เป็นผู้กล้านั้นแสนวุ่นวายอยากเป็นสามัญชนแล้วหนักหัวใคร MAGICAL SHIN Infinity THE ORIGN
ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ณ ดาวเคราะห์ที่มีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา..ที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุด
ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนถูกสร้างจากจักรกลมีร่างกายอันใหญ่โตใสสว่างเป็นแก้วคริสตัล ห่อหุ้มร่างกายด้วยเกราะเหล็กกล้าเฮราติที่แข็งที่สุดในอวกาศ
ทุกๆ สิ่งมีชีวิตในจักรวาลต่างเรียกเผ่าพันธุ์นี้ว่า อัลตัลตาต้า เผ่าพันธุ์ที่ล่าดวงดาวมาเป็นอาณานิคมเพื่อดูดกลืนทรัพยากรและสิ่งมีชีวิตจากดวงดาวต่างๆ
เผ่าพันธุ์อันทรงพลังที่ปกครองดวงดาวนับพัน วันเวลาผ่านไปแสนนานต่างมีดวงดาวถูกดูดกลืนมากยิ่งขึ้น ด้วยความโหดร้ายและไร้เหตุผลของเผ่าพันธ์อัลตัลตาต้า ที่มองแทบสุดสิ่งมีชีวิตจากต่างเผ่าพันธุ์อื่นเป็นเพียงแค่อาหารและทาศว่าตํ่าชั้น
จนในที่สุดก็ก่อเกิดสงครามกบฏขึ้น...ระหว่างเผ่าพันธุ์ ศึกนี้คืนศึกตัดสินชีวิตความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ หลายล้านชีวิตจากดวงดาวต่างๆ ได้ร่วมจัดตั้งกลุ่มกบฏขึ้นเป็นพันธมิตรเพื่อสู้ศึกเเลกชีวิตชี้เป็นตายในครั้งนี้หวังเพื่อชัยชนะอันสิ้นหวังจำเป็นต้องเข้าไปทำลายเเกนพลังงานของดาว อัลตัลตาต้า ที่เป็นแหล่งพลังงานหลักที่เป็นหัวใจหล่อเลี้ยงพวกมันในการรบครั้งนี้ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นตั๋วเที่ยวเดียวไม่มีกลับแต่ก็หาได้มีความกลัวไม่เพื่ออนาคตเพื่อครอบครัว เพื่อคนอันเป็นที่รักและดวงดาวบ้านเกิด..
กลุ่มกบฏและกองยานพันธมิตรต่างได้เข้าประชิดแลกปืนใหญ่และคมดาบ กองยานอวกาศของ อัลตัลตาต้า นั้นทรงพลังเป็นสุดยอดแห่งอวกาศแต่ไม่ได้มีเพียงแค่กองยานแต่ยังมีเหล่าสัตว์ประหลาดอวกาศขนาดยักษ์ที่วิวัฒนาการถึงขีดสุดนับไม่ถ้วน เป็นศึกอันสิ้นหวังแทบจะกลายเป็นฆ่าล้านเผ่าพันธุ์หลายชีวิตต่างสูญเสียเลือดทุกหยดต่างไหลริน
.
.
หนึ่งในเขตการรบบน ดวงจันทร์สีชาญบริวารของดาวอาตัลตาต้า ณ ยานอวกาศขนาดยักษ์3000เมตรขอกลุ่มกบฏ
"กัปตันกองกำลังของพวกเหลือเราไม่ถึง20%แล้วครับ!!"
"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแม้แต่น่านฟ้าคริสตัลเราก็ไปไม่ถึงแน่ครับ.."
"โธ่เว้ย!!พวกข้าต้องมาตายกันแบบนี้หรืออย่างไร แบบนี้สิ่งที่พวกเราทำกันมาก็ไร้ประโยชน์นะสิ!!"
"แม่งเฮ้ย.. ขอแค่ไม่มีไอ้พวกตัวแบบนั้นออกมาทุกอย่างก็ต้องไปได้สวยแล้วแท้ๆ"
เหล่าลูกเรือต่างตะโกนด่าทอด้วยความเจ็บแค้นแต่มีเพียงกัปตันยานในชุดคลุมสีดำที่ยังสงบเยือกเย็นลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
"เดินหน้าต่อไปซะ..ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ไม่เหลือสิ่งที่เรีบกว่าบ้านให้กลับไปอยู่แล้ว... "
"ท่านกัปตัน...."
"พวกแกก็รู้ดีอยู่แล้วถึงมากันนี่หว่า.."
"แต่ว่า...."
"เหอะ!ช่างน่าเบื่อเสียจริง เฮ้ยผู้ช่วยไปเอาเหล้ามาให้ข้าหน่อย!!"
"ท่านกัปตันตอนนี้ยังอยู่ในการรบนะครับ"
"ใครมันจะสนกันวะ! ยังไงก็ไม่รู้จะรอดไหมอยู่แล้ว ถ้าข้าจะต้องตายยังไงก็ให้ได้กระดกสุราเลิศรสอันโปรดปรานของข้าหน่อยละกัน ฮาฮ่าฮ่า!"
เมื่อเหล่าลูกเรือได้ยินกลับมีสีหน้าที่ดูผ่อนคลายลงแล้วแสยะยิ้มขึ้น
"งั้นข้าก็ขอด้วยสิท่านกัปตัน"
"ข้าด้วย!"
"ข้าก็ด้วย"
"หึ..ดีไอ้พวกบ้างั้นเรามาฉลองพร้อมกับศึกนี้แด่เหล่าดวงดาราที่ดับสูญแล้วอวยพรให้เหล่าผู้กล้ากันเถอะ!"
"ครับ!"
"ดีเดินหน้าได้ไอ้พวกบ้าทั้งหลาย! เราจะส่งเหล่าผู้กล้าพร้อมกับลากพวกมันมาดับสูญด้วยกันเถอะ"
"ครับท่านกัปตัน!!!!"
เหล่าลูกเรือกลับไปมองที่หน้าจอ เหล่ายานอวกาศเคลื่อนหันปากกระบอกปืนใหญ่เคลื่อนไหวมุ่งตรงไปยังบางอย่างที่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดสูงหลายพันเมตรที่มีดวงตากลมโตสิบสองดวงผิวหนังเป็นคริสตัลสีทองแดงมีชุดเกราะปกคลุมทั่วทั้งร่างมีแขนหกข้างและยังมีปืนใหญตามตัวนับไม่ถ้วน
พร้อมด้วยเหล่าบริวารแมลงคริสตัลหลายล้านตัว
" ปืนใหญ่พลังงาน ยิงได้!!!"
ลำแสงจากปืนใหญ่หลายกระบอกเข้าปะทะกันกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์จนเกินระเบิดที่รุนแรน
"ยิงอัดต่อไปอย่างหยุด!!"
"กะ! กัปตัน ตรวจจับสัญญาณคลื่นพลังงานคอสมิคได้ครับ! มันกำลังจะยิงระเบิดทำลายล้างครับ!!"
"หักหลบแล้วให้วาร์ปออกไปทางซ้ายอีก20 กิโลเมตรเดี๋ยวนี้!!"
แม้จะสาดอาวุธเข้าเท่าใดแต่ทว่าไม่อาจสร้างรอยแผลให้มันได้ หัวยานรบหักเลี้ยวซ้ายพร้อมกับเดินเครื่องไอพ้นด้านหลังอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะพุ่งหายไปจากบริเวณนั้นในเวลาไม่กี่วินาที
ในจุดเดียวกันกับที่ยานอวกาศเคยอยู่เกิดการระเบิดของคลื่นพลังอันมหาศาลจนทำลายยานลบที่หลบหนีไม่ทันในรัศมี10 กิโลเมตรกลายเป็นเศษซากทันที
"ยานอาจินแล้วก็เวอร์นั่วกับอูยู พร้อมกับหุ่นรบของพันธมิตรอีกจำนวนมากถูกทำลายครับ"!
"ชิ!เปลี่ยนร่างเตรียมตัวสู้ประชิด เราต้องหยุดการเคลื่อนไหวของมันให้ยานพันธมิตรของเรามีเวลาตั้งตัว"
รับทราบเริ่มเปลี่ยนโหมดต่อสู้ประชิดหลังจากจุดวาร์ป ทุกหน่วยเตรียมพร้อม เริ่มนับถอยหลัง 5..4..3..2.....
ยานอวกาศที่วาร์ปหลบมาอยู่ใกล้กับมันเปลี่ยนร่างเป็น หุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์เข้าชนพร้อมอัดหมัดลำแสงหมุนควงสว่าน
"เอาไปชิมให้อร่อยซะไอ้เวรตะไล!! แมกซิมัมนัคเคิล!!
กำปั้นเหล็กพุ่งเข้าใส่ปะทะกับร่างของมันอย่างรุนแรงจนเจ้ายักษ์คริสตัลเซไปเลยทีเดียว
"หึ...แม้ข้าจะจบชีวิตที่นี่ แต่ข้าจะส่งพวกท่านไปให้ได้..ท่านผู้กล้าแห่งดวงดารา''
กัปตันขยับหมวกจ้องมองศัตรูของเขาพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างพอใจ
เวลาผ่านไปหลังจากการเสียสละของพรรคพวกในที่สุดผู้กล้าที่รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายก็ได้มาถึงเมืองปราสาทชั้นใน
ในสถานที่เป็นเหมือนพระราชวังที่ถูกสร้างด้วยแก้วสีเขียวมรกตส่องแสงสว่างเสมือนแก้วคริสตัลอันใหญ่โตมโหฬาร
ที่ถูกล้อมรอบด้วยบาเรียแก้ว7ชั้น โดยที่บริเวณโดยรอบต่างมีเพลิงลุกไหม้และเสียหายจากการสู้รบ ของพันธมิตรกลุ่มกบฏ
ในชั้นหนึ่งของบาเรียแก้ว
“อ๊าก!ไอ้บ้าเอ้ยยยไอ้พวกจักรกลเฮงซวยเละไปซะ!!”
ปัง! ปัง! ปัง!! ๆ
ตู้ม!! ตู้ม!!
เสียงของปืนเเละระเบิดดังไม่หยุดอย่างต่อเนื่องภาพของเหล่าทหารกล้าในชุดสีเทาที่ไล่ยิงจักรกลรูปร่างเหมือนแมลงชนิดต่างๆ แต่ขนาดใหญ่กว่าหลายเมตรถึงหลายสิบเมตร
“ท่านหัวหน้าพวกมันมาไม่หมดไม่หยุดซะที!!”
“… คาคุ พวกเจ้าอดทนอีกนิดนะทีมสามกำลังดึงความสนใจ คาทูบาดาคลู อยู่..”
เขาจ้องมองไปเขตการรบที่กำลังลุกไหม้ด้วยเพลิงสีเขียวมรกต จากฝีมือของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์มีร่างกายสีทองส่องประกายดูอันศักดิ์สิทธิ์ ลำตัวมีใบหน้าของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ถึง17ใบหน้ารอบตัวดวงตาบนใบหน้าต่างขยับไปมาเพื่อตรวจแขนของทั้งสองข้างมี หนวดปลาหมึกขยับไปมาเสมือนสิ่งมีชีวิต กำลังลอยอยู่บนเศษซากของหุ่นรบและศพของกลุ่มพันธมิตรนับแสนชีวิต ส่งเสียงดังกรีดร้องอันน่าสยดสยอง
เสียงกรีดร้องของมันทำให้กองกำลังพันธมิตรที่พยายามเข้าใกล้ต่างคุ้มคลั่งเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อแทบจะในทันทีและการโจมตีด้วยคลื่นพลังของมันก็ไม่สนสถานที่หรือกับบรรดาพรรคพวกของมันเลยแม้แต่นิดเดียว
หากไม่มีหน่วยหุ่นรบหรือผู้ที่มีพลังงานอันแข็งแกร่งก็มิอาจเข้าถึงตัวของมันได้เลย
"ท่านหัวหน้าและพวกท่านผู้กล้ารีบเข้าไปเถอะตรงนี้ปล่อยให้พวกข้ากับหน่วยพิทักษ์เถอะ.."
"งั้นรึเจ้าตัดสินใจแล้วสินะ..ฝากด้วยล่ะ"
กลุ่มกองกำลังผู้กล้าต่างใช้พรรคพวกที่เสียสละและซากศพเป็นเกราะกำบังตีฝ่าวงล้อมเข้าไปให้ถึงส่วนกลาง แต่ทว่าในเขตสุดท้ายมีสิ่งที่อันตรายปกป้องเอาไว้อยู่
ตู้ม!!
อยู่ๆ ก็เกิดการระเบิดที่รุนแรงในทิศทางที่มีการระเบิดปรากฏร่างของอัศวินยักษ์แก้วคริสตัลชุดเกราะเหล็กสีขาวร่างสูงใหญ่ดวงตาสีแดงส่องสว่างในกลางอกส่องแสงสีเขียวมรกต ที่ในมือถือชุดเกราะรูปมนุษย์ที่ร่างแน่นิ่งก่อนจะโยนลงพื้นและเหยียบยํ่าไม่ต่างจากเศษขยะ
“นั้นมัน!? เอสคาเตอร์ผู้นำของตัลตาต้า!!”
“ไอ้ตัวน่ารังเกียจนั้น!! ออกมาถึงนี่เองเลยเรอะ”
“ไอ้พวกชั้นตํ่ากล้าเข้ามาทำให้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์์ต้องแปลกเปื้อน!”
อัศวินเหล็กยักษ์ตาสีแดงพูดด้วยนํ้าอันโกรธเกรี้ยวพร้อมปลดปล่อยแรงกดดันจนแทบทุกอย่างลุกไหม้
“รีบไปเถอะครับพวกเราต้านไว้ให้เอง!!”
กลุ่มกบฎแม้พวกพูดกับหัวหน้าทีมของเขาด้วยใบหน้าอันแน่วแน่พวกเขารู้แม้พวกเขาจะเป็นสุดยอดฝีมือและได้รับพลังพิเศษอันแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจเป็นคู่มือต่อพลังอันไร้เหตุผลของเอสคาเตอร์ได้
"อืม..ได้..."
เมื่อได้ยินดังนั้นเขาหลับตาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์รีบตรงไปที่เตาพลังงานทันที
ในตอนที่เขากำลังจัดการเครื่องควบคุมของเตาพลังงานอยู่ในตอนนั้น..มีบางสิ่งเเทงทะลุท้องของเขาจากด้างหลังเลือดได้สาดกระจาดออกจากแผล
"??! ... อัก! ..."
เขากระอักเลือดออกมาเมื่อเขาหันมองไปก็เห็นร่างอัศวินเหล็กสีขาวดวงตาสรแดงเหลือบมองอย่างดูถูกมันคือ เอสคาเตอร์ ผู้นำของดาวจักรกล..
“ไอ้พวกชั้นตํ่า แค่เศษสวะอย่างพวกแกจะทำอะไรได้ ที่ผ่านมาข้าแค่ปล่อยให้พวกแกเข้ามาข้าแค่อยากรู้ข้าไอ้พวกสิ่งมีชีวิตกระจ้อยร่อยอย่างพวกแกจะต่อต้านได้แค่ไหนเพื่อแก้เบื่อเท่านั้น
มันจบสิ้นเเล้วหลังจากจบเรื่องนี้ ข้าจะทำให้ดาวของพวกเจ้าต้องศูนย์สิ้น ข้าจะกลืนกินทุกดวงชีวิตในทุกๆ ที่ที่พวกข้าเหยียบยํ่าจะไม่ให้เหลือรอดสักตัวเดียว”
"......หึหึหึฮ่าๆ"
เจ้าจักรกลต้องแปลกใจจากเสียงหัวเราะของเขา
“..แกกำลังจะตายยังจะขำอะไร”
"อุ๊? .เเค่กๆ ..เเก..นี่มัน...บ้านํ้าลายว่ะ.."
ใน สายตาที่พร่ามัวของเขาหันไปหาศพของพวกพ้องของเขา...ไม่มีความเสียใจในสีหน้าของเขาเเม้แต่น้อยเเต่กับเกิดรอยยิ้มขึ้นที่มีความสุขแทน
"....แกเสียใจ ด้วยว่ะ..เเต่ทุกอย่างมันจบ.. แล้ว"
“ไอ้เศษขยะหมายความว่าไรจะตายอยู่แล้วยังจะเห่าหอนอีก”
เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายกดปุ่ม
กริ๊ก!
วัตถุบางอย่างพุ่งไปเกาะติดแกนพลังงานและแล้วเตาพลังงานเร่งก็พลังจนถึงขีดสุดเมื่อเห็นแบบนั้นดวงตาของมันก็ส่องสว่างด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้แก!! .. ม่ายยยยยย!!”
ตอนที่เจ้าจักรกลจะเข้าไปเพื่อที่จะหยุดเตาพลังงาน นั้นโดยปกติไม่มีสิ่งใดจะทำอันตรายกับแกนพลังงานได้แต่นี้กลับเข้าไปดูดกลืนแล้วเร่งพลังจนก่อเกิดแสนสว่างสีเขียวมรกตในเวลาเดียวกันหัวหน้ากลุ่มกบฎเขาได้กดจุดระเบิดที่ของตัวเขาเอง
ตู้ม!!!
ร่างของเอลคาเตอร์กระเด็นออกไปในตอนที่เอลคาเตอร์รีบลุกขึ้นเพื่อที่จะหยุดก็ไม่ทันเสียแล้ว?
เตาพลังงานได้เร่งพลังจนเกินขีดจำกัดจนในที่สุดได้เกิดระเบิดขึ้นการระเบิด ในครั้งนี้เป็นการระเบิดที่ยิ่งใหญ่มากจนกลืนกินทุกชีวิตทุกสถานที่
ไม่ว่าพวกทหารจักรกลหรือกองยานของกองกำลังพันธมิตรก็ไม่เว้น
แม้แต่สัตว์ประที่รูปร่างเหมือนแมลงสาบยักษ์ที่ขนาดใหญ่ถึงสองพันเมตรที่พยายามจะหนีตายก็ไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่นิดเดียวต่างก็ถูกดูดกลืนกินโดยพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจะสลายเป็นผงในพริบตา
พลังงานขยายออกไปจนสุดท้ายดาวจักรกล ตัลตาต้าก็เกิดการระเบิดความรุนเเรงมหาศาลมากจนแม้ดาวเคราะห์รอบๆ ก็ยังโดนกลืนไปด้วยจนเกิดเป็นซุปเปอร์โนวาขึ้นเปล่งแสงดาราส่องสว่างมหาศาล
เป็นเดือนๆ พลังงานที่แผ่กระจายออกมาส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั่วจักรวาล..
วัตถุแกนหลักทรงลูกบาศก์ที่ใช้เป็นเเหล่งพลังที่ยังเหลือรอดได้กระเด็นร่องรอยไปในห่วงอวกาศ จากเดือนเป็นปีเป็นร้อยเป็นพันปีและหลายหมื่นปี
จนในที่สุดก็ได้เข้ามาใกล้กาแลคซี่ทางช้างเฝือก
ในระหว่างลอยเข้ามาใกล้นั้นได้มีมือขนาดใหญ่เรืองแสงมา ขว้าเอาไว้
มือสีดำแผ่ ออร่าแสงสีเขียวอ่อนดวงตาดีเขียวมรกตของร่างนั้นได้จ้องไปที่ลูกบาศก์ นี้...และมองกลับไปยังโลก..
.
.
.
.
.
เวลาปัจจุบันโลก การสุดยอดการประชุมสหประชาชาติ ในทำเนียบขาวที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลก
ชายวัยกลางคนอายุประมาณ40รูปร่างสูงใหญ่กำยำผิวสีเข้มถ้าหากมองดูภายนอกคงมีคนคิดว่าเป็นทหารผ่านศึกก็ว่าได้ เดินเข้าประตูพร้อมด้วยเหล่าบอดี้การ์ด
“เชิญทางนี้ครับท่านประธานาธิบดี!!”
"ตัวแทนจจากหลายประเทศรวมทั้งผู้แทนจากสมาพันธ์เวทมนตร์กับสมาคมเซียนมังกรมาถึงแล้วครับกำลังรอท่าน อยู่ที่ห้องประชุมครับ"
"และเหล่าเชื้อพระวงศ์จากสหราชอาณาจักรก็มาถึงแล้วเช่นกันครับ"
“แล้วคนของ อาซาธอทละ…”
“ติดต่อไปแล้วครับแต่ทางแล้วอต่พวกบอกไม่สนใจตอนนี้ไม่ว่างกำลังยุ่งอยู่ในสถานนีอวกาศครับ..”
“ในตายเถอะ.. ไอ้เจ้าพวกนั้นทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการกลับมาคืนชีพของจอมมารแท้ๆ ..”
“ทางผมก็ติดต่อไปแบบนั้นครับ แต่ทางนั้นก็บอกแค่ว่า จัดการเอาเองเลย”
“ชิ!! ไอ้เจ้าพวกบ้าเอ๊ย!”
"ทุกท่านประธานาธิบดีมาถึงแล้วของให้เริ่มวาระการประชุม
เรื่องการ คืนชีพของจอมมาร การคัดเลือกผู้กล้าและเหล่าบรรดาผู้ถูกเลือกกัน"
-------------------------
โลก ณ ประเทศหนึ่งในเมืองเล็กๆ แทบตะวันออกกลางเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
กรรกกก......
เสียงสัตว์อสูรที่ดูไม่ออกว่าเป็นกระทิงรึว่าสิงโตขนาดใหญ่พอๆ กับรถบรรทุก สัตว์อสูรหลายสิบตัวรอบๆ ถึงแม้จะเล็กกว่าแต่ไม่ต่างกันมากนักตรงหน้าของพวกมันนั้นมี
เด็กสาวในชุดสีขาวนํ้าเงินยืนจ้องมองพวกมันอยู่แม้พวกสัตว์อสูรจะมีจำนวนมากมาย เเต่ในสายตาของเด็กสาวก็ไร้ซึงความกลัว
"มาจินออสเอมเซ่นเตอร์..สวอท!!"
จบคำร่าย.. ก็ได้มีดาบพลังงานเวทขนาดใหญ่
สตาดีมแอร์โลว์! สิ้นสุดเสียงเด็กสาวก็พุงไปพร้อมกับกระสุนเวททันทีร่ายรำดาบเข้าใส่พวกสัตว์อสูรจนเกิดภาพของ
ดอกไม้โลหิตของเล่าสัตว์อสูร…
เด็กสาวยืนจ้องมองท้องฟ้าคํ่าคืนอันสงบสีหน้าดูเย็นชาเฉยเมยต่อสุดสิ่ง ซากของสัตว์อสูรรอบตัว เธอ
"ช่างเป็นคืนนี่หนาวเสียจริงคะ.."
---------------
ตึกตึกๆ ..
เสียงกดของตู้ขายนํ้าอัตโนมัติ
"ฟู่~…หนาว ชะมัด!? กว่าจะเสร็จงานก็เล่นซะดึกเลย.."
เสียงของเด็กชายอายุประมาณ10ปีแต่งตัวใส่ชุดแจ็คเก็ตสีดำ
ตี๊ดๆ ~
เสียงโทรคัพของเด็กชายดึงขึ้น เมื่อมองไปที่จอแสดงผลก็จะเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา
"แม่...งั้นหรือ.."
เสียงของเด็กชายพูดขึ้นด้วยความกลัวสีหน้ากังวง..แต่ยังไงก็ต้องรับอยู่ดีจึงเขาตัดสินใจกดรับสาย
“...ฮาโย่~ครับ?? ...”
“มาฮาลงฮาโย่ บ้านไรของแก!!? แฟลช แกรู้ไหมนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
"บ้านนะจะไม่กลับใช่มั้ย? รู้แล้วก็รีบกลับซะล่ะ ข้าวก็อยู่ในตู้เย็นมาถึงถ้าหิวก็อุ่นเอาเองล่ะ แม่จะนอนแล้ว!!!"
"ครับครับ คร๊าบกำลังรีบกลับครับ"
แล้วเด็กชายก็กดวางสายด้วยสีหน้าเซ็งนิดหน่อยเมื่อเด็กชายกำจะรีบเดินกลับบ้าน ในตอนนั้นได้มี ลมพัดผ่านเข้ามาอยากรุนแรงจนรอบตัวพริ้วไหวไปตามแรงลม
ขวับ!!
เสียงบางอย่างบินผ่านไปด้วยความเร็วอย่างมากเด็กชายได้หันกลับไปมองสายตาของเขาเห็นร่างสาวน้อยในผมสีดำนํ้าตาลใบหน้าคมสง่างามเสมือนเทพธิดาชุดขาวนํ้าเงินบินผ่านบนท้องฟ้ายามคํ่าคืนมีแสงสว่างจากดาวจันทร์สาดส่องอันงดงาม
สาวน้อยคนนั้นไม่ได้หันกลับมาสนใจมองเขาเเต่อย่างใดเเต่เด็กชายก็ไม่ได้ทีท่าตกใจอะไร แต่ในดวงตาของเขากลับเป็นประกาย
“สะสะ สุดยอด?!! เท่โคตร! ...”
"อ่ะไม่ใช่เวลามาเชยชมบรรยากาศผมต้องรีบกลับแล้ว
และเด็กชายก็เดินจากไปในความมืดยามราตรีทิ้งไว้ด้านหลังที่มีเศษซากของอาคารรอบๆ ที่ถูกทำลายและเครื่องจักรรูปร่างมนุษย์ในสภาพพังเละเทะกับร่างของผู้คนที่แต่งตัวเหมือนกองกำลังติดอาวุธก่อการร้ายนอนแน่นิ่งทั่วทุกบริเวณ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 12
Comments