[อาทิตย์ต่อมา] [อิง]
"อ้วกกกๆ อ้อกกแหวะ" นี่ผมเป็นอะไรเนี่ย คิดว่าจะหายแล้วแท้ๆ ทำไมยังคลื่นไส้เวียนอยู่ จากตอนแรกวิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องน้ำกลายเป็นว่าตอนนี้ผมคลานไปอ้วกในห้องน้ำแล้วครับ "อ้อกก อือๆกูเป็นอะไรเนี่ย แหวะอ้วกก อือๆๆ" ผมยกมือปาดน้ำตาทั้งสองข้างแล้วก็พยายามยันตัวขึ้นไปล้างหน้าล้างปาก ล้างเสร็จก็เดินขึ้นที่นอนหลับตาลงยังไม่ทันสนิทครับ
กริ๊งงง~ กริ๊ง
เสียงกริ๊งหน้าห้องดัง โอ๊ยยยใครมาว่ะผมไม่อยากลุกไปไหนเลยจริงๆเคลื่อนไหนแต่ละทีนี่โลกหมุนเลย ผมกำลังลุกขึ้นแต่เหนือนคนข้างนอกจะรู้รหัสห้องผม มันเปิดประตูได้ก็วิ่งวุ่นอยู่นอนห้องนอนตะโกนเสียงดัง
"อิงๆ อิงฟ้า"เป็นเสียงไอ้ซันครับ
"กูอยู่ในห้องง" ผมตะโกนออกไปแต่ก็ไม่ได้ดังสักเท่าไหร่ เหนื่อยครับเหนื่อยจริงๆ แล้วไอ้ซันก็วิ่งพรวดพลาดเข้ามา
"เห้ยมึงเป็นอะไรว่ะกูโทรก็ไม่รับ กูจะรับไปมหาลัยด้วยแต่โทรมึงไม่รับกูเลยเป็นห่วงมึง รีบขับรถมาหา มึงเลย ดีนะที่กูจำรหัสห้องมึงได้ และนั้นมึงเป็นอะไรหน้าซีดๆไปหาหมอไหม" ซันมันลนลานกำลังจะช้อนตัวอุ้มผมขึ้น
"มึงใจเย็นๆซัน กูแค่เครียดลงกระเพาะเฉยๆ ที่กูไม่รับแบตหมดตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้ชาร์จเลย อือ ขอโทษที่ทำให้เป็น อึก ห่วงนะ อือๆ" ผมพูดทั้งน้ำตาเห็นมันลนลานเป็นห่วงผมแบบนี้ ผมทั้งดีใจที่มันเป็นห่วงและก็เสียใจในเวลาเดียวกันที่มันเป็นห่วงผมขนาดต้องมาที่ห้องผมแบบนี้
"ไม่ร้องๆๆนะ โอ๋ๆ หิวไหมเดี๋ยวกูไปทำข้าวต้ให้" ซันมันเข้ามากอดปลอบผม ผมได้แต่ซุกอกมันกอดมันแน่นสะอึกสะอื้นไปด้วย ผมอยากอยู่แบบนี้นานๆจัง กลิ่นตัวมันทำให้ผมรู้สึกสดชื่น
"อึก กูขออยู่แบบนี้อีกสักแปปได้ไหม มันทำให้กูรู้สึกดีขึ้น"
"ได้สิ กอดกูทั้งอุ่นตัวกูทั้งหอม ใครๆก็ชอบ" ผมชะงักใช่กอดมันอุ่นตัวมันหอม แต่ผมต้องผละตัวออกจากมัน ตรงประโยคหลังมันทำให้ภาพเนยคู่หมั้นของมันเข้ามาในหัว ไม่ๆผมต้องห้ามใจตัวเอง ผมมั่นใจ70% แล้วว่าผมชอบมันจริงๆ ถึงจะเริ่มรู้ใจตัวเองแต่ก็ต้องเหยียบความรู้สึกตัวเองไว้ มันคือเพื่อนผม และที่สำคัญมันมีคู่หมั้นแล้ว ซันมันมองผมอย่าง งงๆ
"ไหนบอกอยากอยู่แบบนี้สักพักไง มาๆกูกอดๆ" ซันมันพยายามเข้ามากอดผมเลยเบี่ยงตัวหลบ
"กูหิวว่ะ มึงไปทำข้าวต้มมาดิไปๆกูหิว" ผมดันมันออกไป มันก็ลุกไปแต่โดยดี
รอไม่นานมันก็ถือถาดข้าวต้มเดินเข้ามา ในถาดมีข้าวต้ม มียา มีน้ำเปล่า และยังมีองุ่นหื้มม
"มึงนี่เป็นพ่อบ้านที่ดีจริงๆ ฮ่าๆๆ"ผมแซวมัน
"งั้นมาให้พ่อบ้านดูแลซะดีๆ กูเอาองุ่นมาด้วยกลัวแม่หมูของกูไม่อิ่ม" มันพูดพร้อมยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาเอาช้อนค้นๆเป่าๆ
"ใครแม่หมูของมึงห่ะ" ผมไม่ได้อ้วนสักหน่อยเรียกแบบนี้ได้ไงมีเคืองนะบอกเลย ผมหันหน้าหนีมัน
"อย่างอนกูนะ หันมากินข้าวต้มฝีมือกูเร็วครั้งนี้กูมั่นใจว่าอร่อยกว่าครั้งก่อนแน่ๆ มาม่ะๆ" เหอะคิดว่าแค่นี้จะทำผมให้ผมหายเคืองที่มันเรียกผมว่าแม่หมูได้หรอฝันไปเถอะ
.
.
"หื้มม กูอิ่มแล้ว" ที่บอกว่าฝันไปเถอะคือตัวผมเลยครับ แฮร่ๆก็กลิ่นมันหอมยั่วผมนี่น่า
"ก็ควรอิ่มไหมอิง กูตักข้าวต้มมาไม่ใช่น้อยๆนะแล้วก็มีองุ่นอีก แดกเกลี้ยงเลย" มันมองมาที่พุงผมแล้วเอามือมาจิ้ม "ดูดิพุงป่องเลยแม่หมู" มันพูดเสร็จก็เก็บจานชามไปล้าง ชิ! ผมไม่สนใจที่มันเรียกผมแล้ว ก็อิ่มท้องแล้วอ่ะเนอะฮ่าๆๆ หาวว~ ตามสเต็ปครับกินอิ่แล้วก็ง่วงผมเอนตัวลงนอน แต่ก็โดนคัดทันที
"อะไรๆไปอาบน้ำ ลุกเลยมีเรียนตอน8โมง" นิดเดียวก็ไม่ได้ มันเดินมาดึงผมขึ้น ผมอิดออดลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็เดินพันผ้าที่เอวเดินออกมาก
"ซันมันว่ากูอ้วนขึ้นมากป่ะว่ะ" ที่ผมถามมันแบบนี้เพราะผมไปยืนมองตัวเองในห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง
"เออดิ ไม่เห็นแปลกกินเยอะก็ต้องอ้วนขึ้นเป็นธรรมดา ไหนขอจับพุงมึงหน่อยดิ" ผมยังไม่ทันอนุญาตมันเลยมันก็เดินมาซ้อนด้านหลังแล้วยื่นมือลูบท้องผม มันลูบเบาๆโครตอ่อนโยนเลย ผมเคลิ้มที่มันลูบไปสักพักก็สะดุ้งได้สติ เพราะมือปลาหมึกของมันกำลังเลื่อนขึ้นมาข้างบน ผมต้องจับมือมันไว้
"พอๆกูจะไปแต่งตัว" ผมเดินหนีมัน มันเองก็ไปนั่งรอที่เตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ผมแต่งตัวเสร็จเราก็ออกจากคอนโดขับรถไปมหาลัยกัน ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติเป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วเป็นสัปดาห์ที่อาจารย์เริ่มทยอยปิดคอร์สกันแล้ว
"ตื่นอิง อิงมึงจะมานอนทุกคาบไม่ได้นะ" ซันมันเขย่าผมเบาๆ ผมถึงตื่น
"อื้ออ~ ก็กูง่วงอ่าขออีกห้านาทีนะๆ" ผมมองมันอย่างอ้อนๆ
"เออๆ นอนได้นอนดีจริงๆมึง" มันก็หันหน้าไปฟังอาจารย์ต่อส่วนผมก็หลับต่อสิครับ
.
.
[โรงอาหาร]
"เห้ยอิง มึงแดกหมดหรอว่ะซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้" ไอ้ต้าถามผม ผมมองของที่วางบนโต๊ะก็ไม่ได้เยอะอะไรจะอิ่มรึป่าวก็ไม่รู้
"เว่อร์ๆ จะอิ่มรึป่าวก็ไม่รู้"
"ห้ะ/เยอะไป/ ห้ะแดกเยอะเกิน" สามเสียงประสานกันของไอ้ทิวต้าหนิง ผมไม่สนใจนั่งลงหยิบนู้นหยิบนี่กิน
"ปล่อยมันกินไปเถอะ เป็นแม่หมูก็ต้องกินเยอะๆถ้าไม่อิ่มเดี๋ยวกูไปซื้อมาให้" ไอ้ซันมันพูดไปกินข้าวไป
"ดีมากก กูอยากกินองุ่นพอดีมึงกินเสร็จไปซื้อมาให้หน่อยดิ" ผมบอกมัน
"เออๆ"
"ให้ท้ายกันจริงๆมึง เดี๋ยวมันก็อ้วนเป็นหมูจริงๆหรอก"ไอ้หนิงพูด
"อะไรหนิงแค่นี้มันไม่อ้วนหรอดูแก้มมันดิ แขนขามันเนื้อหนังเพิ่มเยอะมาก"ไอ้ทิวมันว่า
"จริงว่ะ พวกมึงดูดิๆๆ" ไอ้ต้ามันเอานิ้วมาจิ้มแก้มที่เคี้ยวข้าวอยู่ เบี่ยงหลบไอ้บ้าคนกินข้าวอยู่
"อะไรของพวกมึงเนี่ยกูแดกข้าวอยู่"
.
.
.
[14:50]
"กูไปก่อนนะต้องไปทำธุระ"ซันมันหันมาบอกพวกผมก่อนเดินออกไป
"กูก็เหมือนกันนัดน้องมิ้วไว้ว่ะ" ไอ้ต้ามันพูดเสร็จก็รีบเดินออกไป
"แล้วมึงละอิงกลับคอรโดเลยป่ะ"ไอ้ทิวถาม
"ว่าจะแวะตลาดไปซื้อของกินก่อนกลับน่ะ"
"เออกูไปด้วยดิ กูอยากกินผัดไทพอดี"หนิงมันว่า
"งั้นไปกันเถอะ" ผมกำลังก้าวเท้าเดิน จู่ๆรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาเฉยเลยเลยเซเกือบล้มดีมีไอ้ทิวคว้าตัวผมทัน
"มันเป็นอะไรว่ะ" ไอ้ทิวถาม
"ป่าวๆกูไหว" ผมผละตัวออกจากมัน
"มึงยังไม่หายอีกหรอ หน้าเริ่มซีดอีกแล้วเนี่ย" ผมกำลังจะตอบพวกแต่ทุกอย่างก็ดับวูบไป
[หนิง]
"ว๊าย" ดีไอ้ทิวมันคว้าตัวไอ้อิงทันไม่งั้นหันฟาดพื้นแน่ๆ
"เอาไงดีว่ะ" ไอ้ทิวหันมาถามเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก
"มึงจะรออะไรล่ะ พามันไปโรงพยาบาลเลย"
"เอออๆ" แล้วไอ้ทิวก็อุ้มอิงไป มึงอย่าเป็นอะไรน่ะเว้ยย
.
.
[โรงพยาบาล]
ตอนนี้พวกเรานั่งรอฟังผลตรวจอาการของไอ้อิงมัน เรานี่นั่งไม่ติดเก้าอี้เลยจริงๆ อาการมันแย่มาหลายวันมากแล้วคิดว่าจะหายซะอีกแต่ยังเป็นอยู่ตัดสินใจพามาหาหมอดีกว่า รอนานพอสมควรหมอก็เดินออก
"คุณหมอคะ เพื่อนหนูเป็นไงบ้างคะ"
"เพื่อนผมเป็นอะไรร้ายแรงรึป่าวครับ มันเป็นมาหลายวันมากยังไม่หายเลย" ไอ้ทิวถาม
"เอ่อ หมอว่าคุณสองคนตามหมอมาทางนี้ดีกว่าครับ" แล้วก็เดินนำไปห้องๆหนึ่ง ซึ่งในนั้นมีคุณหมอที่คุ้นหน้าเรามากอยู่
"สวัสดีค่ะพี่ปาล์ม" เรายกมือไว้พี่เขา
"มึงรู้จักคุณหมอเขาด้วยหรอ"ไอ้ทิวหันมาถาม
"ใช่ เขาเป็นพี่สาวของแฟนกูอ่ะแล้วยังเป็นหมอสูติที่เก่งมากด้วยนะ" ทิวมันพยัคหน้ารับยกมือไหว้ตาม
"เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า หมอปาล์มจะเป็นคนอะไรอธิบายให้พวกเราฟังเอง" เรานั่งขมวดคิ้ว
"เอ่ออ พี่ปาล์มเป็นหมอสูติไม่ใช่หรอคะ"
"ก็ใช่น่ะสิ" พี่หมอตอบ
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเพื่อนผมครับ เพื่อนผมไม่ได้ท้องสักหน่อย" ที่ไอ้ทิวถามเราเองก็พยัคหน้าเห็นด้วย
"เกี่ยวเต็มๆเลยแหละ ดูนี่ซะ" พี่หมอน้ำภาพผลอัตตาซาวด์มาให้ดูแล้วชี้ไปที่ช่วงท้องน้อยน่าจะเป็นของอิง ก็ต้องใช่สิเนอะ เรามองตามที่พี่ปาล์มชี้คือมันเหมือนมีก้อนๆอะไรสักอย่าง เราขมวดคิ้วงงอยู่นั้นไอ้ทิวก็ถามขึ้นมาทันที
"ห้ะเพื่อนผมเป็นโรคร้ายแรงเลยหรอครับ" ทิวพูดเสร็จเราก็ตกใจตาม ก่อนที่อย่างจะวุ่นวายหมอเลยขัดขึ้นมาก่อน
"ใจเย็นๆ ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรหรอก แค่เป็นผู้ชายหนึ่งในล้านที่จะเป็นได้" พี่หมอพูดไม่ทันจะเราก็แทรกขึ้นด้วยความสงสัย
"นี่หรอไม่ร้ายแรงพี่ หนึ่งในล้านเลยนะ"เราถาม
"ฟังพี่ก่อนสิ ไม่ได้ร้ายแรงจริงๆ เพื่อนเราแค่เป็นผู้ชายที่ท้องได้เอง แล้วก้อนที่พวกเราเห็นนี้ยคือเจ้าตัวเล็กไง"
"อ่อก็แค่ท้อง"
"แค่มันมีลูกนี้เอง"
แล้วทุกอย่างก็เงียบไป "ห้ะ!! มันท้อง"เรากับไอ้ทิวประสานกันด้วยความตกใจ ไอ้อิงท้อง อิงมันท้องได้ ในท้องมันมีเด็กด้วย
"ใช่เพื่อนเราท้อง ท้องได้เดือนหนึ่งแล้ว" เราจะเป็นลมหันไปมองไอ้ทิวมันเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments