เกมส์ล่าลางสังหาร
สามวันมาแล้วหลังจากการตายของมิ้น บรรยากาศภายในโรงเรียนดูอึมครึมหดหู่ตั้งแต่เช้า ทุกคนต่างพูดถึงการตายของมิ้นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ยังคงพากันจับกลุ่มคุยกันไม่จบสิ้นสักที กิจกรรมหน้าเสาธงก็ดูกร่อยๆ ทุกคนไม่สดชื่นกันเลย แม้แต่คนในห้องเรียนก็ไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเรียน ขนาดคุณครูก็คงไม่อยากที่จะสอน แจกชีทสั่งงานเสร็จก็เดินออกจากห้องไป จนค่อนวันแล้วทุกคนดูไม่ปกติเลย อาหารกลางวันก็ดูจืดชืด เป็นอะไรกันไปหมดก็ไม่รู้ ผมเข้าใจว่ามีนักเรียนตายแต่ผมคิดว่าบรรยากาศมันไม่น่าจะเศร้าขนาดนี้ นี่ก็ผ่านไปสามวันแล้ว คนที่เป็นไปกับเขาด้วยก็คือไอ้นิล เพื่อนสนิทผมที่วันนี้ดู แปลกไปกว่าวันอื่นๆ ผมสังเกตุดูมันตั้งแต่เช้าแล้ว มันมีอาการหวาดระแวง ทำตัวปิดปากเงียบไม่คุยกับใครแม้แต่ผม ที่เป็นเพื่อนสนิทมัน ผมพยายามเดินเข้าไปหา พยายามทัก แต่มันกลับเดินหนีตลอด ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงมันอย่างบอกไม่ถูก เสียงออดหมดเวลาพักกลางวันดังขึ้นนักเรียนต่างทยอยกันกลับเข้าชั้นเรียน แต่ไอ้นิลยืนนิ่งมองหน้าผม ตกลงมันเป็นอะไรกันของมันนะ ผมจึงเดินเข้าไปหามันแล้วสังเกตุเห็นน้ำตาคลอที่เบ้าตามันเหมือนกำลังจะร้องไห้
" เฮ้ย! ไอ้นิล..มึงเป็นเหี้ย..อะไรของมึงวะ"
ผมพูดเสียงดังทำให้มันหลบหน้าก้มลงมองพื้น
" ไอ้แก๊ปกูทนไม่ไหวแล้ว..กูต้องบอกมึงแล้วว่ะ"
มันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม
"เฮ้ย! พูดได้ด้วยเหรอวะกูนึกว่าใบ้แดกไปซะละ"
ผมพูดกวนมันแต่ดูมันไม่ตลกเอาเสียเลย
" เออ..มึงมีอะไรจะบอกกูเหรอ?"
ผมรอฟังคำตอบว่ามันเป็นบ้าอะไรของมันกันแน่
" เอ่อคือ...กระดาษสีดำนั้น"
มันพูดเสียงต่ำอยู่ในลำคอ
" ห๊ะ! ..อะไรนะ กระดาษสีดำอะไรของมึง"
ผมทวนคำพูดมัน แต่มันเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูดต่อ
"กระดาษนั่นน่ะคือมัน...เอ่อ..โธ่เว้ย! กูไม่รู้จะบอกมึงยังไง..มึงต้องว่ากูบ้าแน่ๆ..."
มันหยุดพูดแล้วเอามือกุมหัว
"เชี้ย...มึงอย่าหยุดพูดดิ กูคาใจเว้ยเฮ้ย กูไม่ว่ามึงบ้าหรอก...ทุกวันนี้มึงก็บ้าอยู่แล้ว...ฮ่าๆ ๆ ๆ "
ผมพูดติดตลกแล้วหัวเราะกลบบรรยากาศตึงเครียดที่มันสร้างขึ้น แต่พอมองหน้ามัน เหมือนเดิม มันไม่ขำด้วยเลย ผมจึงหุบยิ้มหยุดหัวเราะทันที
"ตกลงมึงจะบอกกูไหมห๊ะ! "
ผมรู้สึกหงุดหงิดอยากรู้ว่ามันจะบอกอะไรแต่มันดันเงียบเอาแต่ก้มหน้า คราวนี้ผมเห็นน้ำตามันหยดลงพื้น มันเอามือขยุ่มผมแล้วทึ้งไปมา ผมจึงรีบแกะมือมันออกจากหัว เพราะมันเริ่มทำร้ายตัวเองแล้ว
"เฮ้ย! หยุดไอ้นิลมึงเป็นอะไรของมึงวะ ไม่ต้องบอกกูก็ได้..อึก! ..."
พูดไม่ทันจบมันก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดพร้อมร้องไห้โฮ ทำเอาคนรอบข้างหันมามอง ผมพยายามแกะมือมันออกแต่มันยิ่งรัดตัวผมแน่นกว่าเดิม ผมจึงปล่อยเลยตามเลยให้มันร้องไห้ให้เต็มที่คราวนี้รอบกายไม่ได้หยุดมองกันธรรมดา มีเอามือป้องปากกระซิบนินทากันเป็นกลุ่มๆแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ในตอนนี้ผมสนแต่สิ่งที่มันเป็นอยู่ สักพักมันก็ปล่อยมือออก
" มึงมีอะไรบอกกูได้เลย กูเป็นเพื่อนมึงนะ ถ้าช่วยได้กูก็จะช่วย"
ผมตบไหล่มันเบาๆ
"มึงช่วยกูไม่ได้หรอก.."
มันตะคอกใส่หน้าผมพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
" ทำไมวะ! "
ผมจับไหล่มันเขย่า
"พรุ่งนี้กูจะตาย..."
พูดจบมันก็ปัดมือผมออก เมื่อได้ยินสิ่งที่มันบอก ผมก็อึ้งไปสามวิ
"เวรแล้งไง...มึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากูได้ อย่าคิดอะไรแบบนั้นดิ ยังมีคนรักคนห่วงใยมึงอยู่นะอย่างน้อยมึงก็มี..."
"กูไม่ได้จะทำแบบที่มึงคิด"
มันพูดแทรกผมขึ้นมา
"แล้วที่มึงพูดหมายความว่ายังไง "
" ไอ้แก๊ป...กูจะตายตอนสิบโมงตรงวันเสาร์ที่สิบแปดก็คือวันพรุ่งนี้ ไอ้กระดาษนั่นมันบอกกระดาษสีดำที่ครูมานะชัยให้มามึงจำได้มั้ยอาทิตย์ก่อนที่มิ้นจับสลากได้กระดาษนั้น ตอนแรกกูไม่เชื่อหรอก สามวันก่อนกูแอบได้ยินมิ้นกับโบคุยกัน มิ้นมันบอกกับโบว่ามันจะตายตอนเย็นของวันนั้น กระดาษนั่นมันมีข้อความเขียนไว้ ข้อความบอกว่ามันจะตายในวันนั้นตอนเย็น ดูเหมือนโบไม่ค่อยเชื่อกูได้ยินยังหลุดขำเลย พอตอนเย็นมันก็โดนรถชน มึงเข้าใจยัง ไอ้กระดาษเฮงซวยนั้นมันบอกว่ากูจะตายตอนสิบโมงของวันพรุ่งนี้..."
มันพูดเบาลงในประโยคสุดท้าย
" นี่มึงหมายถึงการ์ดที่ครูมานะชัยแจก ก่อนที่ครูจะตายนั่นเหรอ มึงเชื่อไอ้การ์ดบ้าบออะไรนั่นถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ มันอาจบังเอิญก็ได้ มึงนี่ก็คิดมากไปได้"
ไม่รู้ผมพูดออกไปแบบนั้นได้ยังไง ทั้งที่ในหัวมีแต่ความสงสัย ทั้งเรื่องคุณครูมานะชัย เรื่องการตายของมิ้นหรือแม้กระทั้งเรื่องการ์ดสีดำอะไรนั่น
"กูคิดแล้วว่ามึงต้องพูดแบบนี้....กูไม่น่าบอกเรื่องนี้กับมึงเลย เสียเวลาเปล่า พูดไปมึงก็ไม่เชื่อกู..."
มันพูดขึ้นมาขณะที่ผมกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดเรื่องที่มันเล่าให้ฟังอยู่ แล้วมันก็เดินกลับเข้าไปห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ผมจึงรีบวิ่งตามมันไปแล้วดึงแขนมันจับไหล่ให้หันหน้ามา
" เอางี้แล้วกันพรุ่งนี้กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึง โอเคมั้ย! "
ผมพูดหนักแน่นแล้วจ้องหน้ารอคำตอบจากมัน แต่มันจับมือผมออกจากไหล่แล้วเดินไปผมจึงกอดคอมันล็อคเข้ามา แล้วเดินไปด้วยกัน
" มึงไม่ต้องกลัวนะ... กูจะปกป้องมึงเอง เพราะมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู "
ผมแอบเลี่ยนในคำพูดของตัวเอง แต่อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของมัน
" ใบ้แดกอีกแล้ว ไอ้นิล ตกลงจะให้กูไปอยู่เป็นเพื่อนมั้ยพรุ่งนี้...ห๊ะ! "
ผมพับแขนเข้ามาล็อคคอมันแน่น
" เชี้ย! กูหายใจไม่ออก...ก็นี่แหล่ะไอ้เเก๊ปที่กูต้องการได้ยินจากปากมึง กูต้องการให้มึงเชื่อและช่วยกู "
พูดจบมันก็ดึงมือผมออก
" มึงเข้าห้องไปก่อนนะเดี๋ยวกูไปห้องน้ำก่อน " มันผลักผมเข้าห้องแล้วมันก็เดินแยกไปห้องน้ำ ผมมองตามหลังมันไป และมีความรู้สึกว่ามันอุ่นใจขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว ....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments