ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม
ตรอกซอกซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตามปกติแล้วเป็นสถานที่ไร้ซึ่งผู้คน แต่ในเวลานี้กลับกลายเป็นสนามรบ โดยมีผู้ชายร่างกำยำจำนวนห้าคน ในมือถือปืนพก CZ75 กำลังวิ่งไล่ยิงชายคนหนึ่งอยู่
“เฮ้ย! มันหายไปไหนแล้ว”
“น่าจะยังอยู่แถวนี้ โดนยิงแบบนั้นคงหนีไปได้ไม่ไกล”
เนื่องจากปัญหาทางธุรกิจ วายุที่กำลังถูกตามล่าเขารู้ตัวดีว่าวันหนึ่งอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาเล่นงานทีเผลอแบบนี้
ก่อนหน้านี้ในขณะที่วายุกำลังเดินทางไปทำงานอย่างทุกวัน อยู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งตรงมาตัดหน้ารถเขา ทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง เพียงแค่เขาเปิดประตูลงมาจากรถเพื่อดูเหตุการณ์ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับชักปืนออกมายิงใส่เขาทันที
โชคดีที่วายุมีทักษะการเอาตัวรอดอยู่ ทำให้กระสุนเฉี่ยวไปที่แขนของเขาเพียงนิดเดียว แต่เพราะมันฉุกละหุกเกินไป ทำให้เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือกับปืนในช่องเก็บของหน้าคอนโซลรถไม่ทัน เหตุการณ์นี้เขาเลยเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก จึงทำได้เพียงแค่หนีอีกฝ่ายเท่านั้น
เพราะทำได้แค่หนีก็เลยถูกคนกลุ่มนั้นยิงเฉี่ยวเข้าที่บริเวณแขนและหน้าท้องอีกครั้ง ทำให้วายุที่เสียเลือดมากเกินไปจนตอนนี้เริ่มจะไม่มีแรงที่จะวิ่งหนีต่อไปแล้ว
นี่เขาจะต้องมาตายในที่แบบนี้โดยที่ไม่มีใครรู้จริงๆ เหรอ…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งกำลังเดินไปโรงเรียนอย่างทุกที ถึงแม้ว่าที่บ้านของยี่หวาจะใหญ่มาก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์เลยด้วยซ้ำ แถมเธอยังเป็นลูกสาวของเจ้าของบ้านอีก
แต่เพราะยี่หวามักจะถูกทุกคนในบ้านตราหน้าว่า ‘เธอเป็นลูกชู้’ ทำให้คนในบ้านต่างก็มองเธอเป็นแค่คนใช้ ทั้งที่เธอกับน้องสาวอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ที่บ้านกลับให้เธอเดินไปเรียนเอง ส่วนน้องสาวเธอมีคนขับรถไปส่ง
ซึ่งเธอก็ชินแล้ว…
“โอ๊ย! ขอโทษค่ะ” ยี่หวารีบขอโทษผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งมาชนจนเธอล้ม พอเธอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นเลือดบริเวณท้องกับแขนของเขาก็ร้องออกมาเบาๆ เหมือนกับว่าอยู่ๆ เสียงของเธอก็ขาดหายไป “อ๊ะ…เลือด…”
แถมสีหน้าของผู้ชายคนนี้ก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆ ตามใบหน้ามีเหงื่อผุดออกมาเยอะมาก บวกกับท่าทางลุกลี้ลุกลนและหวาดกลัว สายตาพยายามเหลือบมองด้านหลังเป็นพักๆ ทำให้ยี่หวารับรู้โดยสัญชาตญาณ ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้ต้องกำลังถูกคนตามทำร้ายอยู่แน่ๆ จึงรีบลุกขึ้น และเอื้อมมือไปคว้ามือของชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยเบาๆ ว่า “พี่ตามหนูมาแล้วจะปลอดภัย”
วายุไม่มีแรงที่จะพูดอะไรแล้ว ได้แต่ยอมให้หญิงสาวจูงมือเขาเดินตามเธอไป ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเธอจะพาเขาไปที่ไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมเชื่อเด็กผู้หญิงตรงหน้านี้ด้วย
ส่วนหญิงสาวจากที่ตอนแรกเดินจูงมือให้ชายหนุ่มเดินตาม แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าต้องประคองชายหนุ่มที่ตัวใหญ่กว่าเธอมากแทน
“ให้หนูโทรเรียกตำรวจหรือรถพยาบาลไหม” ยี่หวาถามขึ้นเพราะเธอเห็นว่าอาการของผู้ชายคนนี้ใกล้จะไม่ไหวแล้ว
“ไม่” วายุตอบด้วยเสียงอ่อนแรง แต่แฝงไปด้วยความดุดัน
ถึงแม้ยี่หวาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอก็พยักหน้าทีหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “งั้นพี่อดทนหน่อยนะ ใกล้ถึงแล้ว ทางเดินอาจจะลำบากหน่อย”
หญิงสาวหวังแค่ว่าเขาจะไม่หมดสติไปเสียก่อน เพราะถ้าเขาหมดสติไปจริงๆ เธอไม่สามารถแบกเขาได้หรอก อีกอย่างก็ไม่มีใครที่เธอจะสามารถเรียกให้มาช่วยได้ ไม่กี่นาทีต่อมายี่หวาก็สามารถประคองชายหนุ่มมาถึงฐานลับของเธอได้ เธอรีบให้เขานอนบนเตียงที่ค่อนข้างแข็งก่อนจะหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นออกมาเพื่อดูอาการ
“หนูขอถอดเสื้อพี่นะ จะดูแผลให้”
ถึงแม้ว่าเสื้อตรงบริเวณแผลของเขาจะขาดอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะฉีกเสื้อของผู้ชายคนนี้ และเขาก็ดันใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวแถมยังเอาเสื้อใส่ไว้ในกางเกงอีก ทำให้เธอดูแผลของเขาไม่ถนัด
วายุไม่ตอบอะไร แต่ในสายตาของเขาบ่งบอกว่าอนุญาต ยี่หวาเลยเอื้อมมือไปดึงปลายเสื้อเชิ้ตออกจากกางเกง แล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างเบามือ จากนั้นพยุงให้เขาลุกขึ้นนั่งเพื่อให้เขาถอดเสื้อออกมา
เมื่อถอดเสื้อเสร็จยี่หวาก็ค่อยๆ พยุงให้ชายหนุ่มนอนเหมือนเดิมก่อนจะเริ่มทำการดูแผลอีกครั้ง โชคดีที่แผลของผู้ชายคนนี้ไม่มีลูกกระสุนฝังไว้ เลยไม่ต้องโทรเรียกรถพยาบาลก็ได้ เพราะถ้ามีลูกกระสุนอยู่จริงๆ เธอคงไม่กล้าทำแผลให้เขาต่อ และอาจจะต้องฝืนความต้องการของเขาโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับไปแล้ว
วายุมองหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังตั้งใจทำแผลให้เขาอยู่ด้วยสายตาที่พร่ามัวได้สักพัก จากนั้นเขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments