เช้าอีกวันที่ช่างสดใส เหอๆ ถ้าจะถามว่าทำไมถึงทำเสียงเหนื่อยแบบนี้น่ะหรอก็เพราะมีสอบน่ะสิลองนึกสภาพรถติดยาวเป็นหางว่าวจุฬาถนนทางเท้าที่โคตรง่อยกับการใส่แว่นขึ้นรถไฟฟ้าที่เป็นอะไรที่ลำบากผมไม่ได้อยากจะบ่นหรอกนะแค่ขอก่อนคาบแรกได้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าโรงเรียนก็พอไม่ได้บ่นเลย!
วันนี้ที่ต้องใส่แว่นเพราะว่าค่าสายตาของผมเริ่มจะมีอาการแต่ถึงกระนั้นก็ยังคงถือว่าไม่เป็นไรเท่าไหร่ก็เล่นอ่านหนังสือซะดึกขนาดนั้นทำไงได้
“หะ หาว”
ผมยกมือปิดปากหาวก่อนจะเดินมาถึงยังป้ายรถเมย์เมื่อวานไม่มีที่ติวก็จึงต้องนั่งรถเมย์กันมาบุกหาคาเฟ่จนโชคดีหน่อยได้แถวมหาลัยถึงกระนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีโชคหล่นทับโดนหนุ่มเสน่ห์แรงหน้าหล่อมาจีบคิดแล้วก็ยังเขินไม่หาย
นัยตาสีดำทอดมองไปยังผู้คนที่พลุกพล่านบนท้องถนนกับการรอรถไปโรงเรียนที่ต้องรออย่างไม่มีเวลากำหนดกับบรรยากาศช่วงเช้าที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสงยูวีอันร้อนแรงลงมา
ในหัวของ ขนม ตอนนี้ที่รีบจนไม่ได้เอาแซนวิสในตู้เย็นมากินรองท้องก็นึกถึงแต่ปิ้งหมูกลิ่นหอมเย้ายวนกับข้าวเหนียวร้อนๆที่ขายตามทางเข้าโรงเรียนของตัวเองแม้ว่าที่อื่นจะมีขายแต่เพราะเป็นเช้าวันศุกร์ก็จึงมีคนเยอะพอกับวันจันทร์เลยทำได้แต่เพียงใช้นัยตาสีดำกลมโตจ้องมองตามปิปปิป
“หือ หืม?”
เมื่อรู้ว่ามีอะไรอุ่นๆมาโดนเเก้มก็จึงสะดุ้งโหย่งและแสดงสีหน้าเลิ่กลั่กไม่อยู่เฉยราวแมวที่โดนน้ำกระเส็นใส่ก่อนจะหันไปจ๊ะเอ๋กับสิ่งนั้น
เป็นชายร่างสูงโปร่งประมาณร้อยแปดสิบกว่ารอยยิ้มสุดกวนใบหน้าหล่อเข้มมีเสน่ห์และนัยตาสีน้ำตาลอันทรงพลังเจ้าเดิมพี่ วายุ บุคคลที่ขอจีบขนมเป็นคนแรก! ในชีวิตแถมยังร้อนแรงขอเป็นแฟนทั้งที่เพิ่งเคยรู้จักกันอีกด้วยถึงจะจีบน้องแต่น้องก็อยากรู้จักพี่ดีๆก่อน
“สวัสดีตอนเช้าครับพี่วายุ”
ทักทายเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะทำตากลมโตดุ๊กดิ๊กไปมาจดจ้องมองคนตรงหน้าที่ในมือถือข้าวเหนียวหมูปิ้งอยู่กลิ่นหอมคละคลุ้งจนแทบกลบกลิ่นวนิลาที่เขารีบเสียจนระดมฉีดใส่ตัวเองจนแทบเปียกตรงหน้า
“มอนิ่ง นี่พี่ซื้อมาให้เรา” พี่วายุทักทายกลับก่อนจะยื่นข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้แมวที่หัวฟูทุกเช้าตรงหน้า
มือเรียวสวยที่ใหญ่กว่ามือของเขาที่ในมือมีของยั่วยวนอยู่ก็จึงไม่รอช้าที่จะขว้าข้าวเหนียวหมูปิ้งมาอาหารยามเช้าชั้นดีของขนม!
“ซื้อมาให้ผมหรอ!? ขอบคุณครับพี่วายุ”
ถึงจะเขินจนอยากจะกรีดร้องแต่ภาพตรงหน้าทำเอาละสายตาไม่ได้เลยแม้ว่าจะได้มันมาอยู่ในมือแล้วก็ตาม
“ผมจะทานแล้วนะครับ!”
เมื่อรับมาแล้วด้วยตาเป็นประกายก็จึงรีบกินอย่างไม่รีรอทำเอาทางนั้นก็จึงหลุดขำออกมาเล็กน้อย
“ฮะฮะ” พี่วายุหัวเราะเสียงเบาก่อนจะใช้มือเรียวหนาเกลี่ยผมจัดทรงให้
“อื้อ! อร่อยจัง”
ถึงจะซื้อกินทุกเช้าแต่เพราะคนละเจ้าหรือเพราะมีหนุ่มหล่อซื้อมาให้ด้วยก็จึงเคี้ยวแก้มตุ่ยอย่างไม่พักหายใจก่อนจะมีอะไรเย็นๆมากระทบที่แก้มของผม
“ค่อยๆกินสิอะนี่น้ำ”
พี่วายุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะนำขวดน้ำที่ยื่นมาไปเปิดฝาและปิดไม่แน่นส่งมาให้อีกครั้งพี่พอดีเราพึ่งเจอกันเมื่อวานนะเห็นใจน้องหน่อย
โอยย พ่อเทพบุตรส่งมาเกิดน้องนี่ใจแป่วแล้วคร้าบคบเลยมั้ยเอามั้ย งุ้ย~ เเม้จะคิดอยู่ในหัวแต่กลับแสดงออกมาจนแทบหมดทางสีหน้าเสียแล้ว
“ตื่นเช้าจังเลยนะเรา”
วายุ แม้ว่าจะตื่นเช้าเพราะถูกเรียกตัวมาถ่ายแบบขึ้นปกมหาลัยกับที่นัดเพื่อนมาส่งงานจึงต้องมาเช้าแม้จะขับรถยนต์คันหรูมาแต่เพราะความเบื่อหน่ายที่ติดไฟแดงก็จึงแวะลงมาซื้อน้ำดับหัวร้อนของเขาเฉยๆ
หางตาก็ไปจ๊ะเอ๋กับคนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีแม้ว่าจะพึ่งเจอกันเมื่อวานมือเล็กๆที่ดันแว่นทรงกลมเอาไว้กับสายตากลมโตที่จดจ้องไปยังร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งแม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลแค่อีกฟากถนนแต่ดูจากรถที่เเล่นไปมากับผู้คนแล้วก็จึงพอนึกออก
“ใส่แว่นแล้วน่ารักจัง” เขาชื่นชอบน้อง ขนม ก็จริงแต่ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำให้เขาหลงได้เพียงนี้
ขาเรียวยาวได้ก้าวเดินไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งก่อนจะค่อยวนกลับเดินมาหาแมวน้อยที่ยืนนิ่งอยู่ยังแถวป้ายรถเมล์วายุเข้ามาหาคนตัวเล็กทีละน้อยก่อนจะทักทาย
ใต้กรอบแว่นที่มีนัยตากลมโตสีดำสนิทราวกับแมวได้หดลงอย่างตกใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเค้ามันช่างราวกับแมวไม่ผิด
เมื่อรับไปแล้วก็รีบเคี้ยวแก้มตุ่ยทำเอาวายุคนนี้อดยิ้มไม่ได้ก็จึงนำมือเรียวหนาไปเกลี่ยผมที่พันกันยุ่งให้แทน
“น้องขนมมารอนานหรือยังครับ?” เขารู้ว่าการรอรถประเทศนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังก็จึงเอ่ยถามออกไป
“ก็สักพักแล้วล่ะครับ” น้ำเสียงนุ่มตอบกลับมาพร้อมเงยหน้าขึ้นสบตาเขาขณะคุย
“งั้นให้พี่ไปส่งที่โรงเรียนมั้ยครับ?”
