เวทมนตร์ คาถา อาคม ลมปราณ พลังเหนือธรรมชาติ ตลอดไปถึงความเชื่อ ภูติ เทพเจ้า วิญญาณ สิ่งเหล่านี้ต่างอยู่คู่กับมนุษย์ตั้งแต่ครั้งก่อสร้างอารยธรรมของ มนุษย์ไม่มีบันทึกว่าเริ่มตันมาจากที่ใดแต่ไม่ว่าเป็นอย่างไรเวทมนตร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ไปเสียแล้ว..
แม้เวทมนตร์จะถูกยอมรับในสังคมแต่ก็มีเหล่าผู้ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อยู่เช่นกันผู้คนเหล่านี้จึงพยายามพัฒนาศาสตร์วิชา ของตนรวมถึงวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน
ในอดีตเกิดเรื่องขัดแย้งหลายครั้งเช่นกันแทบทุกครั้งก็ต้องจบด้วยการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย
เมื่อเวลาผ่านไปต่างฝ่ายพัฒนาควบคู่กันไปจนรุ่งเรืองขึ้น
แม้จะอยู่รวมกันแต่ทว่าระยะห่างระหว่างผู้วิเศษกับคนธรรมดาก็ยิ่งเด่นชัด
ในโลกที่มีผู้ใช้เวทมนตร์กับสัตว์วิเศษอันทรงพลังมนุษย์จำเป็นต้องดิ้นรนให้รอดจากโลกในนี้
เพื่อที่จะเอาชนะเหล่าผู้มีพลังเหนือ มนุษย์หรือพวกสัตว์อสูร สิ่งของวิเศษกับสุดยอดอาวุธต่างถูกสร้างขึ้น
หนึ่งในนั้นถือกำเนิดขึ้น อัศวินเหล็กยักษ์รูปร่างมนุษย์ถูกเรียกในภายหลังว่า ไททันเกียร์
#####################
ในสถานที่แห่งหนึ่งในแถบพื้นที่ทะเลทราย
ตึ่ง!!
เสียงของร่างโลหะขนาดใหญ่ล้มลงไปกับพื้นจนสั่นสะเทือน
รูปร่างเป็นเสมือนอัศวินเหล็กสีเงินที่ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดสวยงามทำให้รู้ว่าสิ่งนี้เป็นของผู้ที่มีตำแหน่งสูงไม่น้อย
แต่ทว่าเวลานี้กลับถูกเหยียบแทบจะจมดินโดยอัศวินเหล็กสีดำทมิฬขนาดใหญ่ดูดิบเถื่อนพร้อมกับผ้าคลุมสีแดงเพลิงโบกสะบัด
"แก.....ทำแบบนี้กับข้าได้ยังไง..ข้าเป็นถึ....."
เสียงที่มาจาเกราะสีขาวหายไปพร้อมกับเท้าของเกราะยักษ์สีดำทมิฬเหยียบไปที่หัวจนแหลก
ดวงตาอันส่องแสงสว่างสีเขียวมรกตเหลือบมองรอบข้างราวกับว่าไม่อยู่ในสายตา
"........"
"ความแค้นที่แกเคยทำไว้กับพวกของข้าวันนี้แกจะต้องชดใช้!"
ในตอนนี้ร่างของอัศวินเหล็กสีดำทมิฬถูกล้อมรอบไปด้วยอัศวินเหล็กเกราะหนักนับร้อย
"วันนี้ข้าจะเป็นคนจัดการไอ้สัตว์ประหลาดแบบแกเอง"
อัศวินยักษ์เกราะสีเขียวกาวออกมาประตันหน้ากับนักรบเถื่อนถือหอกยาวหมุน ควงสว่านพุ่งตรงไปด้วยความเร็วสูงจากเครื่องยนต์ไอพ่นจากแพ็คเสริมด้านหลัง
ชายหนุ่มผมทองหน้าตาดีผู้เป็นนักบินของอัศวินเกราะเขียวแสยะยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเจ้าหุ่นนักรบเถื่อนไม่ตอบสนองต่อหอกของเขาได้ทันเวลา
"เสร็จข้า ระบำหอกหมุนวน!"
หอกไปมาจนเกินความร้อนสูงกลายเป็นภาพลวงตาของหอกหลายอันโจมตีจากทุกทิศทาง ถึงแม้จะมีการโจมตีอันน่ากลัวเข้ามานักรบเถื่อนก็ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
"....ชื่อท่าเห่ยชะมัด?"
ในจังหวะสุดท้ายก่อนหอกจะเข้าถึงนักรบเถื่อนทำแค่หันตัวออกไปแต่เล็กน้อยทำให้การโจมตีของหอกพุ่งผ่านไปหมดทันทีก่อนจะเดินขึ้นหน้าไปหนึ่งก้าวพร้อมกับยืนมือออกไปทางซ้าย
"หา! "
"บ้าน่าหอกมายาของคุณเควินโนแลนถูกอ่านออกหมดเลย!!"
ตึ่ง!!!
"อั่ก!!"
ในตอนนั้นส่วนหัวของอัศวินเกราะเขียวถูกจับได้โดยมือของนักรบเถื่อนที่ยื่นออกมาพอดี
"หมัดจรวจไฮบริด!"
"แก!!!"
สิ้นเสียงกรีดร้องของนักบินผู้โชคร้ายร่างของอัศวินชุดเกราะเขียวส่วนบนโดนบดขยี้แหลกเป็นเศษเหล็กกระเด็นลอยออกไปพร้อมกับหมัดของนักรบเถื่อนที่หมุนควงอย่างรุนแรงถูกยิงแยกออกมาจากแขนแทบจะในทันที
ตู้ม!!!
ร่างของอัศวินเกราะเขียวผู้โชคร้ายชะตาขาดระเบิดขึ้นมีเปลวไฟลุกไหม้รอบๆ โดยมีหุ่นนักรบเถื่อนสีดำทมิฬดวงตาส่องแสงสีเขียวมรกตกำลังจ้องมองเหล่าหุ่นอัศวินเหล็กที่ยืนล้อมรอบมันอยู่เสมือนปีศาจร้าย
"นะ..นั้นล็อคเก็ตพันช์นี่ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนว่ามันมีพลังรุนแรงขนาดนี้"
"มันก็คงเอาไปเสริมพลังมานั้นแหละแต่ก็มีแต่แค่ไอ้บ้านี่ที่มันกล้าเอามาใช้งานจริงได้ล่ะมั้ง..."
"หมายความว่าไงนะ"
"เอ่อก็อย่างที่พูดไงล็อคเก็ตพันช์นะถือว่าจัดเป็น อาวุธหายากที่มีความรุนแรงแต่มันมีข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่ อย่างในตอนที่แขนถูกยิงออกไปแล้วหากถูกทำลายก็จะทำให้ตัวหุ่นสูญเสียแขนไปอย่างเปล่า ประโยชน์แถมยังไม่คุ้นที่จะติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อีกไอ้ของที่มีแต่จุดอ่อนอย่างนี้ก็มีแต่คนบ้ากับพวกแฟนหนังการ์ตูนเดนตายที่ติดเอาเท่เท่านั้นแหละ"
หนึ่งในนักบินของอัศวินวิเคราะห์อย่างใจเย็น
"หึ..ไม่เห็นจะมีอะไรต้องไปกลัวมันแค่เล็งโจมตีตอนที่มันยิงออกไปเท่านี้ไม่มีอะไรต้องไปกลัวมันแล้วพวกแกลุยเข้าไปพร้อมกันเลย!"
ตะ..แต่ว่า ถึงนายจะบอกแบบนั้นแต่ไอ้คนที่พวกเรากำลังเจอตอนนี้...
คือไอ้สัตว์ประหลาดไร้พ่าย นะซิครับ!!
"โฟตอนคลัสเตอร์"
ฉับ!
“อ๊ากกกก!”
ร่างของของอัศวินเหล็กที่พุ่งเข้าไปทั้งสี่ถูกตัดผ่าออกจากกัน โดยอาวุธพลังงานที่มาจากฝ่ามือของนักรบเถื่อน
"ชิ..ทีมต่อไปรักษาระยะใช้ปืนใหญ่ระดมยิง"
หุ่นนักรบเถื่อนหมุนตัวหลบห่ากระสุนปืนและลูกระเบิดก่อนพุ่งเข้าหากลุ่มอัศวิน ยักษ์ตรงโดยที่หลบดาบไปด้วยท่าแบบกายกรรมขาลอยชี้ขึ้นฟ้า
"แม่งเฮ้ย!โดนสิว่ะ!!"
"อ่ะ..โทษทีนะพี่ชายของยืมมาเป็นโล่แป๊บ"
"ห๊ะ?"
ในวินาทีนั้นนักรบเถื่อนที่กำลังเหวี่ยงตัวหลบกลางอากาศใช้มือเกี่ยวหัวของอัศวินเหล็กผู้โชดร้ายขึ้นมาบังกระสุนระเบิด
ตู้ม!!!!
เหล่าอัศวินเหล็กต่างถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ไม่กี่สิบเครื่อง
"ไอ้ปีศาจอย่าได้ใจให้มันมากนักนะ..อย่างแกนะถึงแม้ต่อให้เหลือแค่ฉันคนเดียวก็จะโค่นอกลงให้ได้!!"
หนึ่งในอัศวินเหล็กเกราะสีฟ้าที่ตอนนี้เหลือแขนข้างเดียวใช้อาวุธปืนยิงใส่หุ่นเหล็ก สีดำทมิฬที่ยืนอยู่บนเศษซากของอัศวินเหล็กที่เป็นศัตรูของมัน
อัศวินสีฟ้ายิงไปที่ใต้เท้าของมันที่เป็นเกราะอย่างแม่นยำจนเกิดระเบิดขึ้น
"...?!"
หุ่นนักรบเถื่อนสูญเสียหลักล้มไปทางซ้าย
"เสร็จข้าล่ะตอนนี้แหละเอาเลย!!"
อัศวินเหล็กที่อยู่ใกล้ไม่รอช้าพุ่งเข้าไปรุมจับตัวหุ่นนักรบเถื่อนทันที
มันพยายามจะหมุนตัวหลบและโจมตีสวนแต่แขนทั้งสองต่างถูกจับล็อคเอาไว้ด้วยหุ่นยนต์อัศวินแต่ละตัวจนแทบขยับไม่ได้
"อ่ะฮาฮ่าฮ่า! ในที่สุด ไอ้ปีศาจอย่างแกก็เสร็จข้าที่นี่แหละ!"
"ดะ..เดียวสิไอ้หมอนั้นมันเป็นของฉันนะ!"
"ก็ช้าเองเสียใจว่ะยัยหนูแต่ข้าจะเอาว่ะ"
"หาว่าใครยัยหนูยะ!"
หนึ่งในอัศวินเหล็กพุ่งผ่านอัศวินเกราะสีฟ้าเข้าหาหุ่นยนต์นักรบเถื่อนที่ดิ้นไม่หลุดด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดาบยักษ์ในมือ
"ตายซะเถอะ!"
ดาบยักษ์พุ่งตรงเข้าหาบริเวณอกส่วนที่เป็นห้องนักบิน
"พลาสมาบีมมมมม!!"
"หา!"
ส่วนท้องของนักรบเถื่อนเปิดออกส่องสว่างด้วยแสงไฟRGBสีรุ้งสดใสก่อนจะยิงลำแสงพลังงานออกมา
"แม้งเฮ้ย!! มันยังมีอาวุธซ่อนอยู่อีกเหรอวะ?"
อัศวินเหล็กพยายามใช้ดาบป้องกันลำแสงแต่ก็ไม่ทันเวลา ลำแสงยิงทะลุเจาะร่างกายเหล็กแล้วเผาไหม้ส่วนต่าง ๆ ของมันจนระเบิดขึ้น
"อะไรกันเนี่ย?! "
"นี่ขนาดมันโดนจับไว้นะ"
ในตอนนี้เหล่าหุ่นเหล็กรอบที่กำลังแตกตื่นอยู่นั้นดวงตาสีเขียวมรกตของหุ่นเหล็กสีดำทมิฬก็หันไปหาอัศวินเหล็กที่กำลังจับแขนข้างหนึ่งอยู่
"อี๋!!"
นักบินที่อยู่ในนั้นร้องความตกใจจนเผลอคลายมือออก
"ลำแสงแฟลชเจิดจรัส"
ดวงตาของหุ่นยนต์นักรบเถื่อนส่องแสงสว่างจ้าแสบตาเป็นวงกว้างจนนักบนตรงข้ามที่อยู่ด้านในต้องปิดตาหันหลบทันที
"ตะ..ตาข้า!!"
''โรมมิ่งมิสไซล์!"
แพ็คเสริมบูสเตอร์ด้านหลังหุ่นยนต์นักรบเถื่อนเปิดออกก่อนจะยิงจรวดมิสไซล์พุ่งเล็งไปที่หุ่นอัศวินเหล็กที่อยู่อีกข้าง
ตู้ม!!!
"อ๊ากกกกก!!"
"ยะ..อย่าให้มันหลุดออกไปได้รีบจับมันเร็ว"
"ตาข้าแม่งเว้ย!! แกอ๊ากก!!"
อัศวินเหล็กที่ด้านข้างถูกเตะกระเด็นก่อนจะถูกหอกที่มาจากซากของพวกพ้องได้ถูกหุ่นยนต์นักรบเถื่อนหยิบมาปาใส่เสียบทะลุไปติดกับหุ่นที่อยู่ด้านหลังกลายเป็นไม่ต่างจากลูกชิ้นเสียบไม้ในทันที
''หมัดเหล็กอะตอมมิค!"
กำปั้นเหล็กไหลส่องแสงที่เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าชกอัดเข้าใส่พวกอัศวินเหล็กด้วยความเร็วสูงหลายทีอย่างต่อเนื่อง
ตู้ม!!
ร่างของพวกอัศวินเหล็กระเบิดขึ้นอย่างรุงแรงจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ลามไปทั่ว
"....บ้าที่สุด..ครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จอีกเหรอ.. ."
เสียงนักบินของอัศวินเกราะสีฟ้าพึมพำอย่างสิ้นหวังจ้องมองเข้าไปในเปลวไฟด้วยความสะพรึง
เสียงของฝีเท้าโลหะค่อยดังออกมาจากเปลวไฟจนปรากฏร่างของยักษ์เหล็กสีดำทมิฬดวงตาส่องแสงสีเขียวมรกตแล้วหยุดยืนมองอย่างอวดดี
"ว่าไง..เหลือเจ้าแค่คนเดียวแล้วนะไม่เข้ามาเหรอ.."
"ยะ...มาดูถูกกันนะไอ้สัตว์ประหลาด"
อัศวินเกราะสีฟ้าพุ่งเข้าใส่นักรบเถื่อนโดยบินวงยิงจากปืนไรเฟิลจาดด้านรอบข้าง อาศัยความชำนาญและสมรรถนะของเครื่องรุ่นพิเศษที่เด่นในเรื่องความเร็ว
แต่ไม่ทันได้ สังเกตเลยว่าแขนของนักรบเถื่อนหายไปหนึ่งข้างในจังหวะพุ่งไปด้านข้างนั้นกลับมีกำปั้นเหล็กบินตรงเข้าหามาดักจากทิศทางที่กำลังมุ่งตรงไปเหมือนถูกอ่านทางอยู่ก่อนแล้ว
"ชิ!! ตั้งแต่ตอนไหนกัน"
นักบินของเกราะสีฟ้าพยายามเคลื่อนหลบแต่ก็ไม่ทันการถูกจับโดยกำปั้นเหล็กและถูกลากไปหานักรบเถื่อนด้วยความเร็วสูงชิ้นส่วนเกราะหลายชิ้นเสียหาย
"จาบ~ด้ายแย้วววว~"
"อ๊าก!!ปล่อยฉันนะ!"
อัศวินเกราะสีฟ้าที่ถูกจับพยายามดิ้นในหลุดแต่ด้วยตัวเครื่องที่นํ้าหนักเบาและถูกสร้างมาด้วยสมรรถนะที่เน้นความเร็วเลยทำให้ไม่มีกำลังพอจะดิ้นหลุดไปได้เลย
"เอ้ย....จบซะที งั้นลาเลยก็แล้วกัน.."
ปืนใหญ่ที่ท้องของหุ่นเหล็กยักษ์เปิดออกส่องแสงสว่าง
"ชิ..ทำไมกัน...ทำไมถึงสู้มันไม่เคยได้เลย แกไปสัตว์ประหลาด แก..ไอ้เจ้า คอสมิคEx!!"
นักบินของเกราะสีฟ้าตะโกนด่าทอต่างแต่เมื่อเห็นแสงจากปืนใหญ่ส่องสว่างกำลังจะยิงออกมาในไม่ช้าเธอก็หลับตาเอามือปิดหน้าด้วยความกลัวทั้งนํ้าตา
"......?"
แต่เมื่อเวลาผ่านไปปืนใหญ่ก็ยังไม่ถูกยิงออกมาจนเธอเริ่มแปลกใจจนลืมตาขึ้น
"หือ? ..ทำไมกันนะ..."
ภาพที่เธอเห็นที่หน้าจอคือร่างอัศวินสีดำทมิฬที่ไร้การตอบสนองดวงตาไร้สีสันแสงไฟRGBที่เคยส่องสว่างตอนนี้กลับถูกปิดสงบนิ่ง
"กะ..เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"
ในตอนที่เธอกำลัง งงกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่หน้าจอปรากฏข้อความขึ้น
เนื่องจากผู้เล่น คอสมิคEXได้ตัดการ เชื่อมต่อจากเซิฟเวอร์
ผู้เล่นคอสมิดEX ได้ออกระหว่างเกมกำลังดำเนินอยู่ จะถูกลงโทษตามกฎและคะแนนจากเกมนี้เป็นโมฆะทั้งหมด
และคุณคือผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายคุณคือผู้ขณะเกมนี้ของรางวัลทั้งหมดจะเป็นของคุณ....
"อ๊ะ...เอ๊ะ!!!"
.
.
.
การเชื่อมต่อถูกตัด เนื่องจากสัญญาณอินเตอร์เน็ตเวทมนตร์โปรดตรวจสอบอุปกรณ์และสอบถามผู้ให้บริการของคุณ
ข้อความจากระบบที่กำลังขึ้นบนจอแสดงผลของแว่นvrเกียร์
"........อีกแล้วเหรอว่ะ"
เด็กชายผมสีดำคนหนึ่งถอดแว่นตาออกตอนนี้เขากำลังนอนอยู่เตียงในห้องของเขาในสภาพหัวฟูก่อนเขาจะลุกขึ้นมองไปอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เป็นตัวส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้วถอนหายใจออกมา
"กะ กรูจะเปลี่ยนค่ายโว้ย!!"
"เฮ้ยไอ้ลูกเวรนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วมาตะโกนแหกปากหาพระแสงอะไร!!"
ในฦดูหนาว ของชั้นเรียนประถมศึกษาปีที่6 ของโรงเรียนสหศึกษาไตรตรึงษ์ในกรุงอาโยธญา
ภายในห้องเรียนไม้ทรงไทยโบราณรวมสมัยที่ประดับด้วยไฟดวงแก้วเวทมนตร์ส่องสว่าง
ณ บริเวณที่มีโต๊ะเรียนไม้สีนํ้าตาลขัดเงาหันหน้าโค้งเข้าหากระดานดำเหมือนห้องประชุม ที่มีนักเรียนชายหญิงอยู่30คน
ณ จุดที่บริเวณริมหน้าต่างแถวกลาง
"หาว~.....ในตายสิ..งวงชะมัดเมื่อคืออารมณ์มันค้างเล่นเกมซะดึกเลย"
ผมที่กำลังเบื่อกับชั่วโมงเรียน คณิตศาสตร์อยู่ตัวผมเองชื่อ แฟลช สลาตัน ปกติทุกคนจะเรียกผมว่าแฟลชครับ
ผมเป็นลูกของบ้านสามัญชนทั่วไปที่อาคัยอยู่ในเมืองอาโยธยาในดินแดนสยามประเทศผมเป็นลูกชายคนโตและมีน้องสองคนหญิงหนึ่งชายอีกหนึ่ง
ผมก็ไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งอะไรความสามารถก็ทั่วๆ ไปหน้าตาก็เรียกว่าไม่หล่ออะไรเลยไม่ค่อยเนื้อหอมอะไร..
แต่ก็นะ? เด็ก10ขวบเองนี่นะจะให้มาคิดเรื่องแบบนี้ก็ใช่ที่
เอาเป็นว่าผมก็แค่เด็กชายธรรมดาๆ ที่หาได้ทั่วไปนั้นแหละครับ
.
.
.
ช่างเหอะเข้าเรื่องเลยดีกว่า พอมานึกถึงเหตุการเมื่อคืนก่อนจะว่าไป
แหม..ในโลกนี้ มีสาวน้อยเวทมนตร์มีตัวตนอยู่จริงๆ เหรอเนี่ยเท่ชะมัดเลย
สาวน้อยเวทมนตร์ ที่ค่อยจัดการ สัตว์อสูรจากในเงามืด..สุดยอดถ้าได้มาเจอกันอีกต้องขอลายเส้นแล้ว
ทำไมผมถึงตื่นเต้นละก็แหม..สาวน้อยเวทมนตร์เลยเชียวนะ? ตัวเป็นๆ เลยในโลกนี้ ปกติจะมีแต่พวกจอมเวททั่วๆ ไปผมที่เป็นพวกแฟนของหนังฮีโร่ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้วนะสิ
ไหนช่วงนี้จะมีข่าวว่าพบเห็นสัตว์อสูร เพิ่มมากขึ้นอีกแถมมีรายงานว่าพบซากที่ถูกจัดการในคืนเดียวกันนั้นอีกต้องเป็นฝีมือเธอเเน่ๆ
ที่คอยจัดการพวกสัตว์อสูร ในยามคํ่าคืน....สุดยอดเลยหลังๆ มานี้ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ ไหนจะภัยธรรมชาติ สัตว์อสูร อะไรแปลกๆ เพิ่มมากขึ้น อืมม..
ไอ้นั้นสินะ จอมมาร..
จริงๆ ในคู่มือคำทำนายที่ให้มาก็มีข้อความว่าจะมี จอมมาร ตื่นขึ้นมาเหมือนกันแต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงมากนักหรอก เพราะตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วที่ทั้ง เวทมนตร์และเทคโนโลยี พัฒนาไปไกลมากแล้วไหนจะพวกมีพลังพิเศษอีก
ไอ้ที่หน้ากลัวนะมันหลังจากนั้นต่างหากละ
ภัยคุกคามจากนอกโลก? ที่แม้แต่ มนุษย์ชาติและจอมมาร ก็ยังต้องร่วมมือกันสู้ แต่ก็อีกนานเลยกว่าจะเกิดละนะ..
ให้ตายเถอะ..ให้ผมอยู่แบบสงบสุขในโลกใบนี้บางไม่ได้รึไงฟ่ะ ส่งสัยช่วงนี้ต้องฝึกให้มากขึ้นแล้ว ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนวันหยุดนี้แวะไปที่ฐานลับดีกว่า
อืมมมม ..ตอนนี้คิดเยอะไปเริ่มจะง่วงซะแล้วงั้นก็ขอหลับสักงีบเลยละกัน ผมลงตัวหน้าซุกไปทั้งแบบนั้น
Zzzz........พี้ๆ ...
“ครูครับ!! ไอ้ แฟลช มันแอบหลับในห้องเรียนครับครู!!”
“หน็อยยยยไอ้นี่.....”
ครูสาวผมสั่นไถข้างสุดเท่ จ้องไปที่แฟลชโดยมีเส้นเลือดปูดที่ใบหน้า
.
.
.
ตอนพักเที่ยง ผมที่กำลังคุยเล่นกะเพื่อนๆ อยู่ในบริเวณม้านั่งพักผ่อนในศาลาไม้ทรงไทยตอนนั้นเอง
“เห้ย?! แฟลชออกไปเจอกันข้างนอกหน่อยดิ!!”
เด็กผู้ชายทางทางเกเรผมตั้งใบหน้ามีผ้าพาสเตอร์ติดแผลที่ใบหน้าเดินเข้ามาทักแฟลชพร้อมพวกหลายคน
“เอ๋? ไม่เอาอ่ะเดียวเขาเจ็บตัวอีก”
“ที่เจ็บมันพวกตูเว้ย!!! รอบก่อนแกเล่นพวกเราไว้ซะยับเลยนะเอ็ง!!”
เด็กชายเกเรทำหน้าตาเส้นเลือดปูดเต็มใบหน้าแต่ในตอนนั้น
ตึงตึงตึงๆ?!!! เสียงของฝีเท้าของใครบางคนและแล้วมีภาพบางอย่างลอยเข้ามาด้วยเท้าบาทา ขาคู่อันสวยงามโดนไม่สนว่ากลางเกงในจะโผล่เลยสักนิดพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
“อย่ามารังแกแฟลช นะยะ!!!”
และเท้าของเธอก็ สัมผัส ไปที่หน้าของเจ้าเด็กเกเรผู้โชคร้าย ทันที
อ้อก!!!
เจ้าเด็กเกเร กระเด็นไปเลยหวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?
เเล้ว เธอก็ม้วนตัวลงอย่างสวยงามพร้อม สะบัดผม.ที่เป็นลอนเกลียวของเธอ อย่างสง่างามและแล้วเธอก็เดินมาทางผม มือขวาของเธอจับเข้าที่หัวของผมทันที เอ๊ะ??
“เจี๊ยก!!! โอ๊ย เจ็บ เจ็บ เจ็บอ่ะ หัวจะล้านแล้วๆ ผมจะหลุดเเล้ว?!!”
“เรื่องของตัวเองทำไมไม่เคลียร์ ให้จบคะ!! ปล่อยให้เขามาหาเรื่องอยู่ได้ค่ะ”
"เอ๊ะ!เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะที่เหลือมันฝีมือเธอทั้งนั้นเลยไม่ใช่เรอะ!"
"หา ..ว่าไงนะได้ยินไม่ชัด..."
“โอ้ย..กะ..ก็แหม..ก็มี เอมมี่จัง ค่อยปกป้องผมอยู่ไง ขอบคุณนะเพราะเอมมี่แท้ๆ พวกนั้นเลยไม่ค่อยกล้าเข้ามาหาเรื่องบ่อยๆ”
ผมพูดขณะส่งยิ้มอันไร้เดียงสาของเด็กไป
“เชอะ!”
แล้วเอมมี่ก็หน้าแดงหันไป แล้วก็เอามือมาจับหัวผมอีกรอบ
“โอ้ยยย!! เจ็บอ่ะทำอะไรเนีย? เอมมี่?”
"นี่นาย เป็นลูกผู้ชายรึป่าวคะ? ต้องให้ผู้หญิงคอยปกป้องเนี่ย?!"
ฮะฮะ~ เด็กผู้หญิงคนนี้คือ เอมมีรี่ สวิส เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมนี่เเหละเธอเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียน
เป็นคนขยันหัวดี ผลการเรียนเป็นเลิส มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าห้องแล้วยังควบตำแหน่งกรรมการนักเรียนอีกไม่เหนื่อยรึไงเนี่ย?
หน้าตาก็ดีถึงนิสัยหัวร้อนง่ายไปบางให้ตายสิ นี่หล่อนหลุดมาจากการ์ตูนแนวโชโจ..เรื่องไหนกันเนี่ย?
เพราะแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยมีเด็กคนไหนกล้ายุ่งเท่าไหล่นั้นละ ปกติคนที่รังแกผมก็มีเเต่เธอคนนี้แหละ...นึกแล้วนํ้าตาจะไหล
“นี่? เอมมี่จังพักกินอะไรสักหน่อยสิ ที่บ้านเราทำขนมไว้ เอามาเยอะอยะเลยนะเจ้าคะ”
อาริสา เด็กหญิงผมสั้นหน้าตาหน้ารักดูเรียบร้อยฉบับกุลสตรีแห่งสยาม เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ ผมเรียกเธอให้นั่งด้วยกัน
“ถ้างั้นดิชั้นก็ขอรบกวน ด้วยนะคะ”
“เชิญเลยจ้า~”
เอมมีรี่ ถอยหายใจก่อนจะนั้งลงข้างๆ ผมแล้วหยิบขนมจ่ามงกุฎกินอย่างหน้าตาเฉย แล้วยิ้มแววตาเป็นประกายดาวเลยทีเดียวนี่หล่อนหลุดมาจากการ์ตูนจริงๆ ใช่ไหม
"อร่อย!"
"ฮิๆ ชอบก็กินอีกได้เลื่อยๆ เลยจ้า เอามาเยอะเลย"
"เฮ้~เอาจริงดิ? เดี๋ยวก็อ้วนหรอก..แอ๊ก!!"
ผมโดนสองสาวตบแทบจะพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มที่ไร้อารมณ์โดยมีออร่าที่น่ากลัว
ช่วงเวลาในชั่วโมงเรียนประวัติศาสตร์ รอบบ่าย
ในอดีตเมื่อ400ปีก่อน โลกนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า จอมมาร อยู่..เผ่าปีศาจที่มีพลังเวทสูง ทำให้ในอดีตหลายประเทศต้องสูญเสียครั้งใหญ่ จนในที่สุดหลายประเทศก็ต้องร่วมมือกันกับผู้ที่ถูกเรียก ว่าผู้กล้าคนแรกของโลกและกลุ่มปาตี้ จัดการจอมมารลงได้ในที่สุด..
อาจารย์หนุ่มใหญ่ผมสีเทาใส่แว้นตากำลังบรรยายประวัติศาสตร์พร้อมภาพถ่ายของกลุ่มผู้กล้าและกองทัพพันธมิตรโดย ฉายภาพจากเครื่องโปรเจคเตอร์ในห้องที่ถูกปรับให้มือลงด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ควบคุมแสงสว่าง นักเรียนหลายคนในห้องที่กำลังตั้งใจฟังคำบรรยายของอาจารย์เพราะเป็นของผู้กล้าฮีโร่ที่พวกเขาใฝ่ฝัน
"ฮือ..ฮื่อ..ซิกๆ"
แฟลชที่กำลังหนังอ่านนิยายดราม่าสุดซึ่งที่เกี่ยวข้องกับเด็กหญิงและน้องหมา อย่างจริงจังจนอินและร้องไห้ออกมา ส่วน อริสานั่งมองด้วยสีหน้าปลาตายไร้อารมณ์แบบเอือมระอา ส่วนอาจารย์นั้น
ไม่เห็นๆ อย่าไปสนใจไอ้เด็กเวรนี่มัน..
อาจารย์ที่กำลังเหงื่อตกมีใบหน้าหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับแฟลชดี มีหลายครั้งที่เขาพยายามจะแกล้งให้ข้อสอบและโจทย์คำถามยากๆ แก่ แฟลช เด็กชายก็ตอบและทำได้หมดแบบไร้ที่ติ เขาเลยจนปัญญาทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยและทำเป็นไม่สนใจแค่นั้น
ชั่วโมงพละ ภายในสนามวิ่งมาตฐานขนาดใหญ่ในโรงเรียน วันนี้เป็นวันที่ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของนักเรียนโดยการวิ่ง
ปี๊บ!
"ผู้ทำเวลาดีที่สุด ในระยะ100เมตรด้วยเวลา 4.5วินาทีกับอีกจุด08 คืออาริสา!!"
สิ้นเสียงประกาศของครูพละที่เป็นสาวสวยผมสั้นมีกล้ามเหมือนนักเพาะกาย สาวๆ ภายในห้องต่างเข้าไปดีใจกับ อาริสา
"เห..ยัยนั่นเร็วขึ้นอีกแล้วนะนี่ สุดยอด.."
"แฟลชแกก็รีบประจำที่ได้แล้วถึงตาแกแล้วครั้งนี้ก็ทำให้มันจริงจังด้วยนะ! "
"ครับๆ"
สิ้นเสียงของครูพละผมก็เข้าไปประจําที่ด้วยท่าทางขี้เกียด พร้อมกับเสียงนกหวีด
บี๊บ!
"แฟลช ทำเวลาระยะ100เมตร เวลา....5.5 วินาทีกับอีก5.5.5เสี้ยววินาที.."
"เจ๋งเป้ง!!"
โป๊ก!! "แอ็ก!"
ผมที่ยืดอกยิ้มอย่างภูมิใจก่อนที่ครูพละจะเขกหัวผมหนึ่งที
"ฉันบอกแกเอาจริงเอาจังให้ตั้งใจไม่ใช่เรอะ รอบก่อนๆ ก็6.6มั้งละ7.7 มั้งละนี่แกอยากเล่นตลกรึไง"
"ผมก็ตั้งใจสุดๆ ให้เวลาออกมาสวยงานสมมาตรเปะๆ เลยนะครับครู"
"แล้วนี่แกจะทำเวลาแบบนี่ไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ทำเวลาให้มันดีห๊ะ!"
"แน่นอนครับ ก็เพราะมันเท่นะสิ!"
แฟลชพูดด้วยสีหน้าโคตรจริงจังมาดเข้ม ส่วนครูพละก็มองสายตาปลาตายไร้อารมณ์ก่อนจะเดินถอนหายใจพร้อมๆ เพื่อนในห้องเรียน
นี่ก็คือชีวิตประจำวัน ในโรงเรียนของผมนี่แหละครับ..
ในเมื่อผมอยู่ในร่างที่เป็นเด็กผมก็ขอใช้ชีวิตให้สมกับเด็กขอสนุกมันกับชีวิต.. ที่ไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้ในต่างโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาเมื่อสิ่งนั้นจะมา ช่วงเวลาที่สงบสุขมันดีที่สุดแล้วจริงๆ ..
ในช่วงเวลาเลิกเรียน..
“นี่ แฟลช?! วันนี้นายมีธุระที่ไหนไหม ถ้าไม่มีไปที่บ้านเราไหม”
อาริสาได้เข้ามาชวนให้ไปเที่ยวที่บ้านของเธอด้วยสีน่าเหมือนลูกแมว
"คุณพ่อกับพี่บอกอยากมีคู่ซ้อมด้วย อยากให้มาให้ได้นะ"
"อืมได้สิ เดียวเก็บของกับโทรบอกที่บ้านก่อนแป๊ปน่า.."
"จริงเหรอ? ทุกคนต้องดีใจแน่ ถ้าแฟลชไปด้วยแบบนี้ช่วงนี้จะใกล้เเข่งแล้วด้วยเห็นพี่บ่น หาคู่ซ้อมไม่ค่อยได้เลยนะช่วยได้มาก ขอบคุณนะ"
เธอยิ้มอ่อนๆ สีหน้าดีใจแก้มออกสีแดงนิดๆ บ่งบอกว่ามีความสุขอย่างมาก
ก็แหมเห็นสีหน้าแบบนี้แล้วจะให้ปฏิเสธลง ไปได้ไงกันล่ะครับ?
"ไม่เป็นไรๆ แค่นี้เองผมก็ไม่ได้เจอลุง เก นานแล้วด้วยได้โอกาสแวะไปเยี่ยมลุง เก บ้างก็ดีเหมือนกัน แล้วกับข้าวสูตรชาววังของ ป้าแก้ว ก็อร่อยมากๆ ด้วย"
“งั้นเหรอขอบคุณนะ ฮิฮิ..”
เด็กสาวคนนี้คือเพื่อนสมัยเด็กของผมอีกคนเห็นเป็นแม่หญิงนิสัยใจดีงดงามแบบนี้จริงๆ แล้ว ไม่ธรรมดาเลยเชียวล่ะ
เธอ ชื่อ อาริสา ยาธิดา เธอเป็นลูกสาวค่ายมวยชื่อดังที่มีนักมวยคว้าแชมป์มาหลายเข้มขัดรวมถึงพี่ชายของเธอเห็นว่าเมื่อก่อนต้นตระกูลของเธอเป็นนักรบที่ค่อยพิทักษ์ กษัตริย์ เลยสืบทอดวิชาอาคม วิชามัดมวยโบราณมาด้วย คนสืบทอดสายเอกก็เธอคนนี้นี่แหละ
อย่าไปทำให้เธอโกรธเชียว หน้ากลัวยังกะยักษ์มารเข้าสิงเลยละ..ไม่สิ ยักษ์มาร เข้าสิงจริงๆ เลยละ
"นะ? นี่ แฟลช? ทำไมมองชั้นแบบนั้นนะ เดียวเถอะ เเล้วนี่เสร็จรึยังรอนานเเล้วนะ?!"
“จ๊ะ!! สะ..เสร็จเเล้วคร้าบบบผม!!”
แฟลชที่พูดอย่างตื่นกลัวใบหน้าซีดเหมือนไก่ต้มในท่าวันทยหัตถ์อย่างองอาจ
“ปะ.. เป็นอะไรของนายเนี่ย?”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments