"เรื่องเป็นยังไงบ้าง" รีมัสพูด
“ฉันชนะคดี”ดับเบิ้ลดอร์พูด แต่ก็ไม่บอกว่าทำไม
รีมัสเดินออกไปจากกระทรวงเวทมนตร์ ด้วยสีหน้าที่โล่งอก
แต่ก่อน ที่จะเดินออกไปไกลกว่านี้ รีมัสหันหน้ากลับมาแล้วเดินตรงไปที่ดับเบิ้ลดอร์ด้วยสีหน้าที่สงสัยปนเครียดว่า
“แล้วเรื่องที่ว่านายพูดคราวนั้น มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” รีมัสพูดด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
อัลบัสดัมเบิลดอร์ นิ่งไปชั่วคู่ก่อนจะตอบบอกกลับไปว่า “ไม่มันไม่ใช่เรื่องจริง เชื่อฉันเถอะฉันไปดูมาแล้ว”เขาพูด
3 วันก่อนหน้านี้ก่อนขึ้นศาล
ดับเบิ้ลดอร์ได้ไปดูHarryเพื่อเช็คดวงวิญญาณของเขาว่าโดยครอบงำหรือเปล่า
แต่ เขาพอรู้อยู่ว่าHarryนั้นเป็นhorcrux เขาเลยรู้ว่าสักวันเด็กคนนั้นจะตาย ถึงแม้เขาจะรู้สึกผิดที่ต้องทำแบบนี้
แต่เพื่อโลกเวทมนตร์ และทุกคน เขาจะพยายามทำให้สงครามนั้นไม่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ถึงแม้เขาต้องสูญเสียคนที่รักก็ตาม แต่หนึ่งชีวิต เพื่ออีกหลายล้านคน นั้นมีค่ามากกว่าอยู่เสมอ มันไม่ใช่ว่าเขาไม่พยายามเอาดวงวิญญาณนี้ออกไปหรอก เขาพยายามแล้ว แต่มันไม่มีทางไหนเลยนอกจากการทำลายภาชนะของวิญญาณ
ฉันก็แค่หวังได้ว่าเมื่อถึงเวลาเด็กคนนี้จะไม่เกลียดฉัน นั่นเป็นสิ่งที่อัลบัสดัมเบิลดอร์คิด
แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขายังไม่รู้
เขารู้เพียงแค่ว่าวิญญาณของVoldemortในเด็กคนนี้มีอยู่แค่1.5% ดังนั้นเขาจึงคิดว่ายังไงเด็กก็ต้องเป็นตัวของเด็กอยู่แล้ว เพราะมีส่วนแค่นิดเดียว ก็สู้วิญญาณทั้งดวง100%ไม่ได้หรอก แต่สิ่งที่เขาไม่ได้เช็คนั้นคือวิญญาณของเด็กนั้นเอง
หากมีใครสงสัยว่า3 วันก่อนเขาไปเช็คเด็กก็ยังไง ซึ่งนั่นเป็นเพราะว่าโดยทั่วไปแล้ว 1 – 3 ขวบ สำหรับเด็กวัยหัดเดินต้องนอนประมาณ 12-14 ชั่วโมงต่อวัน นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถทำได้
หลายปีต่อจากนั้น
สวัสดีฉันชื่อ ดัดลีย์
ชื่อของฉันมันดูหน่อมแน้มใช่ไหมล่ะ ให้ตายเถอะฉันเกลียดชื่อนี้จริงๆ
ไดอารี่ที่รัก ฉันไม่มีอะไรจะพูดมากสำหรับวันนี้ มันก็ไม่แตกต่างไปจากทุกวันก็ดูแย่เหมือนเดิมอะแหละ
เมื่อฉันเขียนเสร็จฉันปิดสมุดไดอารี่ที่ฉันมักเขียนทุกวัน
พวกคุณอาจคิดว่าเขา เป็นเด็กเอาแต่ใจใช่ไหมล่ะแต่มันไม่ใช่เลยล่ะ ดัดลีย์ ในตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจากตอนเป็นเด็ก
พ่อแม่ของเขานั้นไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีญาติที่น่ากลัวในมุมมองของเขา
ทุกครั้งที่ฉันจำเป็นต้องมองไปที่แฮร์รี่ เขากลับมองฉันกลับมาด้วย แววตาที่น่ากลัว สันหลังของชั้นเย็นวูบทุกครั้ง
เขาจ้องฉันฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเลย
วันนี้ก็น่าเบื่อเหมือนเคย ฉันถูกพวกซาดิสพวกนั้น รุมกระทืบ เพียงเพราะต้องการเงินของฉัน ไปเสพยา
ให้ตายเถอะไอ้พวกบ้ายาเอย
เขาค่ำครวญออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ก่อนที่เขาจะเดินออกไปนอกโรงเรียนเพื่อที่จะรอพ่อแม่มารับ
วันนี้เป็นวันที่หิมะตกลงมาค่อนข้างหนักเลยทีเดียว เขาคิดในใจว่าเขานั้นเป็นเด็กชายที่โชคร้ายขนาดไหน
ฉันรอตั้งแต่ตอนเย็นจนตอนนี้จะสามทุ่มอยู่แล้วนะ ทำไมพวกเขายังไม่มาอีกล่ะ
ดัดลีย์คิด ตอนนี้เขาหนาวมากๆ จนบางครั้งมันก็ทำให้เขาคิดว่า บางทีพ่อแม่ของเขานั้นไม่คิดจะสนใจเขาด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเขาจะมีข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงหลายๆอย่าง ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเลิกคิดเลยว่า พ่อของเขานั้นอาจจะสนแต่งาน แม่ของเขานั้น-…
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ยเขาเสียน้ำตาให้กับเรื่องแบบนี้
เขาค่อยๆ หลั่งน้ำตา ออกมาอย่างช้าๆ บางทีเขาก็อาจคิดอยู่บ้างแหละว่าเขาอายุจะ 11 ปีแล้วนะเขาไม่ใช่เด็กแล้ว
แต่ยิ่งเขาคิดแบบนั้นยิ่งทำให้เขาร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม เพราะมันคอยซ้ำเติมเขาว่าเขานั้นร้องไห้อย่างกับเด็กขี้แง
เหมือนที่คนอื่นล้อเขาอย่างนั้นจริงๆ ฉันเรียนหนังสือไม่เก่งไม่เหมือนญาติของเขา บางทีทอมออกจะเป็นอัจฉริยะด้วยซ้ำไป
เหนื่อยชะมัด กว่าจะเสร็จก็ได้
วันนี้เป็นวันที่ร่างกายฉันใกล้จะ 11 ขวบแล้ว หลังจากการซื้อของอันยาวนานของฉัน ฉันเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมอุปกรณ์การเรียน และแน่นอนหนังสือ ใครจะไปรอกันล่ะ ฉันต้องเตรียมไว้ก่อนเพราะฉันยังไม่อยากหางจุกตูดสะเท่าไหร่ด้วย
10 ขวบปีได้แล้วมั้งที่ฉันอยู่ที่นี่ อยู่ในโลกมักเกิ้ล มันให้ให้ฉันนึกย้อนไปในสมัยเด็กของฉันเลยล่ะ
มีสิ่งหนึ่งที่น่าประหลาดใจ ร่างกายของฉันเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด สะดุดล้มก็เจ็บ ใช่มันเจ็บจริงๆ มันทำให้ฉันคิดว่าดวงวิญญาณของฉันนั้นค่อยๆจะหลอมรวมเข้ากับร่าง อย่างเต็มรูปแบบเหมือนคนปกติทั่วไป ในความจริงแล้วมันก็มีทั้งข้อเสียและข้อดี แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันพอใจสะเท่าไหร่
ถามว่าพวกมักเกิ้ลพวกนั้นไม่โกรธฉันหรอที่ฉันออกมาแบบนี้ หึ พวกนั้นหรอจะกล้ากับฉัน แค่ฉันต้องตากับมันมันก็แทบจะสำลักอากาศตายหมดแล้ว
ตอนแรกไอ้พวกบ้านั่นก็จะเก็บฉันไว้ในตู้เก็บของอยู่หลอกนะ แต่คิดหรอว่าฉันจะยอม ฉันก็แค่ขู่จะเอาชีวิตลูกของพวกโสโครกนั่น แค่ฉันหยิบมีดขึ้นมาแล้วทำให้มันเป็นรอยนิดๆหน่อยๆ พวกมันก็ร้องไห้งอแงแล้วแหละ
น่าสมเพชจริงๆ แล้วก็น่าเบื่อนะที่ฉันต้องมาเรียนหนังสือในโลกมักเกิ้ล เพราะกฎหมายบ้านั้นของพวกมักเกิ้ล
และเอาจริงๆนะยิ่งดวงวิญญาณของฉันหลอมรวมเข้ากับร่างกายมีเท่าไหร่ มันทำให้ฉันเหมือนฉันเป็นเด็กจริงๆ เหมือนฉันมาอายุประมาณ 15 ปีอีกครั้งยังไงอย่างนั้นเลยล่ะ
การอยู่ในร่างนี้และตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกชินกับชื่อ harry ไปแล้ว บางทีนั่นอาจจะเป็นชื่อใหม่ของฉันก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยมันก็เป็นนามสกุลเลือดบริสุทธิ์ แต่ยังไงฉันก็คิดว่าVoldemortก็ดีอยู่แล้วละ
ในขณะที่ทอมกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น หางตาของเขาไปสะดุดกับดัดลีย์ที่กำลังยืนรอ พ่อแม่มารับกลับ
“นายยืนทำอะไรอยู่” ทอมกล่าว
ดัดลีย์สะดุ้ง แต่เขาก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเขาได้
เด็กนั้นร้องไห้อีกแล้วหรอ แค่ฉันได้ยินเสียงตรงข้ามห้องของฉัน แค่นั้นก็ทำไม่ฉันจะนอนไม่หลับอยู่แล้ว เพราะเสียงร้องไห้งอแงของมัน ก็พอได้ยินใกล้ๆนี่มันน่ารำคาญยิ่งกว่าอีก
จะว่าไปนะอาทิตย์หน้าก็จะวันเกิดของเจ้าเด็กมีอยู่แล้วนี่นา ถึงแม้ฉันจะไม่ได้รับของขวัญใดๆเลยก็เถอะพอถึงวันเกิดของฉัน ใครสนล่ะ ยังไงฉันก็ไม่เคยได้ของขวัญอยู่แล้ว ฉันไม่อยากได้ของเด็กเล่นพวกนั้น วันเกิดมีไว้สำหรับคนโง่ๆ ที่หวังแต่อะไรไร้สาระ ยังไงมันไม่จำเป็นอยู่แล้วล่ะ
“ฮะ- แฮร์รี่ นายมาทำอะไรที่นี่ ฉันนึกว่านายกลับไปแล้วซะอีก” เขาพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเทา
“ฉันควรถามนายมากกว่าว่านายมายืนรออะไรอยู่ตรงนี้ ยังไม่กลับอีก หิมะตกหนักขนาดนี้ ยังคิดก็พวกนั้นจะมารับนายอีกหรือไง” ทอมพูด
“…” ดัดลีย์เงียบ
ทอมเห็นอย่างนั้น เขาจึงสายเท้าเดินออกไปจากตรงนั้น และพร้อมเดินทางกลับบ้านทันที
ตึก ตึก ตึก จะเสียงที่ควรจะเป็นเสียงเดียว กลับมีเพิ่มขึ้นมา นั้นทำให้ทอมมันกลับไปมอง
“นายจะตามฉันมาทำไม” ทอมพูดพร้อมส่งหางตามองไปที่ดัดลีย์
“ทางกลับบ้านทางเดียวกัน” ดัดลีย์พูดอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ทอมหันหน้ากลับไปและถอนหายใจออกมา ก่อนจะสายท้าวเร็วๆ อย่างไม่รอคนข้างหลังเลย แต่ก็ใช่ว่าดัดลีย์จะยอมแพ้ พยายามเขาเดินเร็วๆให้พอๆกับทอม
แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ดัดลีย์ไม่ได้มองทางข้างหน้าที่เป็นพื้ินน้ำแข็ง แต่ก่อนที่เขาจะล้ม
เขาจับแขนเสื้อของทอม และเมื่อเขาจะล้มลงมา
นั้นทำให้พวกเขานอนทับกัน เขากระแทกพื้นอย่างแรง
ทำให้เสื้อผ้าของพวกเขา สกปรกมอมแมม ไม่แพ้กันเลย
นั้นทำให้คืนนั้น พวกเขากลับด้วยสภาพที่เลอะเทอะมอมแมม ราวกลับผ่านสมรภูมิมา
แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าห้อง ดัดลีย์เลือกที่มองไปที่ทอม พร้อมส่งสายตาขอโทษที่ทำให้เขานั้นลำบากไปด้วย
ทอมก็จ้องเขากลับด้วยเช่นกัน
ก่อนที่ทอมจะทำท่าเอานิ้วโป้งไปที่คอของเขาจากซ้ายไปขวา ราวกับกำลังทำท่าเชือดคอตัวเอง ก่อนจะชี้ไปที่ดัดลีย์
เขามองไปที่ดัดลีย์ด้วยแววตาอาฆาตแค้น
ทำให้ดัดลีย์สะดุ้งพร้อมเสียวสันหลังวูบวาบ และรีบปิดประตูเข้าห้องไปพร้อมกับความไม่สบายใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments