หวนกลับมาเพียงรัก
“หนูเพียง เดี๋ยวแม่จะไปอังกฤษ 3 เดือน ขอฝากน้องไว้กับหนูหน่อยนะลูก แม่รู้ว่าเรื่องนี้มันอาจจะทำให้หนูลำบากใจ แต่น้องยังเด็กอยู่ ดูแลตัวเองก็ไม่ได้ ยังไงหนูก็โตแล้ว และก็เป็นพี่สาวเขา แม่อยากให้...”
“โอเคค่ะ อาฝน หนูรับปาก”
เพียงรักกล่าวขัดขึ้น เพื่อหยุดหญิงสาววัยกลางคนผู้เป็นทั้งแม่เลี้ยงและคู่สนทนาของเธอ ไม่ให้ยกเหตุผลมาครบล้านประการเสียก่อน
แท้จริงเธอรู้สึกลำบากใจที่จะ ตอบตกลง เพราะน้องที่เจ้าหล่อนพูดถึงก็คือเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่กำลังนั่งปั้นหน้าใสซื่อบ้องแบ๊วอยู่ข้าง ๆ ผู้เป็นแม่
ใช่แล้ว เหตุการณ์ตอนนี้ก็เหมือนกับครั้งแรกที่พวกเขาทั้งคู่ได้เจอกัน เพียงรักเคยคิดว่าเด็กหนุ่มที่มีรูปลักษณ์ราวกับเทพบุตรคนนี้จะเป็นคนน่ารัก สดใส และใจดี แต่ความจริงทุกอย่างมันกลับตาลปัตร เมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอเห็นและจินตนาการไว้ในตอนนั้น
นี่คุณอาจะเห็นร่องรอยความร้ายกาจในแววตาของเด็กนั่นบ้างไหมนะ
แล้วดูแลตัวเองไม่ได้อะไรกัน โกหกชัด ๆ เลย
“เรียกแม่สิลูก มาองอาอะไรล่ะ”
“ค่ะ คุณแม่”
แม้เพียงรักจะเอ่ยตอบด้วยความอึดอัดใจ แต่สีหน้าของร่างบางกลับสะท้อนความน่าเอ็นดูให้ประจักษ์แก่สายตาของหญิงสาววัยกลางคนได้อย่างแจ่มชัด
“แล้วเจ้าภาคก็อย่าดื้อกับพี่เขาให้มากนัก ไม่งั้นแม่จะตัดเงินทุกบัตรเลย คอยดูสิ”
“คร้าบ ผมน่ะว่านอนสอนง่าย เป็นเด็กดีอยู่แล้วล่ะ แต่พี่เพียงน่ะสิ ไม่รู้ว่าจะดูแลผมดีหรือเปล่า”
ร่างสูงแสร้งทำกิริยาออดอ้อน แต่ไม่วายที่เขาจะส่งสายตายียวนให้กับร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
“แม่ว่าคงจะมีแต่เรานี่แหละที่พยศ เอาล่ะ นี่ก็ได้เวลาแล้ว แม่ไปก่อนนะลูก เจ้าภาค หนูเพียง ดูแลตัวเองดี ๆ อย่าไปกวนใจพี่เขาให้มากล่ะ”
แล้วทั้งคู่ก็ลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งผู้ได้ชื่อว่าแม่ที่รถลีมูซีนสีดำขลับ หญิงสาวกอดลาเด็กทั้งสองอีกครั้งก่อนออกเดินทาง
เมื่อรถที่จอดอยู่ขับทะยานออกไป ความเงียบงันและบรรยากาศชวนน่าอึดอัดก็เข้าครอบครองพื้นที่ตรงนี้ไปโดยปริยาย
ภาคินปรายตามองไปที่คนข้าง ๆ เพียงเวลาหนึ่งอึดใจ จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าบ้านไป ส่วนเพียงรักก็ได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะปิดประตูรั้ว แล้วเดินตรงไปยังม้านั่งที่สวนหลังบ้านเพื่อคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียว
แต่แล้วก็ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเธอสักอย่าง เพราะเสียงกวนประสาทของภาคินที่ดังขึ้นจากทางหน้าต่างนั่นเอง
“นี่! มันจะตายหรือไง ที่ต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับฉัน” ภาคินเอ่ยขึ้นด้วยความหัวร้อน
“ไม่ใช่คุณหรอกเหรอ ที่จะเป็นจะตายเพราะต้องมาอยู่กับฉัน เอาเป็นว่าฉันจะดีใจที่สุดเลย ถ้าคุณบอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี่” เพียงรักประชดกลับด้วยเสียงเรียบ พลางยกกระถางสีขาวใบเล็กที่บรรจุต้นฮาโวเทียขึ้นมาดูด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“เดี๋ยวนี้กล้าเถียงฉันเหรอ แถมไม่จำด้วยว่าแม่ฉันสั่งอะไรไว้บ้าง”
“แม่คุณไม่ได้สั่งอะไรฉัน แต่การกระทำแบบนั้นเขาเรียกว่าขอร้อง ถ้าคุณว่างมาก ลองเอาเวลาไปเรียนภาษาและการตีความก็ดี จะได้ไม่ลำบากตอนสอบเข้ามหาลัย”
“นี่เธอว่าฉันเหรอ” ด้วยคำพูดเชือดเฉือนนิ่ม ๆ ของเพียงรัก ทำให้ภาคินเริ่มแสดงออกว่าเขารู้สึกไม่พอใจเธอ
“ฉันไม่ได้ว่าสักหน่อย แต่ที่พูดก็เพราะหวังดี”
“หวังดีงั้นหรอ...” ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินลงไปที่ม้านั่ง สิ่งที่เขาเห็นก็คือคนตัวเล็กที่ให้ความสนอกสนใจกับไม้อวบน้ำต้นน้อยซึ่งเจ้าตัวกำลังถืออยู่อย่างระมัดระวัง
ต้นไม้นั่นมีดีอะไรกว่าเขากันนะ ทำไมจะต้องไปประคบประหงมมันขนาดนั้น ภาคินคิดพลางรู้สึกน้อยใจ
เมื่อเพียงรักชำเลืองเห็นว่าเจ้าเด็กมีปัญหาได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า เธอก็เบนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
เฮ้อ นี่เขาจะรู้บ้างไหมนะ ว่าสงครามเย็นระหว่างเขากับเธอเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจที่สุดอีกหนึ่งเรื่องเลย
“ไม่กล้ามองหน้าฉัน เขินเหรอ?” แม้จะเป็นเพียงการพูดหยอกล้อ แต่ก็ดูจะได้ผลกับร่างบางตรงหน้าดี เพราะเธอหันขวับกลับมาแทบไม่ทัน แถมยังมองค้อนด้วยความไม่พอใจด้วย
“บ้าสิ”
แล้วร่างสูงก็วางมือสองข้างไว้บนพนักม้านั่ง สร้างช่องว่างระหว่างร่างของเพียงรักกับช่วงแขนทั้งสองข้างของเขา ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ จนคนที่นั่งอยู่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขา
“โกหกเก่งน้อยลงนะเรา” ในขณะที่กำลังพูด เขาก็ยกนิ้วขึ้นมาเคาะปลายจมูกเล็ก ๆ ของเพียงรักเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
“ให้มันน้อย ๆ หน่อย” เธอตะหวาดเสียงหลง ทั้งยังมองหน้าคนขี้แกล้งด้วยความไม่พอใจ
“เธอเขินจริง ๆ ด้วย”
ร่างสูงพูดจายียวนกวนประสาทคนตัวเล็กอย่างสนุกสนาน เพราะการแกล้งเพียงรัก จนทำให้เธออารมณ์เสีย เป็นเรื่องที่เขาชอบทำมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว
“ใครเขาจะไปเขินกันล่ะ”
ร่างบางพึมพำเสียงเบาพลางเสมองไปทางอื่น เพราะความใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ หรือดวงตากลมโตที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อราวเทพบุตรซึ่งกำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยความซุกซน อาจจะทลายบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจเธอมาเนิ่นนานก็เป็นได้
“ถ้าไม่เขินแล้วจะหลบตาฉันทำไม นี่ก็ครั้งที่ 4 หรือครั้งที่ 5 ที่เธอเอาแต่มองไปทางนู้นที แล้วก็ทางนี้ที”
“พอได้แล้ว! ฉันจะเข้าบ้าน...”
ในขณะที่ร่างบางกำลังรู้สึกขุ่นเคืองกับคำพูดของคนตรงหน้า จู่ ๆ ร่างสูงก็โน้มใบหน้าคมคายลงมาอยู่ระดับเดียวกันกับคนตัวเล็ก ก่อนจะตีตราเจ้าของริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อด้วยสิ่งเดียวกัน เขาขยับมันด้วยจังหวะเดียวกับการหายใจ แล้วส่งลิ้นอุ่นลุกล้ำเข้าไปช่วงชิงความหวานจากโพรงปากของคนที่อยู่ด้านล่าง
แม้เธอจะพยายามขัดขืน แต่ก็เหมือนปลาที่ติดแห
ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็หมดแรงไปเท่านั้น จึงยอมให้คนโลภตักตวงไปจนกว่าจะพอใจ โดยเหตุการณ์นี้ได้ดำเนินไปเนิ่นนาน จนร่างสูงค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
“คุณนี่มัน...” ร่างบางพูดทั้งที่ยังหอบเหนื่อยจากบทรักร้อนแรงเมื่อครู่
“อื้ม พึ่งเข้าใจคำว่าฮอตเนิร์ดก็วันนี้ เซ็กซี่ดีเนอะ เธอว่าไหม”
“มันจะมากไปแล้วนะ!”
“เธอจูบตอบด้วย” ภาคินเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
แต่ในความคิดของเพียงรักนั้น มันเหมือนกับกำลังเห็นซาตานตัวร้ายกำลังเยาะเย้ยเธออย่างสนุกสนาน
“คุณภาค!” แล้วเส้นด้ายแห่งความอดทนของเธอก็ขาดสะบั้น
ร่างบางตวาดเสียงหลง ก่อนจะผลักร่างสูงออก แต่ในขณะที่กำลังจะลุกและเดินหนีไปนั้น ภาคินก็เอื้อมมือไปวางบนไหล่ทั้งสองข้างของเพียงรัก และกดร่างของเธอให้กลับไปนั่งลงตามเดิม แล้วส่งผ่านถ้อยคำบางอย่างด้วยเสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่ข้างใบหูเล็กของเธอ
“ผมกลับมาแล้วนะ เพียงรัก”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 9
Comments