ณ เกาะวินเซนต์
ในที่สุดก็ถึงสักที (ฉันลากกระเป๋าลงจากเรือแล้วมองไปรอบๆ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าจะถึง รู้สึกเมื่อยตัวไปหมด แต่เป็นเกาะที่ดูเงียบๆ คนไม่ค่อยมีเลย เห็นแต่ชาวประมงที่มารอออกทะเล คิดแล้วฉันก็เดินเข้าไป )
ดูร่มรื่น เรียบง่ายดีจัง เอ๊ะ!! ว่าแต่เราต้องไปไหนนะ (พูดแล้วฉันก็หยิบซองจดหมายที่ฉันเอามาจากกล่องสีทองในห้องคุณยายขึ้นมาดู )
ต้องเป็นของสำคัญมากแน่ๆ คุณยายถึงเก็บไว้ในกล่องสีทอง แต่ก็ดูเหมือนกับจดหมายธรรมดา(พูดแล้วฉันก็เปิดซองจดหมายขึ้นมาอ่าน)
เนื้อหาในจดหมาย
ถึงคุณฟอเรส ลูน่า
เนื่องจากทางเราเห็นคุณสนใจในการเล่นฟุตบอล จึงอยากเชิญคุณมาที่แซงคูล่า ที่เป็นค่ายฝึกของฟุตบอลหญิง ถ้าคุณสนใจโปรดมาที่เกาะวินเซนต์ เราจะรอคุณอยู่ที่นี่ ที่แซงคูล่า
จาก ทาราส เทียร่า
เป็นจดหมายที่มีเนื้อหาสั้นดี (ฉันพูดแล้วพลิกจดหมายกลับไปกลับมาเพื่อดูให้แน่ใจว่ามีข้อความส่วนอื่นอีกหรือเปล่า)
ไปที่แซงดูล่างั้นเหรอ แล้วมันคือที่ไหนเนี่ย ถามคนในหมู่บ้านก็ได้มั่ง(ฉันเก็บจดหมายเข้ากระเป๋าเสื้อแขนยาวที่สวมมาเพื่อกันหนาว )
ที่นี่หนาวจัง (ฉันเดินเข้าไปเรื่อยๆ ที่สองข้างทางมีแต่ป่า เห็นมีป้ายบอกว่าถ้าเดินตรงไปข้างในก็จะเจอกับหมู่บ้าน)
(ผ่านไปประมาณ 5 นาที ฉันก็เดินมาจนเจอกับหมู่บ้าน )
โห~ น่าอยู่ใช่เล่นเลย(ฉันมองไปรอบๆที่เห็นมีหมูบ้านอยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ มองไปทางไหนก็สดชื่นสุดๆเลย)
ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาชมวิวนะลูน่า แล้วแซงคูล่ามันคือที่ไหนกันแน่!!(ฉันยืนงงๆหน้าหมู่บ้านที่ไม่ค่อยจะมีคนสักเท่าไหร่)
ไปถามคุณลุงดีกว่า(ยืนยิ่งสักพักฉันก็เดินเข้าไปหาคุณลุงคนหนึ่ง ที่กำลังกวาดพื้นอยู่ไม่ไกลจากฉัน)
คุณลุงคะ หนูขอสอบถามค่ะ คุณลุงรู้จักแซงคูล่าไหมคะ(ฉันถามออกไปอย่างนอบน้อม)
แซงคูล่า ?? (คุณลุงทำหน้างง อย่าบอกว่าคุณลุงไม่รู้จักหนะ ถ้าคนที่นี่ไม่รู้จักไม่รู้จะหายังไงแล้ว)
ที่เป็นค่ายฝึกฟุตบอลอะไรสักอย่างละก็อยู่บนเขานู่น หนูเดินตรงไปนะ แล้วจะเจอทางขึ้นเขา(คุณลุงพูดพร้อมชี้ทางให้ )
ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ(ฉันโค้งขอบคุณ แล้วเดินไป โดยที่ฉันไม่รู้เลยลุงเขาดพึมพำอะไรต่อ)
ว่าแต่เด็กคนนั้นไปทำอะไรที่แซงคูล่า?? คงไปฝึกซ้อมละมั่ง เด็กสมัยนี้ขยันตั้งแต่อายุยังน้อยจริงๆ (คุณลุงพูดพึมพำแล้วกวาดพื้นต่อไป)
ผ่าน 20 นาที
เราก็ลืมถามคุณลุงเลย ว่าเดินตรงไปมันประมาณเท่าไหร่ ไม่คิดมันจะไกลขนาดนี้ นี่ออกมาจากหมู่บ้านแล้วนะ(ฉันพูดไปแล้วก็หอบไปด้วยความเหนื่อย)
ดีนะที่กระเป๋าเป็นกระเป๋าลาก ไม่งั้นเราต้องเหนื่อยกว่านี้แน่(ถึงจะเหนื่อยยังไง ฉันก็เดินต่อไปพร้อมกับลากกระเป๋าสีม่วงใบใหญ่ไปด้วย แล้วฉันก็เจออะไรบางอย่าง)
ในที่สุด ก็เจอแล้วทางขึ้นเขาแล้ว แต่อย่าบอกนะว่า!! (ฉันมองขึ้นไปที่พบกับบันไดขึ้นเขา ซึ่งมองคร่าวๆน่าจะมีประมาณหลายขั้น แล้วก็สูงมากด้วย )
เป็นแบบบันไดเหรอ ท่าทางจะสูงน่าดูเลย แต่ขึ้นบันไดมันไม่ติดอะไรหรอกนะ ติดตรงที่เรามีกระเป๋าลากที่หนักมาด้วยสิ ถ้าเป็นบันไดเราก็ลากไม่ได้มีแต่ต้องยกขึ้นไป
ฉันขอถอนคำพูดที่พูดไปก่อนหน้าแล้วกัน ว่ามีกระเป๋าลากแล้วมันสบาย ( ฉันรู้สึกอารมณ์เสียนิดๆ แต่เอาเถอะมีแต่ต้องสู้เท่านั้นละ)
ก็แค่ขึ้นบันไดมันจะแค่ไหนกันเชียว เราเป็นถึงโค้ชฟุตบอลของโลกเก่าเลยนะ จะมายอมแพ้กับแค่เรื่องเล็กๆทำไมกัน(ฉันพูดแล้วยกกระเป๋าขึ้นบันไดไปทันที)
ผ่านไป 1 ชั่วโมง
แหกๆ ในที่สุดก็มาถึงยอดบันไดสักที(พอมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย ฉันก็ล้มลงไปนั่งกับพื้นทันทีด้วยความเหนื่อย)
เหนื่อยชะมัดเลย เหมือนร่างกายจะฉีกเป็นเสี่ยงๆ ( ร่างกายนี้ไปค่อยแข็งแรงเลย แล้วเป็นเด็กอายุแค่ 9 ขวบด้วยทำได้แค่นี้ก็เกินพอแล้ว แต่ถ้าอยากแข็งแกร่งสงสัยต้องฝึกหนักๆแล้ว )
เอ๊ะ!! ที่นี่มัน(ฉันมองไปรอบๆ เห็นสนามฟุตบอลที่กว้างมากๆ)
สวยจังเลย ฝึกที่นี่คงจะสดชื่น ทำเอาเราลืมความเหนื่อยไปเลย(ฉันยื่นขึ้นแล้วเดินสำรวจรอบๆ โดยทันที)
(พอเดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็เจอบ้านใหญ่ๆหลังนึงที่น่าจะเป็นคฤหาสน์มากกว่า แล้วฉันก็เห็นเด็กผู้หญิงผมแดงยืนอยู่ หน้าประตู อายุประมาณเท่าเราเลย )
เอ่อ ขอโทษนะที่นี่ใช่ แซงคูล่าไหม(ฉันพูดขึ้น แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามา เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีผมสีแดงสั้น ทรงผมเหมือนผู้ชาย ดวงตาสีแดง)
ใช่ ที่นี่คือแซงคูล่า เธอเป็นเด็กใหม่งั้นเหรอ(เด็กคนนั้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย)
น่าจะใช่นะ ฉันมาตามจดหมายนี่(ฉันยื่นจดหมายสีทองให้เธอดู)
งั้นก็เป็นเด็กใหม่ เข้ามาสิ เดี่ยวฉันพาไปหาผู้ดูแล(เด็กคนนั้นเดินเข้าไปในบ้าน แล้วพยักหน้าให้ฉันตามเข้าไป ฉันจึงเดินเข้าไป)
(ฉันสังเกตรอบๆ ทันที โดยเป็นคฤหาสน์ที่น่าจะมีประมาณ 3 ชั้น กว้างพอสมควรเลย แล้วดูเหมือนยังใหม่ๆอยู่ แสดงว่าเพิ่งสร้างขึ้นไม่นานมานี้แน่ๆ)
เธอชื่ออะไรงั้นเหรอ(เด็กผมแดงตรงหน้าถามฉันขึ้น)
ฉันชื่อ ฟอเรส ลูน่า เรียกว่า ลูน่าเฉยๆก็ได้ แล้วเธอชื่ออะไรละ
ฉันชื่อ มาฮาระ โซระ อายุ 9 ขวบ เรียกว่าโซระเฉยๆก็ได้ (อายุเท่าเราเลย แต่จะว่าไปชื่อของคนที่นี่จะชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นเหมือนโลกเก่าของเรา แต่จากความทรงจำของร่างนี้คนส่วนใหญ่ชื่อก็ไม่ได้เป็นภาษาญี่ปุ่น บางที่เราก็งงเหมือนกันนะ โลกที่พระเจ้าส่งเรามาช่างเข้าใจยากจริงๆ)
ยินดีที่ได้รู้จัก(ฉันพูดตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม)
ว่าแต่ เธอมีเหตุผลอะไรถึงต้องมาที่นี่(โซระถามฉันขึ้นด้วยสีหน้านิ่งๆ ออร่าเด็กคนนี้ รู้สึกน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ ไม่เหมือนเด็ก 9 ขวบเลยสักนิด)
จำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ ฉันก็แค่มาตามจดหมายเชิญ( ฉันก็มาตามจดหมายจริงๆ มาที่นี่เราจะได้เจอกลับพ่อแม่ของลูน่าในร่างเก่าและทำความฝันให้เป็นจริงได้ แต่ฉันว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ รู้สึกไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย)
งั้นเหรอ (โซระพูดแค่นั้น แล้วก็เงียบไป )
แล้วโซระมีเหตุผลอะไรถึงต้องมาที่นี่เหรอ(ฉันถามกลับไปบ้าง เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กตรงหน้าคิดยังไงถึงมาที่นี่)
เพราะครอบครัว..แค่อยากให้ครอบครัวยอมรับ (สีหน้าตอนที่เธอพูดถึงครอบครัวดูเหมือนไม่ดีเลย เราคงไปถามอะไรที่ไม่ควรถามแล้วสิ)
ถ้าไม่สะดวกเล่าก็ไม่เป็นไรนะ(ฉันพูดกลับไป แล้วเธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย รู้สึกเป็นเด็กที่เข้าถึงยากจริงๆ แต่ก็นะค่อยๆทำความรู้จักไปก็แล้วกัน)
เวลาผ่านไป
ถึงแล้วแหละ ( นี่ชั้น 3 ชั้นบนสุดงั้นเหรอ ชั้นสองน่าจะเป็นห้องพักของสมาชิกคนอื่นๆสินะ ชั้น 1 คงเป็นห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องประชุม กว้างจังเลยแหะ)
ก๊อกๆๆๆ ผู้ดูแลคะ มีเด็กใหม่เข้าพบค่ะ(โซระพูด)
เข้ามา( เสียงผู้หญิงที่น่าจะเป็นผู้ใหญ่พูดขึ้น ฉันจึงเปิดประตูเข้าไปข้างใน)
ติดตามตอนต่อไป... Thank you
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments