...สาวน้อยผู้น่าสงสาร...
...EP.2...
"ว้าว ร้าน ชาเน่ คลับ ออกสินค้าตัวใหม่มาเพียบเลย ดีจัง ฉันกำลังอยากคลายเครียดอยู่เลย" ฉันเเละยูริช้อปปิ้งกันเยอะแยะมากมาย จนจะถือกันไม่ไหว
"วันนี้ ร้านชาเน่ ของสินค้ามากมาย คนต่อเเถวกัน เยอะมากมากเลยนะเเก"
" ฉันต้องขอบคุณ แกมากมากเลยนะ ที่พาฉันมาคลายเครียดน่ะ"
" จ้าจ้า พอได้ละลายทรัพย์ แกก็อารมณ์ทีทุกทีละน่า"
ฉันได้เเต่คิดถึง เขา เเล้วอมยิ้มอยู่ในที จนยัยยูริเริ่มสังเกตอาการของฉันได้ ว่าหลังจากที่เจอเขาฉันก็ได้หน้าแดงมาสิบรอบเเล้ว ทำไมกันนะอีตาบ้านั้นทำไมมีอิทธิพลต่อฉันขนาดนี้นะ
" ใช่ไง วันนี้เจอเเต่ดรื่องซวยมาเกือบทั้งวันเเล้วเนี้ย เเกก็เห็นอยู่"
"ให้มันจริง อย่างที่แกว่าเถอะย่ะ"
"จริงสิ เเกนี้ยังไง จับผิดฉันอยู่ได้ ก่อนกลับไปหาอะไรกินกันก่อนไหมเเก" ฉันชวนยัยยูริ
"ดีเหมือนกัน กำลังหิวอยู่พอดีเลย"
สุดท้ายก่อนกลับเราก็ได้มานั่งกัน เเต่ร้านอาหารเกาหลี เพราะฉันกับยัยยูริตกลงกันไม่ได้ว่าจะกินอะไรกันดี เพราะเราสองคนป็นคนจริงจังเรื่องกินมาก 'เรื่องกินเรื่องใหญ่' ยัยยูริได้กล่าวไว้ ทานอาหารกันเสร็จ ยัยยูริก็พาฉันไปส่งบ้าน ซึ่งเป็นเวลาที่พ่อกับเเม่ฉันกลับจากทำงานพอดี
ท่านทั้งสองเป็นบุคคลที่เพื่อนฉันทุกคนต่างก็เคารพนับถือเพราะพ่อกับเเม่ฉันเป็นคนใจดี เเละชอบให้ฉันชวนเพื่อนเพื่อนมาทานอาหารที่บ้านกันบ่อยๆด้วยละ
"กลับมาเเล้วคะ พ่อกับเเม่ทำงานเหนื่อยไหมคะวันนี้ เป็นยังไงบ้าง" ฉันเอ๋ยขึ้นมาเข้ามาในบ้านเเละว่างของที่ซื้อมา
"เหนื่อยนิดหน่อยนะ เเต่เห็นน่าลูกสุดที่รัก ของพ่อก็หายเหนื่อยเเล้วจ๊ะ ไหนมาให้พ่อกับเเม่ ชื่นใจหน่อยสิลูกรัก" ฉันได้เเต่เข้าไปกอดพ่อกับเเม่เเบบี้เสมอเป็นการบอกรักที่ไม่ต้องใช่คำพูดพ่อบอกฉันอย่างนั้น
" ชื่นใจ จริงจริงเลยลูกสาวพ่อ วันนี้เป็นยังไงบ้าง ออกไปไหนกับเพื่อนมาละ" พ่อถามฉันเหมือนเห็นข้าวของที่ฉันซื้อดลับมา ไม่ว่ายะเป็นขนมหรือของใช้ต่างๆ เเต่พวกท่านไม่เคยว่าฉันเลยสักครั้งเดียว
"วันนี้ ยูริพาหนูไปห้างมาคะพ่อ เหนื่อยมากๆเลย อ่อ! เเล้วหนูก็ซื้อขนมของโปรดของพ่อกับแม่มาด้วยนะคะเดียวหนู เอาไปใส่จานให้นะคะรอเเบปนึงคะ" ฉันเมื่อพูดจบก็ได้เอาขนมเข้าไปในครัว เพื่อที่จะจัดจานเเล้วนำมาเสริฟให้พ่อกับแม่ เหมือนทุกครั้ง
"ขนม เจ้านี้ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคุณ "เเม่พูดกับพ่อเหมือนทานขนมที่ฉันซื้อมาฝาก ท่านสองคนก็นั่งทานขนมกัน ส่วนฉันได้เเต่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพราะเหนียวตัวจะเเย่เเล้ว วันนี้
"พ่อคะเเม่คะ หนูขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
"จ๊ะ เดียวลงมาช่วยเเม่เปลี่ยนของทำกับข้าวหน่อยนะลูก"
"ได้คะเเม่ รอหนูเเบปนึงนะคะ"
"จ๊ะ ลูกรัก" เเม่ได้กล่าวยิ้มๆกับฉัน ก่อนที่ฉันจะขึ้นห้องนอนของตัวเอง
"สดชื่นจังเลย ลงไปทานกับกับพ่อแม่ดีกว่า" คิดได้หญิงสาวก็วิ่งลงบันไดมาหาพวกท่านที่นั่งรอกันอยู่แล้ว
" วันนี้มีแต่ของโปรดลูกกับแม่ทั้งนั้นเลยนะ พ่อให้ป้าสมศรีเค้าทำสุดฝีมือเลยนะ เอาๆลองดูลองดู"
"ว้าว น่ากินทุกอย่างเลยคะป้าศรี" ป้าสมศรีได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคำชม ขอคุณหนูประจำบ้านด้วยความปลื้มใจในเมนูอาหารทึ่เลือกทำวันนี้
"อร่อยทุกอย่างเลยคะ" ทานไปก็ได้แต่ชมไม่ขาดปากจากสาวน้อยที่น่ารักของป้าศรี ที่เธอจะพูดให้ป้าศรีของเธอตัวลอยในทุกวันๆในเรื่องการทำอาหาร
" แม่คะพ่อคะ วันนี้หนูชวนเพื่อนที่พึงจะกลับจากต่างประเทศมาที่บ้าน จะมีปาร์ตี้กันนิดหน่อยนะคะ"
"ได้ สิจ้ะลูก" แม่เล็ก กล่าวอนุญาตเพราะท่านมองว่าลูกสาวโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เเละเป็นการกินเลี้ยงปาร์ตึ้กันในบ้าน
"อ่อ! แล้วจะให้ ป้าศรีเตรียมอาหารไว้ให้เลยไหมคะคุณหนู" ป้าศรีกล่าว
" ไม่เป็นไรคะป้าศรี เดียวพวกหนูช่วยกันทำแล้วกันคะ ไม่รบกวนป้าศรีดีกว่าคะ" ฉันพูดจบก็ได้แต่มองหน้าป้าศรีว่าท่านจะน้อยใจหรือโกรธฉันหรือเปล่า
"ได้คะคุณหนู แต่มีอะไร ที่อยากให้ป้าช่วยบอกป้าว่าได้เลยนะคะ" ป้าศรีกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
" ขอบคุณนะคะ ป้าศรี" ฉันได้แต่โล่งใจที่ป้าศรีไม่ได้น้อยใจฉัน
เมื่อใกล้ถึงเวลา ปาร์ตี้เพื่อนๆต่างทยอยกันมา จนครบทุกคน ในบรรดาเพื่อนสนิทและเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกัน
" เป็นไงบ้าง ยัยนิดะยัยจิลด์ ไปอยู่เมืองมาเสียนาน สบายดีไหม" ฉันได้ถามไถ่เพื่อนด้วยความคิดถึงเพราะไม่เจอกันนาน
"สบายดีแก แล้วแกกับยัยยูริเป็นไงบ้าง" เมื่อพูดถึงยัยยูริที่มาไม่ได้เพราะต้องไปงานการกุศลกับพ่อแม่ฉันก็ได้แต่เซ็งเพราะไม่บรรดาเพื่อนตั้งหมดยัยยูริเป็นคนที่ค่อยเอ็นเตอร์เทนเพื่อนๆดีที่สุด
" เรื่อยๆอ่ะแก วันนี้ไปห้างก็เจอ อีตาโรคจิตด้วยอ่ะแก อยากให้แกเห็นน่ามากเลยอ่ะ"
เมื่อทานอาหารและคุยกันได้ที ก็เริ่มเหล้ากันแล้วฉันจึงได้ นายสมหมายลูกชายป้าสมศรีขับรถไปส่งเพื่อนที่กลับเองไม่ไหวเพราะกินไวน์เข้าไป
"สมหมายฝากสั่งเพื่อน ฉันให้ครบและปลอยภัยทุกคนด้วยนะ เข้าใจไหม อย่าให้เพื่อนฉันเป็นอันตรายเด็ดขาด ไ่ม่ไงนายตายแน่" ฉันสั่งนายสมหมายจบก็ขึ้นไปอาบน้ำนอน ในข้างที่ยังรู้สึกเมาอยู่ก็ได้หลับไปทันทีที่หัวถึงหมอนใบนุ่มนิ่มของตัวเอง
มิกิ ตื่นขึ้นมาในเวลาค่อนดึก เธอยังเบลอๆอยู่เพราะฤทธิ์ไวน์ ที่ดื่มเข้าไป มิกิได้เเต่คิดแล้วกุมขมับ มันปวดหัวเอามากๆ มิกิหิวน้ำ คอแห้งจนทนไม่ไหว จึงลุกขึ้นมาจากที่นอนนุ่ม เพราะไวน์ที่ดื่มเข้าไปมากที่ให้มิกิรู้สึกเหมือนตัวเธอเองลอยไปในอากาศเสียยังนั้น
หญิงสาวเดินเซหน่อยๆ ไปเปิดประตูห้องและเดินออกลงไปยังห้องครัวชั้นล่างเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่ม นัยต์ตาหรี่ปรือและหนักอย่างบอกไม่ถูก เธอเปิดประตูตู้เย็นและริมน้ำดื่ม ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างแล้ว แต่หญิงสาวหารู้ไม่ว่ามีราชสีห์ตัวใหญ่ก็ในบ้านของเธอด้วย ณ ค่ำคืนนี้
"มาทำอะไรดึกๆน่ะครับ ยัยตัวเล็ก" เสึยงห้าวทุ้มคุ้นหูดังขึ้น มิกิมองเจ้าของเสียง ศิลป์ชัยยืนพิงประตูมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก ขณะมองกวาดไปทั่วร่างคนตัวเล็กที่เค้ากอดไปวันนี้ในชุดนอนผ้าซาตินวาบหวิวสีแดงสด ช่างขัดกับผิวขาวอมชมพูของคนร่างเล็กเสียจริงๆ แต่มองยังก็เธอก็ยังเด็กสำหรับเขาอยู่ดี เพราะผมยาวรุ่ยร่ายยุ่งเหยิง ยิ่งมองแบบนี้ เธอก็ยิ่งเหมือนเด็กสาว ศิลป์ชัยมองก่อนจะลอบถอนใจ อืม... เขาจะต้องรอไปอีกนานแต่ไหนนะ
"มาหาน้ำดื่มคะ" มิกิตอบขณะที่เก็บขวดน้ำไว้ที่เดิม เธอเองครึ่งหลับครึ่งตื่นพิกลเมื่อใบหน้าคมเข้มของศิลป์ชัย หญิงสาวก็รู้สึกคุ้นเคยกับหน้านี้มากๆ เมื่อเธอจำได้ในความคิดที่จะหลับไปนั้น เธอจึงได้แต่ สงสัยว่า นายโรคจิตมาอยู่ในบ้านของเธอได้ไง
"เธอจึงจะด่า นายโรคจิตที่เธอเห็นตรงหน้าแต่ความครึ่งหลับครึ่งตื่นทำให้เธอคิดว่าเห็นภาพหลอนไป
" ฉันเนี้ย ชักจะบ้าตามนายนั้นไปแล้วแน่ๆเลยที่มาเห็นว่านายนั้นอยู่ในบ้างฉัน" หญิงสาวจึงตัดสินใจจะเดินสวนเขาออกจากห้องครัวแต่มือใหญ่แข็งแรงก็ยึดมือนิ่มเอาไว้เสียก่อน สัมผัสที่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากศิลป์ชัย ทำให้หญิงสาวรู้สึกมีความสุขขึ้นมา
