงวันหลังเพราะหญ้าต้องตากให้แห้งเสียก่อนจึงจะนำมาทำหลังคาได้

เสี่ยวหลินกลับเข้ามานั่งเล่นที่แคร่หน้าบ้าน ตอนแรกนางคิดว่าจะไปช่วยท่านอาหนุ่มน้อยสร้างคอกให้เสี่ยวจงเสียหน่อย แต่คงจะถูกไล่ให้ออกมานอนกลางวันแน่นอนเพราะตกบ่ายแล้ว นางจึงหยิบหมอนใบเล็กกับผ้าปูรองนอนที่วางไว้มุมแคร่มาปูแล้วนอนกลิ้งไปมาไม่นานก็หลับปุ๋ย

นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เกือบเย็นแล้ว ได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากทางข้างบ้าน มือน้อยๆ ยกขึ้นมาขยี้ตาพร้อมกับอ้าปากหาวจนน้ำตาเล็ด ก่อนที่มือของนางจะถูกจับออกแล้วมีผ้าเปียกๆ มาเช็ดหน้าให้จนตาสว่างใสแจ๋ว

"ท่านแม่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ" นางยกมือชูขึ้นเพื่อให้มารดาอุ้ม ฮุ่ยหนิงก็รวบเอาเด็กตัวน้อยมาเหน็บเข้าที่ข้างเอวแล้วพาเดินไปที่ข้างบ้าน

สองพี่น้องกำลังช่วยกันประกอบคอกเล็กๆ ให้กับเสี่ยวจง หลังจากขุดหัวมันกลับมาแล้วเทียนหรงก็แบ่งเอามันเทศใส่กระสอบแบกไปส่งให้ท่านยายจางถึงบ้าน หลังจากถามไถ่เรื่องเสี่ยวจงกันอยู่ครู่หนึ่งนางก็ให้เทียนหรงเดินไปเอาแถบหญ้ามุงหลังคาอันเก่าที่ยังสภาพดีกลับมาทำหลังคาให้เสี่ยวจง วันนี้เจ้าวัวน้อยจึงไม่ต้องนอนตากน้ำค้าง

"บ้านของเสี่ยวจงใกล้เสร็จแล้ว" คอกเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก พอให้เสี่ยวจงเดินเล่นได้ก็ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือมุงหลังคาอีกนิดหน่อยเท่านั้น

"เสี่ยวจงหรือ ลูกตั้งชื่อให้มันหรือ หืม" ฮุ่ยหนิงมองบุตรสาวตัวน้อยแล้วเอ่ยถาม

"ใช่เจ้าค่ะ ลูกตั้งชื่อตามสีขนของมันเจ้าค่ะ" นางยิ้มตาหยีให้กับมารดาคนงาม เทียนหรงมองเจ้าวัวน้อยที่เดินตามภรรยากับบุตรสาวของตนต้อยๆ ก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง

"มันดูไม่เหมือนวัวป่าทั่วไปเลยนะ" ได้ยินดังนั้นทุกคนก็หันไปมองเสี่ยวจงกันหมด เจ้าวัวน้อยรีบหลบข้างหลังมนุษย์สาวคนงามด้วยความเขินอาย (?)

"ใช่ขอรับ ข้าคิดว่าขนมันยาวกว่าลูกวัวเกิดใหม่ทั่วไป" เทียนเฉินเอ่ยขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังมากนัก

"เอาเถอะ พวกมันอยู่ในป่าเราเองก็ไม่รู้ว่าจะมีวัวป่าแบบใดอยู่บ้าง"

สองพี่น้องรีบช่วยกันสร้างคอกน้อยๆ ให้เสร็จเพราะดวงอาทิตย์เริ่มจะคล้อยต่ำลงทุกที ฮุ่ยหนิงพาเสี่ยวหลินไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนที่นางจะเข้าครัวไปหุงหาอาหาร วันนี้นางทำน้ำแกงปลาทะเลที่สามีแบ่งมาขังไว้สำหรับทำอาหาร

เสี่ยวหลินเดินมาเกาะประตูครัวมองมารดาคนงามหยิบจับของในครัวอย่างคล่องแคล่ว นางเห็นมารดาใส่ปลาลงไปในหม้อที่มีน้ำเดือดปุดๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่านางหักตะไคร้ติดมือมาด้วยจึงวิ่งออกไปหยิบที่แคร่หน้าบ้านแล้วกลับเข้ามาในครัว

"ท่านแม่ ใส่เจ้านี่ด้วยสิเจ้าคะ" เด็กน้อยเดินเข้ามาในครัวแล้วชูตะไคร้ในมือขึ้นมา ฮุ่ยหนิงหันมามองแล้วขมวดคิ้ว

"นั่นหญ้าที่ขึ้นอยู่ริมลำธารไม่ใช่หรือลูก จะเอามาใส่ในน้ำแกงได้อย่างไร"

"ไม่ใช่หญ้าเจ้าค่ะ นี่เรียกว่าตะไคร้ เป็นสมุนไพรเอาไว้ดับกลิ่นคาวเจ้าค่ะ"

"แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร" ฮุ่ยหนิงหรี่ตามองบุตรสาวที่ทำตาล่อกแล่ก

"เอ่อ เสี่ยวจงบอกเจ้าค่ะ!"

"เสี่ยวจงหรือ?"

"เจ้าค่ะท่านแม่ เสี่ยวจงพูดกับลูกได้เสี่ยวจงเก่งมากๆ" นางส่งยิ้มไร้เดียงสาไปให้มารดา หากบอกว่ารู้เพราะเคยกินไปนับไม่ถ้วนนี่นางคงถูกหาว่าเป็นตัวกินหญ้าแน่ๆ เพราะคนที่นี่เข้าใจว่ามันคือหญ้านี่นะ

"ถ้าไม่เชื่อ ท่านแม่ลองหั่นแล้วดมกลิ่นของมันดูสิเจ้าคะ กลิ่นของมันไม่เหมือนกับหญ้าทั่วไปเพราะว่ามันคือสมุนไพรเจ้าค่ะ" ฮุ่ยหนิงมองบุตรสาวอย่างแคลงใจ วัวที่ไหนจะพูดได้กัน แต่เพราะไม่อยากขัดใจบุตรสาวจึงลองรับเจ้าตะไคร้ในมือน้อยๆ มาหั่นแล้วดมดูอย่างที่บุตรสาวแนะนำ

กลิ่นหอมเย็นๆ ออกจะสดชื่นหน่อยๆ ทำให้ฮุ่ยหนิงเบิกตาเล็กน้อย นางหันมองบุตรสาวที่ยืนยิ้มแฉ่งอวดฟันที่ยังขึ้นไม่เต็มปากดี ก่อนจะดมพิสูจน์ดูอีกครั้ง

"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" เสี่ยวหลินเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ อาหารที่ท่านแม่ทำมันก็อร่อยดีอยู่หรอก แต่รสชาติน้ำแกงปลาที่ขาดสมุนไพรมันก็ออกจะกลืนลงคอลำบากไปหน่อย เมื่อนางเห็นว่ามีตะไคร้จึงรีบเอามาให้มารดาทันที

"มันกินได้จริงๆ เจ้าค่ะท่านแม่" นางแกะเปลือกด้านนอกของตะไคร้ที่เหลืออยู่ในมือแล้วกัดหัวตะไคร้เคี้ยวให้มารดาดู

"เสี่ยวหลิน!"

"กินได้จริงๆ เจ้าค่ะ" ปากน้อยเคี้ยวหยั่บๆ ฮุ่ยหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นว่าบุตรสาวจะมีอาการอะไร

"เอาเถอะๆ แม่จะลองใส่ลงไปดูก็แล้วกัน"

"ตัดแค่ส่วนหัวขาวๆ นะเจ้าคะ ส่วนใบเขียวๆ มันไม่ค่อยหอมเท่าไหร่" นางยิ้มอย่างตื่นเต้นดีใจ ในที่สุดนางก็เข้าใกล้ต้มยำปลาแล้ว

ร่างเล็กๆ ของบุตรสาววิ่งออกไปอีกทั้งหลังจากวางตะไคร้ที่เหลือไว้บนโต๊ะวางของเล็กๆ ในห้องครัว ฮุ่ยหนิงนำตะไคร้ไปล้างแล้วหั่นไม่ลืมทุบนิดๆ ให้กลิ่นมันออกแล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำแกง เสี่ยวหลินกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับพริกสีเขียวหลายเม็ดกับพริกแดงอีกนิดหน่อย

"ท่านแม่ ใส่นี่ด้วยเจ้าค่ะ ตำให้มันแหลกก่อนนะเจ้าคะ" มือน้อยๆ ยื่นผลแปลกๆ ส่งมาให้มารดา ฮุ่ยหนิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

เอาเถอะ ลองดูหน่อยก็ไม่เป็นไร นางคิดอย่างนั้น

กลิ่นน้ำแกงที่ส่งกลิ่นหอมน่ากินมากกว่าทุกวันทำให้สองหนุ่มของบ้าน ที่กลับจากอาบน้ำในลำธารรีบก้าวเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมๆ ทำให้ท้องของพวกเขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าอาย สองหนุ่มรีบเข้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ารวมถึงนำชุดเปียกไปตากเสร็จแล้วก็รีบมานั่งรอที่แคร่หน้าบ้าน

ฮุ่ยหนิงถือถาดอาหารออกมาที่ด้านนอก เทียนเฉินรีบเข้าไปช่วยพี่สะใภ้อย่างทุกที ส่วนนางก็กลับเข้าไปยกโถข้าวจากในครัวออกมา เสี่ยวหลินตัวน้อยออกมาพร้อมกับแก้วไม้ไผ่ใส่น้ำสองใบ เมื่อวางบนแคร่เรียบร้อยแล้วก็วิ่งดุ๊กๆ เข้าไปหยิบอีกสามแก้วที่เหลือ

เจ้าเสี่ยวจงเองก็ยืนกระดิกหางรอที่เดิม กะละมังที่ล้างจนสะอาดและใส่น้ำนมเรียบร้อยแล้วถูกเทียนหรงถือออกมาวางให้ที่พื้น เจ้าวัวน้อยรีบก้มลงดื่มกินน้ำนมอย่างร่าเริง

"วันนี้ทำอะไรกินหรือ กลิ่นหอมยิ่งนัก" เทียนหรงเอ่ยถามภรรยาคนงามที่กำลังตักข้าวใส่ถ้วยใบเล็กส่งให้ทุกคน

"น้ำแกงปลาอย่างทุกครั้งนั่นแหละเจ้าค่ะ เพียงแต่วันนี้เสี่ยวหลินน้อยมีส่วนช่วยทำด้วย ท่านพี่กับเสี่ยวเฉินต้องลองชิมดูว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร" ฮุ่ยหนิงเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ก่อนหน้านี้นางได้ลองชิมน้ำแกงดูแล้ว หอมกลิ่นสมุนไพรอีกทั้งยังมีรสเผ็ดแสบลิ้นให้ความรู้สึกเจริญอาหารมากกว่าที่เคยเป็น

"หืม บุตรสาวตัวน้อยถึงกับทำน้ำแกงให้บิดากินเชียวหรือ" เทียนหรงเอ่ยเย้าบุตรสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง เด็กน้อยหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

"ลองชิมดูเจ้าค่ะ" ฮุ่ยหนิงตักน้ำแกงจากชามใบใหญ่แบ่งใส่ถ้วยใบเล็กแล้วยื่นให้กับสามีรวมถึงน้องสามีและบุตรสาว

สองหนุ่มของบ้านได้ชิมแล้วก็รู้สึกคล่องคอยิ่งนัก น้ำแกงในถ้วยแบ่งเล็กๆ จึงหมดไปอย่างรวดเร็ว

"รสดียิ่งนัก อร่อยกว่าที่เคยอีกนะหนิงเอ๋อร์" เทียนหรงตักน้ำแกงใส่ถ้วยใบเล็กของตนเผื่อแผ่ไปให้น้องชายด้วย ฮุ่ยหนิงกับเสี่ยวหลินเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะ

"อร่อยก็กินเยอะๆ เจ้าค่ะ นี่เป็นเพราะบุตรสาวของท่านช่วยข้าทำจึงอร่อยเช่นนี้"

"เสี่ยวหลินของอาเก่งที่สุด มาเถอะ เดี๋ยวอาแกะเนื้อปลาให้เจ้า" เทียนเฉินซดน้ำแกงเสียงดัง เขาตักปลาในชามใหญ่ออกมาแกะเอาแต่เนื้อส่งให้หลานสาวตัวน้อย ซึ่งนางก็ตักกินจนแก้มตุ่ย

"ท่านอาดีที่สุดเจ้าค่ะ"

"แล้วพ่อดีหรือไม่ นี่ ตัวนี้มีไข่ด้วย พ่อให้เจ้า" เทียนหรงได้ยินบุตรสาวเอ่ยชมน้องชายก็รู้สึกไม่ยอมแพ้ เขาคีบไข่ปลาให้บุตรสาวจนแทบจะล้นถ้วยใบเล็ก

"ท่านพ่อก็ดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ" นางยิ้มตาหยี ก่อนจะตักไข่ปลาเข้าปาก วันนี้เป็นวันที่นางกินข้าวได้อร่อยที่สุดเลย

หลังจากผ่านมื้อเย็นแสนอร่อยและนั่งย่อยกันจนฟ้ามืด ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน เนื่องจากยังเล็กอยู่มากเสี่ยวหลินจึงยังไม่มีห้องเป็นของตนเอง นางยังคงนอนกับบิดามารดา บางครั้งก็ไปนอนกับท่านอาหนุ่มน้อย แต่คนที่ไม่ยอมไปนอนที่บ้านของตนเองก็คือเสี่ยวจง มันเดินตามเสี่ยวหลินต้อยๆ ถึงแม้ว่าเทียนเฉินจะพามันไปส่งที่คอกแล้วแต่มันก็มุดออกมาเหมือนเดิม

"เสี่ยวจงทำไมถึงมุดออกมาอีกแล้วเนี่ย" เทียนเฉินยืนเท้าเอวมองเจ้าวัวขนปุยที่ยืนมองหน้าตนพร้อมกับส่ายหางดุ๊กดิ๊ก มันหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนอยู่ไม่ไกลแล้วถูไถหัวเล็กๆ ของมันไปกับตัวของเสี่ยวหลิน

"คิกคิก เสี่ยวจงคงไม่กล้านอนคนเดียวกระมัง" ฮุ่ยหนิงปิดปากหัวเราะอย่างขบขัน

"มันคงอยากจะนอนกับลูกกระมัง" เทียนหรงมองเจ้าเสี่ยวจงอย่างเอ็นดู บ้านหลังน้อยที่แทบจะเลี้ยงตัวเองไม่รอด ไหนเลยจะเคยเลี้ยงสัตว์ พอมีเจ้าตัวเล็กนี่มาอยู่ด้วยก็รู้สึกดีไม่น้อย

"เสี่ยวจงจะมานอนกับเสี่ยวหลินไม่ได้นะ เสี่ยวหลินนอนกับท่านพ่อท่านแม่ แค่เตียงก็เต็มห้องแล้ว" เสี่ยวหลินเอ่ยบอกเจ้าตัวยุ่งที่มุดหน้าอยู่กับพุงน้อยๆ ของนาง

"เอาเถอะ ให้มันไปนอนกับเสี่ยวเฉินก็แล้วกัน" เทียนหรงพูดขึ้นมาก่อนจะจูงมือภรรยาเข้าห้องนอนไป

เสี่ยวหลินจึงตัดสินใจเข้าไปนอนในห้องกับท่านอาหนุ่มน้อย โดยมีเจ้าเสี่ยวจงตามมาด้วย เทียนเฉินนำหญ้าแห้งมาปูที่พื้นให้มันนอน เจ้าวัวน้อยเมื่อเห็นเจ้านายตัวน้อยของมันถูกอุ้มขึ้นเตียงมันจึงล้มตัวลงนอนแต่โดยดีและหลับสบายไปจนถึงเช้า ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกไล่ล่าจนมารดาต้องทิ้งมันไว้ตัวเดียวอีกแล้ว

###############################################

มีตรงไหนดูงงๆ บอกเราได้นะคะ เผื่อเราเขียนข้ามไป

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!