Lazarus - ลาซารัส
Episode IV - ศาลเตี้ยที่หายไป
พวก โธมัส ได้ไปจับตัวหนึ่งในกองกำลังของ Bloody และ วินเซนต์ ได้ถามถึงแผนการและที่ตั้งของฐานทัพจากเขา ทำให้ทราบถึงเรื่องราวต่างๆของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของฐานทัพลับ หรือจะเป็นการทดลอง MDB ที่ยังคงมีต่อไปตราบใดที่พวกมันยังไม่ได้ตัว บรูโน่ และการจะเข้าถึงฐานทัพพวกมันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วินเซนต์ จึงตัดสินใจที่จะพาตัวเอง และ พวกโธมัสไปหาเพื่อนของเขาที่เคยเป็นอดีตหน่วยรบของ FOJ เหมือนกัน และในคืนนั้นเองที่พวกเขากำลังพักผ่อน บรูโน่ ก็ได้รู้สึกถึงความผิดปกติรอบๆคฤหาสน์ ก่อนที่ประตูรั้วของคฤหาสน์นั่นจะระเบิด พร้อมกับกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพของพวก Bloody อยู่รอบคฤหาสน์เต็มไปหมด ......
โธมัส: ซวยแล้ว เราจะทำยังไงกันดีเนี่ย!?
บรูโน่: พวกมันรู้ที่นี่ได้ยังไง !?
วินเซนต์: เอ็มม่า ไปเตรียมรถไว้ทางทิศตะวันออก บรูโน่ นายตามเอ็มม่าไป ส่วนโธมัส นายไปเอาอาวุธเท่าที่จะเอาได้ แล้วตามไปที่รถ..
โธมัส: แล้วคุณละ ??
วินเซนต์: ฉันจะไปเอาตัวคนที่เราจับมา
พวกเขาแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเอง เสียงระเบิดยังคงดังอยู่รอบๆคฤหาสน์ พวกมันเพื่อต้องการถล่มที่นี่ เอ็มม่า และ บรูโน่ ทั้งคู่กำลังวิ่งไปที่โรงรถฝั่งตะวันออกของคฤหาสน์ ซึ่งระหว่างทางก็มีพวก Bloody ออกมาขัดขวางอยู่เป็นระยะ แต่ด้วยว่องไวตามสัญชาตญาณของสุนัข แถมยังมีความคิดและไหวพริบเหมือนมนุษย์อย่าง บรูโน่ ทำให้เขาอยู่เหนือกว่ามนุษย์ขึ้นไปอีกขั้น และคอยช่วยเหลือ เอ็มม่า ได้ตลอดเส้นทางที่จะไปโรงรถ ส่วน เอ็มม่า เองก็มีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดอยู่พอตัว อีกด้านหนึ่ง โธมัส ต้องวิ่งหนีพวก Bloody อย่างทุลักทุเล เนื่องจากเขาเป็นเพียงเด็กส่งพิซซ่าที่ไม่เคยสู้รบใดๆเลย เมื่อมาถึงเขาก็นำกระเป๋าที่อยู่ภายในห้องอยู่แล้วมาใส่อาวุธทุกอย่างเท่าที่จะใส่ได้พร้อมเอกสารต่างๆ พวกบรูโน่ก็ได้เตรียมพาหนะที่จะช่วยพวกเขาออกจากที่นี่เสร็จแล้ว ไม่นาน วินเซนต์ ก็มาถึงพร้อมกับคนของ Bloody คนนั้น แต่โธมัส เขายังมาไม่ถึง .....
วินเซนต์: โธมัสอยู่ไหน !?
บรูโน่: ยังไม่เห็น..
วินเซนต์: ไม่มีเวลาแล้วนะ ฉันไปตามหาเขาเอง
บรูโน่: ไม่ ฉันไปเอง ฉันไปตามกลิ่นเขาได้ ขืนให้คุณไป มีหวังคราดกันแน่...
บรูโน่ พูดถูก นั่นจึงทำให้เขาต้องเข้าไปหา โธมัส ข้างในนั่นเอง ซึ่งถ้าหากปล่อยให้ วินเซนต์ เป็นคนเข้าไปหา เปอร์เซ็นต์ สูงมากที่จะคราดกัน และ ทำให้หาไม่เจอ แต่บรูโน่ เขาสามารถวิ่งไปตามกลิ่นของ โธมัสได้สบายๆ ขอแค่เขายังปลอดภัยดี และไปช่วยทันเวลาเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน โธมัส เขากำลังซ้อนตัวอยู่หลังชั้นหนังสือ เพราะตอนนี้รอบๆตัวเขา เต็มไปด้วยพวก Bloody กว่า 10 คน ทำให้เขาไม่สามารถออกมาได้ แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆไฟทั้งคฤหาสน์ก็ดับลง ในตอนนี้ทุกๆพื้นของคฤหาสน์ ต้องตกอยู๋ในความมืด โธมัส ได้แต่แอบอยู่อย่างนั้นด้วยความกลัว ก่อนที่จู่ๆ เสียงปืน และ เสียงกรีดร้องของพวก Bloody ที่อยู่รอบตัวเขาก็ดังขึ้น เสียงพวกนั้นดังอยู่ประมาณ 4 - 5 นาที ทุกอย่างก็เงียบไปแล้วก็มีเสียง บรูโน่ ดังขึ้นมา ส่วนเรื่องไฟดับทั้ง คฤหาสน์ ก็คือฝีมือของ บรูโน่ นั่นเอง...
บรูโน่: ออกมาได้แล้วพวก คุณวินเซนต์ กำลังรออยู่
โธมัส: พระเจ้าช่วย บรูโน่ นายช่วยฉัน
บรูโน่: ไม่ โธมัส นายต่างหากที่ช่วยฉัน ฉันแค่มาช่วยให้นายช่วยฉันอีกที
โธมัส: นายหาฉันเจอได้ยังไง ?
บรูโน่: ฉันเป็นหมานะพวก และอีกอย่าง นายไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่ออกจากบ้านของ แอปบี้ แล้ว
แล้วทั้งคู่ก็รีบไปที่โรงรถ โดยมี เอ็มม่า และ วินเซนต์ รออยู่...
โธมัส: เฮ้ เดี๋ยว แล้วรถของฉันละ !?
บรูโน่: นายต้องทิ้งมันแล้วละพวก
วินเซนต์: รีบๆขึ้นรถเร็วเข้า ไม่มีเวลาแล้ว...
หลังจากนั้นพวกเขา วินเซนต์ ก็ขับรถกันกระสุนของ วินเซนต์ ฝ่าพวก Bloody ที่อยู่ข้างนอกไปด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งออกทางประตูรั้วที่ระเบิดไปแล้ว และ ออกสู่ท้องถนนเพื่อมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งก็คือที่ตั้ง ของฐานทัพ Bloody ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 300 ไมล์ (480 กว่ากิโลเมตร)
โธมัส: บ้าเอ้ย พวกมันรู้ได้ไงกัน
บรูโน่: พวกนาย ดูนี่สิ ที่คอของไอ้หมอนี่นะ
โธมัส: อยู่ในผิวหนังงั้นหรอ ?!
วินเซนต์: มีอะไร เจออะไรเข้าละ ?
โธมัส: ในผิวหนังตรงคอของหมอนี่ มีไฟแดงๆกระพริบอยู่ด้วย
วินเซนต์: ไอ้เวรเอ้ย พวกมันฝังเครื่องติดตามไว้ใต้ผิวหนัง ไฟแดงจะกระพริบเมื่อมีคนกำลังเปิดสัญญาณมัน
บรูโน่: ว่าแล้ว ทำไมตอนดมกลิ่นถึงไม่เจอ
สมาชิกBloody: พวกแกไม่มีทางหนีรอดจากองค์กรของเราเด็ดขาด ไม่ช้าก็เร็ว พวกแกทุกคนก็ต้องตาย!!
บรูโน่: ฉันขอกัดคอเจ้านี่ได้ไหม มันจะได้เงียบๆ
โธมัส: เอาไงดีละ ขืนพามันไปด้วยแบบนี้ พวกมันต้องตามหาเราเจอแน่ ?
วินเซนต์: ถ้าไม่หาวิธีเอามันออกให้ได้ ก็ต้องฆ่ามันซะ !
โธมัส: ฆ่ามันงั้นหรอ !?
วินเซนต์: เราถามข้อมูลจากมันไปเยอะ ถ้าหากไอ้หมอนี่ไปบอกพวกของมัน พวกมันก็จะนำเราก้าวนึง
บรูโน่: งั้นฉันขอจัดการมันเลยละกัน
วินเซนต์: เดี๋ยว ใช้ปืนนี่จัดการมันซะโธมัส
โธมัส: ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันไม่เคยฆ่าใครนะเฟ้ย
วินเซนต์: โธมัส นายดูสิ่งที่พวกมันทำสิ ดูสิว่ามันทำกับสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ยังไง ดูสิว่ามันทำกับพ่อนายยังไง นายไม่ใช่เด็กๆอีกแล้วนะ รับปืนนี่ไปแล้วจัดการมันซะ ก่อนที่มันจะไปทำร้ายใครได้อีก!!!
โธมัส: บ้าเอ้ย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะทำแบบนี้
วินเซนต์: ถ้านายอยากปกป้องสิ่งที่นายรัก นายก็ต้องจัดการสิ่งที่เป็นศัตรูของนาย สิ่งที่มันจะฆ่านาย คนพวกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อรับการให้อภัย เมื่อนายโตขึ้นนายก็จะรู้เอง
โธมัส: แล้วฉันต้องทำยังไง ฉันไม่เคยใช้ปืน??
วินเซนต์: หยิบปืนไปจากมือฉัน แล้วนายแค่ เหนี่ยวไกปืนที่หัวมัน ฆ่าไอ้สารเลวนี่ซะ
โธมัส: บ้าเอ้ย ฉันต้องทำแบบนี้จริงๆหรอเนี่ย
บรูโน่: นายจะให้อภัยคนเลวที่ไม่สามารถกลับตัวได้อย่างมัน เพื่อให้มันไปสร้างความเลวต่องั้นหรอ โธมัส
โธมัส ได้หยิบปืนจากมือของ วินเซนต์ แล้วเลงปลายกระบอกปืนไปที่ศีรษะชายคนนั้น ด้วยอาการหวาดกลัว ก่อนที่ โธมัส จะพยายามนึกถึงความเลวที่มันเคยทำ สิ่งมีชีวิตที่ต้องตายไปด้วยน้ำมือของมัน แล้วเขาก็ได้ตัดสินใจ เหนี่ยวไกปืน เพื่อส่งกระสุนเข้าไปฝันอยู่ข้างในหัวของมัน แล้วโธมัสก็ทิ้งปืนลงพื้นด้วยอาการสั่นกลัว ศพ ของชายคนนั้นนอนอยู่ที่เบาะหลังโดยมีเลือดค่อยๆไหลจากศีรษะลงไปกองอยู่ที่พื้น....
โธมัส: การฆ่าคน มันไม่ใช่ทางออกที่ดีไม่ใช่รึไงกัน ?!
วินเซนต์: การไว้ชีวิตคนเลวต่างหาก คือทางออกของคนไร้ปัญญา สิ่งที่นายควรตระหนักไว้ที่สุดก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืน คืออนาคตของคนที่อยู่ปลายกระบอกปืนของนาย
โธมัส: หมายความว่าไง ??
วินเซต์: นายควรมั่นใจว่าอนาคตของมันผู้นั้นไม่สามารถกลายเป็นคนดีได้อีกแล้ว เมื่อนั้นนายก็จะรู้เองว่าควรไว้ชีวิต หรือ ลั่นไก เพื่อช่วยอีกหลายๆชีวิตจากน้ำมือของมัน
โธมัส ได้นั่งฟังอย่างเงียบๆโดยไม่เถียง ความคิดของ วินเซนต์ ก็คือ บุกคลที่อยู่ปลายกระบอกปืนของเขา จะต้องเป็นคนที่ไม่สามารถกลายเป็นคนดีได้อีกแล้ว เมื่อรู้อย่างนั้น การเหนี่ยวไกปืน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรลังเลอีกต่อไป และนั้นคือสิ่งที่เขา ได้ถ่ายทอดให้กับ โธมัส เพื่อให้ โธมัส ได้ตระหนักไว้ถึงการ ฆ่าคน ไม่ใช่เพื่อต้องการให้มันตาย แต่คือการช่วยเหลืออีกหลายๆชีวิตต่างหาก เมื่อโธมัส สังหารคนของ Bloody เรียบร้อยแล้ว ก็ทิ้งศพนั่น และพวกเขาก็มุ่งหน้าต่อไป
เวลา 6 โมงเช้าของวันนั้น ณ ฐานบัญชาการของ Bloody ในตอนนี้ เหล่าผู้นำต่างก็กำลังอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ เพราะความล้มเหลวของกลุ่มที่พวกเขาส่งไปที่คฤหาสน์ของ วินเซนต์ แถมยังมีคนในกลุ่มต้องตายไปอีกหลายชีวิต ทำให้พวกเขาเริ่มที่จะคิดแผนใหม่ในการต่าล่า...
เชสเตอร์: ล้มเหลวไม่เป็นท่า แถมคนของเรายังตายอีก ไอ้พวกเวรนั่นมันเป็นใครกันแน่
เซบาสเตียน: คิดว่าคงไม่ใช่แค่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
แจ็คกี้: เอาละ พวกนายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั่น ฉันจะไปตามล่ามันเอง ก่อนที่พวกมันจะทำอะไรไปมากกว่านี้
เชสเตอร์: นายจะทำอะไร แจ็คกี้ ??
แจ็คกี้: ฉันจะทำสิ่งที่พวกนายไม่คาดคิด และ ไม่กล้าทำด้วย
ดักลาส: คิดจะทำอะไร นึกถึงสิ่งที่จะตามมาด้วยละกัน
แจ็คกี้: ไม่ต้องมาทำเป็นสอนฉันหรอก
เชสเตอร์: ฟรานซิส ไปไหน ?
ดักลาส: หมอนั่นบอกว่าจะไปที่ศูนย์วิจัย
เชสเตอร์: เขาไปทำไมที่นั่น ?
ดักลาส: เขาบอกว่าจะไปตรวจสอบอะไรสักหน่อย
ในเวลาเดียวกัน ณ ศูนย์วิจัยของ ฟรานซิส เขาเป็นผู้ดูแลงานวิจัยทุกๆอย่างของ Bloody Army เรื่องราวการหายตัวไปของสุนัขตัวนั้นมันเริ่มที่จะวุ่นวายมากขึ้น จนทำให้ ฟรานซิส อยู่เฉยๆไม่ได้อีกต่อไป ฟรานซิส จึงตัดสินใจเรียกรวมพลเพื่อตรวจสอบสมาชิกอีกครั้ง หลังจากที่เคยให้ ดอร์จ ตรวจสอบไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจะทำมันด้วยตัวเอง
เมื่อทุกคนถูกเรียกให้ไปรวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว ฟรานซิส ก็เริ่มที่จะตรวจสอบสมาชิกด้วยการ สแกนม่านตา ซึ่งสิ่งนี้ไม่มีใครสามารถปลอมแปลงได้ ไม่นานหลังการสแกนม่านตา ฟรานซิส กับพบว่าคนของเขาหายตัวไป 2 คน โดยบุกคลที่หายไปนั้น คือคนที่มำหน้าทีาอยู่หน้าศูนย์วิจัย และหน้าที่นี้ไม่จำเป็นต้อง เพราะไม่ได้เข้าไปในสถานที่นั่นเอง ฟรานซิส เมื่อรู้ว่าคนของเขาหายไปถึง 2 คนจึงรีบสั่งตรวจทันที รวมถึงการสืบด้วยว่า 2 คนนั่นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จนการสืบหาก็ได้เรื่องมาว่า สมาชิก 2 คนนั้นหายไปหลังโครงการ MDB เริ่มขึ้นได้ไม่นาน ทำให้ ฟรานซิส รู้ได้ทันทีว่าคนที่ลักลอบเข้ามานั้น แฮ็กระบบรักษาความปลอดภัยจากข้างนอกด้วยการปลอมตัวเป็นสมาชิก 2 คนที่หายไป
ฝั่งของ โธมัส ตอนนี้พวกเขาได้จอดพักที่ โมเตล ข้างทางเพื่อเอาแรงที่จะขับรถไปต่อ โดยการแยกห้อง 3 ห้อง ห้องเอ็มม่า, ห้องวินเซนต์, และห้องโธมัสกับบรูโน่ โดยวินเซนต์ ได้ทำการยัดเงินให้กับพนักงานโมเต ลเพื่อที่จะนำบรูโน่เข้าไปพักข้างในด้วยนั่นเอง
โธมัส: ฉันทำถูกแล้วใช่ไหมวะเพื่อน ?
บรูโน่: ก็ต้องถูกสิ จะให้ฉันนอนอยู่ข้างนอกได้ไงกันละเจ้าบ้า ??
โธมัส: ไม่ใช่เรื่องยัดเงินพนักงาน ฉันหมายถึงสิ่งที่ฉันทำบนรถนั่น เขาสมควรตายจริงๆใช่ไหม ?
บรูโน่: เห่อ นายกำลังเข้าใจผิดนะ โธมัส
โธมัส: นายหมายความว่าไง ?
บรูโน่: การที่ วินเซนต์ ให้นายเป็นคนสังหารไอ้หมอนั่น ไม่ใช่เพราะมันสมควรตายหรอก แต่เป็นเพราะชีวิตอื่นสมควรอยู่ต่างหากละ
โธมัส: นายจะบอกอะไรหรอ ?
บรูโน่: มีผู้ชายคนหนึ่ง เขาทำงานเป็นนักดับเพลิง งานของเขาคือคอยช่วยเหลือคนต่างๆมากมาย อยู่มาวันหนึ่ง สถานีดับเพลิงของเขาก็ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่ตึกเก่าๆในสลัมแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาไปถึง 1 ในนักดับเพลิงก็ได้วิ่งฝ่ากองไฟเพื่อเข้าไปช่วยเด็กผู้หญิง เธอติดอยู่ข้างใน ชายคนนั้นอุ้มเธอออกมา ตัวเขานั้นได้พาเด็กออกมายังที่ปลอดภัยแล้ว แต่ตัวเขาต้องกลับเขาไปเพื่อค้นหาผู้บาดเจ็บต่อ แต่แล้วชั้น 2 ของอาคารก็ถล่มลงมา ทำให้ตัวเขาไถลตกลงไปในร่องน้ำที่เต๋มไปด้วยของเสียมากมาย แถมตัวเขายังถูก เหล็กแหลมทิ่มเข้าไปในขาจนทำให้ไม่สามารถไปไหนได้อีกด้วย
โธมัส: เขาติดอยู่ในน้ำนั่นหรอ ?
บรูโน่: ใช่เพื่อน เขาติดอยู่ตรงนั่นเป็นเวลากว่า 10 ช.ม กว่าจะมีคนมาพบแล้วช่วยเขาออกมาเพราะซากตึกที่บังร่างของเขาไว้
โธมัส: เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอพบว่าการที่ขาของเขามีแผลจากการถูกเหล็กแทง แถมยังต้องแช่อยู่ในน้ำเสียอีกกว่า 10 ช.ม ทำให้ขาของเขาตอนนี้มันได้เน่าไปเรียบร้อยแล้วจากเชื้อโรคมากมายที่เข้าไปในกระแสเลือดของเขา และ ส่วนอื่นๆของร่างกายก็กำลังจะเน่าตามไปด้วย
โธมัส: เขาต้องทำยังไง ?
บรูโน่: เขาต้องรีบตัดขาตัวเองข้างนั้นทิ้งไปสะ และนั่น คือการตัดสินใจที่กล้าหารที่สุดของชายคนนั้น
โธมัส: ทำไมนายถึงเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ?
บรูโน่: การที่เขาตัดสินใจตัดขาตัวเองนั้น เขาไม่ได้ทำเพื่อต้องการให้ขาขาด หรือ เพื่อให้ร่างกายตัวเองพิการ แต่เขาต้องตัดขาตัวเองเพื่อรักษาส่วนอื่นๆของร่างกายเอาไว้ต่างหาก มันเหมือนสิ่งที่นายทำบนรถนั่น นายเหนี่ยวไกไม่ใช่เพื่อให้เขาตาย แต่เพื่อช่วยอีกหลายๆชีวิตที่อาจจะตายเพราะเขา
โธมัส: ขอบใจนายมากนะบรูโน่ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีเลย
บรูโน่: เปลี่ยนจากคำชมเป็น เอาอาหารมาให้ฉันกินได้ไหม
ที่ใดที่หนึ่งในเมือง เซนร์ทีเซีย ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่มีอีกชื่อนึงว่า ดินแดนแห่งความยากไร้ โดยในดินแดนแห่งนี้จะมีคนอยู่ 2 กลุ่ม หรือ 2 ประเภทอาศัยอยู่ โดยประเภทแรกนั้นถูกคนส่วนใหญ่เรียกกันว่า "What God abandoned" หรือ "WG" ที่แปลว่า "สิ่งที่พระเจ้าทอดทิ้ง" คนกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ยากไร้ ไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาล เหมือนอะไรบางอย่างที่ไร้ซึ่งคุณค่า แม้แต่พระเจ้าก็ยังทอดทิ้งพวกเขา ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่มีชื่อว่า "Dark Fair" หรือที่แปลว่า "ยุติธรรมมืด" เป็นกลุ่มของคนที่อดีตล่วนเคยเป็น ตำรวจ, ทหาร, หน่วยรบ, ทีมกู้ภัย, แฮ็คเกอร์, หรือแม้แต่ คนธรรมดา ซึ่งเหตุผลที่พวกเขามาร่วมตัวเพราะ การรับไม่ได้ของกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่มีความยุติธรรมเลยของรัฐบาล ทำให้พวกเขาตัดสินใจกันออกจากหน้าที่ และ รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่ม "Dark Fair" ขึ้นมา ส่วนเหตุผลที่ดินแดนน เซนร์ทีเซีย เป็นดินแดนของผู้ยากไร้นั้น เพราะผลจากการรุกรานของ Bloody Army จนทำให้ดินแดนแห่งนี้ กลายเป็นดินแดนที่ตกต่ำที่สุด รัฐบาลมองว่าเมืองแห่งนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการบูรณะ เนื่องจากผลประโยชน์ที่แทบจะไม่มีเลย และ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้กลุ่ม "Dark Fail" ถือกำเนิดขึ้น โดยมีผู้นำชื่อว่า "แซ็ค สติลท์ส"....
แซ็ค: เอสไงต่อละพวกนาย 2 คน
สตีฟ: ไว้ค่อยว่ากันอีกที รอดูสถานการณ์ไปก่อน
เจฟฟ์: ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะทำสงครามกับพวกมันนะ
แซ็ค: เรื่องนั้นฉันทำแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้พวก คนของพวกเรามีไม่ถึง 1,000 คนด้วยซ้ำ
เจฟฟ์: แล้วพวกมันละ ?
แซ็ค: พวกมันมีกองทัพอยู่ทั่วโลก หากนับรวมกันละก็จะไม่ต่ำกว่า 50,000 คนเลยมีเดียว !!!
สตีฟ: เอาน่า อย่างน้อยเราก็ช่วยเจ้าหมานั่นได้
เจฟฟ์: คิดว่าตอนนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง ?
สตีฟ: ไม่รู้สิ ตั้งแต่มันหนีไปได้ก็เงียบหายไปเลย
แซ็ค: อย่างน้อยก็ขอให้มันปลอดภัยก็แล้วกัน....
อาณาจักร FOJ เวลา 09:00 AM เอลฮาร์ด ผู้นำกองทัพโซลแห่ง FOJ ได้เดินทางกลับจากเมือง คริวบัส แล้ว หลังจากที่ถูกสั่งโดยท่าน ควินดารัส ให้ไปเจรจากับพวก เดทธ์ อีทเทอร์ ที่บุกรุกเข้ามา
ริชาร์ด: เป็นไงบ้าง ?
เอลฮาร์ด: ยังพอเจรจากับพวกมันได้อยู่
ริชาร์ด: ข้อเสนอเดิมรึเปล่า
เอลฮาร์ด: ใช่ พวกเราไม่มีทางเลือกนิ
ริชาร์ด: ท่าน ควินดารัส ได้แบบแปลนอาวุธโบราณมาแล้ว คิดว่าถ้าหากมีการบุกรุกครั้งต่อไปของพวกมัน ก็คงไม่จำเป็นต้องเจรจาให้เหนื่อยอีกแล้วละ
เอลฮาร์ด: แบบแปลนอาวุธโบราณ นายหมายถึง เฮลล์ช็อค งั้นหรอ ?
ริชาร์ด: ใช่ ถ้าหากว่าเราใช้แบบแปลนนั่นสร้าง เฮลล์ช็อค ขึ้นมา และดึงพลังงานจาก เดฟสเต็ท ใช้กับมันละก็ อาวุธนี้จะสามารถฆ่าพวก เดทธ์ อีทเทอร์ ได้
เอลฮาร์ด: ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนไหน ?
ริชาร์ด: นักวิชาการกำลังถอดข้อมูลจากแบบแปลน คิดว่าอีกไม่นาน
เอลฮาร์ด: ขอให้เสร็จก่อนที่พวกมันจะบุกครั้งต่อไปก็แล้วกัน
อาวุธโบราณ "เฮลล์ช็อค" เป็นอาวุธที่ใช้สำหรับฆ่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากมนต์ดำในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อาวุธที่ต้องดึงพลังงานจาก เดฟสเต็ท มาใส่ในตัวมันอีกที โดยในอดีตนั้น ผู้ที่ใช้มนต์ดำแบบผิดๆ และ การทำพันธะสัญญากับปีศาจโดยการขายวิญญาณ ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น และ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของผู้คนที่ยอมขายวิญญาณให้แก่พวกมัน จนกระทั่งเรื่องราวการขายวิญญาณมีน้อยลง พวกมันเริ่มหิวโหยวิญญาณมากขึ้น หากวิญญาณของใครที่ทำความดีมามากกว่าความชั่วเท่าไหร่ ความหอมหวานก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น และ ด้วยเหตุที่คนขายวิญญาณน้อยลง พวกมันจึงต้องออกหาด้วยตัวเองพร้อมกับความหิวกระหาย กองทัพ FOJ ที่ตอนนั้นยังไม่สามารถทำอะไรกับปีศาจได้ จึงต้องใช้วิธีเจรจาด้วยการ ส่งตัวนักโทษมาให้กับพวกมัน ถึงแม้จะทำความชั่ว แต่พวกมันก็ยินยอมที่จะทำตาม แต่หลังจากที่อาหารมีไม่พอต่อความต้องการ เมือง คริวบัส คือเมืองที่พวกมันต้องการมากที่สุด เพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่ทำแต่ความดี น้อยมากที่จะมีคนชั่ว ท่านควินดารัส จึงต้องการแบบแปลนนี้เพื่อกำจัดพวก เดทธ์ อีทเทอร์ ให้พ้นๆ เพื่อความปลอดภัยของเมืองที่แสนดีงามอย่าง เมืองคริวบัส
บรูโน่: ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา เราไม่มีเวลามานอนสบายใจนะเฟ้ย
เวลา 12:00 AM กลุ่มของ โธมัส ก็ได้เวลาออกเดินทางเพื่อไปหาเพื่อนเก่าของคุณ วินเซนต์ กันต่อ โดยเหลือระยะทางไม่มากนัก แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการเดินทางคือ กองทัพ Bloody ที่กำลังหาตัวพวกเขาอยู่เต็มไปหมด....
โธมัส: คุณวินเซนต์ อีกไกลแค่ไหนครับ
วินเซนต์: โทษทีพวก ฉันไม่ได้มานานมากแล้ว รู้สึกว่าเมืองนี้จะเปลี่ยนไปเยอะเลย
บรูโน่: ซวยแล้วไง....
โธมัส: ที่นี่มันเมืองอะไรหรอครับ ?
เอ็มม่า: ที่นี่คือเมือง "เซนร์ทีเซีย"
พวกเขาทั้ง 4 ได้เดินทางมาถึงเมือง เซนร์ทีเซีย เมืองที่ได้ชื่อว่า เมืองแห่งความยากไร้ นั่นเอง โดยวินเซนต์ ได้เคยบอกไว้ว่าเขามีเพื่อนเก่าที่เคยเป็นหน่วยรบพิเศษ และ ได้ออกมาเมื่อตอนที่ ไรอัน ถูกฆ่าตายเหมือนกัน แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าก็คือ วินเซนต์ ไม่ได้มาที่นี่นานมาก และเมื่อหลายปีก่อน เมืองนี้ก็ถูกพวก Bloody บุกถล่ม ทำให้ในตอนนี้สภาพของมันนั้นแตกต่างจากที่เป็นมากจนทำให้ วินเซนต์ จะสภาพเดิมของเซนร์ทีเซีย ไม่ได้แล้ว
ณ ฐานทัพของรัฐบาล จากครั้งที่แล้วที่ ไมเคิล โคล์ ได้ไปยังบ้านของโธมัส และ ได้เห็นรูปถ่ายของชายในชุดทหารคนหนึ่งอยู่ภายในบ้าน ไมเคิล จึงได้บอกกับคนของเขาว่าให้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับชายคนนี้ เพราะชายคนนี้ใส่เครื่องแบบทหาร คงจะต้องเป็นคนของรัฐบาลเป็นแน่ จนเวลาผ่านไป คนของ ไมเคิล ก็ได้ข้อมูลมาว่า "ชายในรูปที่อยู่ภายในบ้านของ โธมัส คือ ไรอันคาร์สัน เขาเป็นทหารรับใช้ชาติมานานกว่า 15 ปี ก่อนจะได้เป็นหน่วยรบพิเศษของ FOJ อีกกว่า 10 และถูกเพื่อนร่วมทีมหักหลัง และ ฆ่าตาย" ไมเคิล ค้นข้อมูลต่อไปอีกจนได้รู้ว่าคนที่อยู่ในหน่วยเดียวกับ ไรอัน นั้นมีใครบ้าง นั่นรวมถึง วินเซนต์ ด้วย แถมในแฟ้มประวัติก็ยังไม่มีข้อมูลว่า วินเซนต์ เสียชีวิต นั่นจึงทำให้ ไมเคิล ต้องออกตามหาตัว วินเซนต์ พร้อมกับนำเรื่องนี้ไปบอกกับกลุ่ม Bloody ด้วย.....
เชสเตอร์: แสดงว่างันนี้ไม่หมูแล้วสินะ
เซบาสเตียน: ฉันว่าแล้วทำไมใน คฤหาสน์ บ้านั่นถึงมีแต่แฟ้ม หรือ เอกสารของทางการเยอะมากๆ
ไมเคิล: จะทำอะรก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน อย่าให้เรื่องของฉันต้องไปเสี่ยงกับพวกนาย
แจ็คกี้: นสยกลัวรึไงวะ ??
เชสเตอร์: แจ็คกี้ !! ระวังคำพูดหน่อย คนที่นายกำลังคุยด้วยคือ ไมเคิลนะ
แจ็คกี้: แล้วไง คิดว่านายเป็นใครมาจากไหนถึงมีหน้ามาสั่งพวกเราให้นะวัง !!
ไมเคิล: ฉันจะทำเป็นไม่สนใจน้ำเสียงอันไร้ประโยชน์ของนายก็แล้วกันนะ ไอ้เด็กน้อย
เซบาสเตียน: จะเอาไงต่อเรื่องไรอันละ ไม่มีในประวัติด้วยสิ ว่ามีลูกมีเมียรึเปล่า ?
ดักลาส: ไอ้โง่ คนในหน่วยงานแบบนี้ ไม่มีทางเอาชื่อลูกเมียมาลงประวัติให้เป็นอันตรายหรอก!!
ไมเคิล: เราจะตามหาตัวคนที่ชื่อ วินเซนต์ มันเป็นเพื่อนร่วมหน่วยรบกับ ไรอัน
เชสเตอร์: เรื่องนี้ฉันยกให้นายก็แล้วกัน
แจ็คกี้: อ้าวๆๆ ดูสิใครมา
ดักลาส: ฟรานซิส นายไปไหนมา ?
ฟรานซิส: สมาชิก 2 คนที่ทำงานนอกศูนย์วิจัยของฉันหายตัวไป อาจถูกฆ่าตายไปแล้ว
ไมเคิล: อะไรนะ ฝีมือใคร ?
ฟรานซิส: ยังไม่รู้ แต่มันทำแบบนั้นเพื่อที่จะเจาะระบบรักษาความปลอดภัย มันทำเพื่อช่วยเจ้าหมาบ้านั่น
แจ็คกี้: บ้าเอ้ยย ฉันจัดการเอง!!
เชสเตอร์: นายจะไปไหนแจ็คกี้
แจ็คกี้: ไปจัดการเรื่องบ้านี่ให้จบๆ
ไมเคิล: ดูแลน้องชายนายให้ดีนะ เชสเตอร์ อย่าให้เขาไปก่อเรื่องวุ่นวายอะไรกลับมาละ ไม่งั้นสงครามของพวกเรา กับ FOJ จะเริ่มขึ้นเร็วกว่าที่เราวางแผนไว้
เชสเตอร์: เออ ไม่ต้องห่วงหรอก
แจ็คกี้ น้องชายของ เชสเตอร์ ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา และ ได้ตัดสินใจจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยแจ็คกี้ ได้นำกองกำลังอีกกว่า 300 คนไปด้วย เนื่องจาก แจ็คกี้ อายุเพียง 28 ปี เขาจึงต้องถูก เชสเตอร์ ผู้เป็นพี่ชายคอยบอก และ ตักเตือนเสมอ
เซนร์ทีเซีย พวกของโธมัส ได้มาถึงเป็นที่เรียบร้อย เมืองที่เพื่อนเก่าของ วินเซนต์ อาศัยอยู่ แต่ปัญหาคือ วินเซนต์ ไม่สามารถจำที่อยู่ของเพื่อนเขาได้เ พราะเขาไม่ได้มาที่นี่หลายปี.......
บรูโน่: ซวยแน่แบบเนี่ย
โธมัส: ทำไมเมืองถึงได้เละขนาดนี้
วินเซนต์: เมืองนี้ถูกพระเจ้าทอดทิ้งมานานหลายปี เพราะเหตุการพวก Bloody บุกถล่ม
โธมัส: แล้วเพื่อนคุณจะยังอยู่หรอ ?
วินเซนต์: เรามีทางเลือกไม่มากหรอก อย่างน้อยที่นี่ฉันก็ยังพอให้พวกได้
โธมัส: ให้ บรูโน่ ดมหากลิ่นสิ
บรูโน่: นายจะบ้ารึไง เมืองเหม็นขนาดนี้ อีกอย่าง ฉันไม่เคยได้กลิ่นเพื่อนเขาด้วย แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงละ
วินเซนต์: เอ็มม่า ช่วยค้นดูรูปเก่าๆของเมืองนี้ก่อนที่จะเกิดสงครามหน่อยสิ
เอ็มม่า: ได้ค่ะ ขอเวลาสักครู่
บรูโน่: แล้วเพื่อนๆนายจำรถนายได้รึเปล่า
วินเซนต์: คิดว่าจะจำได้
บรูโน่: ค่อยๆขับไปช้าๆละกัน เจอใครหน้าเหมือนเพื่อนนาย ลงไปหาเลย...
เอ็มม่า: ขวามือของเราอดีตเคยเป็นโรงแรม ไลฟ์คิง ส่วนซ้ายมือจะเป็นร้านหนังสือของเมืองนี้ค่ะ
โธมัส: คุ้นอะไรบ้างไหมคุณ วินเซนต์ ?
วินเซนต์: ใช่ๆ ฉันจำสิ่งที่ เอ็มม่า พูดมาได้ เราต้องเลยโรมแรมนี้ไปอีกหน่อย
บรูโน่: เมืองนี้ใหญ่เป็นบ้าเลย...
เอ็มม่า: มันเคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทิศตะวันตกด้วยนะคะ ก่อนที่จะเรื่องร้ายๆขึ้นที่นี่ และ ได้ฉายาใหม่ว่า เมืองที่แสนยากไร้ หรือ เมืองที่พระเจ้าทอดทิ้ง
จู่ๆตอนนั้นเอง ก็ได้มีก้อนหินถูกโยนเป็นห่าฝนออกมาจากตึกรอบๆด้าน ยังดีที่รถพวกเขาไม่เป็นอะไร แต่ก็ต้องหาที่หลบก่อนเพื่อความปลอดภัย....
บรูโน่: เห้ย อะไรกันวะเนี่ย ไหนบอกว่าจะจำรถนายได้ไง เล่นปาหินใส่แบบนี้เนี่ยนะ !!??
โธมัส: เราซวยแน่เลย ทำอะไรสักอย่างสิคุณ วินเซนต์
วินเซนต์: ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตั้งสติก่อน เอ็มม่า หาที่หลบให้เราก่อน!!
เอ็มม่า: เลี้ยวขวาข้างหน้า แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที คุณจะเจอกับโรงจอดรถเก่าๆ เข้าไปในนั้นได้เลยค่ะ
แล้วพวกเขาก็นำรถเข้ามาแอบอยู่ในโรงรถเก่าๆแห่งหนึ่งในเมืองด้วยความทุลักทุเล แต่ก็ยังรอดมาได้
วินเซนต์: โอ้วว ให้ตายสิพวกนาย ฉันจำที่นี่ได้
โธมัส: ที่นี่ที่ไหนหรอครับ ?
วินเซนต์: ข้างๆโรงรถนี่ คือบ้านของเพื่อนฉัน..
แซ็ค: ไม่เจอกันนานน วินเซนต์ !!
มีผู้ชายเดินออกมาจากมุมมืดๆ ด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ ก่อนจะกล่าวทักทาย วินเซนต์ แล้วจู่ๆเขาก็วิ่งเข้ามา และ ต่อยเข้าไปที่หน้าของ วินเซนต์ จนเขาล้มลงไปนอนกับพื้น
เอ็มม่า: หยุดนะ มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ?!!
โธมัส: คุณทพบ้าอะไรเนี่ย วินเซนต์ เป็นเพื่อนคุณไม่ใช่รึไงกัน ?
บรูโน่: เอาแล้วไง...
แซ็ค: เออ เขาคือเพื่อนฉัน ตอนนี้ก็ยังใช่ แต่เหตุผลที่ฉันชกหน้าเขา ลองฟังจากปากเขาเองก็แล้วกัน....
โธมัส: คุณ วินเซนต์ มันเรื่องอะไรกันครับ !?!?
วินเซนต์: ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มันเป็นแบบนี้ และ ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้น้องสาวนายต้องตาย !?!?
" To Be Continue "
Episode. V
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments