พรึบ!
ในยามเช้าตรู่ของวันใหม่ แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มพ้นเส้นขอบฟ้า เงาของชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดผ้าคลุมสีดำ กำลังกระโดดไปมาบนยอดต้นไม้ใหญ่ด้วยความเร็ว จนสายตาของมนุษย์ปกติไม่อาจตามทันได้ แสงสะท้อนสีเหลืองจ้าส่งท้ายเขา ขีดเป็นเส้นตะวันจากต้นสู่ต้น ราวกับเส้นทางที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสวรรค์
เมื่อเงาของชายหนุ่มที่กำลังพุ่งไปตามต้นไม้ลงสู่เบื้องล่าง แสงสะท้อนสีทองที่ขีดไปทั่วก็ค่อยๆจางหายไปตามหลัง
“อะไร เกิดอะไรขึ้น…”
วีนัสรีบกลับมาที่บ้านไม้ของเขากลางป่าใหญ่ในท่าทางรีบร้อน เขารีบพุ่งไปตามต้นไม้ด้วยพลังอันมหาศาล เสียงหัวใจของเขาเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาด้านนอก สีหน้าที่เป็นกังวลแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เซี๊ยะๆๆๆ
พรึบ!
“เสียงอะไรน่ะ”
วีนัสกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงทันทีเมื่อได้ยินเสียง เขาดึงปืนสไนเปอร์คู่ใจที่สะพายอยู่ด้านหลังมาตั้งท่าเตรียมยิง สอดนิ้วขาวเข้าช่องไกปืนอย่างไม่รอช้า
เซี๊ยะๆๆๆ
ฟึบ ฟึบ ฟึบ
วีนัสกระโดดไปตามแนวต้นไม้ ค่อยๆเข้าใกล้ต้นเสียงอันน่าขนลุกนั่นเรื่อยๆอย่างระมัดระวัง เขาใช้เวทมนตร์สร้างกระสุนเจาะกำลังสูงไปพลางกระโดดตามกิ่งไม้ไปพลาง
ฟึบ!
เมื่อสายตาของเขามองเห็นเงาของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ลางๆจากระยะไกล ณ ตอนนี้วีนัสไม่รอช้า เขาตั้งฉากเล็งปืนไปที่สิ่งมีชีวิตตัวนั้นทันที เมื่อสโคปของปืนสไนเปอร์ที่ถูกปรับแต่งด้วยเวทมนตร์ของเขาเอง จึงทำให้สามารถมองทะลุผ่านต้นไม้ที่บดบังได้
เจ้ากระต่ายขนาดยักษ์กำลังกัดกินซากบ้านของวีนัสที่พังเสียหายอยู่บนพื้น ฟันซี่ใหญ่สองซี่ของมันกัดแทะกินไม้หนาราวกับว่ากำลังกินขนม วีนัสซึ่งเห็นแบบนั้น ความโกรธมหาศาลก็เข้าล้อมเขา เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบให้ใครมาเหยีบยํ่าความรู้สึก รวมถึงคำสาปขอมังกรที่เกิดขึ้นจากช่องโหว่ของสกิลทะลุขีดจำกัด ทำให้วีนัสเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้ วีนัสเล็งปืนไปที่กลางหน้าผากขาวของมัน
“นามตัวข้าผู้เป็นมังกร~~~”
เขาเริ่มท่องคาถาบางอย่างที่เทพธิดาได้สอนให้ เมื่อยามคาถาถูกกล่าวมาจนถึงกลางบท ลวดลายตัวอักษรรูนที่เขียนไว้บนปืนของเขาส่องแสงขึ้น
วีนัสฉีกยิ้มราวกับปีศาจพร้อมกลืนกินแสงตะวัน เส้นสีแดงค่อยๆขีดลากไปตามตัว ดวงตาของเขาค่อยๆย้อมเป็นสีแดงแสด ราวกับเปลวไฟของมังกร ปืนกระบอกทองแผ่ไอความร้อนออกมาอย่างมหาศาล สายลมที่นิ่งสงบเริ่มเคลื่อน ปากกระบอกปืนเหล็กสีขาวปล่อยควันร้อนออกมาอย่างไม่หยุด
“ตายซะ ตายซะ ตายๆๆ”
วีนัสในตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นิ้วมือขวาของเขาเริ่มสอดเข้าไปที่ช่องไกปืน เพื่อที่จะลั่นไกปลิดชีพกระต่ายขาวตัวนั้นด้วยความโกรธ แต่แล้วว….
ฉ่าง~~~
ทันใดนั้นเอง ในช่วงเวลาที่วีนัสกำลังจะลั่นปืนใส่กระต่ายขาว อยู่ๆแสงสีขาวราวกับแสงจากสวรรค์ก็เปล่งขึ้น แสงนั้นเปล่งออกมาจากตัวอักษรรูนที่อยู่คอเสื้อของเขา ตัวอักษรรูนแห่งการหยั่งรู้ มันค่อยๆเตือนสติวีนัสที่กำลังหลงผิดถวายชีวิตแก่คำสาปของมังกร
เฮือก เฮือก เฮือก….
เมื่อแสงสีขาวเริ่มค่อยๆจางลง ลวดลายของมังกรที่ขึ้นตามตัวเขาก็ค่อบๆหายไปเช่นกัน สติที่หลุดช่วงไปเริ่มกลับมาจากการแตกสลาย สายลมร้อนเมื่อตอนนั้นถูกเปลี่ยนเป็นสายลมที่เย็นและสงบ แต่ถึงกระนั้น….
ปังง!!!?
วีนัสลั่นไกปืนใส่เจ้ากระต่ายชั่วร้ายที่กำลังจะกระโดดหนีในทันที แต่คราวโชคดีของเขาที่ไม่ได้ใช้พลังของมังกร เพราะถ้าเขาใช้มัน พื้นที่ตรงหน้าจะถูกเผาเป็นปุ๋ยผงเป็นแน่
ตับ…!
เมื่อกระสุนเวทมนตร์เจาะเข้าที่กลางหัวของกระต่าย แรงดันมหาศาลของมันดันจนทะลุสมองขนาดใหญ่ พุ่งออกจากด้านหลังของกระต่ายตัวนั้นแล้วไปปักที่ต้นไม้ก่อนจะหายไป
กระต่ายตัวนั้นล้มลงทันทีเมื่อเสียงปืนที่สะท้อนป่าเริ่มจางลง ร่างใหญ่ยักษ์ของมันล้มกระแทกพื้นดินทันที สายตาของเจ้ากระต่ายจ้องมองไปที่วีนัสอย่างไม่ลดละ เลือดสีดำราวกับนรกไหลออกมาจากรูกระสุน รวมถึงทางจมูกและปากของมัน
ขาใหญ่สองข้างที่ได้รับคำสั่งจากสมองของเจ้ากระต่าย ขาทั้งสองมันยังคงขยับดิ้นไปมาไม่หยุด กระต่ายตัวนั้นยังคงจ้องมองไปที่ต้นไม้ต้นนั้น ก่อนจะค่อยๆสิ้นลม
วีนัสกระโดดลงมาจากต้นไม้สูง เขารีบวิ่งไปที่ซากบ้านไม้ของเขาที่พังเละเทะ โชคดีที่ในบ้านของเขาไม่มีอะไรมากเพราะใช้ชีวิตคนเดียว วีนัสเปิดถํ้าน้ำแข็งขนาดใหญ่ออก แล้วเดินลงไปเก็บเอาผิวหนังและเนื้อของสัตว์ที่เขาฆ่าก่อนหน้า เก็บใส่ไอเทมบล็อกไว้ โชคดีที่กระต่ายยักษ์ตัวนั้นไม่ได้บุกเข้าทำลายห้องเก็บอาหารใต้ดินของเขา
วีนัสดินออกมาจากถํ้าใต้ดินผ่านอุโมงค์หินจนมาถึงด้านนอก “เฟรมสตรอม!” เขาใช้เวทมนตร์สร้างลมหมุนไฟขนาดใหญ่ขึ้นมา เผาซากบ้านที่เสียหายเละเทะไปพร้อมกับซากกระต่ายตัวนั้น
วีนัสยืนมองเศษซากของบ้านที่กำลังถูกเปลวไฟทำลายเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านและกลายเป็นฝุ่นผงในเวลาต่อมาอยู่สักพัก ตอนนี้บ้านเพียงหลังเดียวของเขาไม่สามารถนำมันกลับคืนมาได้แล้ว เขาเดินออกจากพายุเพลิงที่กำลังหมุนวนอยู่ด้านหลังโดยไม่เหลียวมอง ต้นไม้ใหญ่ยักษ์เพียงต้นเดียวในป่าที่รากแก้วถูกกระต่ายตัวนั้นกัดกินจนเป็นโพลงขนาดใหญ่ ค่อยๆทรุดลงเรื่อยๆ กิ่งก้านมากมายของมันหักหล่นลงพื้นมากมาย
แต่ถึงกระนั้น ด้วยพายุเพลิงที่มีความร้อนสูงของวีนัส ทำให้ต้นไม้ยักษ์ที่กำลังจะล้มลงกลางป่าใหญ่ ถูกสายลมที่หมุนดึงลำต้นนั้นเข้ามาแล้วเผาทำลายจนกลายเป็นฝุ่นไม่มีแม้แต่ร่องรอยหรือควันไฟให้สังเกตุ
"ทำแบบนี้ถึงจะกระทบกับป่าน้อยที่สุด"
[นายท่าน ไม่กลับไปหมู่บ้านหรอคะ…]
เสียงเล็กแหลมราวกับผีเสื้อตัวน้อยส่งเสียงดังขึ้น ก่อนจะมีแสงสีเขียวลอยออกมาจากเส้นผมหนา วีนัสหันหน้ามองดวงไฟสีเขียวดวงเล็กที่ลอยไปลอยมารอบตัวราวกับเขารู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
“ผมจะกลับไปตอนนี้แหละ เจ้าภูติน้อย”
วีนัสตอบกลับดวงไฟเขียวที่ลอยเล่นรอบตัวเขา
ภูติดอกไม้ตัวน้อย นินะ เป็นภูติที่วีนัสช่วยช่วยเหลือระหว่างทางไปหมู่บ้าน นินะได้ยอมรับวีนัสเป็นเจ้านายของตนในเวลาต่อมา และเป็นเพราะเธอมองเห็นภูติตนอื่นๆที่ลอยรอบตัวของริต ทำให้วีนัสรู้ว่าริตนั้นมีพลังที่สามารถสื่อสารกับภูติได้
ภูติ เมื่อทำพันธสัญญากับผู้เป็นนาย ภูติจะไม่สามารถโกหกหรือควบคุมนายตนเองได้นอกจากจะอนุญาต ภูติจะไม่แสดงถึงตัวตนของตนเองให้กับสิ่งมีชีวิตอื่น นอกจากนายตัวเองหรือมีคำสั่งจากนาย แต่ถ้าหากเป็นภูติอิสระสามารถแสดงถึงตัวตนได้
และการที่วีนัสเปิดอกพูดคุยกับริตเมื่อตอนอยู่หมู่บ้านนั้น ก็เกิดจากคำแนะนำของนินะด้วยเช่นกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 9
Comments