ตอนที่ 7

"พวกมึงเย็นนี้ไปกินเหล้ากันไหม" ไอ้ต้ามันถามพวกผมที่นั่งจดเลคเชอร์กันอยู่

"กูมีธุระว่ะต้องไปรับเนยมากินข้าวที่บ้าน" ผมได้แต่นั่งฟังไอ้ซันตอบไอ้ต้านิ่งๆพยายามค่อมอารมณ์ตัวเองไว้ ผมรู้สึกไม่โอเคเอาซะเลย

"กูมีนัดแล้ว" หนิงมันตอบ จะนัดอะไรได้นอกจากน้องปลาของมัน

"กูขี้เกียจว่ะมึงไปเถอะ"ไอ้ทิวตอบ

"กูรู้สึกไม่โอเคว่ะอยากนอนพัก" ไอ้ซันมันได้ยินผมพูดก็หันหน้ามารวมทั้งพวกที่เหลือก็หันมามอง ไอ้ซันยกมือขึ้นมาอังหน้าผากผมแต่ผมปัดออกเบาๆ

"มึงไม่สบายหรอ ไหวไหม" มันถามผมสีหน้าเป็นห่วง

"ไหวๆ สงสัยช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะยิ่งเข้าช่วงสอบด้วยเลยเป็นงี้แหละ"

"ถ้าไม่ไหว มึงบอกนะกูเลยนะเดี๋ยวกูพาไปหาหมอ" น้ำเสียงกังวนของมัน ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมัน

"ช่างกูเถอะ ไม่อยากรบกวนความสุขเพื่อน" ผมตอบมันด้วยความหงุดหงิดอยู่ๆก็หงุดหงิด เมื่อนึกถึงธุระของมันขึ้นมา ไอ้ซันมันชะงักเล็กน้อยที่ได้ยินผมตอบ

"อ่อ อืม" และทุกอย่างก็เงียบลงระหว่างในกลุ่ม

"เอ่ออ... กูไปแดกคนเดียวก็ได้ฮ่าๆๆ" ไอ้ต้ามันพูดแทรกความเงียบขึ้นมา มันหัวเราะขึ้นพยายามทำให้กลุ่มไม่เงียบ

"นักศึกษากลุ่มนั้นอ่ะ ถ้าไม่เรียนก็ออกไปถ้าเรียนก็เงียบๆหน่อย เพื่อนๆเขาเรียนอยู่" เสียงอาจารย์แม่ดังขึ้น ทำให้พวกผมละทิ้งความคิดทุกอย่างหันไปสนใจอาจารย์แม่สอนต่อ

ถึงเวลาเลิกคลาส พวกมันต่างแยกย้ายกันไปทำธุระของพวกมัน ส่วนผมหิวครับอยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆเลยมุ่งหน้าไปโรงอาหารทันที เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วผมก็มานั่งโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกเรียน หยิบมะม่วงขึ้นมากินคำแรกก็ทำให้รู้สึกชุ่มชื่นแล้วครับ ผมนั่งกินได้ไม่นานก็เห็นไอ้ทิววิ่งหาอะไรสักอย่าง ผมนึกว่ามันกลับบ้านแล้วนะเนี่ยหาอะไรของมันผมได้แต่มองมันมือก็หยิบมะม่วงกินไปด้วย มันหันมาเห็นผมก็วิ่งเข้ามาหาทันที

"แฮร่กๆ มึงอยู่นี่เองกูก็หาไปเถอะ" มันพูดอย่างเหนื่อยๆแล้วนั่งลงอ้าวที่มันวิ่งหาอยู่เนี่ยคือผมหรอกหรอ

"มึงจะหากูทำไม ทำไมไม่กลับบ้านมึง" ผมขมวดคิ้วมองมัน

"ก็เมื่อเช้ามึงมากับกู ตอนกลับมึงจะกลับยังไง"

"แค่นี้เองจิบๆ กูมีเงินนั่งแท็กซี่แปปเดียวก็ถึง" พูดไปปากก็เคี้ยวมะม่วงไป ไอ้ทิวมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนั่งเป็นเพื่อนผมไป หรือนั่งพักเหนื่อยก็ไม่รู้ฮ่าๆๆๆ

"เอออิงกูมีอะไรจะถามมึงว่ะ" ไอ้ทิวมองหน้าผมจริงจังจนผมชะงักมือที่จ่อมะม่วงเข้าปากเลย ตอนนี้เกิดความสงสัยว่ามันจะถามอะไรถึงได้ทำหน้าจริงจังขนาดนี้

"ถามมาดิ"

"มึง เอ่ออ... มึงชอบไอ้ซันใช่ไหมว่ะ" มะม่วงในมือล่วงเลยครับ

"ถามอะไรของมึง กูกับมันเป็นเพื่อนกันนะเว้ย"

"ใช่ว่าเพื่อนจะรักจะชอบกันไม่ได้สักหน่อยนี่หว่า ที่ถามเพราะกูสงสัยมานานตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว เห็นมึงตัวติดกันตลอด โครตแคร์โครตเป็นห่วงกันมากกว่าเพื่อนในกลุ่มแต่กูก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกเพราะมึงเป็นเพื่อนกันมานานเลยสนิทกันพิเศษ จนมาไม่นานนี้หลังจากที่พวกเรารู้ว่ามันมีคู่หมั้นแล้ว มึงดูไม่ค่อยร่าเริงเลยบางทีก็ทำหน้าเศร้าบางก็ดูหงุดหงิดเวลาที่มันพูดถึงคู่หมั้นเหมือนอย่างตอนที่เรียน มึงก็ดันหงุดหงิดใส่มัน แต่กูดูแล้วอาการมึงแม้งเหมือนคนกำลังพูดประชดแฟนน้อยใจแฟนชัดๆ" ผมได้แต่นั่งค้าง คิดตามฟังมันพูดก็จริงอย่างมันพูดอาการผมเป็นแบบนั้นทุกครั้งที่ เวลาไอ้ซันมันพูดถึงคู่หมั้นและผมเองก็ให้เหตุผลกับตัวเองไม่ได้สักทีเพราะอะไรผมถึงเป็นแบบนี้ หรือว่าผมจะแอบรักมันเข้าโดยไม่รู้ตัวจริงๆ

"กูก็ไม่รู้ว่ะ" ผมตอบมันเบาๆ ผมไม่รู้จริงๆ

"มึงลองถามใจตัวเองดีๆว่ารู้สึกยังไง ตัวกูไม่มีปัญหาเลยถ้ามึงจะรักมัน กูเองก็ยินดีด้วยซ้ำเพราะเวลาพวกมึงอยู่ด้วยกัน กูเห็นพวกมึงมีความสุขกันมาก" ทิวมันมองหน้าผมยิ้มๆ

"หรอ อืมกูจะกลับไปคิดทบทวนใจตัวเองดู" ได้เวลาหาคำตอบของทุกความรู้สึกแล้วครับ เพราะผมเองก็ไม่สนุกที่ตัวเองเป็นแบบนี้เช่นกันผมไม่อยากค้างคาใจด้วย

"เออไปกลับคอนโดเถอะ ค่อยไปแดกที่คอนโดเอา"ทิวมันหยิบมะม่วงในมือผมใส่ถุงฉุดผมยืนขึ้นเดินไปที่รถมัน

ทิวมันส่งผมเสร็จก็กลับบ้านมันเลย ผมกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็มานอนเล่นหน้าทีวี

ครืด~~

ผมละความสนใจทีวีหันไปมองโทรศัพท์ว่าใครโทรมา 'ซัน' โทรมาทำไมหรือมันจะโกรธผมที่หงุดหงิดใส่มัน ผมกดรับ

"มึงเป็นไงบ้างอิง แดกข้าวแดกยายังดีขึ้นหรือยัง" ผิดขาดครับ มันไม่มีความโกรธผมเลยมีแต่ความเป็นห่วง อึก จู่ๆผมรู้สึกขอบตาร้อนรื้อไปด้วยน้ำตาผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ แค่เสียงแค่ความเป็นห่วงที่มันมีให้ผม ถึงกับทำให้ผมน้ำตาไหลได้ "อิงๆ มึงเป็นไรรึป่าว" มันเห็นว่าผมไม่ตอบเลยเรียกผมซ้ำ

"กูโอเคขึ้นแล้วไม่ต้องเป็นห่วง" ผมพยายามกั้นเสียงสะอึกไว้

"เฮ้อ โล่งอกไปสักทีกูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว" น้ำเสียงมันดีขึ้นไม่ดูกังวนอะไรแล้ว

"ซันเอ่อ.. กูขอโทษนะที่หงุดหงิดใส่อ่ะ" ผมรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับมันไป

"ไม่เป็นไรหรอก มึงอ่ะไปนอนได้แล้วเดี๋ยวไม่สบายเอา"

"คร้าบบบคุณพ่อ แม้งทำตัวเป็นพ่อกูไปได้" ผมว่าอย่างขำๆ ปนเสียงสะอึกนิดๆ

"ฮ่าๆๆ กูไม่เป็นพ่อมึงหรอก ถ้าเป็นขอเป็นพ่อที่ไม่ใช่พ่อดีกว่า" มันพูดอย่างขำๆ

"กวนตีน กูไม่คุยกับมึงแล้วแค่นี้แหละ" ผมกำลังจะกดว่าไอ้ซันมันก็ตะโกนขึ้นมาก่อน

"เดี๋ยวๆ มึงไปส่องกระจกแปปหนึ่งดิ"

"อะไรของมึง ทำไมก็ต้องไป" ผมถามอย่างงงๆ

"เออ ไปเถอะแปปเดี๋ยว" ผมเดินงงๆไปหน้ากระจก

"อ่ะ กูเดินมาแล้วมีอะไรเร็วๆง่วง"

"ตอนนี้ หน้ามึงแดงอยู่อ่ะกูเห็น" ติ๊ด- และมันก็ตัดสายไป ผมไม่ได้สนใจที่มันตัดสายเลย สนใจแค่หน้าตัวเอง ผมยืนเอามือจับหน้าตัวเอง ไอ้บ้าเอ่ยแดงจริงๆด้วยว่ะมันเห็นได้ไงว่ะผมหันไปรอบๆห้อง พอได้สติก็นึกขึ้นได้ว่ามันชอบแกล้งผมแบบนี้อยู่แล้วเลยหึดหัดทันทีเสียรู้มันจนได้ ผมเดินไปที่เตียงล้มตัวนอน

คิ้วขมวดเข้าหากัน "แล้วทำไมกูถึงหน้าแดงจริงๆตามที่มันพูดว่ะ กูเขินหรอ แล้วทำไมกูต้องเขินที่มันพูดด้วยละ รึกูจะชอบมึงขึ้นมาจริงๆไอ้ซัน" ผมยกมือขึ้นมาขยี้หัวตัวเอง "พอๆๆ นอนๆไอ้อิง" ผมลุกไปปิดไฟขึ้นเตียงแล้วก็เอื้อมมือปิดไฟหัวเตียง

ร่างบางพยายามข่มตาหลับก็ไม่หลับสักทีไม่ว่าจะปรับท่านอนยังไงก็ยังไม่หลับใช้เวลานานพอสมควรกว่าร่างบางจะหลับ แล้วในที่สุดทุกอย่างก็สงบ

.

.

[วันถัดมา]

"อึกอ้วกกก แวะ!" เช้าวันสดใสแต่ที่ไม่สดใสคือผมนี้แหละ ผมต้องลืมตาตื่นก่อนเวลาที่ตัวเองตั้งปลุกเพราะอาการเวียนหัวบวกกับความอยากจะอ้วกเอามากๆ ผมรีบพุ่งเข้าห้องน้ำทันทีเลย ผมเข้าออกห้องน้ำไปอ้วกตั้งสามรอบ!

เห็นว่าตัวเองดีขึ้นนิดหน่อยเลยเดินไปห้องครัวหมายจะหาอะไรกินให้ตัวเองสดชื้นหน่อย เดินเข้าไปได้ก้าวเดียวก็ได้กินเหม็นบูดตีสวนมา อึก อีกแล้วผมยกมือปิดปากตัวเองวิ่งกลับเข้าในห้องนอน นั้นแหละฮ่ะทุกคนคงนึกสภาพผมออก ผมเดินไปตู้ใต้ทีวีที่เก็บกล่องยาไว้ หยิบยาแก้เวียนหัวขึ้นมากินดีที่มีน้ำเปล่าตรงโต๊ะกระจกหน้าทีวีพอดี ผมเหลือบไปเห็นถุงมะม่วงของเมื่อวาน ผมไม่ได้เอาเข้าตู้เย็น หยิบมะม่วงขึ้นมาดูก้มไปดม หื้มไม่เสียๆกินได้อยู่ ไม่ต้องคิดอะไรมากผมกัดไปคำหนึ่งเหมือนได้ยาวิเศษเลยครับ ถึงไม่ได้ทำให้หายเวียนหัวแต่มันก็ทำให้สดชื้นได้ผมนั่งกินจนหมดก็ได้เวลาที่จะต้องอาบน้ำไปมหาลัย ผมเดินเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองเสร็จก็หยิบสัมภาระออกจากคอนโด ขับรถไปมหาลัยทันที

.

.

[มหาลัย]

"ทางนี้ๆ อิงไอ้อิงๆ" ผมหันตามเสียงเรียกของไอ้หนิง เดินไปนั่งที่โต๊ะข้างมัน

"แล้วไอ้ต้ากับไปไอ้ทิวอ่ะ" ผมถามหาเพื่อนอีกสองคน

"อ่อไอ้ต้าโทรมาบอกว่าไม่สบาย ส่วนไปทิวไปหาข้าวกินอยู่" ผมพยักหน้าเข้าใจ

"มึงก้มมองอะไรหนิง" ผมถามไอ้หนิงที่ก้มมองใต้โต๊ะ

"มึงใส่ถุงเท้าคนละสีรึมันเป็นเทรนว่ะ" มันพูดเสร็จ ผมเลยก้มมองถุงเท้าตัวเอง จริงด้วยมันคนละข้าง

"กูสงสัยกูคงเบลอๆอ่ะ เมื่อเช้ากินยามา"

"เป็นอะไรมากป่าวว่ะ"ไอ้ซันถาม

"ถ้ามันไหวมันคงไม่เบลอจนใส่ถุงเท้าคนละข้างหรอก" ไอ้หนิงตอบแทน สีหน้าเป็นห่วงผมหน่อยๆ

"ตอนนี้กูโอเคขึ้นแล้ว ไม่ต้องห่วง" ผมโบกมือพร้อมกับส่ายหน้าบอกไม่เป็นไรจริงๆ

"ไหนมาจับหน้าผากหน่อยดิ" เหมือนไอ้ซันไม่เชื่อเอื้อมมือมาอังหน้าผากผม ผมพยายามเบี่ยงหลบแต่ก็ติดที่ไอ้หนิงจับตัวไว้

"หน้ามึงซีดนะ ไหวป่าว"หนิงมันถามย้ำ ในเวลาเดียวกันที่สองคนมันมั่วยุ่งกับผมไอ้ทิวก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ข้างไอ้ซันพร้อมวางจานข้าวลง

"อึก เหม็น! มึงแดกอะไรเนี้ย" ผมยกมือปิดจมูก ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวไอ้ซันก็เหม็น

"เหม็นมากไอ้เชี่ย เอาไปใกล้ๆ"ไอ้ซันขยับจานไปสุดโต๊ะ

"อะไรของพวกมึง หอมจะตายไป" มันยกจานขึ้นมาดมแล้วชูมาทางผม ผมเอามืออกจากจมูกหมายจะดันจานข้าวมันไป แต่ต้องชะงักลุกขึ้นจากเก้าอี้วิ่งไปข้างอาคารโค้นต้นไม้ใหญ่

"อ้วกก แหวะ อือๆ อ้วก" ผมอ้วกทั้งน้ำตา

"เห้ยๆๆเป็นอะไรมึง" หนิงวิ่งเข้ามาลูบหลังแต่ผมไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่อ้วก

"อ้อกๆ อ้วก"ผมเหลือบตาไปมองไอ้คนข้างที่วิ่งมาอ้วกคือไอ้ซัน มองมันได้ไม่นานผมก็กลับมาอ้วกใหม่

"พวกมึงไหวกันป่ะเนี่ย ไปห้องพยาบาลเถอะกูว่า" ไอ้ทิววิ่งตื่นๆตามมา

"กูดีขึ้นแล้วไปดูอิงมันเถอะ อ้วกจนหน้าซีดหมดแล้ว"

ฮอต

Comments

สละโสดดีกว่าไม่เห็นคู่ชชรักกัน

สละโสดดีกว่าไม่เห็นคู่ชชรักกัน

หื้ม~ ท้องรึป่าววิ

2022-12-15

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!