ศิลป์ชัย มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ก่อนอมยิ้ม ทำให้มิกิว่าเค้าให้ปล่อยมือจากเธอเสีย
"รู้ไหมว่าคนกลัวกลัวมากขนาดไหน?" เหมือนพูดเเลเวหยุดไม่ได้ ศิลป์ชัยมองเธออย่างเอ็นดู ก่อนจะมองริมฝีปากจิ้มลิ้ม
"แล้วกลัวพี่มากไหม"
"กลัวมากสิคะ" มิกิยอมรับตรงๆ "นายดูเหมือนคนโรคจิตและดูดุมากๆเลย แต่ก็รู้สึกอบอุ่นด้วย ฉันโตพอที่จะเขเาอะไรพวกนี้"
"ยังหรอก น้องมิกิเพิ่งจะสิบเจ็ดสิบแปดเอง ยังเด็กอยู่เลย" ศิลป์ชัยเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองบ้าง กำแพงด่านแรกที่เขาไม่กล่าวมีท่าทีกับเธอมากนัก ก็เพราะช่องว่างระหว่างวัย และความคิดว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่นั่นเอง
" ไม่เด็กเเล้ว โตแล้ว" มิกิเถียง
" อืม... ถ้าอย่างนั้นพี่อยากรู้ว่าเราโตมากขนาดไหนแล้ว"
ชายหนุ่มตวัดร่างบางเข้ามาในวงแขนอย่างลืมตัวเพราะอารม์ที่พาไปในห้วนความรู้สึกที่มีเกินการควบคุมบางอย่าง เข้าครอบงำ มิกิอ้าปากที่ว่าชายหนุ่ม ก็ต้องตกใจ เหมือนชายหนุ่มกระซิบแนบลงมาริมฝีปากนุ่มสีเเดงชมพูของหญิงสาว ริมฝีปากได้รูปของเขาประทับมาที่ริมฝีปากของเจ้าร่างเล็กความหวานที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นไวน์และรสชาติของไวน์ชั้นดีที่ยังลงเหลืออยู่
ชายหนุ่มยังคงบดเคล้าริมฝีปากลงมาแนบแน่น เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวไง้ทั้งตัว แต่ก็เหมือนเริ่มแล้วไม่อาจจะหยุดยั้งได้ มิกิตาหรี่ปรือหัวใจตื่นอย่างประหลาดกับสิ่งที่เขาเสนอให้ ทำให้สาวน้อยตัวเล็กแทบยืนไม่อยู่ต้องเกาะร่างเขาไว้เป็นหลัก ศิลป์ชัยจูบแล้วจูบเล่า มิกิมีความรู้สึกเหมือนกึ่งฝันกึ่งจริง ทำให้หญิงสาวถึงกับมึนงง และวาบหวามในใจ
ศิลป์ชัย ได้แต่ตัดสินใจ หยุดการกระทำให้ครั้งนี้ของเขาไว้ เมื่อตัดสินใจละจากริมฝีปากนุ่ม ที่ตอนนี้มีเลือดไหลซึมออกมาด้วยความร้อนเเรงจากการจูบของชายหนุ่ม เขาไล้มือไปทั่วใบหน้าของมิกิ ที่มองเขาด้ววตาที่หรี่ปรือจนแทบจะหลับไปในอ้อมแขนของเขาเสีนเเล้วตอนนี้ หญิงสาวพึมพำเบาๆ ทำให้คนฟังอดหัวเราะไม่ได้
"มิกิฝันไปใช่ไหม ฉันฝันไปหรือเปล่า"
"เดียวพี่ไปส่งที่ห้องนะ" ศิลป์ชัยได้แต่อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมเเขนแกร่งของตัวเองเเล้วพามิกิ กลับไปส่งที่ห้องนอนของเธอตามเดิม
^^^#โปรดติดตามตอนต่อไป^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments