" ที่นี้น่ะเหรอ.."
เด็กหนุ่มผมสีนิลในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวผูกโบสีดำเส้นเล็กประดับด้วยเข็มกลัดสีม่วง สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีน้ำเงินครามขลิบเงิน ที่อกซ้ายมีตราสัญลักษณ์รูปหนังสือที่มีดาวเจ็ดแฉกอยู่ตรงกลาง
และด้านล่างสัญลักษณ์มีคำว่า 'INTELLECT'ปักอยู่
เขาเงยใบหน้าเรียวของตัวเองขึ้นมองตึกสี่ชั้นโทรม ไปที่อยู่ตรงหน้าด้วยอาการเหวอสนิท ดวงตาสีเขียวมรกตหลังแว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีเงินเริ่มกลอกไปมาอย่างไม่แน่ใจว่าเขามาถูกที่รึเปล่า เบื้องหน้าของคัมภีร์เป็นตึกสีเทาซีดดูเก่าแก่ที่สูงสี่ชั้น รอยแตกร้าว บนพนังแสดงให้ถึงความเก่าทรุดโทรมของตัวอาคาร กระจกหน้าต่างแม้จะไม่มีรอยแตกเหมือนผนังแต่ก็มีฝุ่นจับอยู่เต็มไปหมดบ่งบอกว่าไม่ได้ทำความสะอาดมานาน แล้วยังป้ายไม้เก่าๆ ด้านหน้าที่เขียน เอาไว้ด้วยตัวอักษรสีแดงขุ่น
"หอสมุดซาโลม..." หนุ่มแว่นอ่านป้ายหน้าหอสมุดอีกครั้งพลางคิดในใจ ซาโลมหรือโทรมากันแน่..นี้น่ะหรือหอสมุดที่เราจะเขามาประจำการ ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้!
เด็กหนุ่มก้มลงมองแผ่นที่ในมืออีกครั้งแล้วเริ่มเบ้หน้าเขาผู้สอบผ่านการเลื่อนเป็นคลาส A จากชั้นเรียนบรรณารักษ์อินเทลเลคท์จะต้องมาประจำที่หอสมุดแห่งนี้จริงๆ หรือนี่เขาถอนหายใจเฮือกแล้วก้าวเท้าเข้าไปจนถึงหน้าประตูเคาะสองสามที่ก่อนจะเปิดเข้าไป
กรุ๊ง กริ๊ง
เสียงกระดิ่งหน้าประตูแบบระบบเก่าที่ไม่มีหอสมุดไหนใช้อีกแล้วทำให้เด็กหนุ่มเบ้หน้าขึ้นมาอีกนิด แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ
' มืด..' นี้คือความคิดเเรกของเขาก่อนจะตามด้วย'มองไม่เห็น'เป็นอันดับต่อมา และปิดท้ายด้วย
'มีคนอยู่รึป่าวเนี่ย' เมื่อไม่ได้ยินเสียงใดๆเลยจากตึกแห่งนี้ "ขอโทษนะครับมี ใครอยู่รึป่าวครับ"
เด็กหนุ่มตะโกนถามก่อนจะปิดประตูลงเมื่อเจามาข้างใน
พึ่บ!
ทันทีที่ประตูปิดสนิท แสงไฟก็สว่างขึ้นทั่วห้อง ทำให้เด็กหนุ่มต้องหรี่ตาลงเพราะปรับแสงไม่ทัน และเมื่อตาปรับแสงได้แล้ว เจาค่อยกวาดตาไปมองรอบๆ ภายในห้องสมุดสะอาดสะอ้านผิดกับภาย นอกลิบลับ มีการจัดเรียงหนังสือที่ทำจากไม้ขัดเงาอย่างเป็นระเบียบบรเพดานมีภาพวาดจิตรกรรมลวดลายโบราณที่ระเอียดอ่อนสวยงามและประณีตมาก และเมื่อมองต่ำลงมาที่พื้น เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงกับสิ่มที่เห็น ก่อนจะทำท่าเหมือนจะเป็นลม
พระเจ้าครับ!นี้มัน..นี้มัน..!(เชี้ยอะไรเนี้ย!)
"อ้าว..มีแขกมาหลอเนี่ย"หนังสือเล่นหนึ่งพูดขึ้นมาแล้วมองชายหนุ่ม(มันคือหนังสือจริงไม่ใช่ชื่อคน!)
ที่ยืนเเข็งค้างอยู่หน้าประตู และคำทักทายของหนังสือเล่มแรกเรียกร้องเรียกให้หนังสือเล่มๆอื่นๆหันมามองอย่างสนอกสนใจด้วย
"แขกหรือ"
"ไหนๆ อย่าบังข้าสิ"
"โอ้! มีแขกมาจริงๆด้วย คนแรกในรอบหลายสิบปีเลยนะนี่"เสียงฮือฮาของบรรดาหนังสือทำเอา แขกหันซ้ายหันขวาอย่างทำตัวไม่ถูก ยิ่งมีหนังสือเข้ามาไกลก็ยิ่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาให้ได้ แทบจะลมใส่ เมื่อหนังสือมีชีวิตเหล่านี้พุ่งเข้าใส่ 'แขก'
ราวกับไม่เคยพบเคยเห็น
"จ๊าก !" นี้มันอะไรกันครับ
ทำไมหอสมุดแห่งนี้ถึงมีหนังสือแปลกประหลาดอย่างนี้! เป็นหนังสือเฉยๆไม่พอ ดันมัปากไว้พูด มีตาไว้ทอง แถมมีแขนมีขาลำตัวเป็นหนังสืออีกต่างหาก ที่สำคัญไม่ได้มีแค่เล่มเดียว แต่นี้ปาเข้าไปตั้งร้อยกว่าเล่ม แล้วพวกมันดันพร้อมใจกันมารุมเกาะเขาเป็นลิงเป็นค้างอีกต่างหาก!(น่าสงสารเขานะ)
นี่มันอะไรกัน! ใครก็ได้อธิบายให้เขาฟังที!
หลังจากที่แย่งแว่นตาคืนมาจากเจ้าพวกหนังสือมือซนได้แล้ว ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังปัดฝูงลิงหน้าตาเหมือนหนังสือ(?)ออกจากตัวด้วยความสับสนเสียงที่เจือไปด้วยความง่วงงุ่นของใครบางคนก็ดังขึ้น ทำเอาเหล่าหนังสือที่มีชีวิตสะดุงโหยงไปตามไปกัน "เอะอะอะไรกันเจ้าพวกเศษกระดาษ! ฉันเตือนแล้วใช่ไหมว่าห้ามส่งเสียงดังน่ะหา!"
ชายร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีน้ำเงินครามลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลทองที่มีเสื้อกั๊กสีน้ำเงินครามขลิบเงินพาดอยู่ เขาเงยใบหน้าหล่อเหลาขึ้น(หลงตัวเอง!)แล้วกวาดในตาสีแดงสดไปยังหนังสือทังหลายที่ยืนตัวสั่นอยู่ ก่อนสายตาจะไปหยุดที่เด็กหนุ่มแปกหน้าที่ถูกพวกหนั้งสือเกาะตามตัว(แถมบ้างเล่มยังไม่ยอมลงจากหัวเขาเลย) เขายกมือเสยผมสีทองอร่ามของตน เองอย่าง งงๆ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง
"ไอแว่นนี้ใครฟะ"แล้วก็หรี่ตามองหนุ่มแว่นตรงหน้าขึ้นลงด้วยสายตากวนยาทาสุดๆ คนที่ถูกเรียกว่า'แว่น'คิ้วกระตุกก่อนจะดันแว่นของตัวเองขึ้นเพื่อรวบรวมสติ เริมเนะนำตัวให้คนผมทองตรงหน้าฟังจะได้ไม่เรียกเข้าว่า 'ไอเเว่น' อีก "สวัสดีครับ ผมชื่อ'คัมภีร์' เป็นบรรณารักษ์คลาสเอจากหอสมุดอินเทลเลคท์ ได้รับหมอบหมายให้มาเป็นบรรณารักษ์ประจำหอสมุดแห่งนี้ครับ" คัมภีร์เนอะนำตัวอย่างเป็นทางการด้วยสีหน้าภาคภูมิใจและมั่นใจ
"โอ้ บรรณารักษ์คนใหม่ !" เหล่าหนังสือมีชีวิตที่เกาะอยู่พยักหน้า(?) รับรู้แล้วถอยออกมามองบรรณารักษ์คนใหม่กันตาแป๋ว(พวกแกเป็นแมวกันรึยังไง)ก่อนจะพูดทักทายแสดงความสนิดสนมกับบรรณารักษ์กับบรรณารักษ์ผู้มาประจำการที่หอสมุดนี้อย่างสนุกสนาน "นี่คุณชื่ออะไรครับ"
"ผมก็เพิ่งบอกขื่อไปไม่ใช่หลอครับ!" หนุ่มผมดำว่าเสียงขุ่นใส่เจ้าหนังสือที่เกาะอยู่บนหัวเขา ซึ่งเป็นเล่มที่ถามชื่อเขาเมื่อครู่ "นั้นและครับ คุณชื่ออะไรครับคุณคัมภีร์" หนังสือเล่มอื่นถามสมทบบ้าง
"นั้นก็เพิ่งเรียกชื่อผมไปหยกๆไม่ใช่รึไง!'' หนุ่มแว่นคิ้วกระตุกถี่ๆ รู้สึกอยากจะเตะหนังสือให้ปลิวไปติดกำแพงจริงๆ เจ้าพวกหนังสือพวกนี้กวนประสาทเขาอยู่ใช่รึเปล่า นี้มันหนังสือโลกไหนเนี่ย!เพิ่งรู้ว่าในหอสมุดมีหนังสือกวนติ่งแบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะ!
ส่วนคนผมทองตาสีแดงก็มองการสนทนาอันรื่นเริงนั้นเงียบๆไม่ได้พูดอะไร "แล้วคุณหละครับ?"คัมภีร์เห็นอีกฝ่าย(ที่เป็นคน)เงียบไปนานก็ถามอย่างสง
สัย พลางคว้าหนังสือจากบนหัวลงมาว่างที่โต๊ะ คนถูกถามถอนหายเฮือกแล้วเริ่มนะนำตัวบ้าง ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่ทรงอำนาจอย่าแปลกประหลาด "ชื่อของฉันคือ 'คีเทล'ส่วนคลาส..."เขาทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่ง"ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงไม่มีล่ะมั้ง.." "หา?"คัมภีร์มองบรรณารักษ์ไร้คลาสแล้วอ้าปากค้างก่อนจะทำหน้าไม่อยากเชื่อออกมา "เดียวสิคุณไม่มีคลาสได้ยังไงกันครับ" "แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะไอแว่น"คีเทลสวนกลับไปก่อนที่อีฝ่ายจะพูดจบ แล้วเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ใกล้ๆกับบรรณารักษ์หน้าใหม่ เขาหันไปมองเหล่หนังสือมีชีวิตแล้วสั่งว่า"ไปเอาน้ำมาบริการหน่อยสิไอพวกเศษกระดาษ เพิ่งตื่นแล้วคอแห้งว่ะ"
"เอ่อ...ท่านคีเทลตู้กดน้ำอยู่ข้างหลังท่านเองนะขอรับ"หนังสือเล่มหนึ่งพูดด้วยความกล้าๆกลัวๆแล้วเหลือบมองตีเทลเป็นระยะ "รู้โว้ย! แต่ฉันขี้เกียดย่ะเข้าใจไหม รีบไปเอาน้ำมามาได้แล้วเดียวพ่อก็จับเผาซะหรอกพอพูดจบบรรณารักษ์ผมทองก็เสกลูกไฟสีดำขึ้นกลางฝ่ามือ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments