Who'S Your Master

Who'S Your Master

บทที่1

เรียนที่เดียวกันตั้งหลายปียันตอนนี้จบการศึกษาแล้ว ก็ไม่เคยเห็นมันอยู่ในสายตามาก่อน จนกระทั่งเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วได้ไปเจอกันโดยบังเอิญที่ร้านเหล้า เพราะไม่ได้รวมตัวกันยกก๊วนครบแก๊งมานาน ต่างคนต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ และวันนั้นเป็นวันที่ทุกคนว่างพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย

เลยตัดสินใจรวมก๊วนก๊กเหล้ากันที่ร้านประจำสมัยเรียน ซึ่งเป็นร้านที่เข้าได้เฉพาะเด็กมหาลัยนี้เท่านั้น ก่อนจะเข้าต้องชูบัตรแสดงตัว หากใครไม่มีแล้วทำเนียนมาเข้า บอกเลยว่า โดนตะเพิดกลับบ้านแทบไม่ทัน

หมอนั่นดูดีขึ้นมาก หรืออาจจะดูดีแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วก็ได้ เพราะไม่กินเส้นกันเลยไม่ได้ใส่ใจล่ะมั้ง

ในวันนั้นผมบังเอิญเห็นมันจูบอย่างดูดดื่มกับสาวสวยหุ่นสะบึ้มในร้านนั้น จูบดูดดื่มอย่างไม่อายใคร คงเป็นปกติของมันอยู่แล้ว วีรกรรมสมัยเรียนน้อยเสียเมื่อไหร่

และตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ทำผมคิดไม่ตก ไม่สามารถโยนเรื่องของมันออกไปจากหัวได้เลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็พาลนึกถึงเรื่องมันขึ้นมาเสียให้ได้ จนไม่เป็นอันทำอะไร ดีหน่อยที่ผมยังว่างงานและคงจะอีกนานเลยล่ะกว่าจะเข้าสู่สังคมวัยทำงานแบบเพื่อนคนอื่นๆ เพราะคุณพ่อคุณแม่บังเกิดเกล้าไม่อยากให้ลูกชายคนเล็กเหนื่อย โดยที่ผู้เป็นพ่อพูดกับลูกชายคนนี้ว่า ' ไม่ต้องทำห่าอะไรเลยก็ไม่อดตาย พ่อมึงรวยออกขนาดนี้' ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงจะพากันเบ้ปากมองบนจนลูกตากลิ้ง แต่เพราะคนพูดคือเจ้าสัววิวัฒน์ จึงไม่มีใครคัดค้าน

ทุกคนในบ้านเลี้ยงดูผมเหมือนกับเป็นทารกตัวน้อยๆ เผลอๆอยากจะป้อนข้าวใส่ปากให้กันเหมือนครั้งยังเยาว์ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงได้ง่อยแดกเข้าสักวัน

ผมหยัดกายลุกขึ้นไปยังห้องน้ำกว้างใหญ่ เปิดน้ำจากฝักบัวปล่อยให้อาบรดเรือนกายตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ปล่อยให้น้ำไหลอาบรดกายไปเรื่อยๆ คล้ายอยากจะให้ความคิดฟุ้งซ่านไหลไปตามสายน้ำที่เหือดหายไปตามท่อระบาย

...

ถึงจะยังไม่ได้ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ผมก็ยังทำอะไรบ้างแก้เบื่อ ลงทุนสร้างห้องสตรีมเสียใหญ่โตซึ่งคนที่สร้างให้กันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็เจ้าสัววิวัฒน์นั่นแหละ ทั้งห้องทั้งอุปกรณ์ต่างๆครบครันคงหมดไปไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลักแน่ๆ แต่เงินแค่นั้นขนหน้าแข้งอย่างเจ้าสัววิวัฒน์ไม่ร่วงหรอก

เพราะไม่ได้ออกไปพล่านที่ไหนเลยหมกตัวอยู่ในห้องเล่นเกมมันแม่งทั้งวัน มีหัวอุ่นอยู่บ้างที่ต้องทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บขยะ เวลาเพื่อนร่วมทีมเล่นไม่ได้ดั่งใจ สิงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ยันเย็นย่ำจนคุณแม่ขึ้นมาเคาะประตูเรียกไปกินข้าวด้วยตัวเอง

"พี่ไอซ์ครับ ได้เวลากินข้าวแล้วครับ" ผมรีบตอบกลับและบอกลาเพื่อนๆในเกมอย่างไวเพราะไม่อยากให้คุณแม่คอยนาน และจบการสตรีมเพียงเท่านั้น คนที่ซัพช่องผมดูท่าจะกระเป๋าหนักไม่น้อย โดเนทแต่ละทีถึงกลับกลืนน้ำลายดังอึก มีเงินลงขวดเหล้ากับชาวแก๊งแล้วครับ แลดูไม่เหมือนลูกเจ้าสัวเลยเนอะ

...

วันนี้ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ (สิบเอ็ดโมง) เพราะมีนัดกับเพื่อนที่เปิดร้านอาหารวันนี้เป็นวันแรกเลยว่าจะไปแสดงความยินดีสักหน่อย ของติดไม้ติดมือไว้ค่อยไปหาข้างหน้า จะไปมือเปล่าก็ไม่มีใครว่าหรอก แต่มันก็ดูไม่ดีไง

ใช้เวลาทำกิจวัตรส่วนตัวอยู่ร่วมเกือบชั่วโมงก็วิ่งลงบันไดมายังชั้นล่าง

"ทานข้าวต้มมั้ยคะ ป้าอุ่นรอไว้แล้ว" แม่บ้านเก่าแก่ของตระกูลเลยถามทันทีที่คุณชายเล็กลงมา

"จัดมาเลยครับป้า" จะปฏิเสธก็ได้ยังไงก็ต้องออกไปกินที่ร้านเพื่อนอยู่แล้ว แต่ก็กลัวป้าเขาจะเสียใจเปล่าๆ อุตส่าห์รอเขาลงมา แทบยังอุ่นรอแล้วด้วย กินสักหน่อยแล้วกัน ป้าเขาจะได้ไม่ห่อเหี่ยวเป็นต้นไม้รากขาดซะก่อน

...

กว่าจะฝ่าฝูงมดเหล็กที่เรียงตัวยาวเยียดบนท้องถนนมายังที่หมายได้ก็ปาเข้าไปบ่ายสองหน่อยๆ ไหนจะต้องเดินหาซื้อของฝากติดไม้ติดมืออีกก็ล่วงเลยไปยันบ่ายสี่ เสียเวลาเดินวนหาร้านที่ต้องการอยู่หลายรอบก็ไม่เจอ จนต้องเข้าช็อปรองเท้ากับพวกเครื่องสำอางค์แทนไปก่อน

แล้วตรงดิ่งมายังร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ทันที เพราะไอ้ตี๋ไปได้เมียญี่ปุ่นเข้าน่ะสิ แล้วสาวเจ้าก็วาดฝันไว้ว่าอยากมีร้านราเมงเป็นของตัวเอง และนี่คงจะเป็นของขวัญแต่งงานให้ยอดดวงใจของมันไม่ผิดแน่

ประตูร้านราเมงหมาดๆถูกเปิดออกขว้างด้วยฝีมือลูกชายคนเล็กของเจ้าสัววิวัฒน์ แต่พอเข้ามาในร้านได้ไม่กี่ก้าวขนสีน้ำเงินก็ชี้ฟูหูตั้ง เมื่อเจอกับคนที่ไม่อยากเจอเป็นที่สุดเข้า

รู้งี้แวะร้านขายแมวกวักก็ดีแหละ

รีบมาก็เจอไอ้เวรตะไลนี่จนได้

จะสาวเท้าหมุนตัวกลับตอนนี้ก็คงจะไม่ทันเสียแล้วเมื่อเพื่อนอย่างตี๋รู้ถึงการมาของเขาแล้วน่ะสิ

"อีกนิดก็เกือบปิดร้านแล้วมั้ย"

"ห้างปิดตั้งดึก มึงจะรีบปิดร้านไปกกเมียหรือไง"

"ก็เออสิวะ ข้าวใหม่ปลามันไม่รู้เหรอ" เบื่อจริงไอ้คนหลงเมีย อย่าให้มีบ้างแล้วกันจะอวดแม่งทุกวันจนเอียนไปข้าง

ตี๋พาผมมานั่งรอก่อนแป๊ปนึงแล้วยกชามราเมงฝีมือศรีภรรยาจากแดนอาทิตย์อุทัยมาเสิร์ฟตรงหน้า ควันสีขาวลอยฟุ้งเหนือถ้วยราเมง กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอจนพร้อมใจพรั่งพรู ไม่ต้องรอให้เพื่อนตี๋เลยปากบอกให้ทาน ก็ได้ยินเสียงซูดดูท่าจะถูกปากไม่น้อย

"เสน่ห์ปลายจวักเมียมึงก็ใช่เล่นอยู่นะ" นั่นปะไร ยังพูดไม่ทันขาดคำก็เอ่ยชมเมียเพื่อนอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ทานของอร่อย

" แต่อย่าคิดตีท้ายครัวกูเชียว มีดโต้ในครัวจะปักกบาลมึง"

"แหม ชมนิดชมหน่อยทำเป็นหวง กูไม่เล่นของเพื่อนก็รู้นี่หว่า ว่าแต่มึงไปสนิทสนมกลมเกลียวกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ถามคลายความสงสัยกันไปเลย ผมกับเพื่อนไม่ค่อยจะถูกกับกลุ่มมันเท่าไหร่ ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร แต่เจอกันเป็นไม่ได้ มันเป็นต้องพุ่งเข้าสวนกำหมัดกันสักตุ้บสักตับ

" ก็นานแล้ว ตอนเรียนก็คุยกันบ้าง มันนิสัยดีนะ แค่หน้าตามันชวนหาเรื่องไปหน่อย ปากหมาไปนิด" เออจริง ไม่เถียง หน้าตาวอนโดนเบื้องล่างแปะหมับที่หน้า

"มึงก็ลองเปิดใจดู ไปช่วยเมียหลังร้านก่อน เดี๋ยวมาคุยด้วย"

เปิดจงเปิดใจอะไรล่ะ ไม่เรียกเปิดแล้วมั้งตกหลุมไปทั้งตัวแล้วแหละกูว่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ผมเคยคิดว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรมันต้องมีเหตุผลมารองรับได้เสมอ แต่กลับเรื่องนี้หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่ก็แปลกพอได้เผลอใจไปชอบแบบงงๆ ก็ดันเจอกันง่ายเหลือเกิน บทจะเจอก็เจอกันเฉย เหมือนอยู่เส้นโคจรเดียวกันเสียอย่างนั้น ซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยมาปะจบกันเลยแท้ๆ

...

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกเหมือนถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา เลยทำทีหันมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนปะทะเข้ากลับสายตาจากไอ้คนผมสีน้ำเงิน สีหน้าดูเอาเรื่องมองมาทางเขาตลอดไปหันไปทางไหน แต่จะให้เขาไปถามไถ่ก่อนว่า 'มึงข้องอะไรกับกู' ก็ไม่เอาหรอก ถ้าข้องมากก็เป็นฝ่ายเข้ามาหาเองสิ คนอย่างเขาไม่ลดตัวไปคุยก่อนแน่นอน จะเรียกว่าศักดิ์ศรีค้ำคอ ก็ได้แหละมั้ง

เพราะอึดอัดกับการโดนจับจ้อง ซึ่งปกติก็เจออยู่แล้วแต่ไม่เคยมีใครมองมาอย่างเปิดเผยขนาดนี้เหมือนกัน เหมือนกับไม่รู้จักเก็บสายตา จึงทำทีเดินเข้าห้องน้ำของร้านราเมงตัดความอึดอัดนั้นเสีย

