" พระเจ้าช่าง (ไม่) ยุติธรรม "
25/7/2019
"คุณหนูคะ ตื่นรึยังคะ" เสียงของพี่ พาน แม่บ้านที่กำลังเคาะประตูเพื่อปลุกฉัน ดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังหลับตานอนอยู่ที่เตียงของฉัน "ก๊อกๆๆๆ" เสียงประตูสีขาวถูกเคาะ
"อืม...ฮ้าวว ซานตื่นแล้วค่ะ" ฉันตอบออกไปพร้อมกับตาที่ยังลืมไม่ขึ้น "วันนี้คุณหนูต้องเตรียมตัวเพื่อไปซื้อของขวัญ กับคุณท่านนะคะ" พี่พานกำลังบอกฉันอยู่ที่หน้าประตูสีขาว
"ของขวัญ....."
"อืม.............."
ฉันคิดอยู่กับตัวเองสักครู่ ก่อนจะตอบออกไป
"ค่าา" ฉันรีบลุกไปเตรียมตัวเพื่อที่จะออกไปข้างนอกกับคุณพ่อและคุณแม่ของฉัน
...09:47 น....
"ตึก ตึก ตึก" เสียงรองเท้าของฉัน ที่กำลังเดินลงบันได มาจากชั้นสอง เพื่อมาทานข้าวอย่างพร้อมหน้ากับครอบครัว
"วันนี้ลูกอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ.....ซานน้อยของพ่อ"
คุณพ่อพูดพร้อมกับเอามือมาลูบที่หัวของฉัน
"อะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่มีคุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับหนูไปแบบนี้นานๆก็พอค่ะ" ฉันพูดด้วยรอยยิ้มที่ส่งออกไปหา คุณแม่และคุณพ่อของฉัน ท่านดูจะอารมณ์ดีมากเลย ในวันนี้
วันนี้เป็นวันครบรอบ วันเกิดของฉันเอง ฉันดีใจมากที่ในที่สุด
ฉันก็อายุครบ 15 ปี และใช่ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ก็ดีใจมากเช่นกัน ในทุกปี คุณพ่อและคุณแม่ จะพาฉันไปซื้อของขวัญที่อยากได้ และปีนี้ก็ด้วย....
"เดี๋ยวเราทานข้าวกันก่อนที่จะไปซื้อของขวัญนะคะ"
แม่พูดกับฉันด้วยรอยยิ้มที่สวยงามของแม่
"ค่ะ..แม่"
ฉันตอบออกไปพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก...
"หืมมม....อร่อยมากเลยค่ะ"
อาหารที่แม่ฉันทำเป็นอาหารที่กินแล้ว
ต้องแสงออกปากทุกครั้งเลยล่ะ....
...14:54 น....
"ป่ะ ไปกัน" คุณพ่อออกปากชวนฉันและเเม่เดินออกไปรอรถที่หน้าบ้าน
รถหรูสำหรับครอบครัว จอดอยู่ตรงหน้าของฉัน ฉันดีใจมากที่จะได้ไปซื้อของขวัญที่ตัวเองอยากได้ ฉันอดใจไม่ไหวจึงขึ้นไปเลือกที่นั่งก่อนใครเลยล่ะ
"ตรู๊ด~ ตรู๊ด~" เสียงโทรศัพท์ของคุณพ่อดังขึ้นและ.....
"อืม..ผมรู้แล้ว เดี๋ยวไป"
คุณพ่อกดวางสายโทรศัพท์พร้อมกับทำหน้าตาที่ผิดหวังนิดหน่อย
"คุณกับลูก ขึ้นรถล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทีหลัง" คุณพ่อบอกกับคุณแม่ว่าอย่างงั้น
"ได้ค่ะ" "ซาน เดี๋ยวเราไปกันสองคนก่อนนะคะ"
คุณแม่ตอบคุณพ่อ ก่อนจะหันมาพูดกับฉัน
"ค่ะ😊" ฉันตอบคุณแม่ไป ก่อนที่ประตูรถจะถูกปิดและรถก็เคลื่อนตัวออกไป
พอถึงห้างสรรพสินค้า คุณแม่ก็พาฉันเดินไปดูของต่างๆนาๆ มากมายลายตาไปหมด ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาอะไรดี
จนในที่สุด...
"เอาอันนี้ค่ะ" ฉันชี้ไปที่เปียโนสีดำตัวนึง มันสวยมากจนฉันต้องตกตะลึงอยู่พักใหญ่ก่อนจะเลือก เจ้านี่
"งั้นช่วยส่งอันนี้มาที่บ้านเราทีนะคะ นี่ค่ะบัตรเครดิต"
คุณแม่พูดกับพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรเครดิตสีดำให้
"ได้ค่ะ คุณนาย"
"ซานอยากได้อะไรอีกมั้ยคะ" แม่ถามฉัน
"ไม่เเล้วค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณพ่อคุณแม่แล้ว"
หลังจากฉันตอบ คุณแม่ก็ขำเล็กๆในลำคอ
หลังจากนั้น เราสองคนก็ไปหาของกินและ ของเล็กๆน้อยๆ มากมาย เรามีความสุขกันมาก แต่เสียดายที่คุณพ่อไม่ได้มาด้วยไม่งั้นเราอาจจะมีความสุขกันมากกว่านี้.....
...17:35 น....
ตอนนี้เรากำลังเดินทางกลับจากห้างสรรพสินค้า ซึ่งคุณพ่อที่บอกว่าจะมาก็ยังไม่มา และยังขาดการติดต่อไปเลย
ฉันถามคุณแม่ไปหลายรอบว่าคุณพ่อไปไหน
คุณแม่ก็ตอบกลับมาเพียงว่า "คุณพ่อคงติดงานน่ะค่ะ"
ฉันก็เข้าใจดีว่าคุณพ่อคงติดงานจริงๆ ถึงมาไม่ได้...
ปั้ง!! ปั้ง ปั้ง!!
เสียงปืนดังขึ้น!! มันมาจากทิศทางไหนฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
"อร๊าย!!! อะไรน่ะ" คุณแม่ที่กำลังกอดฉันอย่างแน่นพรอมกับถามกับบอดี้การ์ดที่มาด้วย ว่ามันคืออะไร
"คงจะเป็นพวกที่พยายามรอบสังหารครับ คุณหญิง! "
รอบสังหาร!! ฉันคิดไม่ผิดแน่ๆ พวกเรากำลังจะโดนฆ่า ในตอนนั้นฉันสติแตกมาก และกำลังจะร้องไห้ออกมา แต่...
"ไม่เป็นไรนะคะ แม่อยู่นี่แล้ว ไม่ร้องนะ" เสียงของคุณแม่ที่อ่อนโยนกับฉัน ทำให้ฉันไม่ร้องไห้ และจิตใจสงบลงได้
...19:00 น....
ปั้ง!! ปั้ง!! เสียงปืนมันยังดังมาอย่างต่อเนื่อง แต่แล้ว เหล่าบอดี้การ์ด ก็พาฉันกับคุณแม่หนีออกมาได้ อย่างหวุดหวิด
พวกเรากำลังขับตรงไปยังเส้นทางที่พากลับบ้าน ฉันคิดว่ามันจะจบแล้ว.....แต่
เอี๊ยด!!!!! โครม!!!
..........
ภาพที่ฉันเห็น...ในตอนนี้....ทุกคนภายในรถกำลังสลบขณะมีเลือดท่วมตัวเต็มไปหมด.....ภาพมัน....เลือน..ลา-.....
.......
26/7/2019
...11:37 น....
ฉันลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ ห้องคนไข้ของ
โรงพยาบาลแห่งนึง ตอนนี้ฉันมองไปรอบๆห้อง
เห็นแต่พี่พานที่กำลังเฝ้าฉันอยู่คนเดียว....ฉันมองผ่านกระจกที่ประตู เห็นพยาบาล และหมอ วิ่งกันทั่วไปหมด
"คุณหนู!! คุณหนูฟื้นแล้ว!! " พี่พานดีใจมากที่เห็นฉันฟื้นแล้วจนน้ำตาไหลออกมา
"คุณพ่อ...ล่ะคะ"
..... พี่พานเงียบไป เเละ ไม่กล้ามองหน้าฉัน
ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ภาพมันตัดไปเลย จนฉันสับสนไปหมด
"คุณท่าน...ยังไม่กลับมาเลยค่ะ" พี่พานพูดออกมาด้วยท่าทีที่ประหม่า
".........จริงหรอคะ....." ฉันพูดออกไป ด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อ ว่าคุณพ่อจะยังไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ คุณพ่อรู้รึเปล่า ว่าฉันกับแม่เกือบจะตายเลยนะ..............
-ติ๊ด-
"ข่าวด่วนนะคะ เมื่อคืนนี้ เวลา 19:23 น. พบรถหรูสีแดง พลิกคว่ำอยู่กลางถนน เบื้องต้น ทราบว่าเป็นรถของตระกูล มหาเศรษฐีรายใหญ่ค่ะ ในขณะนี้มีรายงานมาว่า เป็นอุบัติเหตุที่ถูกชนแล้วหนีค่ะ ตอนนี้ก็ยังตามจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้เลยนะคะ
ชน...แล้วหนี...ฉันได้แต่คิดในใจ...และมีคำถามในใจมากมาย เมื่อคืนฉันกับคุณแม่พึ่งจะเกือบตายเพราะเกือบโดนรอบสังหารแล้วนะ.....
...........
ขออภัยค่ะ
เมื่อสักครู่ มีคนรายงานความเคลื่อนไหวมาเพิ่มนะคะว่า
ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บ และ ผู้เสียชีวิต รวมผู้ที่ได้ประสบเหตุทั้งหมด 4 รายค่ะ
ผู้บาดเจ็บคือ ด.ญ. ซาน นามสมมุติ ลูกสาวเศรษฐีรายหนึ่ง และผู้เสียชีวิต คือ นางสาว คิม นามสมมุติ ภรรยา ของเศรษฐีรายหนึ่ง
นาย ปกรณ์ และ นาย ไทเท คาดว่าน่าจะเป็น บอดี้การ์ดส่วนตัว ของครอบครัวนี้ค่ะ ในขณะนี้ ถือว่า ครอบครัวนี้มีอิทธิพลต่อ สังคมในประเทศของเราอย่างมากเลยนะคะ เราก็ขอแสดงความเสียใจด้วยกับผู้เสียชีวิตในเหตการณ์ครั้งนี้ค่ะ......."
ฉันมองดูโทรทัศน์ภายในห้องที่กำลังแจ้งข่าว พร้อมกับใบหน้า ที่ช็อคจนซีดเผือด ในข่าวนั้นคือครอบครัวของฉันที่ประสบอุบัติเหตุ และใช่.....นักข่าวคนนั้นแจ้งว่า แม่ของฉัน ตายแล้ว...... ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง.... ฉัน....คิด...อะไรไม่ออกเลยสักอย่าง
ฉัน......
.....จะ.....
.........ทำยังไงดี....
"ไม่จริงใช่มั้ย ไม่สิ คงไม่จริงหรอก" ฉันถามตัวซ้ำๆ
" ไม่จริง.....ไม่สิ!! ไม่!! ไม่!!!!!!! " ฉันตะโกนออกมาด้วยความเสียใจจนแทบจะขาดใจให้ตายตรงนั้น ฉันพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ แต่มันทำไม่ได้เลย ฉันเสียใจและตะโกนออกมาอย่างดัง จนพยาบาล และหมอต้องเข้ามาช่วยห้ามไว้
ฉันไม่ยอมหยุดดิ้นและจะออกจากห้องไปหาคุณแม่ให้ได้
จนคุณหมอต้องฉีดยาสลบให้ฉัน.........
มันค่อยๆมืดลงอีกครั้งหนึ่ง จนฉัน.....
ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่บนเตียงเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้มันเงียบ.....เงียบมาก พี่พานที่กำลังนั่งมองฉัน ก็ลุกพรวดขึ้นมา และพยายามที่จะกลั้นน้ำตาไว้ พร้อมกับบอกฉันว่า
"คุณหนูคะ....คุณหญิง เสีย-........ ... " ฉันไม่รู้ว่าหลังจากนั้นพี่พาน พูดว่าอะไร หูมันอื้อไปหมด ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง อยู่ๆน้ำตาเเห่งความเจ็บปวดก็ไหลลงบนแก้มของฉันอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือน ครั้งก่อนที่ฉันโวยวายและไม่ยอมอะไรเลย แต่ทำไม? ครั้งนี้ มันเงียบ เงียบมากเกินไป ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ฉันนอนน้ำตาไหลอยู่บนที่นอนเป็นเวลากว่า 10 นาที น้ำตามันไหลออกมาโดยที่ฉัน ไม่ได้มีเเม้แต่เสียงร้องไห้....
มันคืออะไรกันเเน่ ความรู้สึกนี้ ?.....
" ผลั่ก " เสียงเปิดประตู พร้อมกับ คุณหมอเดินเข้ามาบอกกับฉันว่า อะไรสักอย่าง ก่อนที่พยาบาล จะอุ้มฉันใส่รถเข็น และเข็นฉันออกมาจากห้องนั้น
"คุณหนูคะ...คุณหนู!! " พี่พานตะโกนเรียกฉัน
"..........คะ" ฉันมองหน้าพี่พานแล้ว ตอบกลับไปแบบช้าๆ
"เดี๋ยวพี่จะพาคุณหนูไปทานข้าว ก่อนนะคะ"
............. ฉันไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้า เเละนั่งเงียบไป
ฉันนั่งรถเข็นและเหม่อมองพื้นอยู่นาน จนกระทั่ง.......
"ซาน ซานหรอลูก" เสียงผู้หญิงดังขึ้นแว่วๆ
ฉันดีใจมาก นั่นอาจจะเป็นเสียงแม่ก็ได้ ฉันหันไปตามเสียงที่เรียก!!....
"ซานจริงๆ ด้วย" เสียงของคุณย่าที่เรียกฉันอย่างประหม่า
"ซานเป็นอะไรมั้ยลูก เจ็บตรงไหนมั้ย" คุณย่าถามฉันด้วยความเป็นห่วง
"ไม่...ใช่..คุณแม่" ฉันนั่งน้ำตาตกอีกครั้ง หลังจากที่รู้ว่าเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงของคุณแม่
คุณย่าที่เห็นฉันกำลังร้องไห้ ก็ไม่พูดอะไรต่อ คุณย่าได้แต่นั่งลงและกอดปลอบใจฉันว่า
"แม่ของหนู เขาไปอยู่ที่ สวรรค์แล้วนะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"
คุณย่าปลอบใจฉันทั้งน้ำตา
สักพัก ก็มีเหล่านักข่าวพากันวิ่งกรูเข้ามาทางนี้ เพื่อจะขอสัมภาษณ์ แต่คุณย่าสั่งให้ บอดี้การ์ด กันเอาไว้
ก่อนจะพาฉันขึ้นรถไปส่งที่บ้าน
...16:20น....
"ซานลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ย่าจะมารับหนูเพื่อไปงานศพของแม่หนูนะ อย่าลืมกินยาและนอนให้พอด้วยล่ะ" ย่าพูดก่อนลูบหัวฉัน
........
ฉันไม่ได้ตอบอะไรและนั่งเงียบอยู่ตลอด
ตอนนี้ ในสมองของฉัน มีคำถามมากมายไปหมด
ฉันจะทำยังไงต่อ?
คุณแม่ตายแล้วจริงๆหรอ?
นี่เป็นความฝันใช่มั้ย?
แต่คำถามที่ฉันต้องการคำตอบที่สุด.......
"คุณพ่อ ..ไปไหน?" นั่นเป็นคำถามที่ฉันต้องการคำตอบที่สุด
ฉันพูดออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว คุณย่าได้
แต่มองหน้าฉัน และถามกับพี่พาน
"เบน ยังไม่กลับมาอีกหรอ พาน"
"ใช่ค่ะ คุณหญิง"
"เฮ้อ...ไม่ต้องไปห่วงพ่อเขาหรอกนะลูก ตอนนี้หนูควรห่วงตัวเองก่อนนะคะ"
ฉันอยากจะบอกคุณย่าออกไปว่า ฉันไม่ได้ห่วง แต่ฉันอยากจะรู้มากกว่า ว่าทำไม! ทำไมกัน! ทำไมคุณพ่อ ถึงหายไปทั้งๆที่ ทั้งคุณแม่และฉัน ต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย!!
ฉันโกรธมาก จนต้องนั่งกำหมัดของตัวเองไว้
"งั้น ย่ากลับก่อนนะคะ" ย่าบอกกับฉัน
"...ค่ะ คุณย่า"
รถของคุณย่า ถูกขับออกไป.....และฉันก็ถูกเข็นรถเข็นเข้ามาภายในบ้าน
ไม่ว่าจะเข็นไปตรงไหน ภาพในหัวของฉัน ที่ยังมีคุณแม่อยู่ มันจะหวนนึกขึ้นมาเสมอเลย
" อึก.....ปวด..หัวจัง...อึก " จนฉันปวดหัวอย่างรุนแรง
พี่พานจึงให้ฉันนั่งพักสักครู่ ก่อนจะพามานั่งกินข้าว....
ฉันกินข้าวทั้งน้ำตา
อาบน้ำทั้งน้ำตา
และนอนทั้งน้ำตา
ฉันทุกข์ใจขนาดนี้ แต่คุณพ่อ! หายไปไหนก็ไม่มีใครรู้เลย
ฉันถูกเข็นมานอนที่บนเตียง.......
ฉันหลับตาลง พร้อมพูดกับตัวเองว่า..........
"ขอให้....มันเป็นฝันซะเถอะนะ"
...จบ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments