บ้านพักสยองขวัญ
แจนสาวสวยวัยทำงาน อายุ 30 ปี เป็นพนักงานเซลล์ขายของบริษัทฯแห่งหนึ่ง งานของเธอนั้นต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ในการเดินทางแต่ละครั้งเธอต้องอยู่พักต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายวัน ที่พักแต่ละที่นั้นมีทั้งดีและไม่ดีแตกต่างกันไป แต่มีที่พักที่หนึ่งทำให้เธอไม่เคยลืมมันไม่ลงจนถึงทุกวันนี้
แจนและเพื่อนร่วมงานได้รับหมอบหมายให้ไปหาลูกค้าใหม่เพิ่ม แถวเขตภาคเหนือตอนล่างเป็นเวลา 3 วัน แจนจึงให้รุ่นน้องในกลุ่มจองที่พักเหมือนเคย แต่รอบนี้ที่พักหาได้ยากมากเพราะเป็นช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว จนมาเจอบ้านพักแห่งหนึ่งห่างจากตัวอำเภอเมืองพอสมควร ตัวบ้านดูจากภายนอกยังใหม่อยู่เลย ส่วนด้านในบ้านชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ แจนและเพื่อนๆจึงตัดสินใจจองพักกันที่นี่ เมื่อแจนกลับมาถึงบ้านเตรียมจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า เพื่อเดินทางในวันถัดไป ตกกลางดึกแจนรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น แจนเห็นภาพของผู้หญิงใส่ชุดขาวมาบอกว่า “อย่าไปเลย อย่าไปเลย” พร้อมกับดึงมือของแจนไม่ให้ขึ้นรถตู้ ทันใดนั้นแจนสะดุ้งตื่น รู้สึกเจ็บปวดตรงข้อมือเหมือนมีคนมาดึงมือไว้จริงๆ แจนครุ่นคิดว่ามันคือความฝันหรือคิดมากไปเอง เพราะปกติแจนไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อน รุ่งเช้าเสียงรถตู้มาจอดรอรับแจนที่หน้าบ้าน ทำให้แจนไม่ทันระวังทำรูปกลุ่มที่เคยถ่ายไว้กับเพื่อนๆหล่นพื้นกระจกแตกกระจาย ด้วยความเร่งรีบแจนจึงตะโกนบอกแม่ “เก็บให้ด้วย เพื่อนมารอรับแล้ว!” แจนรีบวิ่งขึ้นรถตู้ออกเดินทางทันที แจนได้หันมองกลับไปที่บ้าน เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวมายืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน แจนตกใจมาก รู้สึกกังวลใจ รู้สึกไม่ค่อยดีกับการเดินทางครั้งนี้สักเท่าไร เหมือนมีลางบอกเหตุอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้สนใจพยายามคิดจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับบ้าน ..
ขณะเดินทางไปยังต่างจังหวัดแจนได้ชวนเพื่อนๆไปทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางและการทำงานในครั้งนี้ แจนเลือกไปทำบุญที่วัดหนึ่งย่านฝั่งปทุมธานี ซึ่งเป็นวัดทางผ่านที่จะต้องเดินทางพอดี แจนเตรียมสังฆทานและดอกไม้ไปถวายพระ ก่อนเดินออกจากวัด พระท่านได้ทักว่า “เดินทางปลอดภัย พวกเอ็งคงกลับมาไม่ครบทุกคนนะ แล้วแต่บุญวาสนา แล้วแต่กรรมของแต่ละคน” พวกเธอหันหน้ามองกัน พี่คนในกลุ่มเลยถามว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ? หลวงพ่อ?” หลวงพ่อได้แต่ทำหน้านิ่งแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ ในเวลานั้นพวกเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ยังหยอกล้อคนในกลุ่มว่า สงสัยพี่ในกลุ่มจะได้งานใหม่เงินดีกว่าเดิมอยู่แถวนั้นแน่เลย คงไม่ได้กลับมาทำงานด้วยกันแล้ว พวกเธอพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ฟ้าเริ่มมืดลงทุกทีพวกเธอเดินทางใกล้ถึงตัวจังหวัด รถก็ค่อย ๆ หยุดลง ด้านหน้าได้เกิดอุบัติเหตุ รถติดยาวและรถของพวกเธอก็ได้ขับผ่านอย่างช้าๆ ทุกคนภายในรถต่างพากันหลับกันหมดยกเว้นแจนที่กำลังก้มเล่นโทรศัพท์ แจนเงยหน้ามองออกไปที่หน้าต่างของรถทำให้เธอเห็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นรถเก๋งกับรถมอเตอร์ไซค์ชนกัน คนขับรถมอเตอร์ไซค์โดนรถที่ขับตามมาเหยียบซ้ำ เหยียบเข้าไปที่ศีรษะทำให้สมองไหลออกมากองอยู่บนถนนมันเป็นภาพที่สยดสยองมาก จากนั้นแจนได้มองไปด้านข้างเพื่อที่ต้องการสลัดภาพที่เห็นออกจากหัว แต่แล้วเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กำลังมองมาที่อุบัติเหตุ คนที่มองมานั้นมีหน้าตาเหมือนกับคนขับมอเตอร์ไซค์มาก ทำให้แจนตกใจและไม่กล้าบอกใคร ได้แต่ข่มตาให้หลับลง
ผ่านไปไม่นานรถก็ถึงจุดทางเข้าที่พักของพวกเธอ ระหว่างสองข้างทางมืดจนไม่สามารถมองเห็นข้างนอกได้เลย มีเพียงแต่ไฟหน้ารถที่ยังพอส่องแสงให้เห็นถนนด้านหน้าอยู่บ้าง ที่หน้าตะใจไปกว่านั้นแถวละแวกนี้ไม่มีบ้านคนอยู่แม้แต่หลังเดียว บ้านที่พวกเธอจองไว้อยู่ในซอยค่อนข้างเปลี่ยว ซึ่งแจนและเพื่อนๆไม่รู้มาก่อนเลยว่าบ้านที่จองไว้นั้นจะอยู่ห่างไกลจากผู้คนขนาดนี้ พวกเธอมาตามแผนที่ ที่ระบุตำแหน่งบ้านพักหลังนี้ไว้ แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ เพื่อนๆภายในกลุ่มเริ่มกังวลพวกเธอขับวนไปวนมาประมาณ 2รอบ จนในที่สุดก็ขับผ่านมาเจอบ้านพักของพวกเธออยู่ในซอยด้านซ้ายมือ ทุกคนต่างสงสัยเพราะเมื่อกี้พวกเธอได้ขับผ่านมาทางนี้แล้ว ทำไมหาไม่เจอ! เพื่อนในกลุ่มเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีหนักเหมือนอยากจะร้องไห้ แจนได้ปลอบใจเพื่อนๆไปว่า “ทางมันมืด พวกเราคงไม่มองไม่เห็นทางเข้าเอง ไม่มีอะไรหรอก”
ในที่สุดรถตู้ก็ได้มาจอดหน้าบ้านพัก พวกเธอก็พากันยกของลงจากรถ แล้วนำไปเก็บไว้ในบ้าน ในระหว่างที่เดินเข้าบ้านแจนสังเกตได้ว่าบ้านมีทั้งหมด 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนจะอยู่ชั้นบนทั้ง 3 ห้อง แต่สามารถใช้ได้แค่ 2 ห้อง อีกห้องเจ้าของบ้านได้ทำเป็นห้องเก็บของและห้องนี้ก็ถูกล็อกกุญแจไว้เป็นที่เรียบร้อย แจนกับมี่เลือกห้องนอนติดกับห้องที่ล็อกกุญแจไว้ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องของเพชรกับพลอย ส่วนพวกผู้ชายนอนกันชั้นล่าง พวกเธอต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าไปทำงานในตัวเมือง..
กลางดึกคืนนั้นแจนได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินคนเดินอยู่ที่ห้องข้าง ๆ ลากสิ่งของไปมา แจนคิดว่าคงโดนหลอกแน่นอน เลยพูดในใจ “พรุ่งนี้ต้องทำงานเช้า ขอมาอาศัยแค่ 2 วันเดี๋ยวก็กลับแล้ว” ผ่านไปสักพักเสียงเดินก็ค่อยๆหายไป ขณะที่นอนเคลิ้มๆอยู่นั้น แจนรู้สึกเจ็บที่หน้าอกเหมือนมีคนเหยียบ เธอพยายามที่จะขยับตัวแต่ก็ขยับไม่ได้ แจนกลั้นใจฝืนลืมตาขึ้น เธอเห็นผู้หญิงตัวดำใส่ชุดสีดำ นั่งยองๆบนหน้าอก แจนตกใจสุดขีดน้ำตาไหลพรากออกมาจากตาทั้งสองข้าง พยายามสวดมนต์ ต่างๆนานๆก็ไม่เป็นผล จนแจนทนไม่ไหวเป็นลมหมดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีได้ยินเสียงเคาะประตู แจนรีบลุกไปเปิดประตูห้องเห็นหน้ามี่ที่นอนกัน แจนรีบเข้าไปสวมกอดมี่ทันที เมื่อแจนเริ่มตั้งสติได้ เธอรีบวิ่งลงมาขั้นล่างมานั่งรวมกลุ่มกันที่กลางห้องนั่งเล่น แจนได้เล่าให้เพื่อนๆฟังเมื่อคืนเธอเจออะไรมา พี่แทน(หัวหน้างาน)ที่นอนข้างล่างก็ได้เล่าว่า เมื่อคืนนอนอยู่ดีๆ ตาได้เหลือบมองไปที่ด้านบนบ้าน เหมือนมีตาคู่หนึ่งมองทะลุผ่านช่องไม้ด้านบนลงที่ชั้นล่างเป็นดวงตาสีแดงกร่ำ จุดที่พี่แทนนอนคือห้องนั่งเล่นซึ่งห้องนั่งเล่นนั้นอยู่ตรงกับห้องด้านบนที่ถูกล็อกไว้ พื้นบ้านบนชั้น 2 จะเป็นพื้นไม้ พี่แทนสามารถมองทะลุช่องไม้ขึ้นไปได้ ทุกคนต่างพากันตกใจ สงสัยว่ามีอะไรอยู่ที่ห้องนั้นหรือป่าว แจนจึงได้ถามเพชรและพลอยว่าเจออะไรไหม แต่ทั้งคู่ไม่เจออะไรแถมหลับสบายอีกต่างหาก
จากนั้นไม่นานลุงขับรถตู้ได้ชูเศษหนังบางอย่างที่เจอข้างบ้าน เศษหนังได้ถูกเขียนเป็นอักขระภาษาเขมร พี่แทนเริ่มรู้สึกไม่ดี จึงให้ลุงขับรถตู้พาไปวัดก็ไปทำงาน เมื่อมาถึงที่วัด พี่แทนได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อทำสีหน้าตกใจ แล้วบอกว่า “รู้ไหมเขาตามมาจากบ้านด้วย นั่งรอพวกเอ็งอยู่ในรถ” ทุกคนพากันเครียดหนัก หลวงพ่อเห็นสีหน้าของแต่ละคนไม่สู้ดีนักจึงได้นำน้ำมนต์ไปพรมทั่วรถ ก่อนกลับได้แจกสายสิญจน์ให้กับทุกคน แล้วบอกว่า “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” ทำให้วันนั้นทุกคนไม่มีกระจิตกระใจทำงานได้อย่างเต็มที่
หลังเลิกงานทุกคนเตรียมตัวกลับที่พัก แต่ลุงขับรถตู้เห็นสีหน้าทุกคนไม่สู้ดีนัก เลยได้แนะนำพ่อหมอที่มีวิชาอาคมอยู่ในจังหวัดนี้ให้กับพวกเธอ เมื่อได้ยินอย่างนั้นทุกคนตกลงที่จะไปหาพ่อหมอทันที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments
New_6639
ชอบเรื่องนี้อยากให้แต่งอีก
2023-07-19
0