ตอนที่ 2 ความรักที่หายไป

ณโรงพยาบาลที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองพี่น้องก็ดูกระวนกระวาย ห่วงคนที่อยู่ข้างในเป็นอย่างมาก พี่มิกซ์นั่งกอดปลอบฉันที่ร้องห่มร้องไห้อยู่ พี่เขาเห็นฉันแล้ว ก็ทำหน้าเจ็บด้วยอีกคน พี่เขาได้ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของฉัน

"น้องสาวคนเก่งของพี่ หยุดร้องได้แล้วนะ คิวอยู่ในมือหมอแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก"

"ฮึกๆ จริงหรอคะแต่ตอนที่เขาโทรมา ฮึกเขา...เขาพูดฮึกว่าคิวอาการสาหัสมากฮึก ถ้าคิวเป็นอะไรไปแล้วน้องจะทำยังไงฮึกๆ พี่มิกซ์น้องกลัว...ฮึกๆ"

ฉันพูดไปร้องไห้ไปน้ำตาที่เช็ดไปแล้ว ก็ไหลลงมาอีกพี่มิกซ์ดึงฉันเข้ากอดอีกรอบ จากนั้นก็มีเสียงดังมาแต่ไกล

"หนูมีน...คิวเป็นยังไงบ้างหมอเขาว่ายังไงบ้าง"

มาริศา กิจนะกานต์(มะลิ)หญิงอายุราวๆ54ปี ผมสั้นป่ะบ่าแต่งตัวเหมือนพึ่งกลับมาจากงานเลี้ยง

มนัสนันท์ กิจนะกานต์(คิน) ชายหนุ่มวัยรุ่นอายุราว19ปีหน้าตาดีคล้ายคนรักของฉัน

 

"คุณป้าน้องคินมาแล้วหรอคะคุณหมอยังไม่ออกมาเลยค่ะ"

ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นไปรับทั้งสอง ฉันยิ้มให้ดูเหมือนปกติแต่ป้ามะลิก็ยังทำหน้าตากังวลอยู่

"โธ่!! ลูกแม่ขอให้ฟ้าคุ้มครองนะลูก"

ป้ามะลิพนมมือภาวนาให้ลูกชายคนโตปลอยภัย ฉันเห็นท่าท่างของป้าที่เป็นห่วงลูกชาย

"หมอที่นี่เก่งมากคิวจะต้องไม่เป็นไรค่ะ"

ฉันยิ้มแล้วกุมมือป้ามะลิแล้วพูดไม่ให้คิดมาก ทั้งที่ในใจฉันก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน

"อย่างที่พี่มีนบอกเลยครับแม่อีกอย่างนะพี่คิวหนะ ไม่ปล่อยให้คุณแม่อยู่กับผมสองคนหรอกครับ" คินยิ้มแล้วพูดให้กำลังใจแม่ของเขา พี่มิกซ์ยกนิ้วเยี่ยมให้แล้วเข้ามานั่งข้างฉัน

"กินอะไรหน่อยใหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้"

พี่มิกซ์พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คงเห็นว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยล่ะมั่ง ฉันมองพี่เขาแล้วส่ายหน้าพูดปัดๆไป

"ไม่เป็นไรค่ะ น้องยังไม่หิวน้องจะรอคิวออกมาก่อน"

"ไม่ได้!! น้องยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเลยนะ ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนแล้วจะทำยังไง คิวมันคงไม่ดีใจหรอกนะที่เห็นน้องเป็นแบบนี้" พี่มิกซ์ลุกขึ้นทำท่าไม่พอใจพูดน้ำเสียงตะหวาดใส่ฉัน

"ไปซื้อมาเลยถ้าหนูมีนไม่กิน ป้านี้แหละจะบังคับให้กินจนได้"

"ครับคุณป้า"

ผมรับปากออกไปด้วยเสียงหนักแน่นด้วยท่าทางดีใจ แล้วรีบออกไปซื้อของกันกับคิน เพราะถ้าป้ามะลิไม่อยู่ ดูท่าแล้วมีนคงจะไม่ยอมกินอะไรจนกว่าคิวจะออกมา ผ่านไปได้ไม่นานก็กลับมาทุกคนก็กินคนล่ะอย่างสองอย่าง

 

"นี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะทำไมยังไม่เห็นมีคุณหมอ ออกมาบอกอะไรสักคนเลยล่ะค่ะ"

ตอนนี้ใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย สังหรใจแปลกๆฉันกังวลมาก แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง

"นั้นสิป้าเองชักจะกังวลขึ้นมาแล้วนะเนี้ย"

ป้ามะลิเป็นห่วงกลัวลูกชายคนโตจะเป็นอะไรไป ฉันนั่งกุมมือป้ามะลินั่งปลอบใจกัน แล้วประตูบานตรงหน้าก็ถูกเปิดขึ้นออกมา คุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ทุกคนก็รีบลุก แล้วพุ่งไปหาคุณหมออย่างรวดเร็ว หมอนำของบางอย่างออกมาด้วยมันคือกล่องใบเล็ก แล้วทำหน้าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

 

"ลูกชายของฉันปลอดภัยดีแล้วใช่ใหมค่ะคุณหมอ"

"คุณหมอค่ะคิวเป็นยังไงบ้างค่ะ"

ฉันกับป้ามะลิทำหน้าตื่นถามหมอไป แล้วเริ่มหวั่นใจเพราะหมอไม่พูดอะไร ฉันถามหมออีกครั้ง

"คุณหมอคะพูดอะไรสักคำสิคะ"

"นี่...เป็นของที่คนไข้กำไว้ในมือตลอด ไม่ยอมปล่อยตั้งแต่มาถึงที่นี่ครับ คือ...ญาติของคนไข้ทำใจดีๆไว้นะครับ พวกเราทุกคนทำสุดความสามารถแล้วเสียใจด้วยจริงๆนะครับ" หมอทำหน้าเสียใจพูดออกมารวดเดียว ทำให้ทุกคนตกตะลึงกับคำตอบ

"ม่าย...!!คิวลูกแม่"

ป้ามะลิร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นลมล้มลงไป คินก็กำลังใจหายอยู่เห็นแม่เป็นลมร้องออกมาเสียงหลง

"แม่ครับ!!" คินรีบพาแม่กลับมานั่งที่เก้าอี้ฉันเจ้าไปจับเสื้อหมอ

"คุณหมออย่าโกหกสิค่ะฮึกคุณหมอต้องช่วยคิวได้สิคะฮึกๆ ละ...ลองอีกครั้งเถอะนะคะ ฮึกๆฉันขอร้อง...ฮึกๆ"

ฉันร้องออกมาด้วยความเสียใจ น้ำตาไหลออกมาเหมือนสายน้ำ ตอนนี้ตรงหน้าห้องฉุกเฉินมีแต่เสียงร้องไห้

"มีน..."

ผมมองน้องสาวที่ร้องไห้อยู่ตอนนี้ผมก็เสียใจเหมือนกัน ผมเดินเข้าไปหามีนที่ตอนนี้นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู ผมนั่งลงกอดน้องสาวผมไว้แน่นมีนร้องไห้แทบใจจะขาด ทำใจกันอยู่สักพักทุกคนก็เข้าไปดูร่างของคิว ที่นอนโดดเด่นอยู่บนเตียงแต่เหมือนกับคนที่นอนหลับ ไปซะเฉยๆแค่มีแผลที่หน้าเล็กน้อยพอป้ามะลิเห็นลูกชาย ก็ห้องไห้ออกมาอีกจนทำใจดูไม่ได้ คินเลยพาออกมาก่อนเพราะกลัวว่าจะเป็นลม ไปอีกครั้งนึงแต่มีนกลับขออยู่กับคิวต่อสักพักผมเลยออกมา

ฉันมองหน้าคนรักอยู่อย่างเงียบๆแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ฉันร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจพรรนณาต่างๆนาๆว่า

"ฮึกๆทำไมอ่ะ...ทำไมคิวฮึกๆ คิวไม่รักไม่เป็นห่วงมีนแล้วหรอฮือๆ~ ทำไมถึงทิ้งกันไปฮึกๆ คิว...มีนขอร้องฮึก ตื่นขึ้นหามีนเถอะนะฮึกๆฮือๆ~ อย่าพึ่งทิ้งมีนไปฮึกๆ คะ...คิวฮึกไหนเราสัญญากันไว้ฮึกๆ ว่าจะตั้งสตูดิโอด้วยกันไงฮึก คิวเป็นเจ้าของส่วนมีนก็จะเป็นนักออกแบบ ฮึกฮือๆ~ถ้าคิวไม่อยู่แล้วอ่ะ มีนจะทำยังไงต่อไปละฮือๆฮึกฮือๆ~ กลับมาหามีนก่อนนะฮึกๆฮือ~ฮึก"

ร้องไห้อยู่สักพักแล้วออกไปรวมกับทุกคนข้างนอก ฉันเห็นป้ามะลิกับคินยังร้องไห้อยู่เลยเข้าไปนั่งใกล้ๆ จากนั้นก็กอดป้าไว้พี่มิกซ์เดินมายื่นกล่องใบหนึ่งให้

 

"อ่ะ ของที่คิวตั้งใจจะให้มีน..." พี่มิกซ์พูดด้วยท่าทางเศร้า ฉันหันไปมองแล้วพูดด้วยท่าทีงุงงง

"นี่...?อะไรหรอคะ" ฉันเปิดกล่องแล้วตกตะลึงกับสิ่งของตรงหน้า

"แหวน...ฮึกๆสวยมากเลยค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำตาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

"ที่จริงแล้ววันนี้พี่กับคิววางแผน ที่จะเซอร์ไพรขอมีนแต่งงานคิวให้พี่จัดการเรื่องสถานที่ แล้วนี้ก็เป็นแหวน ที่คิวกับมิวช่วยกันเลือกเลยนะ"

"จะ...จริงหรอคะฮึกคิวตั้งใจจะขอน้องแต่งงานหรอคะ" ฉันลูบแหวนแล้วยิ้มใบหน้าเต็มไปด้วยด้วยน้ำตาแห่งความสุข

 

"จริงจ้ะหนูมีนคิวเขามาปรึกษากับป้าแล้ว ตอนนี้ป้าก็คงเป็นห่วงแต่คินนี้แหละ"

ป้ามะลิยิ้มแล้วมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วหันไปมองลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงคนเดียว

"แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ ผมหนะดูแลแม่แทนพี่คิวได้อยู่แล้ว" คินพูดด้วยน้ำเสียงท่าทางมั่นใจป้ามะลิยิ้มแล้วกอดเขา

"จ้ะแม่จะรอนะ" ป้ามะลิพูดด้วยน้ำเสียงปลื่มปิติออกมาด้วยท่าทางสุขใจ

"โตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา"

"แน่อยู่แล้วครับพี่มีน เพราะผมกำลังจะขึ้นเป็นหนุ่มมหาลัยแล้วนะ" คินพูดด้วยท่าทางภูมิใจ

"ถึงเขาจะไม่อยู่แล้วแต่ความดีของเขาก็ยังอยู่ คอยผลักดันให้พวกเราก้าวต่อไปได้" พี่มิกซ์ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าปนให้กำลังใจ

ที่งานฌาปนกิจศพทุกคนก็มาส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย มีทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ของเขาและคนรู้จักกับครอบครัวเขา มากหน้าหลายตา ครอบครัวของฉันก็มา พอเสร็จงานฉันก็มานั่งร้องไห้คนเดียวที่ไม้หินอ่อนใกล้ๆ แล้วก็มีชายคนนึงเดินเข้ามาแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ชัดว่าเป็นใครเพราะเขาใส่แว่นแต่ฉันรับมาด้วยความเต็มใจ

"ขอบคุณนะคะเอ่อ...เป็นคนรู้จัก ของคุณป้าหรอคะขอบคุณที่มาช่วยงานนะคะ" ฉันยิ้มพูดขอบคุณเขาไปเขาได้นั่งลงใกล้ๆมองฉันแล้วยิ้ม

"ทางครอบครัวพี่รู้จักหนะ ส่วนพี่เป็นเพื่อนกับพี่สาวเราพอดีพึ่งรู้ข่าวก็รีบบินกลับมาเลย"

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้านั่งมองฉันไม่วางตา คำพูดสื่อว่าเป็นคนรู้จักฝั่งครอบครัวฉันซะมากกว่าฉันแปลกใจกับคำพูดของเขา

"เพื่อนพี่มิวหรอคะทำไมมีนไม่เคยเห็นหน้าพี่เลยหละ" ฉันทำหน้าสงสัยมองเท่าไหร่ก็ไม่คุ้น เขายิ้มแล้วตอบกลับว่า

"มีน...ไม่เคยเจอพี่หรอกนะแต่อาจจะรู้จักพี่อยู่แล้ว มีนแค่อาจจะนึกไม่ถึงว่าเป็นพี่ก็ได้ เอาหละรีบกลับเข้าไปหาพี่ๆได้แล้วหนะ อย่ามานั่งอยู่ตรงนี่คนเดียวเลย"

เขาพูดจาลึกลับมีลับลมคมนัยแต่น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยฉันมาก และเขาที่กำลังจะเดินออกไปแต่ฉันคว้ามือเขาเอาไว้ก่อน

"แล้วพี่...ชื่ออะไรหรอค่ะ" ฉันถามออกไปเพราะอยากรู้เขาหันมายิ้มให้ฉัน

"ถ้าอยากรู้ก็คิดให้ออกสิว่าพี่นะจะเป็นใคร แต่ขอให้มีนจำเอาไว้อย่างนะว่าพี่เป็นห่วงเราไม่แพ้ใครที่ไหนเลยพี่งั้นไปล่ะ"

เขาพูดด้วยท่าทางเจ้าเลห์ แต่น้ำเสียงฟังดูแล้วอบอุ่น ก่อนไปก็ขยี้หัวด้วยความเอ็นดูเดินออกไปโดยปล่อยให้ฉัน นั่งงงอยู่คนเดียวฉันมองมาที่มือแล้วนึกขึ้นได้

"แล้ว...จะเอายังไงกับผ้าเช็ดหน้านี้ล่ะ"

ฉันพูดด้วยท่าทางเสียดายแต่ก็ไม่รู้จะเอาไปคืนยังไง เพราะก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครรู้แค่ว่าเป็นเพื่อนพี่สาว ฉันเดินไปหาครอบครัวตามที่เขาบอก แล้วเหมือนจะมีเงาใครสักคนหลังต้นไม้ แอบฟังอยู่แล้วก็หายไป หลังทุกอย่างเรียบร้อย ฉันก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง แล้วค่อยกลับมาเปิดร้านอย่างที่ตั้งใจไว้

 

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!