อึ้งสิครับ... ผู้ชายจะไปส่งที่ผมโรงเรียนไม่สิไม่ใช่เรื่องนั้นสัักหน่อยแต่คนที่ยังแบมือขอตังค์พ่อแม่จ่ายค่าเทอมให้แม้ว่าตัวเองจะหัวรั้นออกมาอยู่หอและหาเงินค่าขนมของตัวเองเพราะถึงที่บ้านชอบตามใจแต่ก็ชอบขัดใจเรื่องเล็กน้อยที่ตนชอบอย่างผมขนมรึ! จริงปะเนี่ย
ผมจ้องหน้าพี่วายุอย่างอ้ำอึ้งก่อนจะเม็มปากของตัวเองไว้แน่นเช่นนั้นก็แปลว่าเขาจะมีเวลาเหลือเฟือก่อนคาบแรกน่ะสิ
ผมพยักหน้าหงึกหงักถึงจะเคอะเขินกับการกระทำของตัวเองที่เหมือนจะใส่แอคติ้งไปหน่อยแต่เพราะมีนิสัยชอบแสดงออกทางสีหน้าก็จึงแก้ไขไม่ได้แต่ช่างมันใครสนล่ะ
“งั้นแปลว่าผมต้องรบกวนพี่น่ะสิ” แต่ถึงกระนั้นขนมเองก็ยังคงงงตึ๊บอยู่ที่พี่มันมีรถหรือก็คือตั้งใจมาหาเราหรอ?
พี่วายุอิคนแสนดี
“ได้สิ ตามพี่มาสิรถพี่อยู่ทางนี้” พี่มันไม่รอช้าที่จะจูงมือผมให้ตามไปที่รถ
แม้ว่าตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่มันมีรถและขับรถมาก็ตามผมชายตามองแผ่นหลังใหญ่ของพี่วายุที่อยู่ตรงหน้าอย่างเขินอายฟีลเหมือนผมตัวเล็กตัวน้อย
เป็นรถเก๋งคันหรูสีดำแวววับที่ดูจากสภาพแล้วราคาคงไม่ใช่เล่นเป็นแน่ถึงเขาจะไม่ใช่เซลล์แต่เท่าที่ดูก็ถึงบางอ้อก่อนจะขึ้นมานั่งยังในรถด้วยความเกร็งจนหัวจะหด
“เพิ่งเคยนั่งเลยล่ะ!” แม้จะตื่นเต้นจนจะลุุกมาเต้นแต่ก็ไม่คิดว่าปากมันจะบอกออกไป
ทำเอาคนที่เพิ่งนั่งลงข้างคนขับอุบยิ้มไม่อยู่จนจะหัวเราะก๊ากออกมาอย่างไม่หยุดนี่พี่เขาตลกที่เราเคยนั่งรถหรูหรอ? หรือว่าเราทำเสียงแปลกๆออกไป
“น่ารักจริงๆด้วยนี่มาคบกันเลยมั้ย”
พี่วายุพูดขึ้นก่อนจะเอนหัวลงยังพวงมาลัยรถและจ้องมองผมอย่างเคอะเขินเพิ่งเคยเห็นมุมแบบนี้เลยนะเนี่ย
“พะ พูดเร่งอีกแล้ว” นี่ถือว่าเป็นเดตทางอ้อมด้วยมั้ยนะ
“ก็ถ้าผมสอบเสร็จแล้ววันนั้น” เรามาคบกันเป็นแฟนนะครับแต่ถึงกระนั้นก็ทนต่อดาเมจของพี่มันไม่ได้จึงตามใจไปเอาจริงก็ไม่รู้จะเล่นตัวทำไมเหมือนกัน
เมื่อพูดจบผมก็จึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากันพี่วายุก่อนที่พี่วายุจะหันหน้าที่แดงไปทางอื่น พี่เขาเขินเราหรอ?
“พูดแล้วนะ”
พี่วายุหันกลับมาก่อนจะขยี้หัวของผมไปทีหนึ่งก่อนจะออกรถไปส่งผมแน่นอนว่าผมทำได้แต่เพียงนั่งอยู่ในรถในอาการเขิน เขินใครหรอ? เขินพี่วายุน่ะสิ!
ไม่นานเท่าไหร่นักกับสภาพรถติดที่ผมโดนพี่วายุหยอดตลอดทางก็ถึงโรงเรียนของผมใบหน้าหล่อเข้มจ้องมาที่ผมด้วยรอยยิ้มก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากส่งให้
“พี่จะรอเรานะครับ” พี่วายุพูดขึ้นก่อนจะส่งเกียร์มาให้ผม เอ๊ะ!!?
เกียร์อยู่ใจ ใจอยู่ที่เกียร์ ฝากเกียร์ไว้กับใคร ก็เหมือนฝากใจไว้กับคนนั้น
ประโยคสุดคลาสสิคจากวิศวะไม่ว่าจะสถาบันไหนและการที่พี่วายุมอบให้ผมก็เท่ากับว่า...
“พี่วายุให้ผมทำไมหรอ” เพราะไม่แน่ใจก็จึงเอ่ยถามออกไป
“ก็ใจพี่อยู่กับน้องขนมนี่ครับรักษาให้ดีนะใจพี่อะ”
สิ้นคำพูดนั้นประตูรถก็ถูกปิดโดยที่ผมยังคงนิ่งอยู่ก่อนที่พี่วายุจะบอกลาและขับรถออกไป
เมื่อหลุดจากภวังก็จึงยกยิ้มกว้างจะกรี๊ดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้นี่เขาไม่ได้ถูกผู้ใหญ่แกล้งใช่มั้ย !?
“อ้าาาา !” ผมร้องตะโกนเสียงดังลั่นหน้าโรงเรียนก่อนจะจีบวิ่งจ้ำอ้าวไปยังอาคารเรียน
เมื่อเห็นน้องมีท่าทีงุนงงก็จึงเอื้อมมือไปกุมมือของน้องขนมเพื่อที่จะพาไปยังรถของผมที่จอดอยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมย์เท่าไหร่มือเรียวที่เล็กกว่าแถมยังนุ่มมากที่อีกด้วยทำเอาผมต้องเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้น
ปีป ปีป
เมื่อเปิดรถแล้วก็จึงเปิดประตูให้น้องเข้าไปนั่งถึงจะดูเกร็งไปหน่อยแต่ก็ว่าง่ายแถมยังหันมาส่งยิ้มอีกชื่อหวานเหมือนขนมยังน่ารักเหมือนลูกแมวอีก
แม้จะมีข้อความจากแชทดาวเดือนมหาลัยสั่นอยู่ในเครื่องไม่หยุดแต่ก็ไม่แม้จะสนใจเมื่อผมเข้ามายังรถก็ได้ยินเสียงอู้อี้ชมรถที่ได้มาจากป๊าเมื่อวันเกิดปีที่แล้วอย่างตื่นเต้นใส่
“เพิ่งเคยนั่งเลยล่ะ!”
น้ำเสียงซื่อๆกับท่าทางที่ดูจะตื่นเต้นมากไปจนดูตลกทำเอาผมแทบอยากจะหัวเราะออกมา
น้องขนมเนี่ยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้คำว่า “น่ารักจัง” ได้เปลืองจริงๆ ถึงจะพูดออกมาในลำคอแต่ก็อดยิ้มเป็นไม่ได้
ฮะฮะ “น่ารักจริงๆเลยนะนี่มาคบดันเลยมั้ย” ทั้งที่ไม่อยากรีบแต่ก็พูดออกไปจนได้
“พะ พูดเร่งอีกแล้ว” จริงด้วยวายุแกเร่งน้องอีกแล้ว
“ก็ถ้าผมสอบเสร็จแล้ววันนั้น” โอ๊ะ! เมื่อได้ยินคำนั้นก็แทบจะคลั่งเลยล่ะครับวายุนี่แกโดนน้องสวนหรอ
แม้ต้องเก็บอาการแต่เห็นทางนั้นพูดขึ้นอย่างเขินอายและเงยหน้าขึ้นมาเอาตากลมโตมาสบตาผมอีกก็ทำเอาแทบจะขิตเลยล่ะครับวายุนี่แกทำบุญด้วยอะไรมา
“พี่จะรอเรานะครับ”
ถึงจะใช้เวลานานหน่อยกว่าจะถึงโรงเรียนของน้องเนื่องจากต้องสู้กับรถมากแหล่บนถนนก็มาถึงแต่เพราะอดกลั้นไม่ไหวในความเงียบก็จึงเอ่ยจีบไปแค่คำตอบก็ทำเอาดีใจเกินคาด
ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากให้ใครมาก่อกวนแม้ว่าน้องจะใกล้จบและต้องเตรียมเข้ามาหลัยอาจไม่มีเวลาแต่ว่าถึงอย่างนั้นก็ไม่สบายใจก่อนที่น้องขนมจะลงรถไปก็จึงเรียกไว้และยื่นเกียร์ให้
“พี่วายุให้ผมทำไมหรอครับ” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรับเกียร์จากมือของผมไปได้เอ่ยถามขึ้น
“ก็ใจพี่อยู่กับน้องขนมนี่ครับรักษาให้ดีนะใจพี่อะ” ถ้ามีเป็นสิบดวงพี่ก็ยกให้หนูหมดนั่นแหละ
ใต้กรอบแว่นที่ใส่มาวันนี้ได้เบิกตากว้างก่อนจะยิ้มแย้มพร้อมเม็มปากแน่นและขอตัวเข้าโรงเรียนไปโดยไม่ลืมที่จะบอกลา
“ผมไปเรียนแล้วนะครับพี่วายุ” มือเรียวได้โบกบ๊ายบายโดยที่อีกข้างจับเกียร์ไว้แน่น
ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายน้องขนมกลับเช่นกันตอนนี้ผมอยู่ในอาการตกหลุมรัก 0.5 วินาทีไปแล้วเรียบร้อย
ครืดดด ♪
เสียงสั่นของมือถือที่วางอยู่ยังคอนโซลหน้ารถดังขึ้นมือเรียวหนาได้กดรับสายโดยที่ไม่แม้แต่จะได้ดูชื่อเลยสักนิด
[ วายุ!! ทำแกถึงยังไม่มาห๊ะคณะอื่นเขาถ่ายกันจนจะหมดแล้วนะ!!!]
เจ๊เขมเฮดว๊ากที่ขึ้นแท่นว่าตามตื๊อตัวเขาจนได้มาเป็นเดือนวิศวะแต่ปีหนึ่งแต่เพราะทำไม่สำเร็จแต่ปีสองเขาพลาดก็จึงได้มาเป็นเดือนมหาลัยจนถึงตอนนี้แม้ว่าจะมีการรับน้องทุกปีคนหล่อก็มีเยอะแต่ดันมีนิสัยชอบโดดเหมือนผมเจ๊แกก็จึงสู้ไม่ไหว
“โทษทีรถติดอะรอไม่ได้ก็ไม่ต้องถ่าย”
ผมตอบกลับพี่เขมด้วยน้ำเสียงกวนโอ๊ยตามสไตล์ของตัวเองก่อนจะยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
[ วายุ!!! ไม่สนล่ะรีบมาเลยนะตอนนี้เพื่อนแกมาหมดแล้วพอฉันถามพวกมันก็ไม่รู้เพราะแกเอารถมายังไงซะรีบมาถ่ายขึ้นบอร์ด! ปีหน้าก็ต้องรับน้องกันแล้ว]
พี่เขมร่ายยาวราวบทสวดใส่ผมก่อนจะพล่ามต่อไปหยุดแม้ว่าผมจะโดนแบบนี้มาแต่ปีสองที่ขึ้นรับเดือนวิศวะก็ตามแต่ใครมันจะอยากเป็นล่ะไม่ได้มั่นขนาดนั้นด้วยถ้าแต่ว่า
“ได้พี่จะถึงล่ะนี่อยู่วงเวียนพอดีวันนี้อารมณ์ดีว่ะ”
น้ำเสียงก่อกวนนัยตาสีน้ำตาลที่มีเสน่ห์ใบหน้าหล่อเข้มได้ยกยิ้มก่อนจะเลี้ยวรถไปยังคณะของตนแลพหาที่จอด
[อารมณ์ดี? แกน่ะนะวายุ!? เอาเถอะรีบมานะรู้มั้ยฉันน่ะรีบ-]
ติ๊ด-
ไม่รอเสวนาฟังต่อวายุก็กดวางสายงั้นก็แปลว่าสอบเสร็จและจบจากโรงเรียนน้องขนมของเขาที่สอบเข้ามหาลัยเสร็จแล้วช่วงปิดเทอมก็
“ร้ายจังนะตัวเล็ก” น้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์พูดขึ้นก่อนจะยิ้มหน้าบานเดินเข้าคณะของตัวเองก็วายุจะมีขนมแล้วนี่นา
“ไอ้วายุ!! มึงไลน์บอกกูแต่เช้าไหง่มึงมาสายกว่าพวกกูวะ” ไอ้ซีมันตะโกนและวิ่งมากระโจนเกาะไหล่ผม
“เพื่อนกูมีความรักว่ะ” ไอ้หนิงที่ตามมาไม่รอช้าจะแซว
“ไม่มีคนเอาก็อย่าเห่าหนิง” ไอ้ทิวมันแซวหนิงก่อนจะโดนกำปั้นชนไหล่ไปที
“โอ๊ย ไอ้สาดด” ไอ้ทิวมันแอคติ๊งวิ่งหนีไอ้หนิงรอบผมกับไอ้ซีที่เดินกันอยู่
“เป็นไงวะเพื่อน” ไอ้ซีที่สถานะพร้อมเสือกเอ่ยถามผม
“หึ ใจกูอยู่ที่น้องไปแล้ว” ผมยกแขนขึ้นข้างหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเกียร์ที่เคยหวงมีเจ้าของไปแล้ว
“เชรดเข้!!! เพื่อนกูเหนือว่ะวายุมึงมันเท่จัดเลย!” ไอ้ซีมันตกใจก่อนจะไปลากไอ้หนิงกับทิวที่เล่นกันมาหาผม
“ชมเหี้ยไรล่ะกูแค่จริงจังเอง” ผมเลิกคิ้วก่อนจะเดินนำพวกมันไป
“เชี่ย เกียร์มีเจ้าของว่ะ”
ไอ้ทิวมันเดินมาแสดงสีหน้ากวนใส่ผมก่อนจะถลึงตาโตพวกมึงจะแอคติ้งอะไรมากมายวะ
“อั๊ยยะเพื่อนกูมีเมียล่ะ แน่ๆคืนนี้” ไอ้หนิงมันพูดก่อนจะทำท่าทีเหมือนยกแก้วเหล้า
“เหี้ยไรล่ะจะปิดเทอมอยู่ล่ะเนี่ยกูถ่ายงานแป๊ปนึง”
ผมยักคิ้วใส่ไอ้หนิงก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่เขมที่กำลังถ่ายแบบให้ดาว-เดือนคณะอื่นอยู่ก่อนจะชี้หน้าพวกมันเรียงตัว
“พวกมึงนะอย่าแอบหนีกูนะ”
ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะมองที่แขนซ้ายของตัวเองที่เคยสวมเกียร์ไว้ก่อนจะนำมันเก็บไว้ดีๆเพราะตอนนี้มันมีเจ้าของแล้วผมยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งก่อนเดินไปหาพี่เขมด้านใน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 3
Comments