ฉันกับอาเธอร์รีบมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือตามที่โคลบอกแต่จู่ๆ พวกเราก็ได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนตอนที่ได้ยินเสียงของโคลครั้งแรก
“เจ้ามนุษย์พวกนั้นจะไปไหนกันนะ หรือว่ามุ่งหน้าไปทางเหนือหรอพี่ชาย” น้องเล็กเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
“ห๊าไม่รู้สิ เด็กมนุษย์สองคนเดินในป่าตอนกลางคืนเนี่ย หลงทางกันรึเปล่านะ ทิ้งเด็กไว้แบบนี้น่าสงสารจังเราใช้แสงไฟในตัวเรานำทางให้พวกเขาดีมั้ยน้องรองน้องเล็ก”
“ข้าได้หมดน้องเล็กกับพี่ใหญ่ละคิดว่าไง”
“พี่ใหญ่พี่รองไปใช้ไฟส่องแสงนำทางให้เด็กมนุษย์กัน”
ฉันกับน้องชายชะโงกหาเจ้าของเสียงนั้นอยู่สักพักและแสง ระริบ ระริบของหิ่งห้อยก็มาปรากฏตัวขึ้นรอบๆ ตัวเรา หิ่งห้อยทั้งสามดูท่าจะเป็นพี่น้องกัน
“พี่อาเรียเราคุยกับเจ้าโคลได้แล้วเราจะคุยกับหิ่งห้อยได้หรือเปล่า” อาเธอร์หันมาถามฉัน
“หืมน่าสงสัยจังงั้นลองดูกัน”
“นี้ๆ พวกเจ้าฟังที่ข้าคุยกันรู้เรื่องมั้ย”
“ฮ่า ฮ่า พวกเด็กๆ มนุษย์เนี้ยชอบลองคุยกับสัตว์เหมือนนิทานปรัมปราจริงๆ เลยเนอะ” พี่ใหญ่ของหิ่งห้อยพูดไปพลางขำไป
“นิทานปรัมปราหรอ แต่พวกข้าได้ยินเจ้าทั้งสามตัวคุยกันจริงๆ นะ”
“ใช่แล้วๆ …ข้ากับพี่ก็ยังพูดคุยกับเจ้าโคลที่เป็นม้ารู้เรื่องด้วยนะ!!”
“พี่ใหญ่พี่รองดูมนุษย์สองคนเนี่ยเหมือนจะคุยกับพวกเราสามพี่น้องรู้เรื่องจริงๆ ด้วยนะ” เจ้าหิ่งห้อยน้องเล็กพูดไปพลางส่องแสงระยิบระยับ
“แล้วพวกเจ้าคุยกับสัตว์ได้ทุกตัวมั้ย” หิ่งห้อยน้องรองถาม
“ข้าก็ไม่รู้ข้ากับน้องพึ่งได้ยินเสียงเจ้าโคลเป็นครั้งแรกไม่กี่ชั่วยามนี้เอง แต่ก่อนที่จะได้ยินข้ารู้สึกปวดหัวด้วยแหละนะ”
“อาเรีย พี่ก็ปวดหัวเหมือนกันกับข้าหรอ”
หลังจากนั้นเราก็เดินไปคุยไปกับหิ่งห้อยสามพี่น้อง แล้วอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน พวกหิ่งห้อยสามพี่น้องก็อาสาพาเราเดินทางไปยังทิศเหนือ
แคร๊ก แคร๊ก เสียงดังมาจากพุ่มไม้ข้างหน้ามีตัวอะไรสักอย่างกำลังเดินผ่านมาทางนี้
“อาเรีย เราไปหลบข้างหลังพุ่มไม้อีกต้นกันเหอะ” อาเธอร์กระซิบข้างหูฉัน
พวกเราทั้งห้าหลบอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่มีตัวอะไรสักอย่างเดินตรงมาข้างหน้าตัวเล็กเท่าเด็กหกขวบมีร่างกายสีเขียว เมื่อเจ้าตัวแรกเดินออกมาก็มีตัวต่อๆ ไปเดินตามหลังมันพวกมันมีกันประมาณห้าตัวได้
“อาเรียในป่านี้พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านกำจัดพวกก็อบลินไปหมดแล้วไม่ใช่หรอ”
“ห๊ะ…เจ้าว่าไงนะเจ้ามนุษย์เพศผู้เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเจ้าพวกก็อบลินพวกนี้อยู่กันเป็นฝูงทางทิศตะวันออกแหนะ แต่ข้าว่าก็น่าสงสัยอยู่ดีนะพวกมันออกมาทางทิศเหนือทำไมกันนะ” เจ้าหิ่งห้อยพี่ใหญ่พูดทำท่าทางสงสัย
ทันใดนั้นเจ้าก็อบลินตัวหนึ่งก็เดินตรงมาที่พุ่มไม้ อาเธอร์คว้าหินก้อนเล็กโยนออกไปไกลจากพุ่มไม้ที่พวกเราอยู่ เสียงดังของก้อนหินกระทบลงกับเศษกิ่งไม้แห้งพอดี เจ้าก็อบลินตัวนี้หลงกลเข้าก็เดินตรงไปหาเจ้าของเสียงทันที
พวกเราก็ค่อยๆขยับตัวออกจากบริเวณพุ่มไม้ แต่แล้วจู่ๆ สามหนุ่มหิ่งห้อยเหลือบมองไปเห็นหิ่งห้อยสาวพวกมันก็กระพิบแสงระยิบระยับเกี้ยวพาราสีกันทันที บังเอิญก็อบลินพวกนั้นหันมาเจอพวกเราสองพี่น้องเข้าพวกมันรีบวิ่งมาหาพวกเราสองพี่น้อง ด้วยสัญชาตญาณของพวกเราทำให้เกิดกลัวขึ้นมาก็รีบวิ่งหนีสุดกำลัง
“อาเรียวิ่งเร็ว!!”
“อ้าวมนุษย์แฝดไปไหนกัน” พี่ใหญ่หิ่งห้อยหันมาถามพวกเราสองพี่น้อง
“ห๊าาาา ไอ้หิ่งห้อยบ้ากามแกกำลังทำให้คนอื่นลำบากนะรู้ตัวมั้ยเนี่ย” ฉันชักสีหน้าชวนหงุดหงิดพร้อมกับดึงกระโปรงลายลูกไม้วิ่งมาข้างๆ อาเธอร์
“เดี๋ยวสิมนุษย์รอเราสามพี่น้องด้วยยยยยยย”
“ไม่ต้องตามมาเลยนะไอ้พวกทรยศเพื่อนทั้งสามตัวนะหยุดอยู่ตรงนั้นเลย” อาเธอร์ตะโกนลั่น
“ไม่ได้ทรยศสักหน่อย วิ่งช้าๆหน่อยสิพวกเราตามไม่ทันอาเธอร์อาเรีย”
หลังจากนั้นพวกเราก็วิ่งวุ่นไปทั่วป่าแต่แล้วความบรรลัยก็เกิดขึ้นเมื่อฉันล้มลงไปเพราะสะดุดชายกระโปรงของตัวเอง อาเธอร์รีบหันหลังกลับมาอุ้มฉันแต่พวกก็อบลินทั้งห้าก็ล้อมรอบพวกเราไว้หมดหลังจากนั้นพวกมันก็เริ่มแสดงสีหน้าท่าทางน่ากลัวจนรู้สึกขนลุก แล้วล้มพับลงไปแล้วพูดขึ้นมาว่าพวกท่านมนุษย์ผู้วิเศษช่วยพวกข้าด้วยเถิดขอรับ
“เอ๋!!…อะไรนะ” อาเรียตะโกนลั่น
“ท่านมนุษย์ช่วยพวกข้าด้วย"เจ้าก็อบลินตัวที่หนึ่งกำลังรํ่าไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
“ไหนพวกเจ้าลองพูดมาสิเผื่อข้ากับพี่จะช่วยได้” อาเธอร์พูด
“หลายเดือนก่อนพวกเราทั้งห้าถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านก็อบลินเพราะพวกเราทำประโยชน์ให้คนในหมู่บ้านไม่ได้สักนิด ในคืนนั้นพวกเราร่อนเร่เดินทางหาที่พักแต่จู่ๆ หมาป่าฝูงหนึ่งก็พุ่งตัวมาจะทำร้ายพวกเราแต่แล้วก็มีอีกาสีขาวตัวหนึ่งมาช่วยพวกเรา เพื่อแลกกับการปกป้องจากกาขาว กาขาวขอให้พวกเราช่วยเก็บผักสมุนไพรมาให้กาดำผู้เป็นน้องชายที่นอนป่วย"ก็อบลินตัวที่สองพูดต่อ
"แต่ไม่กี่วันก่อนท่านกาดำกับอาการแย่ลงเรื่อยๆ พวกเราอยากจะตอบแทนผู้มีพระคุณจึงขอให้พวกท่านมาช่วย"
"พวกเจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกข้าจะช่วยกาดำได้"
"พวกเราขอโทษที่ต้องบอกแบบนี้ตอนที่เราออกไปเก็บสมุนไพร พวกเราเห็นพวกท่านทั้งสองพูดคุยเกี่ยวกับสมุนไพรมาระหว่างทางให้กับท่านหิ่งห้อยทั้งสามฟังพวกเราจึงแอบตามพวกท่านมาเพื่อขอความช่วยเหลือ"
“แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเจ้าจะไม่ทำร้ายข้ากับพี่”
“พวกเราขอสาบานโดยให้เจ้าแห่งหิ่งห้อยทั้งสามเป็นพยานว่าพวกเราจะไม่ทำร้ายท่านขอแค่ท่านช่วยน้องชายของท่านกาขาวพวกข้ามจะตอบแทนบุญคุณพวกท่าน”
“เจ้าแห่งหิ่งห้อยทั้งสาม?? พวกเจ้าสามพี่น้องเป็นตัวอะไรกันแน่ภูติผีวิญญาณหรือยังไงกัน ทำไมถึงต้องเรียกว่าเจ้าแห่งหิ่งห้อยด้วยละ”
“พวกก็อบลินบูชาหิ่งห้อยอย่างพวกข้า เพียงเพราะพวกข้าเป็นหิ่งห้อยที่ได้รับพรจากพระเจ้าทำให้อายุยืนและช่วยส่องแสงสว่างตอนกลางคืนพวกเขาบอกว่าเราคือตัวแทนของพระอาทิตย์ด้วยนะ และพวกก็อบลินเป็นพวกที่รู้บุญคุณสุดๆด้วยนะ เชื่อใจพวกเขาได้เลย"หิ่งห้อยน้องรองตอบ
พวกเราสองพี่น้องจึงตัดสินใจช่วยก็อบลินทั้งห้า
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments