ทำไมเป็นยัยพรีมธภัทรถึงวุ่นขนาดนี้

เช้าวันต่อมา

เป็นอีกวันที่พรีมรู้สึกดีมากๆ จนพรีมรู้สึกว่ายังไม่อยากตื่นสักเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความฝันไม่ใช่เรื่องจริง ความสุขที่เขาพบเจอเมื่อวานนั้นทำให้รู้ว่ามันหอมหวานแค่ไหน คนตัวเล็กค่อยๆลืมตา แล้วกระพริบตาถี่ๆทันที เมื่อเจอสงแดดที่เล็ดลอดผ่านบานเกล็ดเข้ามากระทบกับม่านตา

พรีมลุกนั่งบิดขี้เกียจ แล้วหาวออกมาเบาๆ คนตัวเล็กเดินไปยังหน้าต่างเพื่อเปิดมันออก ยืนรับแสงแดดและสูดดมกลิ่นของธรรมชาติอย่างชื่นใจ บ้านของพรีมอยู่ห่างจากผู้คน มีธรรมชาติที่มองแล้วสบายตา บ้านหลังนี้พรีมซื้อเอาไว้แล้วพักอาศัยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่เรียนปี1 จนตอนนี้พรีมอายุ26ปีแล้ว จากเด็ก19ที่กลัวการอยู่คนเดียวนั้น กลายเป็นคนที่ชินกับการอยู่คนเดียวซะแล้ว แต่บางครั้งก็มีคนๆนึงเข้ามาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้พรีมเป็นบางครั้ง นั่นก็คือ'คราม' พรีมทำอาชีพเป็นนายแบบฟรีแลนซ์ ไม่มีสังกัด ถึงแม้ว่าจะมีคนทาบทามพรีมให้ไปอยู่ในสังกัด แต่พรีมก็ปฏิเสธไปซะหมด เพราะพรีมเป็นคนที่รักอิสระในการใช้ชีวิตมากๆ

ในระหว่าที่พรีมกำลังชมนกชมไม้อยู่มือถือก็มีสายเรียกเข้าขึ้น คนตัวเล็กถอนหายใจ แล้วเดินไปหยิบมือถือดูชื่อผู้ที่โทรมารบกวนเวลาในการชื่นชมบรรยากาศยามเช้าของตน

Rrrrrrrrrr Rrrrrr

''ว่าไงครับเจ๊ผิง''

(พรีม วันนี้พรีมมาทำงานหน่อยน๊าา พอดีลูกค้าเขาต้องการให้ผิงเป็นพรีเซ็นเตอร์ สินค้าอันนี้ให้หน่อย)เสียงปลายสายเอ่ยออกมาเป็นการขอร้อง

''เจ๊ผิงงง'' พรีมลากเสียงยาวอย่างเบื่อหน่าย

''พรีมก็บอกเจ๊ไปแล้วไงว่า พรีมขอพักงานสักเดือนนึงแต่นี่อะไร ยังไม่ทันพ้นวันที่2เลยก็มีงานเข้ามากแล้ว''

(พรีมลูกกก ช่วยเจ๊หน่อยนะ นะๆๆ ลูกค้าเขาต้องการให้หนูพรีมไปเป็นพรีเซ้นเตอร์ให้ จริงๆแล้วเจ๊เสนอไปแล้วนะว่าเอาคนอื่นไปได้มั้ย)

(แต่ลูกค้าเขาไม่ยอม เขาจะให้หนูพรีมเป็นอย่างเดียวเลย เจ๊ก็จนปัญญาแล้ว เลยโทรหาหนูนี่แหละลูก)

''แล้วพรีมต้องไปถ่ายวันไหนหรอครับ'' คนตัวเล็กเอ่ยถามปลายสายแล้วภาวนาว่าอย่าให้เป็นวันที่คนตัวเล็กคิดอย่างเด็ดขาดเลย

(วันนี้ ตอน11โมงค่ะลูก) คนตัวเล็กรีบหันไปมองนาฬิกาทันที จะบ้าไปแล้วนี่มัน10โมงกว่าแล้วจะไปทันได้ยังไงกัน โอ๊ยย ทำไมเป็นพรีมธภัทรถึงได้เหนื่อยขนาดนี้เนี่ยยย ทั้งที่ภาวนาไว้แล้วว่าอย่าเป็นวันนี้ ทำไมพระเจ้าถึงไม่ฟังเขาบ้างเล่า

''เจ๊นี่มันตั้ง10โมงกว่าแล้วมันจะทันหรอ พรีมยังไม่ได้ไปอาบน้ำเลย''

(รีบไปอาบเลยยัยพรีม อีก10นาทีเจ๊จะถึงบ้านเราแล้ว ไวๆนะพรีมถ้าเราทำเสร็จไว ก็จะได้กลับบ้านไวแล้วเจ๊จะเคลียร์ตารางงานทั้งหมดให้) สิ่งที่ปลายสายพูดทำให้พรีมตาโตรีบกระตือรือล้นทันที

''โอเคๆ พรีมไปอาบน้ำก่อนนะเจ๊''

พรีมตัดสายทันแล้ววิ่งไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว พรีมใช้เวลาในการอาบน้ำเพียง5นาทีถิอว่าเป็นการอาบน้ำที่รวดเร็วที่สุดในชีวิตของพรีม เพราะปกติพรีมไม่ต้องเร่งรีบเพิ่มสปีดให้ตัวเองขนาดนี้ คนตัวเล็กแต่งตัว ด้วยเสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อน กางเกงสีดำแหวกข้างจนเห็นขาอ่อนเพียงเล็กน้อย เติมแป้งเล็กน้อยทาลิปบาล์มเคลือบริมฝีปากบางให้ดูอวบอิ่มชุ่มชื้น

กริ๊ง กริ๊ง เสียงออดหน้าบ้านของคนตัวเล็กดังขึ้น พรีมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าถือ แล้วก็โทรศัพน์มือถือออกมาด้วย แล้วรีบวิ่งลงมาด้านล่างที่มีเจ๊ผิงรออยู่

''มาแล้วเจ๊ๆ '' พรีมเอ่ยบอก พร้อมกับใส่รองเท้า พอใส่รองเท้าเสร็จก็หันไปล็อคประตูบ้านทันที

''ไปๆขึ้นรถ จบงานนี้ก็พักยาวๆได้ตามใจลูกเลยค่ะ''

พรีมยิ้มกว้างแล้วขึ้นไปนั่งบนรถตรงข้างๆฝั่งคนขับทันที คนตัวเล็กยิ้มกระหยิ่มแล้วคิดในใจว่า ดีแล้วที่ได้เจ๊ผิงมาเป็นผู้จัดการ เพราะถ้าเป็นคนอื่นที่เห็นเขาทำเงินได้มากคงไม่ให้หยุดพักแน่ๆ 'เจ๊ผิงผิง' เป็นผู้จัดการส่วนตัวของพรีม เป็นคนที่คอยจัดหางานให้พรีมเสมอ เจ๊ผิงเขาเห็นแววของพรีมตั้งแต่เรียนปี2 จึงชักชวนพรีมให้เข้าวงการเป็นนายแบบแล้วก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ ซึ่งในตอนนั้นพรีมก็ไม่อยากทำสักเท่าไหร่ แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการในตอนนี้คะยั้นคะยอไม่หยุดจนพรีมรำคาญแล้วยอมเป็นนายแบบในที่สุด ผลงานชิ้นแรกที่พรีมทำคือ เป็นพรีเซ้นเตอร์สินค้าแบรนด์หนึ่ง หลังจากนั้นก็มีคนรู้จักพรีมเยอะขึ้น จนมีคนมาจ้างงานไม่หยุดไม่หย่อน ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้พรีมดูน่าสนใจเป็นหลายเท่าตัว

สตูดิโอ ถ่ายแบบพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์สินค้า

''พรีม วันนี้พอถ่ายเสร็จก็จะมีสัมภาษณ์นิดหน่อยนะ''

''ไหวมั้ย หรือว่าจะให้เจ๊ยกเลิกสัมภาษณ์ไปเลย''เจ๊ผิงเอ่ยถามพรีม

'' ไม่เป็นไรหรอกเจ๊ พรีมทำได้'' คนตัวเล็กพูดจบก็ลงจากรถ เดินเข้าไปในสตูทันที พรีมก้าวเท้าเข้าในสตูสิ่งเเรกที่คนตัวเล็กเห็นก็คือ

'คุณเพชร' คุณเพชรเป็นผู้ชายวัย43ปี แต่ยังดูดีมาก เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่พรีมแน่นอน พรีมไม่ชอบคุณเพชรนี่เอาซะเลย เขาชอบมองผมด้วยสายตาที่แทะโลม จนทำให้ตัวเล็กต้องเบือนหน้าหนีตั้งหลายครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย

''สวัสดีค่ะหนูพรีม สบายดีมั้ย''

''ไม่ได้เจอกันซะนานเลย คิดถึงจังครับ''

เพชรทำท่าจะเข้ามากอดพรีม แต่นถอยหลังร่นออกมาอย่างเร็วจนทำให้อีกคนชักแขนกลับแทบไม่ทัน แต่ก็ยังมีสายตาหลายคู่มองมายังพวกเขาเพชรก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วออกคำสั่งให้ทุกคนประจำตำแหน่งเพื่อถ่ายแบบพรีเซ็นเตอร์

''อ่าา ขนาดอยู่ไกลๆตัวหนูพรีมนี่ยังหอมชะมัด''

''ถ้าาอยู่ใกล้งจะหอมไม่น้อยเลย''เพชรคิดในใจแล้วมองพรีมที่ตอนนี้กำลังถ่ายแบบพรีเซ็นเตอร์สินค้าด้วยความเป็นมืออาชีพ

หลังจากที่ถ่ายเสร้จพรีมก็ต้องมาให้สัมภาษณ์ ความรู้สึกที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า แต่การสัมภาษณ์ครั้งนี้ทให้พรีมอึดอัดไม่น้อยเลยทีเดียวว่าใครเป็นคนเป็นคนจัดตำแหน่งให้ ช่างเลือกตำแหน่งได้ไม่ถูกใจจริงๆ พรีมถูกจัดตำแหน่งให้ยืนข้างๆคุณเพชร ตอนนี้ทั้งแสงแฟลช สปอร์ตไลท์ ไมค์จากสำนักข่าวต่างๆก็ยื่นมาออตรงหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับยิงคำถามใส่ทันที

''น้องพรีมรู้สึกยังไงบ้างคะ ที่ได้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์สินค้าในเครือของคุณเพชร เกริกรัศมีกำจรน่ะคะ''นักข่าวสาวสำนักหนึ่งยื่นไมค์ถาม

''ก...ก็ดีครับ''พรีมตอบคำถามของนักข่าวคนนั้นแล้วฉีกยิ้มให้กับนักข่าว 'วงการนี้แม่งมันมายาอยู่ละ ฝืนยิ้มไปคงไม่มีใครสนใจหรอก''พรีมคิดในใจ พอเมื่อได้คำตอบแล้วนักข่าวได้เบี่ยงไมค์ไปสัมภาษณ์เพชรทันที

''เป็นยังไงบ้างคะ ความรู้สึกที่ได้น้องพรีมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้า''นักข่าวคนเดิมยิงคำถามที่คล้ายๆกับคำถามแรก แต่มีแค่ไม่กี่คำที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย

''ผมรู้สึกดีใจมากๆเลยครับ ที่ได้น้องเขามาเป็นพรีเซ้นเตอร์ให้ผม แล้วมันก็ออกมาดีมากๆครับ เรามานับถอยหลังในการโปรโมตสินค้าของผมไปด้วยกันนะครับไม่เกินเดือนหน้าแน่นอน'' เพชรกล่าวแล้วยิ้มออกมา

''แล้วผมก็คาดหวังว่าในครั้งหน้าน้องพรีมเขาจะมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผมอีกครั้งด้วย''พรีมหันไปมองเพชรแว้บหนึ่ง แล้วคิดในใจว่า 'ให้มันสิ้นสุดครั้งนี้ก็เพียงพอแล้ว!!'

เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จ สิ่งที่พรีมไม่ชอบที่สุดก็มาถึงนั่นก็คือการถ่ายรูป ในระหว่างที่ถ่ายรูปก็ต้องมายืนใกล้ชิดกันมาก ซึ่งคนตัวเล็กอยากจะวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที เขาทั้งโดนลูบ โดนคลำ แต่ก็ต้องยืนฝืนยิ้มออกมา ทันทีที่ถ่ายรูปเสร็จคนตัวเล็กก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกมาทันทีด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ตนเองถูกลวนลามแต่ไม่สามารถทำอะไรได้

พรีมขึ้นมาบนรถแล้วปิดประตูรถอย่างแรง จนทำให้เจ๊ผิงที่นั่งอยู่ในรถสะดุ้ง

''เบาๆค่ะลูกพรีม ใจเย็นๆนะคะคุณลูกของเจ๊'' เจ๊ผิงมองหน้าพรีม แล้วรู้ได้ทันทีว่าพรีมอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก เจ๊ผิงเอื้อมมือไปลูบหลังเบาๆ

'' เจ๊ผิงครับ ถ้าวันหลังไอ้ลุงตัณหากลับคนนี้มาติดต่องานอีก เจ๊ไม่ต้องรับนะครับ''

''เทไปเลย ถึงเขาจะจ่ายหนักแค่ไหนพรีมก็จะไม่ทำ ให้เขาไปหาคนอื่นแทนนู่น'' พรีมพูดอย่างหัวเสีย เจ๊ผิงก็พยักหน้าทันที เพราะไม่อยากทำให้เด็กที่ตนปั้นมารู้สึกอึดอัดใจ เพราะเจ๊ผิงรักและเอ็นดูพรีมเหมือนลูกแท้ๆคนหนึง เมื่อลูกไม่สบายใจหรืออึดอัดใจคนเป็นแม่จะยอมทนเห็นสิ่งนั้นได้ยังไงกัน

ทางด้านของครามกับเดือน

เดือนนั่งดูไลฟ์สดสัมภาษณ์ของพรีมที่พึ่งจบไปด้วยความรู้สึกที่นึกชื่นชม เพราะพรีมนั้นเป็นวัยรุ่นที่สร้างผลงานให้ตัวเองจนประสบความสำเร้จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ในด้านวงการนายแบบและวงการบันเทิง

''น้องคนนี้เก่งจังเลยเนาะ ว่าไหมคราม'' เดือนเอ่ยบอกครามพร้อมกับชื่นชมบุคลลในจอมือถือ

''ไหนครับเดือน''

''นี่ไง ครามดุสิ น้องเขาไม่ตื่นคนแถมยังยิ้มสวยมากๆเลย''ครามมองไปที่หน้าจอมือถือโดยที่ไม่พูดอะไร แต่กลับพบความผิดปกติบางอย่าง เขาเห้นมือของชายคนที่ยืนข้างๆคนตัวเล็กเอามือไปลุบคลำตรงช่วงเอว ซึ่งมันไม่ใช่การดอบเอวอย่างที่ใครๆคิดกัน ซึ่งมันไม่ใช่เลย

''อ่าา คนตัวเล็กของเขานี่เก่งจริงๆเลยขนาดโดดนจับโดนลุบขนาดนั้นยังสามารถยืนยิ้มได้ ช่างเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพสูงจริงๆ''ครามคิดในใจ แล้วเอ่ยปากบอกเดือนว่า

''ใช่ครับ น้องเขาเก่งมากจริงๆ''

'' คราม วันนี้พรีมไปนอนค้างที่บ้านคุณแม่นะ คุณแม่เขาคิดถึงเดือนน่ะ''พรีมบอกคราม เรื่องที่วันนี้ตนเองจะไปนอนค้างที่บ้านคุณแม่

'' ครามอยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย ''

''ได้ครับ ครามอยู่ได้''แต่ความเป็นจริงแล้ว ครามไม่เคยนอนคนเดียวต่างหากล่ะ เพราะช่วงเวลาที่เดือนไม่อยู่เขามักจะไปนอนที่บ้านเพื่อนเป็นประจำ แต่ครั้งนี้เขาขอเปลี่ยนไปยังอีกที่นึงที่ไม่ใช่บ้านเพื่อนก็แล้วกัน

ทางด้านของพรีมเมื่อกลับถึงบ้านก็ เอ่ยลาเจ๊ผิง แล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปในทันที คนตัวเล็กจัดการถอดเสื้อผ้าออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำขจัดสิ่งสกปรกตามร่างกายออก เมื่ออาบเสร็จคนตัวเล้กก็ทาแป้งเด็กใส่ชุดลำลองสบายๆ พรีมล้มตัวลงในไปในทันที แต่ยังไม่ทันจะหลับก้มีเสียงการแจ้งเตือนเด้งซ้อนขึ้นมาสองการแจ้งเตือน

'' เหนื่อยก็พักผ่อนนะลูกพรีม ทำใจให้สบาย ตอนนี้เจ๊ยกเลิกงานให้ไปหมดแล้วนะทั้งเดือน''พรีมยิ้มกว้างทันที่เห็นข้อความที่เจ๊ผิงส่งมา พรีมก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความตอบกลับไปด้วยความซึ้งใจ

''ขอบคุณมากนะครับหม่ามี๊เจ๊ผิงผิง'' แล้วพรีมก็ไปเปิดอีกข้อความหนึ่งเป็นข้อความที่ครามพิมพ์ส่งมา

''คืนนี้ พี่ขอไปนอนด้วยนะครับหนูพรีม'' พรีมรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างไม่รอช้า

'' โอเคครับพี่คราม'' ในที่สุดสิ่งที่พรีมและครามรอคอยก็เป็นจริง พรีมที่อยากตื่นมาแล้วเจอครามนอนอู่ข้างๆ ส่วนครามก็อยากที่จะให้คนตัวเล็กตื่นมาแล้วเจอหน้าตนเป็นคนแรก

ช่วงบ่ายสามโมง เดือนก็เตรียมตัวออกไปรอคนขับรถที่ด้านล่างของคอนโดให้มารับ แต่เดือนก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าห้างซื้อของพวกประเภทชาไปให้คุณแม่ของตน

หลังจากที่เดือนออกไปแล้วครามก็มีนัดคุยงานกับลูกค้า ซึ่งครามเสียเวลาคุยกับลูกค้ารายนี้เป็นเวลานานมาก หล่อนเป้นผู้หญิงที่เรื่องมากใช้ได้แถมพยายามที่จะถึงเนื้อถึงตัวครามตลอดเวลาในขณะที่นั่งคุยงาน เมื่อเวลาผ่านไปผลสรุปก็ออกมาว่าครามไม่รับงานนี้ไม่ใช่ว่างานที่รับมันไม่ดี แต่เขารำคาญจะะคุยงานทั้งทีแทนที่จะคุยเรื่องงานแต่กลับมาซักไวร้ถามเรื่องส่วนตัวอยู่นั่นแหละ เมื่อจบจาคุยงานที่เละไม่เป็นท่าเสร็จ วึ่งครามใช้ความอดทนในการคุยเป้นอย่างมาก

ครามขับรถออกมาจากร้านอาหารที่นัดคุยงานเมื่อกี้ แล้วขับรถตรงไปยังร้านขนมที่พรีมชอบเพื่อซื้อไปฝากเจ้าตัวเหมือนทุกๆ ครั้งที่ทำเมื่อครามซื้อขนมเสร้จกก็ขับรถมายังบ้านของพรีม ในช่วงเวลาใกล้ๆหนึ่งทุ่มเนื่องจากร้านขนมที่พรีมชอบกินนั้นต้องรอคิวยาว

ทันทีที่รถจอดยังหน้าบ้านของพรีม ครามก็ลงมากดกริ่งแทนที่จะเป็นบีบแตรรถเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ครามยืนกดกริ่งอยู่นานเมื่อไม่เห็นว่าเจ้าของบ้านลงมาเปิดประตูต้อนรับ ครามจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในบ้าน แล้วบ่นออกมาว่า''ไม่ล็อคประตูบ้านแบบนี้ แล้วถ้าเกิดเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขาเข้ามาจะทำยังไง ''ภายในบ้านเงียบกริบ ครามจึงเดินไปยังห้องนอนของเจ้าของบ้าน แล้วเปิดประตูเบาๆก็เห็นคนตัวเล็กนอนหลลับสนิทอยู่อยากจะปลุกก็ไม่กล้าปลุก เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กทำงานกลับมาหนื่อยยๆแล้วต้องการที่จะพักผ่อน ครามจึงลงไปยังห้องครัวเพื่อจัดขนมใส่จานรอให้คนตัวเล็ก ตื่นแล้วลุกขึ้นมากิน แต่งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครามเผลอทำจานหล่นแตกแต่โชคยังดีที่เขายังไม่ได้จัดขนมใส่จาน

คนตัวเล็กที่หลับสนิทอยู่เมื่อได้ยินเสียงดังชนิดที่ว่าทำใตัวเองตื่น จึงลุกขึ้นแล้วเดินลงไปข้างล่างทันที เพื่อดูว่าใครเข้ามาในบ้านพร้อมกับหยิบที่ช๊อตไฟฟ้าไปด้วย เพราะพรีมรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนขี้ลืมที่มักจะลืมปิดประตูบ้านบ่อยๆจึงซื้อที่ช๊อตไฟฟ้าเอาไว้ ป้องกันตัว

พรีมค่อยๆก้าวลงบันไดมาช้าๆจนเดินมาหยุดตรงที่ห้องครัวแล้วเปิดที่ชอตตไฟฟ้าที่ตัวเองเตรียมลงมาด้วย

'' ย๊าาาา ไอ้หัวขโมย''ครามหันไเห็นเจ้าของเสียง แล้วก็สิ่งของในมือจึงรีบเบี่ยงตัวหลบทันที

'' พรีมนี่พี่ครามเองครับ อึก''หลังจากที่คราหลบได้ทันครามก็รีบละล่ำละลักบอกคนตัวเล็กทันที

'' อ้าว พี่ครามเองหรอครับ''คนตัวเล็กเห้นดังนั้นจึงปิดที่ชผีอตไฟฟ้าทันที

''ก้ใช่น่ะสิครับ'' ตอนนี้ครามยอมรับทันทีว่าหายใจไม่ทั่วท้องเลย เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเล็กๆแบบนั้นจะสู้คนด้วย

''แฮร่ๆ พรีมขอโทษนะค้าบพี่ครามมม พรีมนึกว่าโจรนี่นาาา'' พรีมวางของที่อยู่ในมือลงแล้วเดินไปกอดครามพร้อมกับหัวถุที่หน้าอกอีกคนเบาๆเพื่อเป็นการปลอบ

'' เกือบไปแล้วมั้ยกู คืนนี้โดนแน่ยัยเด็กแสบ'' ครามคิดในใจแล้วยิ้มออกมาพร้อมกับนึกถึงแผนการที่จะเอาคืนคนตัวเล็กที่คิดว่าเขาเป็นโจร แถมยังจะเอาที่ช๊อตไฟฟ้ามาช๊อตเขาอีก

Talk Talk write& read or Read & Write:

เกือบไปแล้วมั้ยล่ะนายคราม เกือบไปแล้ววว ส่วนคุณลุงที่ลวนลามน้องเพชรนั่นสนใจมีคุ่เป้นของตัวเองมั้ยคะ หุหุหุ แล้วพี่ครามจะเอาคืนยัยน้องยังไง แล้วจะมีเซอร์ไพรส์อะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!