ให้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ขนาดยังไม่มีขายตามร้าน นายจำเครื่องคิดเลข ของฉันท์พูดใส่เลขเข้าไปได้ไหม ผงเพรกให้มาเหมือนกัน จริง ๆ นะ (19) เนย สุง วๆ อยาก
ทว่าสูงเพรสค่อนข้างจะลึกลับ เขาเป็นพี่ชายของแม่ แต่แม่ไม่ ค่อยพูดถึง ราวกับว่าแม่เห็นว่าการพูดถึงลุงนั้นประหลาด เมื่อไหร่ที่ ฉันถามแม่จะยักไหล่ พูดทำนองว่า "แหมลูกก็รู้นี่จะว่า ลุงเขารักอิสระ วันนี้ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง” เห็นกันชัด ๆ ว่าแม่เลี้ยง
ฉันไม่รู้ว่าลุงทำมาหากินอะไร แต่ลุงมีเงินถุงเงินถังอยู่เสมอ ฉัน คิดว่าลุงน่าจะเป็นข้าราชการระดับสูง แบบท่าวิจัยให้องค์การนาซา หรืออะไรที่เป็นเรื่องอย่าบอกใครนะ ฉันจึงไม่ถามมาก ลุงเป็นโสด แต่ บางครั้งเขาพาคนแปลกๆ มาที่บ้าน ครั้งหนึ่งเขาพาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่ง ไม่พูดเลยสักคำมา ลุงบอกว่าเธอเป็น “เพื่อน” แต่ฉันรู้สึกว่าเธอน่าจะ เป็น “แฟน” มากกว่า ฉันคิดว่าเธอเป็นอัฟริกัน เพราะผิวของเธอคล้ำ มาก เธอสวยแต่แปลกที่เอาแต่จ้องฉันและยิ้ม ฉันไม่กลัวเพราะ ดวงตาของเธออ่อนโยน ส่วนที่เธอไม่พูดอาจเพราะไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่มันน่าขนลุกอยู่ดี
ฉันคิดว่าลุงเพรสเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ จนถึง เมื่อวานนี้นะ
เมื่อคืนมีแข่งบาสเก็ตบอลระดับเขตรอบรองชนะเลิศ นายก็รู้ว่า ฉันสำคัญสำหรับทีมขนาดไหน ฉันเป็นตัวการ์ดผู้ทำแต้มสูงที่สุดใน ประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมต้นสโตนีบรูค ฉันไม่ได้อวดโม้นะ แต่ว่าเป็นเรื่องจริง ๆ ฉะนั้น การที่ฉันไม่ได้ลงเล่นก็เหมือนโคบี ไบรอันท์ พลาดเกมนัดตัดเชือกของแอลเอเลเกอร์ โอเค ฉันอาจไม่ได้สำคัญ ขนาดนั้นก็ได้ แต่คงไม่เข้าท่าถ้าฉันจะพลาดเกมนั้น พ่อแม่พาแชนนอน ล่วงหน้าไปที่ยิ้มแล้ว ฉันมีการบ้านท่วมหัวและถ้าไม่ทำให้เรียบร้อย ก่อนไปละก็เสร็จแน่ ฉันมีเวลาเหลือแค่พอสวาปามกล้วยลูกหนึ่งกับ ซีเรียลป๊อปทาร์ตอีกหน่อย ให้อาหารมาร์ลีย์ และกระโดดขึ้นจักรยาน ปั่นทั่วไปโรงเรียน วางแผนไว้อย่างนั้นนะ ฉันอดคิดไม่ได้ว่านี่ถ้า ทำการบ้านเสร็จเร็วขึ้นอีกนิด หรือตัดสินใจไม่โยนลูกเทนนิสเล่นกับ มาร์ลีย์ หรือแม้กระทั่งว่ารอไปเข้าห้องน้ำที่โรงเรียน เรื่องทั้งหมดนี้คง ไม่เกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
ฉันคว้าเป้เดินไปที่ประตูหน้าเปิดผางออก และเจอหน้า...คอร์ทนีย์ เซ็ทวินด์
ฉันนิ่งซึ่ง เธอนิ่งจึง เหมือนมีคนกดปุ่มหยุดชั่วขณะที่ชีวิตคน สองคน แต่ความคิดยังคงวิ่งพล่านอยู่ในหัวของฉัน ฉันตกหลุมรักเธอ ตั้งแต่อยู่ชั้นประถม เธอช่าง...สมบูรณ์แบบเสมอ แต่ไม่ใช่ในแบบดี เลิศประเสริฐศรีจนไม่มีใครเทียบติด เธอสวย ฉลาด เล่นกีฬาเก่ง มี อารมณ์ขัน และเล่าเรื่องตลกเป็น ฉันคิดว่าสำคัญตรงที่เธอเล่าเรื่อง ตลกเป็น อาจจะฟังดูเหลวไหลนะ แต่การเล่าเรื่องตลกหมายความว่า ยินดีที่จะดูไร้สาระ ถ้าคนเราดีพร้อมไปหมดทุกอย่างขนาดนั้นแล้วยัง เต็มใจให้คนหัวเราะเยาะ นายยังจะหวังอะไรมากไปกว่านี้อีกล่ะ
ฉันไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้กับคอร์ทนีย์ ฉันเป็นหนึ่งในผู้ชมชม แถวยาวเหยียด แต่เธออยู่หน้าประตูบ้านของฉัน ทันใดนั้นคลื่นสมอง ของฉันพล่านไปทั่วเพื่อหาคำพูดที่สมบูรณ์แบบและเป็นธรรมชาติ คำ แรก ๆ ที่ออกจากปากในสถานการณ์คับขัน จะทำให้คนอื่นตัดสินว่านาย เป็นคนแบบไหนไปตลอดกาล มันจะบอกว่านายควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมจะจัดการทุกเรื่องอย่างใจเย็นและมีไหวพริบ หรือว่านายโง่สั่งชนิด ที่พอเจอเรื่องกดดันก็ซื้อไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ผ่านแว่บไปในหัวของฉันใน ชั่วครู่ที่เรา “หยุดนิ่ง” ตอนนี้ถึงตาฉันแล้วเธอมาบ้านฉัน ฉันต้องเป็นฝ่าย พูด ฉันสะพายเป้ ยืนพิงกรอบประตูสบาย ๆ ยิ้มให้นิด ๆ และทักว่า “โย”
โย่งั้น นั่นไม่ใช่คำจริง ๆ ด้วยซ้ำ! ไม่มีใครพูดว่า “โย” เว้นแต่ตอน เลียนแบบซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ซึ่งไม่ใช่อย่างที่ฉันทำอยู่ ฉันจะไม่....
...(ติดตามตอนต่อไป..)...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments