ในเมื่อเป้าหมายมีไว้พุ่งชนก็อย่าไม่หยองกับมัน มีเท่าไหร่ใส่ให้สุด ผมจึงตวัดขาฟาดก้านคอเด็กที่ดีลมาเสียจนสลบ แล้ววิ่งแจ้นออกมาจากโรงแรมราคาสบายกระเป๋า
แต่เช็คแล้วนะว่ายังมีลมหายใจอยู่ยังไม่ตาย พร้อมวางเงินค่ารักษาพยาบาลและก็ค่าเสียเวลาไว้ให้เสร็จสรรพ เท้าความก่อนเลยว่ากว่าผมจะมาอยู่ตรงนี้ได้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ผมถึงกับบากหน้าด้านๆไปถามคู่นอนเก่าๆที่ยังคงความสัมพันธ์อันดีกันอยู่ ถึงวีธีต่างๆที่ฝ่ายรับต้องทำ
อาจจะถูกสายตาแปลกๆมองฟาดเข้ามาอย่างหาคำตอบแต่คนอย่างผม ก็บอกไปเลยสิครับจะไปกลัวเหี้ยอะไร นี่ว่าพีคแล้วยังมีกว่านี้เพราะคู่นอนเก่าของผม ไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจเลย ยังสนับสนุนเต็มที่แถมบอกอีกว่า 'ค้นพบตัวเองแล้วสินะ' อะไรของพวกเธอกันครับ อย่าทำเป็นรู้ดีนักจะได้มั้ย กอดอกแล้วนะๆ
อดีตคู่นอนสอนวิธีเตรียมตัวให้ผมอย่างละเอียดแทบจะทำกันให้ดูจะๆด้วยซ้ำ แถมยังใจดีซื้อพวกของเล่นเซ็กส์ทอยต่างๆให้อีกสารพัด ก็ดีใจอยู่หรอกแต่มันก็ทะแม่งๆอยู่นะ แต่ก็รับเอาไว้เดี๋ยวจะเสียน้ำใจเปล่าๆ
ก่อนจะไปก้านคอเขาสลบผมก็เตรียมตัวไปอย่างดีแหละ ทุกอย่างมันดูโอเคหมดเลยนะแต่มาติดตรงตอนที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ผมไม่โอเคเลย มันรู้สึกขยะแขยงจนไรขนอ่อนทุกเส้นลุกทั่วทั้งตัว คนที่ผมดีลมาเข้าก็พยายามปลอบโยนผมแล้วนะ แต่ผมก็โยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี
จนต้องมาเดินทอดน่องห่อเหี่ยวอยู่นี่ไง
เหมือนชีวิตนี้ไม่รู้จะไปไหนแล้ว จึงได้มานั่งแหมะอยู่ที่ร้านราเมงของเพื่อนตี๋ ดูเหมือนเจ้าของร้านก็จะชินเสียแล้วที่เห็นผม ตี๋ยกถ้วยราเมงมาเสิร์ฟให้ผม หวังว่าของอร่อยจะเยียวยาผมได้บ้าง และก็เป็นดั่งหวัง เมื่อเพื่อนดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีที่ซดน้ำราเมงเพียงตั้งแต่คำแรก จนตี๋อดภูมิใจในฝีมือการทำอาหารของภรรยาไม่ได้ ยืนยิ้มหน้าบานจมูกบาน ก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดภรรยาเต็มรักจนบรรยากาศล้อมรอบไปด้วยสีชมพูพาสเทล
"โอ๊ยย ร้อนๆๆ ร้อนฉิบหาย ลิ้นสุกแล้วมั้งไอ้เวรเอ้ย" เพราะมัวแต่เหม่อลอย เพื่อนเอาของมาให้กินก็สวบเข้าปากเลย โดยไม่เอะใจว่ามันจะร้อนหรือไม่ สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น
ไอซ์อ้าปากแลบลิ้นห้อย จ้วงก้อนน้ำแข็งในแก้วถูลิ้นหวังให้คลายความแสบร้อน แต่ดูมันจะไม่ได้ผลเลยสักนิด ปลายลิ้นบวมพองจนเสียอรรถรสในการกิน จึงเลื่อนถ้วยราเมงออกห่างอย่างนึกเสียดาย
นั่งไหลตัวฟุ่บหน้าบนโต๊ะตาละห้อย เหมือนสุนัขที่รอคอยเจ้าของแต่ก็ไม่ยอมกลับมาหากันสักที ตี๋ผละจากภรรยาแล้วมองอย่างเหนื่อยอ่อนใจ ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน จนปัญญาแล้วจริงๆ ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาต่อสายตาใครสักคน
ช่วงบ่ายร้านราเมงไม่ค่อยมีคน พอมีเสียงเปิดประตูขึ้นจึงอดหันไปมองไม่ได้
"เป็นไง ไหนบอกหมอสิ" คลื่นเดินเข้ามาก็ส่งเสียงทักทายกันทันที เพราะไม่มีลูกค้าจึงไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนใคร คนในร้านก็รู้จักมักคุ้นกันอยู่แล้ว
"มึงไม่ใช่หมอ หุบปากไปเลยไอ้ควาย" ไอซ์ที่เลื้อยไหลไปกับโต๊ะเอ่ยปากสวนเพื่อน ที่ตอนนี้เป็นดาราหน้าใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของวงการ
"ต่อปากต่อคำได้แบบนี้ มึงไม่น่าโทรตามกูมาเลยไอ้ตี๋" คลื่นหันไปเหวใส่เจ้าของร้านราเมง ตี่ทำปากมุบมิบคล้ายเอ่ยกระซิบไร้เสียงให้รู้กันสองคน
"ติดควยไอ้ไคเหรอวะ" พอรู้ความจนกระจ่างก็เอ่ยถามสไมล์สีน้ำเงินทันที จนคนโดนถามดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรง
"ติดเหี้ยอะไร กูยังไม่ได้กัน ปากมึงเนี่ยนะ พูดแต่เรื่องเหี้ยๆ"
"ก็เหมือนมึงนั้นแหละ แล้วถ้าไม่ติดควยมันมึงจะมีสภาพงี้เหรอ" ไอ้เวรนี่มันฟังไม่รู้เรื่องหรือไงวะ ก็บอกว่าไม่ได้ติด ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ
"ด่ากูในใจอยู่ล่ะสิทรงนี้" เออ รู้ก็ดี ได้แค่ด่าในใจแต่ส่งสายตาค้อนเคืองไปให้อย่างไม่ปิดบัง
"ก็ไปหามัน แล้วก็ให้มันเย็ดจบๆไป ติดใจก็เอาต่อ ไปโดนก็เขี่ยทิ้ง จะคิดมากทำไม" แหม พูดง่ายฉิบหาย มึงไม่ใช่คนโดนนี่ก็พูดได้ดิ แล้วถ้าไม่ใช่ไอ้ไคผมก็ไม่เครียดอยู่แบบนี้หรอก อยากปลดปล่อยแต่ก็ไม่อยากปลดปล่อย
"แต่กูข้องใจ มึงพิศวาสอะไรมันวะ สมัยเรียนก็ไม่ชอบขี้หน้ามันออกขนาดนั้น" อย่าว่าแต่มึงที่ข้องใจ กูเองก็ไม่ต่าง และไม่มีทีท่าว่าจะหาคำตอบได้เลยด้วย
"ฟังกูนะไอซ์ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ปวดหัวเปล่าๆ เกิดมามีชีวิตเดียวใช้ให้คุ้ม เชื่อกู!" เพราะกี่คนแล้วที่เชื่อคนอย่างมึง สภาพแต่ละคนก็คือ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันครับ
...***...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 33
Comments
zin(เลิกเล่นแล้วค่ะ)
ฮิฮิ
2022-06-21
1