แต่แล้วเพียงชั่วอึดใจ เจ้าของเรือนกายที่มองมาอย่างสร้างความอึดอัดเมื่อครู่ก็เดินตามเข้ามา เสียงน้ำจากก๊อกดังขึ้น มือเลื่อนถูไถเอื่อยเฉื่อยจนเปียกชุ่ม ก่อนจะปิดก๊อกแล้วไปจ่อกับที่เป่าลมให้มือแห้ง ทุกความเคลื่อนไหวดูเอื่อยเฉื่อยคล้ายจงใจ จนคนที่เข้ามาก่อนแทบจะหลุดปากโพล่งถามอย่างหยาบคายอยู่ร่อมร่อ

แล้วสายตาเฉียบคมก็เห็นอะไรบางอย่างนูนเด่นจนสะดุดตา จนเกิดเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ

"มองกูแล้วเงี่ยน?" คนถูกทักอย่างหยาบคายชะงัก

"มึงพูดส้นตีนอะไรไอ้ไค" เถียงกลับคอเป็นเอ็นถึงแม้สิ่งที่อีกคนพูดจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ไม่รู้ว่ากลไกของร่างกายทำงานผิดพลาดหรือเปล่า จนทำให้อวัยวะเบื้องล่างเกิดปฏิกิริยาเพียงแค่มองหน้าไอ้เวรตะไลนี้

"ฮึ แข็งจนนูนเด่นขนาดนั้นยังเฉไฉ" เจ็บใจที่เถียงมันไม่ได้ และก็ไม่รู้จะเดินตามมันมาทำไม นั่งซดน้ำราเมงอยู่ตรงนั้นก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ

!!!

เมื่อฝ่ามือร้อนระอุเอื้อมมากอบกุมส่วนอ่อนไหวที่นูนเด่นจนกางเกงแทบปริขาด คนโดนสัมผัสอย่างไม่ทันตั้งตัวก็สะดุ้งเฮือก เนื้อตัวสั่น ตัวแทบไหลเหลวไปกองกับพื้น แต่ต้องกัดฟันสู้จะให้มันรู้ไม่ได้ว่ารู้สึกดีจนตัวอ่อนระทวย

"แฉะแล้วนะ เงี่ยนมากเลยเหรอ" นิ้วหัวแม่มือกดวนตรงส่วนหัวผ่านเนื้อผ้า จนรู้สึกถึงความเปียกแฉะที่ปลายนิ้ว แค่นั้นก็จะตัวเหลวลงไปกองที่พื้นอยู่แล้ว ทำไมต้องมากกระซิบใกล้ๆหูด้วยวะ แบบนี้มันโคตรขี้โกงเลยนะไอ้สันดาน

ยิ่งถูกสัมผัสส่วนนั้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตัวอ่อนตัวเหลว จนต้องค้ำมือกับอ่างล้างมือตรงหน้า

"คราวหลังถ้าเงี่ยนมาก ก็ไปหาดูได้ทุกเมื่อ" พูดจบก็แสยะยิ้มอย่างคนเหนือกว่ามาให้ก่อนจะหายออกไป ทิ้งให้ลูกชายเจ้าสัววิวัฒน์ยืนแข้งขาอ่อนอยู่ตามลำพัง

มั่นควยเกินไปหรือเปล่า ใครเขาอยากจะได้ของมึงกัน!

...***...

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง และมีการใช้คำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หนุ่มสาวชาวทุ่งดอกไม้สีม่วง ใจเซาะทนอ่านไม่ไหวกดปิดไปนะคะ

จุ๊บมั๊วะ!

ฮอต

Comments

seventeen%

seventeen%

ไรท์เขียนนิยายน่าอ่าน น่าติดตามมากๆๆ

2023-04-11

2

มายตะโฟนนี่

มายตะโฟนนี่

น่ารัก

2023-03-24

1

H:)PPY

H:)PPY

สนุกมากๆเลย😸

2023-03-18

2

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!