ประสบการณ์ที่ไม่เคย "ลืม" โรงแรมแห่งหนึ่ง

ประสบการณ์ที่ไม่เคย "ลืม" โรงแรมแห่งหนึ่ง

ประสบการณ์ที่ไม่เคย "ลืม" โรงแรมแห่งหนึ่ง

กรเด็กมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม. ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม กรจึงได้โทรนัดเพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกันไปเที่ยวต่างจังหวัดทางภาคเหนือ เนื่องจากกรเเละเพื่อนๆไม่ได้เจอกันมานานเเละเป็นการดีที่จะได้ถามสารทุกข์สุกดิบ หลักจากที่ได้ทำการนัดหมายวันเเละเวลาเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนพร้อมใจออกเดินทางไปด้วยกัน โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชม.กว่าจะถึงจุดหมาย

กรเเละเพื่อนๆมาถึงจุดหมายจึงได้เรียกรถแดงเพื่อไปตระเวนหาห้องพักยานในเมือง เพราะกรไม่ค่อยรู้เรื่องรู้เกี่ยวกับวิธีการจองโรงแรมทางออนไลน์มาก่อน เลยตัดสินใจไปหาเอาดาบหน้า แต่เเล้วกรบังเอิญเห็นป้ายโฆษณาโรงแรมแห่งหนึ่งติดอยู่บนรถแดงคันนั้น ดูจากในรูปสวยมาก ราคาก็ไม่แพงประมาณ 500 กว่าบาท จึงตัดสินใจให้พี่คนขับรถแดงพาไปที่โรงแรมแห่งนั้นทันที

หลังจากที่ลงรถบรรยากาศภายนอกรู้สึกเงียบงันอย่างบอกไม่ถูก ข้างโรงแรมติดอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลอีก กรและเพื่อนๆเดินเข้าไปเช็คอินและจ่ายเงิน ห้องที่ได้นั้นคือห้อง 503 ภายในโรงแรมดูสวยสะดุดตา Lobby ถูกรีโนเวทใหม่และมีสีสันที่สดใส พวกเขาได้เดินไปที่ลิฟท์กดไปที่ชั้น 5 เมื่อประตูลิฟท์เปิดก็เจอกับทางเดินโล่งๆพอเดินมาถึงหน้าห้อง 503 กรได้เปิดประตูเข้าไปและตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ผ้าม่านที่มีสีม่วงเก่าๆ! ผ้าเช็ดตัวที่มีสีม่วง!ของใช้ภายในห้องดูสภาพที่ทรุดโทรมไปตามเวลา! ซึ่งรูปในโฆษณาแตกต่างราวฟ้ากับเหว! เเต่อย่างไรก็ตามกรก็ไม่ได้คิดอะไรมากและชวนเพื่อนๆไปนั่งเล่นบริเวณสระว่ายน้ำของโรงแรม

ฟ้าเริ่มมืดทุกคนเริ่มหิว พวกเขาขึ้นไปบนห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังจะออกไปหาอะไรทาน ขณะนั้นกรได้เปิดประตูห้องจะออกไปข้างนอก หางตาของเขาได้มองเห็นเงาดำๆเดินเข้าไปในทางบันไดหนีไฟ กรแปลกในว่าทำไมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดเลยแม้แต่น้อย พวกเขาออกไปหาอะไรทานและเดินเล่นภายในตัวเมืองอย่างสนุกสนาน หลังจากที่กลับมาพวกเขาได้ยืนอยู่ด้านหน้าโรงแรมแล้วรู้สึกขนลุกไปพร้อมกัน เนื่องจากด้านนอกนั้นดูเงียบมาก มีเพียงเเสงที่ส่องออกมาจากตัว Lobby ของโรงแรม ป้ายไฟชื่อโรงแรมก็ติดๆดับๆทำในบรรยากาศดูอึดอัดและวังเวง พวกเขาเข้าไปในโรงแรมก็พบว่าภายในเปิดไฟไว้เเค่ตรงจุดด้านหน้าฟร้อนของโรงแรมเท่านั้น ส่วนบริเวณอื่นๆโดยรอบถูกปิดไฟไว้ทั้งหมด เเต่ยังมีแสงไฟส่องระหว่างทางเดินไปยังลิฟท์ กรได้กดลิฟท์ไปชั้น 5 ทันใดนั้นประตูลิฟท์ที่ถูกเปิด ทำให้พวกเขาได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนก้มหน้าอยู่หน้าประตูห้องสุดทางเดิน

พวกเขารีบเปิดประตูห้องต่างคนต่างรีบวิ่งเข้าห้อง กรได้ถามทุกคนว่า “เห็นเหมือนกันไหม?” ทุกคนพยักหน้าเป็นการตอบรับ ด้วยความสงสัยกรเปิดประตูออกไปดูอีกรอบ เขาค่อยๆแง้มประตูเปิดออกไป เสียงประตูเจ้ากรรมดันดังขึ้น .. แอ๊ด.. แอ๊ด.. แอ๊ด..เขามองออกไปเเต่ไม่เห็นมีใครยื่นอยู่ตรงนั้นเเล้ว กรปิดประตูแล้วเหันมาบอกเพื่อน “คงไม่อะไรหรอก ไปนอนกันดีกว่า” ทุกคนผลัดกันอาบน้ำเสร็จ ปิดไฟแล้วได้มานั่งดูโทรทัศน์ต่อจนทุกคนเผลอหลับไปตั้งเเต่เมื่อไรก็ไม่รู้

    กรสะดุ้งตื่นกลางดึกมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงเหมือนคนเดินมาจากลิฟท์เป็นเสียงคนใส่รองเท้าส้นสูง เสียงที่ได้ยินนั้นมันชัดมาก ชันเหมือนมันเดินอยู่ภายในห้องแสงไฟจากโถงทางเดินได้ลอดผ่านช่องประตูทำให้เห็นเงาดำๆที่กำลังผ่านหน้าห้อง

เสียงนั้นเดินผ่านไปและก็เดินกลับมา ทำแบบนี้ประมาณสองรอบ จากนั้นยินเสียงเปิดประตูห้องข้างๆของห้องเขาก็ดังขึ้น เสียงปิดประตูดัง ปัง! ทำให้กรหันหน้าไปถามเพื่อน “ได้ยินเหมือนกันไหม?” ทุกคนมองหน้ากันแล้วนิ่งไป เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือตอนนี้เป็นเวลาตี 3 กว่า สักพักพวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะผนัง.....ตึก....ตึก....ตึก....ตึก...เเล้วก็มาจบที่หน้าประตูห้องของกรและเพื่อนๆ เสียงเคาะประตูเบาๆ ช้าๆ ดัง....ก๊อก...ก๊อก..ก๊อก...จากนั้นก็ตามด้วยเสียงร้องไห้สะอึนสะอื้น...ฮือ..ฮื..อ..ช่ว...ย...ด้..วย....ย...อันแผ่วเบาไหลมาตามลมคล้ายกับว่ามันอยู่ในห้องนี้  ทุกคนหันมามองหน้ากันด้วยความกลัวกระโดดมานั่งรวมกันที่กลางเตียงของกรโดยไม่ได้นัดหมาย วินาทีนั้นเพื่อนๆบังคับให้กรโทรลงไปที่ฟร้อนด้านล่าง เเต่ไม่มีใครรับสายพวกเขาเลย จู่ๆเสียงก๊อกน้ำในห้องน้ำก็ดังขึ้นราวกับว่ามีคนเปิดมัน ....ซ่า....เเล้วก็หยุดไป กรจึงไล่เพื่อนให้ไปดูเเต่ไม่มีใครกล้าไปดูแม้เเต่คนเดียว กรจึงตัดสินใจกล้าๆกลัวๆเดินไปเปิดไฟในห้องและห้องน้ำชะโงกหน้าเข้าไปดู ปรากฎว่าอ่างน้ำไม่เปียกน้ำแม้เเต่น้อยพื้นห้องน้ำแห้งสนิทกรกระโดดเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆอีกรอบทุกคนได้แต่ภาวนาสวดมนต์ไปพร้อมกันจนถึงรุ่งสาง เมื่อทุกคนมองเห็นแสงพระอาทิตย์ที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านทางหน้าต่างต่างคนต่างรีบเก็บของจะลงไปเช็คเอาท์ทันที ทันทีที่กรเปิดประตูออกไปได้พบกับแม่บ้าน กรเลยแอบถามแม่บ้านไป “ห้องนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ?” แม่บ้านได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรีบเดินจากไปส่ายหัวไป

ทำให้กรได้คำตอบทันทีว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ  กรเดินลงไปเช็คเอาท์แล้วเดินออกมายืนหน้าโรงแรมบอกกันเพื่อนๆ “ไม่เอาอีกแล้วนะ โรงแรมนี้”

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!