คนในฝัน
“กัน กัน”
เสียงชายคนหนึ่งดันขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปดูก็เห็นชายร่างสูงหน้าตาดี หนุ่นแน่นคนหนึ่งยืนเรียกชื่อตัวเองอยู่
“พี่กล้องมาแล้วหรอ”
หนุ่มร่างน้อยเอวบางผิวขาวเนียน ค่อยๆเดินเข้าไปหากล้อง ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันทำให้กันเงยหน้ามองกล้องเล็กน้อย
“มาแล้วครับ”
เสียงทุ้มตอบกลับคำถามของกัน พร้อมกับยิ้มมุมปากให้น้อยๆ
“รอพี่นานไหม”
กล้องถามต่อ กันส่ายหน้าไปมา
“ไม่นานเลยครับ”กันตอบ
“เด็กดีพี่อยากไปหาเราจัง”กล้องพูดขึ้น
“ผมก็เหมือนกันครับ”กันตอบพร้อมรอยยิ้ม
“เรามาลองกันอีกครั้งไหมครับ”กันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“แต่เราลองกันมาเป็นร้อยครั้งแล้วนะ”กล้องพูดขึ้น
“ก็จริงครับ ไม่ว่าจะลองกี่ครั้งพอตื่นขึ้นผมก็ลืมอยู่ดี”กันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหง่อยๆ
“อาจจะเป็นกฎในห่วงฝันนี้มั้ง”กล้องพูดขึ้น
“อาจจะใช่ล่ะมั้งครับ เฮ่ย~ ให้เราได้มาเจอกันในฝัน แต่ไม่ให้เราได้เจอตัวกันจริงๆ พอตื่นขึ้นผมก็จำได้แค่ชื่อของพี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน้าตาพี่ก็เลือนลางไปหมด ที่อยู่ที่พี่บอกผมผมก็จำไม่ได้ ผมสงสัยมาหลายต่อหลายครั้ง ว่าพี่มีตัวตนในโลกใบนี้จริงหรือเปล่า” กันพูดมาเป็นฉากๆพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าสร้อย
“พี่มีตัวตนจริงบนโลก พี่สัญญาว่าพี่จะพลิกแผ่นดินหาเราจนเจอ รอพี่ได้ไหมคนดี”กล้องพูดขึ้นพร้อมกับเอามือใหญ่ที่อบอุ่นของตนเองลูกหัวกันอย่างเอ็นดู กันโผล่เข้าสวมกอดกล้อง
“ได้ครับผมจะรอ”น้ำเสียงของกันที่พูดขึ้นมานุ่มนวลมากอย่างกับปุยนุ่น มันทำให้กล้องที่ฟังอยู่นั้นหน้าแดงแจ๋ขึ้นมา
กล้องค่อยๆจับตัวกันออก แล้วจูงมือพาไปที่ห้องๆหนึ่ง พอเปิดปนะตูห้องเข้าไปก็พบกับเตียงใหญ่อันหนึ่งตั้งอยู่กลางห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นห้องนอน กล้องเดินมาข้างหน้ากัน เอามือใหญ่ทั้งสองข้างของตัวเองจับที่ไหล่เล็กทั้งสองข้างของกัน ก่อนจะกดให้กันนั่งลงอย่างอ่อนโยน พอกันนั่งลงที่เตียงกล้องก็เดินมานั่งข้างๆกัน
“นานแล้วนะ จำได้ไหมว่าวันนี้วันอะไร”กล้องหันหน้ามาถามกัน
“วันนี้หรอ?”กันทำหน้างุนงงคิดสักพัก ในระหว่างที่กันกำลังคิดอย่างเป็นจริงเป็นจัง กล้องก็เอาแต่นั่งจองใบหน้ากันจากทางด้านข้าง
“อ่อ! ผมจำได้แล้ว”กันดีดตัวนั่งตรงและหันมาทางกล้องด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น
“วันนี้เป็นวันที่เราเจอกันวันแรกใช่ไหมครับ”กันพูดขึ้น
“ใช่แล้ว”กล้องตอบเสียงเรียบ
“ผมยังจำได้อยู่เลยว่าตอนนั้นผมอายุแค่9ปีเอง”กันพูดยิ้มๆ
“ตอนนั้นพี่13ปี”กล้องพูดขึ้น
“เรามานึกย้อนความหลังกันไหม”พล้องพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับขยับมาใกล้ๆ
“คืนนี้ยังอีกยาวไกล”กล้องเอาหน้ามาใกล้กัน ระยะห่างระหว่าคนสองคนไม่ถึงหนึ่งคืบด้วยซ้ำ ยิ่งกันได้ดูหน้ากล้องใกล้ๆแล้วก็รู้สึกว่ากล้องหล่อมากหล่อเกินไป หล่อจนหัวใจของตัวเองเต้นแรงจนจะทะลุออกมาอยู่แล้ว ทั้งคิ้วที่เป็นสวดทรงเข้ากับโครงหน้าบวกกับดวงตาที่เข้มคลึม จมูกที่คมเป็นสัน ริมฝีปากที่ไม่หนาไม่บางเกินไปสีของของมันนั้นแดงน่าโดนจูบและบดขยี้ ทำให้กันนั้นหน้าแดงแจ๋ตัวแดงปี๊ดอย่างกับโดนต้มในน้ำเดือดๆ
//เด็กน้อยท่าทางอย่างงี้ของนายหน้ารักจนฉันอดใจไม่ไหวแล้วนะ//กล้องคิดในใจ
กันเขินจนทนไม่ไหวแล้วเขาใช้มือข้างหนึ่งมายันหน้าอกกว้างของกล้องเอาไว้ แล้วพลักตัวเองออกจากตัวของกล้องก่อนที่จะตอบคำถามกล้องก่อนหน้านี้
“เรามารำลึกความหลังกันดีกว่าครับ”กันพูดด้วยสีหน้าที่แดงยังไม่หยุด
——————————เมื่อ12ปีก่อน—————————
“เก็บของทุกอย่างหมดหรือยังลูก” แม่ของกันพูดขึ้น
“ครบหมดแล้วครับ”กันตอบ
“ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะ”พ่อของกันพูดขึ้น พร้อมกับเดินตรงไปที่รถ
กันเดินเอากระเป๋าเดินทางของตัวเองไปไว้ที่หลังรถแล้วเดินมานั้งที่เบาะหลังคนขับ
“เดินทางสู่ทะเลกัน”แม่ที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับพูดขึ้น
“ไปกันเลย”พ่อที่กำลังจะออกรถพูดขึ้นก่อนที่จะขับรถออกจากบ้านไป
————ณ.จังหวัด m เวลา11:39น.—————
[ปึ้ง!!!]
{ตายแล้วรถชนกัน!!} เสียงเอะอะมากมายดังขึ้นจากด้วนนอก
//เจ็บ....เจ็บมากเลย แม่ครับ....พ่อ....//กันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนที่จะหมดสติไป
{ข้างในรถมีเด็กอีกสองคนน่าจะเป็นพ่อกับแม่เขา รีบโทรแจ้งรถโรงบาลเร็ว!!!}
——————โรงพยาบาล———————
เพี้ย!!!
“พวกแกดูแลลูกฉันยังถึงได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะฆ่าพวกแก” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตะโกนด่าลูกน้องหน้าห้องไอซียูโดยไม่สนใจป้ายที่ติดอยู่ที่โรงพยาบาลว่าห้ามเสียงดัง
“ขอโทษครับนายหญิง นายหญิงลงโทษผมได้เลยครับ”ชายชุดดำที่หน้าข้างหนึ่งแดงเป็นรอยมืออย่างเห็นได้ชัด ย้ำว่าอย่างเห็นได้ชัด พูดขึ้นพร้อมกับก้มหน้า อยู่ด้านหน้าผู้หญิงคนนี้
“ช่างเถอะ แกไปจัดการแผลของแกได้แล้ว แกก็บาดเจ็บไม่น้อย”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นลงเล็กน้อย
ชายคนนี้ก้มหัวเชิงคำนับก่อนจะเดินจากไป
“กล้องลูกแม่อย่าเป็นอะไรนะลูก”เธอยืนเอามือทาบกับประตูกระจกห้องไอซียู น้ำเสียงที่พูดเป็นน้ำเสียงสั่นๆ น้ำตาเริ่มคล้อลูกตาแต่ไม่ไหลออกมา
—————ผ่านไป1ชั่วโมง—————
พยาบาลนางหนึ่งวิ่งเขาไปที่ห้องไปไอซียู
เปลี่ยนเป็นชุดปลอดเชื้อเข้าไปพบหมอที่กำลังผ่าตัดอยู่
“คุณหมอคะคนไข้อีกห้องต้องผ่าตัดสมองค่ะ”
“แล้วศัลยกรรมแพทย์สมองล่ะไปไหนหมด”
“ตอนนี้ไปดูงานที่ต่างประเทศค่ะเหลืออยู่สองคน แต่ว่าทั้งสองคนลาป่วยทั้งหมดเลยค่ะ ”
“ไปหาหมอมาเปลี่ยนมือ”
“ได้ค่ะ”
พยาบาลนางนี้เปลี่ยนชุดปลอดเชื้อออกแล้วรีบวิ่งออกไปหาอาจารย์หมอให้มาเปลี่ยนมือกันหมอคนนี้ ผ่านไปไม่นานก็มีอาจารย์หมอเข้ามาเปลี่ยนมือ
“ฝากเด็กคนนั้นด้วยนะยังไงคุณก็เคยเป็นศัลยแพทย์สมองมาก่อน”อาจารย์หมอพูดกับหมอที่กำลังจะเปลี่ยนมือ
“ครับอาจารย์ผมจะทำอย่างเต็มที่”หมอคนนี้พูดขึ้นก่อนจะทำความเคารพกันในห้องไอซียูแล้วเดินออกไป
———————ฝั่งของกัน———————
“คนไข้เป็นยังไงบ้าง”หมอถามผู้ช่วยหมอที่กำลังคุมอาการอยู่
“หัวใจเริ่มเต้นอ่อนลงค่ะ”ผู้ช่วยหมอตอบ
“ทำCPRเร็ว อย่าให้สมองขาดออกซิเจน”หมอพูดขึ้น
ผ่านไป9นาที
“หัวใจคงที่แล้วค่ะ”ผู้ช่วยหมอรายงาน
“เตรียมผ่าตัดสมอง”หมอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
———————เช้าวันรุ่งขึ้น——————
“พ้นขีดอันตราย อย่าพึ่งให้ใครเข้าเยี่ยมนะ”หมอพูด
“ค่ะ”ผู้ช่วยพยาบาลตอบรับ
“คุณหมอคะหลานชายดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ”เสียงหญิงคนหนึ่งอายุไม่มากวัยกลางคนพูดขึ้น
“ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับแต่ว่าญาติยังเข้าเยี่ยมไม่ได้นะครับ”หมอตอบ
“ขอบคุณค่ะหมอ”น้ำเสียงสั่นๆของเธอพูดขึ้น
“หมอขอตัวก่อนนะครับ”พอพูดจบก็เดินจากไป
——————————————————————————
.
.
.
.
.
.
.
......แม่......พ่อ......อยู่ไหนครับ
....แม่.......พ่อ....
//ที่นี่ที่ไหน ทำไมมันถึงขาวไปหมดอย่างงี้//
“แม่ครับพ่อครับ!!!อยู่ไหนกันครับ!!”กันตะโดนขึ้น แต่ไม่มีใครตอบกลับมาสักคน ทุกทางที่มองไปเจอแต่สีขาวเต็มไปหมด กันเริ่มกลัวและน้ำตาเริ่มคล้อแก้ม
“มีใครอยู่ไหม!”เสียงเด็กชายคนหนึ่งที่แตกหนุ่มแล้วตะโกนขึ้นจากทิศตรงหน้าของกัน พอกันได้ยินเสียง เขาก็เช็ดน้ำตาทันที แล้วตะโกนกลับไปเช่นกัน
“ผมอยู่นี่ครับ!!”ไม่นานชายเจ้าของต้นเสียงก็เดินมาเจอกับกันเข้า
“สวัสดีครับ ที่นี่ที่ไหนหรอครับ”เด็กหนุ่มคนนี้พูดขึ้น
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”กันตอบออกไป
“คุณชื่ออะไรครับ”เด็กหนุ่มคนนี้ถามต่อ
“ผมชื่อกันครับ แล้วคุณล่ะ”
“ผมชื่อกล้อง”
“ทำไมคุณตัวเล็กจังคุณอายุเท่าไหร่หรอ”กล้องถามต่อ
“ผมอายุ9ปีครับ”กันตอบอย่างเรียบๆ
“งั้นคุณก็เป็นน้องผมน่ะสิ ผม13ปี”
“งั้นผมเรียกคุณว่าพี่นะครับ”กันพูดขึ้น
“ได้ครับน้องกัน”กล้องตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้กัน
กล้องนั่งขัดสมาดลงพื้นที่มีแต่สีขาวกันเห็นเช่นนั้นก็นั่งตาม
“ที่นี่ที่ไหนกันน่ะ ดูท่าเราคงต้องอยู่อีกยาวเลย”กล้องพูดขึ้น
“จะอยู่ยาวไม่ได้นะผมยังต้องกลับไปหาพ่อกับแม่”กันโต้ตอบ
“พี่ก็เหมือนกัน”กล้องมองหน้ากันแล้วพูดตอบออกไป
“ที่นี่มีแต่สีขาวเรามาลองจินตนาการดูไหมครับ”กันพูด
“เอาสิจินตนาการว่าอะไรดีล่ะ”กล้องพูดออกมาไหนๆก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว
“ผมอยากได้เตียงนอนกว้างๆใหญ่ๆนอนได้หลายๆคนตรงนี้”กันพูดพร้อมชี้ไปที่จุดจุดหนึ่ง ผ่านไปไม่นานไม่ถึง5วินาทีด้วยซ้ำ เตียงนอนที่จินตนาการก็ปรากฎขึ้น ทำเอาทั้งกล้องและกันตะลึงตะบานไปเลยทีเดียว
“ได้ไง?”กล้องพูดขึ้นพร้อมหน้าตาที่สงสัย
“ผม...ก็ไม่รู้”กันและกล้องหันหน้ามองกันอย่างงงๆ
“พี่ลองดูสิครับ”
“ทำยังไงหรอ”
“พี่แค่จินตนาการว่าอยากได้อะไรแล้วชี้ไปตรงที่พี่อยากจะวาง”
“ได้เดี๋ยวพี่ลองดู” กล้องลองจินตนาการถึงสิ่งที่ตัวเองอยากได้แล้วชี้ไปที่เตียง จู่ๆตุ๊กตาตัวใหญ่ก็ปรากฎขึ้น
“ว๊าว! พี่ก็ทำได้”
“สุดยอดเลย” ทั้งสมองหน้ากันพร้อมกับยิ่มกว้าง แล้วทั้งสองคนก็วิ่งไปที่เตียง
“ตุ๊กตาตัวนี้พี่ให้”พูดแล้วกล้องก็อุ้มตุ๊กตาสุนัขตัวใหญ่ขึ้นยกให้กับกัน
“ขอบคุณครับ”กันรับไปแล้ววางไว้ที่เตียงเหมือนเดิม
“พี่ว่าเตียงนี้จะนุ่มเหมือนตุ๊กตาของพี่ไหม”
“พี่ว่านุ่มนะ”
“ผมก็ว่านุ่ม”
“งั้นเรามากระโดดลงพร้อมกันไหม”กล้องพูดขึ้น
ทั้งสองถอยหลังไปเตรียมตัวกระโดลงเตี้ยง
“นับ 1 2 3”กล้องนับก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งเจ้าหาเตียงแล้วกระโดดลงพร้อมกัน
//ตุบ//
“นุ่มจัง”กันพูดขึ้น
“ใช่นุ่มมาก นุ่มกว่าเตียงที่อยู่บ้านพี่อีก”กล้องพูดยิ้มๆ
กันหันตะแคงมาทางกล้อง
“เราเล่นอะไรกันดีครับ”กันถาม
“เกมบอร์ดไหม”กล้องตอบ
“ดีครับ แล้วเราจะเล่นเกมอะไรดี”กันถามขึ้นอีก
“พี่อยากเล่นไอ้ที่เป็นด่าน”กล้องตอบ
“งั้นเราเล่นบันไดงูไหมครับ”กันพูดขึ้น
“อะไรคือบันไดงู”กล้องพูดพร้อมกับทำหน้างง
“เดี๋ยวผมจินตนาการให้ดู”ว่าแล้วกันก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเริ่มจินตนาการ เกมบันได้งูก็ปรากฎขึ้นต่อหน้า
“นี่ไงครับเกมบันไดงู”กันพูดขึ้น
กล้องทำหน้างงๆ“มันเล่นยังไงพี่ไม่เคยเล่น”
“เดี๋ยวผมสอนเอง”กันจับตัวเดินที่เป็นสีต่างๆขึ้นมา
“พี่เอาตัวไหนดีครับเลือกตัวได้เลย”กันยื่นไปให้กล้อง
“พี่เอาสีแดง พี่ชอบสีแดง”
“งั้นผมเอาสีม่วง ผมชอบสีม่วง”
พอเลือกตัวกันเสร็จกันก็อธิบายว่ามันเล่นยังไง
“เราเอาตัวของเราวางไว้ที่จุดเริ่มต้น จากนั้นก็เป่ายิงชุบกัน ใครชนะได้ทอยลูกเต๋า ได้เลขอะไรเราก็เดืนไปเท่านั้น สมมุติว่าผมได้เลขห้าผมก็เดินห้าก้าว ถ้าเกิดว่าเราตกตรงบันไดตรงนี้เราก็ได้ลงมายังจุดนี้ แต่ถ้าเราตกตรงบันไดตรงนี้ เราก็ขึ้นไปยังจดนี้ พี่เข้าใจหรือเปล่าครับ”
“เข้าใจแล้ว”
“งั้นเรามาเริ่มเล่นกันเลยไหมครับ”
“เอาสิ”
——————————————————————————
.
.
.
“ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว”กันพูดขึ้นเพราะตอนนี้เล่นเกมบันไดงูเบื่อแล้ว
“เรามานอนกันไหม”กล้องพูดขึ้น
“ดีครับ”กันตอบ
ทั้งสองคนโน้มตัวลงนอน ผ่านไปไม่นานก็หลับสนิดทั้งสอง
—————2วันผ่านไป——————
//ลืมตา//
//ที่ไหน//กันพูดในใจ
“หลานป้าตื่นแล้วหรือลูก”หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆเตียงที่กันนอนอยู่
“ป้า”เสียงกันแหบแห้ง จนเกิบไม่มีเสียงส่งออกมาเลย
“เดี๋ยวป้าเอาน้ำให้นะลูกอย่าพึ่งพูดอะไร”ป้าของกันเดินไปรินน้ำจากเยือกที่อยู่โต๊ะข้างๆเตียงของกันใส่แก้ว แกะพลาสติดที่ห่อหลอดออกแล้วใส่ลงไปในแก้ว ปรับเตียงให้พอเหมาะแล้วเอาน้ำให้กันดื่ม
“ดีขึ้นไหม”ป้าถาม
“ครับ”กันตอบ คราวนี้เสียงเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว
“แม่กับพ่อล่ะครับ”กันคิดได้ก็ถามออกไปทันที
“อยู่อีกห้องหนึ่งจ๊ะ”ป้าตอบออกไป
“ผมไปหาได้ไหมครับ”กันถามขึ้นอย่างเร่งรีบ
“ไม่ได้ หนูต้องรอหมอมาตรวจดูอีกก่อน ตอนนี้แม่หนูไม่เป็นอะไรแล้ว อีกไม่นานก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวค่อยให้พวกเขามาหา”
“ครับ”
“เดี๋ยวป้าไปตามหมอนะ”
“ครับ”
ป้าเดินออกไปจากห้อง
//พี่กล้อง//
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments