'นั้นเจ้าเป็นใคร'
ซิงเยียนตกใจสะดุ้งหันขวับไปตามเสียงนั้น มีชาย 2 คนเดินเข้ามาตรงประตู ดวงตาเธอเบิกกว้าง อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ออร่าของคนที่เดินเข้ามาคนแรกนั้นมันช่างเจิดจ้า จนบดบังรัศมีอีกคนที่ตามเข้ามาทำให้เห็นหน้าค่าตาได้ไม่ชัดนัก
ซิงเยียนยังคงค้างอยู่อย่างนั้นในใจพล่างคิดว่า 'แม่เจ้า!!! มีคนที่หน้าตาหล่อได้ขนาดนี้เลยหรอ. คิ้วทรงกระบี่ดกดำและเรียวยาว ดวงตาสองชั้นสีน้ำตาลกลมโตดุจดวงดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียวเล็ก ทั้งหมดนี้อยู่บนกรอบหน้าที่คมกริบ ความคมของสันกรามนั้นน่าจะปาดคอฉันให้ตายได้เลย ด้านหุ่นนั้นส่วนสูงน่าจะไม่ต่ำกว่า 185 ซม. แน่ๆ รูปร่างสมส่วนเป๊ะอย่างกับวัดมาแล้ว นี้มันงานศิลปะชัดๆ งานปราณีตมากกก' ซิงเยียนดี๊ด๊าในใจ คิดไปไม่คิดเปล่า เธอทำท่าเหมือนจะยื่นมือออกมาจับด้วย แต่โชคยังดีที่มีเสียงจากคนข้างหลังเบรคเธอไว้ได้ทัน
'เสียมารยาท...พบองค์เทพแล้วยังไม่คำนับอีก'
ซิงเยียนดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วรีบคำนับทันทีพลางนึกในใจว่า
'เราต้องพูดอะไรหรือเปล่า'
ในระหว่างที่เธอกำลังนึกอยู่นั้น ชายคนนั้นได้เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะหมากล้อมพร้อมกับผู้ติดตามคนที่เพิ่งจะพูดกับเธอเมื่อสักครู่เดินตามหลังไปยืนอยู่ด้านข้าง นั่งเสร็จชายคนนั้นก็หันกลับมามองแล้วพูดขึ้นว่า
'เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเจ้าเป็นใครแล้วมาทำอะไรในห้องนี้'
ซิงเยียนได้ยินก็คิดในใจอีกว่า 'แม้แต่เสียงก็ไพเราะจับใจ...เฮ้ย!!มันใช่เวลาไหมเนีย พี่ห่าวซิน อุตสาห์บอกว่าอย่าสร้างเรื่องรีบไปรีบกลับ แล้วทีนี้จะทำยังงัยดี...พูดเท่าที่พูดได้ก่อนแล้วกัน'
ซิงเยียนทำท่าคิดอยู่สักพักหนึ่งก็พูดขึ้นว่า
'ฉันชื่อ...เอิ่ม..ข้าน้อยชื่อ..เอออ'
'ฉันต้องพูดยังงัยเนียต้องพูดราชาศัพท์ไหมนะ' เธอยังคงพูดในใจกับตัวเองอยู่ 'เอาใหม่พูดอย่างระมัดระวังก้อแล้วกัน'
'ข้า..ฮวาซิงเยียน เป็นคนดูแลสวนผักอยู่ที่กระท่อมริมทะเลสาบกับโหย่วอี้ วันนี้มารับชุดใหม่ที่เรือนกลาง พอดีพี่ห่าวซินวานให้ข้าช่วยยกชุดน้ำชามาไว้ที่ห้องนี้คะะ..เจ้าขา'
เฮ้อ!! ซิงเยียนแอบถอนหายใจ
ชายหนุ่มหันไปมองผู้ติดตามทีหนึ่งเหมือนกับจะบอกอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วก็หันกลับมาหยิบตำราม้วนหนึ่งขึ้นมาอ่าน แต่กลับเป็นตัวผู้ติดตามเองที่ทำท่าคำนับพร้อมกับพยักหน้าเหมือนกับรับสารอะไรบางอย่างมาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เดินออกจากห้องไป
ซิงเยียนเองก็ยืนเด๋อด๋า เลิ่กลั่กมองผู้ติดตามเดินออกจากห้องไป
.....
.....
ภายในห้องเงียบกริบ
ซิงเยียนนึกในใจ
'แล้วฉันต้องทำตัวยังงัยเนีย ยืนเฉยๆหรอ? หรือนั่งได้? เอิ่ม..งั้นใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ไปกับการรับชมความงามก็แล้วกัน' ว่าแล้วซิงเยียนก็เริ่มเพลิดเพลินกับการมองอย่างพินิจพิจารณากับกลุ่มก้อนความงามที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ตรงหน้า อย่างสบายใจ
แล้วก็มีเสียงดังขัดจังหวะเธอขึ้นมาว่า
'ในระหว่างรอ เจ้าก็ชงชาให้ข้าหน่อยแล้วกัน'
ชายหนุ่มพูดในขณะที่ยังคงก้มหน้าอ่านตำราอยู่
'รอ... รออะไรหรือค่ะ?'
'รอห่าวซิน' ก็ยังคงก้มหน้าอยู่
'ชงชา...ฉันทำเป็นที่ไหนหละ ส่วนที่เรียกพี่ห่าวซินมาคงเรียกมาถามความจริงแหละ' ซิงเยียนคิดในใจ
'ฉันชงไม่เป็นค่ะ อีกเดี๋ยวพี่ห่าวซินก้อมาแล้ว ถ้ายังงัยก้อรออออออออ.' พูดยังไม่ทันจบซิงเยียนก็ต้องรีบหุบปาก เพราะชายหนุ่มได้เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาดุเชิงบอกว่า ไปชงได้แล้ว จนทำให้เธอต้องหันเดินไปที่เตาพลางบ่นอุบอิบกับตัวเองว่า 'ก้อคนมันทำไม่เป็นอ่ะ'
ชายหนุ่มยังคงมองตามซิงเยียนไปพลางคิดในใจว่า
'เจ้าเป็นใครกันแน่'
_______________________________________
**ช่วงพูดคุยท้ายตอน**
-การที่ซิงเยียนพูดหรือคิดกับตัวเธอเองจะติดภาษาพูด เช่น ก้อ,อ่ะ,ยังงัย หรือสำนวนการพูดยังคงเป็นปัจจุบันอยู่ เพราะนางมาจากยุคปัจจุบันที่เป็นต่างมิติ เราเลยอยากให้นางยังติดคาแรกเตอร์เดิมนี้ไว้ก่อน แต่เดี๋ยวนางจะค่อยๆ ปรับตัวไปเองนะค่าาา❤️❤️ขอบคุณค่าา
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 7
Comments