ฟางเหม่ยหลิง เจ้าหัวใจจอมบัลลังก์

ฟางเหม่ยหลิง เจ้าหัวใจจอมบัลลังก์

ดาราสาวสุดฮอต

ณ คฤหาสน์สุดหรูใจกลางกรุง ภายในคฤหาสน์ที่โต๊ะอาหาร กำลังมีบุรุษวัยกลางคนดูน่าเกรงขาม มีแววเป็นผู้นำสูง กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่อย่างสบายอารมณ์ ป้าแจ่มซึ่งเป็นหัวหน้าแม่บ้าน เดินถืออาหารเช้า เข้ามาวางลงที่โต๊ะอาหาร พร้อมรินกาแฟให้ผู้เป็นนายอย่างระมัดระวัง ผู้เป็นนายและเป็นเจ้าของคฤหาสน์ วางหนังสือพิมพ์ลงช้าๆ ก่อนจะหันไปดูที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่เห็นลูกสาวคนสวยที่ปกติจะนั่งตรงนั้นที่ประจำของเธอ เหมือนเช่นเคย

 

     " ป้าแจ่ม ยัยหนูละ''

     เขาหันไปถามแม่บ้านประจำคฤหาสน์ที่กำลังวุ่นกับการจัดวางอาหารบนโต๊ะ 

 

     "คุณหนู ยังไม่ตื่นเลยคะท่าน ให้ดิฉันไปปลุกไหมคะ " 

     แม่บ้านประจำคฤหาสน์ เตรียมเดินไปตามคุณหนู ที่อยู่ห้องด้านบน

 

     "ไม่ต้อง เดี่ยวฉันไปปลุกเอง"

     เขาวางหนังสือพิมพ์ลง ก่อนจะเดินขึ้นไปห้องของลูกสาว ที่อยู่ริมทางซ้ายสุดของคฤหาสน์ ยืนเคาะประตูอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาเลยหมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องนอน ซึ่งปกติลูกสาวของเขาจะไม่ล็อคประตูอยู่แล้ว เมื่อเดินไปในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างน่ารักมีตุ๊กตาวางบนหัวเตียงเต็มไปหมด  จึงเดินไปเขย่าคนที่นอนซุกตัวในผ้าห่ม ที่กำลังยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว คล้ายกำลังฝันดี

 

     "มิลลี่ มิลลี่ ตื่นได้แล้วลูก"

     'โอ้ยกำลังฝันหวานอยู่เลย ใครกัน กล้าปลุกเธอเนี่ย '  

     เธอพยายามลืมตาอย่างงัวเงียเจือด้วยอารมณ์โมโห จะลุกขึ้นมาด่า คนที่มันกล้ามาปลุกให้ตื่นจากฝันหวาน แต่ก็ต้องหยุดชะงักคำด่าไปทันที เมื่อเพ่งมองชัดๆ ขยี้ตาสองสามที คนที่ปลุกเธอ คือ คุณพ่อของเธอเอง ส่วนเธอก็คือ มิลลี่ เมลานี เศวสกุล ดาราสาวแสนสวยสุดฮอต นางเอกเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิง ลูกสาวคนเดียวของเจ้าพ่อ แก็งมังกรหยก ผู้ซึ่งมีธุรกิจมากมายหลายอย่าง ทั้งขาวและเทา และมีอิทธิพลอยู่ในขณะนี้ ใครๆ ก็ต่างให้ความเคารพ ยำเกรง ในอิทธิพลของพ่อเธอกันทั้งนั้น เธอเองที่เป็นลูกสาวนั้นก็รักและให้ความเคารพพ่อของเธอเองเช่นกัน

 

     "ป๊ะป๋าค่ะ ปลุกหนูทำไมแต่เช้าค่ะเนี่ย กำลังฝันหวานอยู่เลย"

 

     "เช้าอะไร นี่มันสายมากแล้วนะ ไหนลูกบอกว่าวันนี้มีงาน 

     ดาราฮอตฮิตอวอร์ดล์ ที่ลูกต้องไปร่วมงานไง แล้วนี่ จะไม่ไปแล้วหรอ"

 

     ''กรี๊ดดดดดดดด ''

     'ตายแล้ว เพิ่งนึกขึ้นได้ นี่เธอลืมไปได้ไงเนี่ย ต้องมาอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ต้องแต่งหน้าทำผมอีก ตายๆ จะสวยน้อยกว่า ยัยเชอรี่ไม่ได้ละ ปานนี้ยัยเชอรี่คงจัดหนักจัดเต็มประโคมสวยมาเต็มที่ละมั้ง '

     พอเธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีงานสำคัญก็กระโดดลุกจากที่นอนอย่างไว ทำเอาคนเป็นพ่อตกใจไปด้วย

 

    "ไปสิคะ หนูลืมไปเลย หนูขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ป๊ะป๋า ต้องรีบแล้วว" 

 

     '' เอาๆ ดูยัยลูกคนนี้ ขี้หลง ขี้ลืมจริงๆ ''

     ผู้เป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง ปล่อยให้ลูกสาวจอมขี้ลืม วิ่งวุ่นโทรตามคนนั้นคนนี้ให้มาหาเธอที่บ้านโดยด่วน

 

     เธอลงไปแช่ทั้งน้ำแร่และน้ำนม และให้สาวใช้ช่วยกันขัดๆถูๆผิวของเธอให้สะอาด เพื่อให้ผิวนั้นผุดผ่องเป็นหยองใยท้าแสงจากแฟลชกล้องคืนนี้ และเธอก็โทรเรียกช่างแต่งหน้าทำผมส่วนตัวมาที่บ้าน ช่างแต่งหน้าทำผมที่เธอจ้างมา ล้วนเป็นมืออาชีพชั้นแนวหน้าของวงการ ถ้าเงินไม่หนาพอไม่สามารถจ้างพวกเขามาเป็นช่างส่วนตัวได้ และถ้าไม่ใช่ลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอที่ทั้งสวยและรวยมากแล้วละก็อาจจะไม่มีปัญญาจ้าง เพราะช่างพวกนี้ล้วนแต่รับงานโดยดูจากระดับของลูกค้าเท่านั้น

 

     '' เจ๊ดาด้า พี่ชิพฟี่ ค่ะ วันนี้ช่วยจัดแบบว่า ให้สวยที่สุดเลยนะ เอาแบบว่า ยัยเชอรี่เนี่ย ดูซอพ ดูบ้านๆไปเลยอะคะ ''

     เธอบอกความประสงค์ แก่เจ๊ดาด้าช่างแต่งหน้า และพี่ชิพฟี่ช่างทำผมประจำตัว 

 

    '' รับทราบค่ะ คุณน้อง เดี่ยวเจ๊กับนางชิพฟี่จะจัดแบบ ชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลยนะคะ  รับรองคะว่าเจิดที่สุด''

     หลังจากที่ใช้เวลานานมากในการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมแล้ว เธอก็ยังใช้เวลานานมากในการแต่งหน้า ทำผม อย่างปราณีตที่สุด ด้วยฝีมือการบรรจงแต่งแต้ม ของมืออาชีพ ทำให้ตอนนี้เธอดูงดงาม ราวกับภาพวาดที่มีชีวิต มิลลี่มองดูตัวเองผ่านกระจกอย่างพึงพอใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับ เจ๊ดาด๊า และพี่ทิพฟี่ ด้วยความขอบคุณ

 

     ก่อนที่เธอจะบรรจงสวมใส่ชุดราตรียาวเกาะอกที่สั่งตัดเป็นพิเศษ สีเงินแวววาว พร้อมด้วยชุดเครื่องประดับที่ทำจากเพชรเข้าชุด ขนาดกระทัดรัดเหมาะกับตัว เสริมให้เธอดูงดงามราวกับนางหงษ์ เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จก็ออกจากห้อง ค่อยๆเดินนวยนาดลงจากบันไดทีละขั้น อย่างสง่างาม บรรดาสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดคฤหาสน์ ต่างหันไปมองเธอเป็นตาเดียว เธอส่งยิ้มให้กับทุกคนราวกับนางงาม ผู้รักเด็กก็ไม่ปาน ก่อนจะเดินมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย

 

     ''กรี๊ดดดดดด แอ็กก โอ้ยยยย''

     เธอลื่นล้ม ก้นกระแทกพื้น นอนแอ้งแม้ง หมดสภาพนางงาม ผู้รักเด็กเมื่อสักครู่ไปจนหมดสิ้น

 

     '' อ้าย ตายแล้วคุณหนู ''

 

    '' คุณหนูคะ ''

     สาวใช้ต่างพากันตกใจวิ่งเข้ามาช่วยกันประคองคุณหนูของตน 

 

     ''โอ้ยยย ''

 

     ''ไหวไหมคะคุณหนู ''

 

     '' ไม่เป็นไรคะ ป้าแจ่ม คนสวยมักซุ่มซ่ามคะ แฮะๆ ''

     มิลลี่ยิ้มกลบเกลื่อนด้วยความเขินที่เธอนั้นซุ่มซ่ามเป็นประจำ

 

     '' แน่ใจนะคะ ไปหาหมอดีกว่าไหมคะ ''

     ป้าแจ่มนั้นก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีจึงได้จับเธอหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อตรวจดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่

 

     '' ไม่เป็นไรจริงๆคะ แล้วคุณพ่อไปทำงานแล้วหรอคะ ''

 

     '' ท่านออกไปได้สักพักแล้วค่ะ ''

 

     "งั้นหนูไปก่อนนะคะ เดี่ยวเข้างานสายคะ ''

 

     '' เดินทางดีๆนะคะ คุณหนู''

     หัวหน้าแม่บ้านส่งยิ้มให้คุณหนูที่ตนรักเหมือนลูก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กนางจึงมีความผูกพันมาก

 

     '' คะ ป้าแจ่ม ''

 

 

     อาหมง คนขับรถประจำตัว เดินมาเปิดประตูให้ผู้เป็นนาย ก่อนจะรีบไปประจำคนขับ เพื่อทำหน้าที่ของตน

 

     กว่าจะเดินทางมาถึงที่จัดงาน ก็เป็นเวลาตะวันตกดิน สถานที่จัดงานในปีนี้ จัดขึ้นบนเรือสำราญสุดหรูลำใหญ่ ดารา นักแสดง คนบันเทิงและกองทัพนักข่าว ต่างมากันอย่างคับคั่ง ทุกคนกำลังเริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ และยืนให้สัมภาษณ์และถ่ายรูปกันบริเวณพื้นที่ด้านข้าง ที่จัดไว้ให้ ก่อนขึ้นไปบนลำเรือ 

 

     ตอนนี้นักข่าวต่างกำลังสนใจและถ่ายรูปเชอรี่นางเอกที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์สอง ของวงการบันเทิง วันนี้เชอรี่ได้ใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเพื่อขับผิวขาวอมชมพูของเธอให้โดดเด่น เธอกำลังยิ้มให้กล้องอย่างน่ารักที่สุด เพื่อให้ทุกคนถ่ายรูป แต่แล้วก็เหมือนดั่งความสุขของเธอจะจบลง เมื่อหันไปมองเห็นใครบางคนที่เธอแสนจะเกลียดกำลังจะมาแย่งซีนของเธอเข้าแล้ว

 

     มิลลี่ค่อยๆบรรจงเก้าเท้าลงมาจากรถคันหรู และค่อยๆเดินนวยนาดมาตรงจุดที่ทุกคนเตรียมพร้อมจะขึ้นเรือ  นักข่าวทุกสำนัก ต่างกรูกันเข้ามาขอถ่ายภาพ และแย่งกันสัมภาษณ์ นางเอกเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิงทิ้งให้เชอรี่ยืนกำมือแน่นจนเห็นเส้นเลือด อยู่ตรงนั้นด้วยความคับแค้นใจ เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากอดกลั้น

 

     "ฮึ นางมิลลี่ วันนี้ฉันจะให้แกได้เฉิดฉาย เป็นครั้งสุดท้าย" 

     เชอรี่ยิ้มอย่างมาดร้าย ก่อนขึ้นไปบนเรือสำราญสุดหรู 

 

     ดารานักแสดงทุกคน เริ่มทยอยขึ้นไปบนเรือสำราญ นักข่าวก็ต่างพากันทยอยขึ้นเรือที่จอดเทียบท่ารออยู่ เมื่อทุกคนขึ้นมากันจนหมดแล้ว เรือก็ได้แล่นออกจากท่า ล่องไปตามแม่น้ำยามค่ำคืน ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย สายลมพัดโชยมา ปะทะเข้ากับร่างกายทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มิลลี่เลือกยืนอยู่หน้าสุดเพราะรู้ว่าอย่างไรเธอก็จะต้องได้ขึ้นรับรางวัลอยู่แล้ว เพราะละครที่เธอเล่นเรื่อง นางฟ้าจำแลง แปลงเป็นแม่มด นั้นได้รับเรตติ้งดีมากเป็นอันดับหนึ่งของช่องเลยก็ว่าได้

 

     งานได้เริ่มดำเนินไปเรื่อยๆ การประกาศรางวัลต่างๆก็ได้ลุล่วงลง จนได้มาถึงจุดสำคัญของงานคือ รางวัล ดารานำชายยอดเยี่ยม และ ดารานำหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี ทุกคนต่างตั้งตารอคอยมานาน

 

     “เอาละครับมาถึงรางวัลสำคัญในค่ำคืนนี้ ซึ่งจัดกันเป็นประจำทุกปี ปีนี้พิเศษสุดๆ เราได้จัดกันที่เรือสำราญสุดหรู แห่งนี้ วันนี้ใครจะได้รับรางวัล มาลุ้นกันนะครับ”

     พิธีกรกล่าวเปิดงาน

 

    ''เรามาเริ่มกันที่รางวัลดารานำชายยอดนิยมแห่งปี กันเลยครับ ดารานำชายยอดนิยมปีนี้ ได้แก่ ''

 

     แต้น แต่ แด แด้น แต่นๆ แต้น แต่น แต้น ทุกคนต่างลุ้นว่าเป็นใคร ต่างเงียบฟังพิธิกรกล่าว อย่างใจจด ใจจ่อ

 

     ''ได้แก่ คุณมาร์ค อดิสร วรเวศครับ ''

     เสียงปรบมือดังกึกก้อง มาร์คเดินขึ้นมาด้านหน้าเวทีก่อนจะรับรางวัลที่วางไว้ นักข่าวต่างถ่ายภาพ ดาราชายยอดนิยม ที่เดินเข้ามารับรางวัล 

 

     พอได้ยินชื่อว่าใครได้รับรางวัล เธอไม่แปลกใจเลย มาร์ค ลูกชายคนเดียว ของตระกูลที่ร่ำรวย  พ่อเค้าเป็นหุ้นส่วนใหญ่กับ บริษัทผลิตละคร แถมมีดีกรี ที่ความหล่อและเจ้าเสน่ห์ ออกไปทางเจ้าชู้สะส่วนใหญ่ เป็นดาราที่มีความสามารถอย่างมากคนหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นดาราชาย พระเอกเบอร์หนึ่งก็ว่าได้ เล่นละครกับเธอมาก็หลายเรื่อง ยังไงก็ต้องได้รางวัลนี้แน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดที่เธอเล่นด้วยกันกับเขา นั้นดังมาก ก็คือเรื่อง นางฟ้าจำแลง แปลงเป็นแม่มด นี่ละ

 

     "ผมต้องขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับรางวัลนี้ ผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำผลงานดีๆ ให้แฟนละครได้ดูต่อไปครับ "

 

     เขากล่าวจบก็ยิ้มแก้มแทบปริ โปรยเสน่ห์ไปทั่วบริเวณ และหันมองมาที่เธอยืนอยู่ พลางส่งยิ้มเจ้าเสน่ห์มาให้ ทำให้สาวน้อย สาวใหญ่ที่มองอยู่ถึงกับใจละลาย คิดว่าเขาส่งยิ้มมาให้พวกเธอ แต่ละคนจึงพยายามส่งสายตาหวานเยิ้มกลับไปให้เขา อย่างเต็มที่

 

     ส่วนตัวเธอนั้นก็เสมองไปทางแม่น้ำ ไม่ได้สนใจสายตาและร้อยยิ้มที่เขาส่งมาให้ ทำให้เขาหน้าเสียไปนิดนึง

 

     "ยังไงก็ยินดีกับคุณ มาร์ค ด้วยนะครับ เอาละครับ ต่อไปนะครับ เราจะมาประกาศ รางวัล นักแสดงนำหญิงยอดนิยม ปีนี้จะเป็นใครมาลุ้นพร้อมกันเลยนะครับ 

 

     ''นักแสดงนำหญิงยอดนิยมปีนี้ ได้แก่ ''

 

     แต้น แต่ แด แด้น แต่นๆ แต้น แต่น แต้น 

 

     "ได้แก่ คุณ มิลลี่ เมลานี เศวสกุล ครับ ''

     เสียงปรบมือ ดังกึกก้อง สะท้อนอยู่ในหัวใจของเธอ ตอนนี้ หัวใจของเธอเบิกบาน เธอเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างสง่างาม คว้ารางวัลมาไว้ในกำมือ พร้อมกับชูมันขึ้น ด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมส่งรอยยิ้มให้กับนักข่าว และ แขกที่มาร่วมงาน ก่อนจะเดินมาที่ไมค์

 

     "ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณแฟนละคร ขอบคุณผู้จัด ที่เห็นความสามารถของ มิลลี่ มิลลี่สัญญานะคะ ว่าจะทำผลงานดีๆออกมาให้แฟนๆ ได้ดูกันคะ"

     เธอฉีกยิ้มกว้าง โปรยเสน่ห์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความ สวยสดใส และจริงใจของเธอ

 

     "ยินดีกับ คุณมิลลี่ด้วยนะครับ งั้นเชิญ คุณ มาร์ค มาถ่ายรูปคู่กับคุณมิลลี่นะครับ"

     พิธีกรกล่าวก่อนที่นักข่าวจะกรูกันมาขอถ่ายรูป เธอจึงจำใจต้องยืนยิ้ม คู่กับนายมาร์คที่ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้

 

     'เห็นแล้วขนลุกชะมัด ยึย '

     มิลลี่ได้แต่บ่นงึมงำในใจ

 

     แต่เอ๊ะทำไมบรรกาศ รู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิต แผ่มาที่เธอนะ ร้อนๆ หนาวๆชอบกล  แต่พอหันไปมองก็ถึง กับ บางอ้อ  ยัยเชอรี่ กำลังมองมาทางเธอด้วยสายตา อาฆาตนี่เอง ถ้าพ่นไฟได้ ยัยนี้คงทำไปแล้ว 

 

     'สงสัยจะอิจฉา ที่เธอได้รับรางวัลสินะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ ก็เธอ ทั้ง สวย รวย เก่ง นี่นา เพอเฟ็คทุกอย่าง ช่วยไม่ได้นะ ยัยเชอรี่ '

 

     เธอส่งยิ้มหวานไปให้ยัยเชอรี่ คู่ปรับตลอดกาล  ยัยนี่ชอบ ชิงดี ชิงเด่นกับเธอมาตลอด แต่ยังไง เธอก็เหนือ กว่า เสมอ ขณะที่เธอได้เป็นนางเอกเบอร์หนึ่ง ของวงการบันเทิง ยัยเชอรี่ก็ได้เป็น แค่นางเอกเบอร์สอง รองจากเธอเท่านั้น ในขณะที่หนุ่มๆ ก็ชอบเธอมากกว่า รวมถึง มาร์ค ที่ยัยเชอรี่แอบชอบด้วย 

 

     "วันนี้คุณสวยมากเลยนะครับ มิลลี่ "

     มาร์คพูดชมก่อนจะส่งยิ้มหวานให้

 

     "ขอบคุณมากค่ะ"

     มิลลี่พูดขอบคุณตามมารยาท ก่อนจะเดินปลีกตัวไปหาเครื่องดื่ม เธอรู้สึกคอแห้งจะตายอยู่แล้ว ยืนฉีกยิ้มจนเหงือกแห้ง มิลลี่เดินมาถึงที่วางเครื่องดื่มมากมายหลากหลายให้เลือก มีบริกร คอยให้บริการอยู่ เธอกำลังคิดว่าจะดื่มน้ำอะไร ก็มีบริกร คนหนึ่ง เดินเข้ามา พร้อมยื่นน้ำส้มให้ 

 

     "คุณมิลลี่ครับ รับน้ำส้มไหมครับ คั้นสดๆ เลยนะครับ เหมาะ กับนางเอกคนสวยอย่างคุณมิลลี่ ที่สุดเลยครับ"

 

     "แหม จริงด้วยสินะ คนสวยๆก็ต้องเหมาะกับน้ำส้ม น้ำนางเอก ขอบใจมากนะจร๊ "

     มิลลี่รับน้ำส้มมาดื่มสะจนหมดแก้ว  ก่อนที่จะคืนแก้วให้บริกร คนเดิม ก่อนจะเดินนวยนาด เฉิดฉาย เพื่อกลับเข้าไปในงาน ก็หันไปเห็นยัยเชอรี่ กำลังส่งสายตาท้าทายมาทางเธอ ให้เดินตามนางไป 

 

     'ยัยนี่คิดจะพูดจาถากถาง หาเรื่องว่าฉันอีกละสิ เชอะ '

     มิลลี่เดินมายังท้ายเรือตามหลังยัยเชอรี่มาติดๆ ซึ่งไม่มีผู้คนเลยทุกคนต่างอยู่หน้าเรือกันหมด เห็นยายเชอรี่กำลังยืนรออยู่ 

 

     "มีอะไรจะพูดกับฉัน ก็พูดมาสิ ฉันไม่มีเวลามากหรอกนะ "

     เธอเริ่มพูดก่อน เพราะอยากจะให้จบๆ จะได้ไปเฉิดฉาย ต่อในงาน

 

     "ดีใจกับรางวัลนางเอกยอดนิยมด้วยนะ ทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นของเธอ''

     เชอรี่เริ่มพูดออกมาอย่างไม่พอใจ

 

     ''ทำไมถึงไม่ควรเป็นของฉัน''

     มิลลี่สงสัย เพราะรางวัลนี้มันคู่ควรกับเธอมาก

 

     ''ก็เธอไม่สมควรจะได้มัน มันควรเป็นของฉัน แต่เธอก็หน้าด้าน แย่งมันไป''

     เชอรี่กำมือแน่นด้วยความโกรธ

 

     '' เดี่ยวนะ ฉันนะหรอ แย่งของๆเธอ ตลกอะเชอรี่ เธอพูดผิด พูดใหม่ได้นะ''

     มิลลี่เริ่มรู้สึกว่าคำพูดของเชอรี่นั้นฟังดูตลก

 

     '' ฉันพูดความจริง เธอแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน "

     ยัยเชอรี่พูดพลางจ้องมาที่เธอยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ 

 

     "เธอคิดว่ารางวัลนี้ เหมาะกับเธอยังงั้นหรอ ขอโทษนะ เธอคิดไปเองหรือปล่าว รางวัลนี้อยู่ที่ความสามารถ ฉันมีความสามารถ ก็ต้องได้รับมัน มีคนชื่นชอบฉันมากกว่าเธอ ก็ถูกแล้วนิ"

 

     'ยัยนี่ ถ้าจะบ้า เธอเก่งกว่าก็หาว่าเธอแย่งรางวัลไปจากหล่อน ชิ '

     มิลลี่ได้แต่คิดในใจ

 

     "เธอมันหน้าด้านมิลลี่ ฉันอยู่ในวงการมาก่อน เธอมาทีหลัง เธอมีสิทธิอะไร ถึงมาแย่งทุกอย่างที่มันควรจะเป็นของฉัน เธอเกิดมาทำไม เธอแย่งตำแหน่งนางเอกเบอร์หนึ่งของฉัน เธอแย่งคนที่ฉันรัก ฉันเกลียดเธอ ถ้ามีเธอก็ต้องไม่มีฉัน มีฉันก็ต้องไม่มีเธอ" 

 

     ในระหว่างที่ยัยเชอรี่กำลังพูดว่าเธอต่างๆ นาๆ เธอก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว ตาลืมไม่ขึ้น แรงจะยืนแทบไม่มี ตัวอ่อนไปหมด นี่!มันอะไรกัน เธอเป็นอะไรไป 

 

     "ฮึ ยาคงจะออกฤทธิ์แล้วสินะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกจะต้องหายออกไปจากโลกนี้ ถ้าไม่มีแกสักคน ฉันก็จะได้เป็น นางเอกเบอร์หนึ่งแห่งวงการบันเทิง มาร์คก็จะได้หันมาสนใจฉันคนเดียว "

     ยัยเชอรี่หัวเราะ อย่างสาแก่ใจ ประกายตาแฝงแวว ฆ่าฟัน มาที่ฉัน 

 

     'ไม่นะ นี่ฉันโดนวางยาหรือนี่ แต่ฉันถูกวางยาได้อย่างไร ออ ใช่แล้ว นึกออกแล้ว ในน้ำส้มนั่น ต้องเป็นน้ำส้มนั่นแน่ๆ หนอย ยัยเชอรี่ เลวจริงๆ  นางอสรพิษ  '

 

     ตอนนี้ร่างกายแทบไม่มีแรงยืน เธอต้องเกาะราวของเรือ เพื่อพยุงกาย เอาไว้ จะเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีแรงพอ แม้จะเปล่งเสียง ก็ไม่อาจ ดังเท่ากับ เสียงดนตรีในงาน ทุกคนหน้าเรือ ต่างกำลัง เต้นรำสนุกสนานกัน เธอไม่คิดมาก่อนว่า ยัยเชอรี่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ มันเกินความคาดหมายไปมาก เพราะถึงแม้จะเกลียดกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะน่าฆ่าคนได้ ช่างเลือดเย็นจริงๆ จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ

 

     "ฉันผิดอะไร  ฉันก็แค่ สวยกว่า รวยกว่า เพอร์เฟ็คกว่าเธอทุกอย่าง แค่นั้นอะ เธอถึงขนาดจะกำจัดฉันเลยหรอ มันบาปนะ เชอรี่ " 

     เธอพยายามตั้งสติพูดเพื่อเกลี้ยกล่อม เชอรี่ แต่กลับเป็นว่าไปทำให้นางโกรธมากกว่าเดิม 

 

     ตอนนี้เชอรี่โกรธจนหน้าแดง เหมือนเติมเชื้อไฟลงไปในกองเพลิง ยัยเชอรี่เดินย่างสามขุม มาที่เธอ และ กระชากผมเธออย่างแรง จนหนังหัวแถบหลุด 

 

     ''โอ้ยยยย ฉันเจ็บนะ ''  

     'กรรม ไม่น่าพูดออกไปเลยเรา ปากพาซวยจริงๆ'

     มิลลี่ได้แต่คิดในใจ

     ยัยเชอรี่กระชากผมเธออย่างแรง จนเธอถลาตามไปตามแรงกระชาก แรงจะขัดขืนก็ไม่ค่อยมี

     ''โอ้ยยย อย่าาานะ เธอคิดจะทำบ้าอะไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ ''

     มิลลี่พยายามพูดอย่างยากลำบาก เพราะเรี่ยวแรงและ สติสัมปชัญญะเริ่มน้อยลง

 

     '' ฉันก็จะส่งแกไป นรกนะสิ ''

      '' ไม่นะ อย่าาา''

      "ตายสะเถอะ แก อย่ามีชีวิตอยู่เลย แกกับฉันอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ จะไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ทุกคนต้องคิดว่าแก พลัดตกน้ำไปเอง กว่าจะมีใครรู้ว่าแกหายไป แกก็ตายเป็นผีเฝ้าแม่น้ำไปละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

      ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะพูดตาเธอกำลังจะปิดลง สติกำลังจะดับ 

      'ไม่นะ ไม่นะ ฉันยังไม่อยากตาย '

      ''พลักกกก''

      ''ตู้มมมมม''

      เธอถูกพลักลงไปในแม่น้ำ เมื่อร่างกายกระแทกผิวน้ำ ทำให้ทั้งเจ็บ ทั้งจุก ร่างเธอค่อยๆดิ่งจมลงไปในแม่น้ำ เธอพยายามที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาที่ผิวน้ำ ตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่ไม่มีแม้แต่แรงจะว่ายน้ำ แรงจะดิ้นก็ยังแทบไม่มี แขนขารู้สึกหนักอึ้งไปหมด เธอรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างที่สุด นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เธอกลัว กลัวว่าจะไม่ได้กลับบ้านอีกแล้ว 

      'ไม่นะ คนสวยยังไม่อยากตาย สวรรค์ได้โปรดช่วยลูกด้วย'

      และแล้วสติก็ดับวูปไป พร้อมกับร่างกายที่กำลังจมดิ่งลงเรื่อยๆ ลงสู้ก้นแม่น้ำ ที่ลึกและมืดสนิท

 

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!