เรื่องเมื่อวานน่ากลัวสุดๆไปเลย เมื่อคืนนี้ฉันแทบนอนไม่หลับ แต่พอหลับก็ดันฝันร้ายอีก ภาพน่ากลัวพวกนั้น มันยังติดตาฉันอยู่เลย......แค่นึกถึงมัน ก็รู้สึกขนลุกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังต้องมาโรงเรียนตามเดิม ที่เส้นทางเดิม
“อรุณสวัสดิ์ อิซุมิ”
“อามาคุจิ-ซัง......”
ไม่อยากเจอเขาตอนนี้เลย......
อามาคุจิ-ซัง ได้มายืนอยู่ต่อหน้าฉัน พร้อมยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับมันอีกแล้ว ฉันพยายามหลบสายตาของเขา พร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียด อามาคุจิ-ซัง คงสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ เขาดูหน้าชาทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่
เพราะเรื่องเมื่อวานนี้มันทำให้ฉันสงสัยเขาไปหมด......เขาเป็นคนของ อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ ใช่ไหม แล้วเขารู้เรื่องอะไรหรือเปล่า......หรือทั้งสองคนนี้ร่วมมือกันอยู่แล้ว......แล้วรสนิยมของเขามันคืออะไรกันแน่ มันน่ากลัวเหมือนกับคนเมื่อวานหรือเปล่า......การที่เขาเข้ามาตีสนิทฉันมันจะมีอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ด้วยหรือเปล่า แล้วทำไมในห้องชมรมเขาต้องจ้องฉันขนาดนั้น เหมือนกับเขาพยายามจะมองอะไร หรืออยากรู้อะไรสักอย่าง......
“เอ่อ......อิซุมิ!!”
“ค-คะ?!!”
“ขอฉันเดินไปโรงเรียนด้วยกันกับเธอได้ไหม พอดีฉันมีเรื่องที่อยากคุยกับเธอน่ะ”
เรื่องอะไร......มีอะไรต้องคุยกันด้วยเหรอ......ไม่คุยได้หรือเปล่า ฉันเองก็ไม่อยากคุยกับเขาเท่าไหร่ในตอนนี้ด้วย......ฉันคิดว่า ปฏิเสธไปตามตรง น่าจะดีที่สุด......
“ขอโทษด้วยค่ะ แต่พอดีฉันรีบ......ขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันพูดปฏิเสธ พร้อมกับเดินผ่านเขาไปอย่างเฉยเมย แม้จะไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆ แต่ก็แอบเห็นใบหน้าที่ดูยิ้มแย้มของเขา มันกลับกลายเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูบูดบึ้ง ในวินาทีที่ฉันเดินผ่านตัวเขา
ไม่รู้หรอกว่าคุณรู้สึกยังไง......แต่ฉันเองก็รู้สึกแย่ ไม่น้อยไปกว่ากันหรอก......ถ้าเป็นไปได้ ก็ยังอยากที่จะสนิทใจกับคุณอยู่......แต่ตอนนี้......มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันไม่ได้เรียนอะไร เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ฉันรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้อยากรู้มากๆว่าหน้าตาของฉันตอนนี้มันเป็นยังไง มันคงจะดูแย่มากเลยสินะ แต่ฉันก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ เพราะถึงฉันจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ไม่มีใครจะมาช่วยฉันได้
“อิซุมิ!!! ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ”
เสียงเรียกนี้มัน......อายาเนะ เหรอ......และก็มี มิกะ ด้วย......พวกเธอมาเรียกฉัน ไปกินข้าวด้วยกันงั้นเหรอ......ม-มีข้าวกล่องเตรียมพร้อมไว้แล้วด้วย......
พวกเธอทั้งสองถือข้าวกล่องไว้ในมือ ระหว่างที่ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน มันเป็นภาพเดิมซ้ำๆที่ฉันเห็นเป็นประจำจนชินชา......แต่ตอนนี้ มันกลับดูวิเศษมากกว่าที่เคยเป็น......ฉันก็มีอยู่นี่น่า คนที่อยู่เคียงข้างน่ะ
“อิซุมิ ทำไมทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีอย่างงั้นแหละ”
“อ-เอ๊ะ?! ม-ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันกำลังดีใจอยู่ต่างหาก”
“หืม......มีอะไรให้ดีใจเหรอ พวกเราก็กินข้าวเที่ยงด้วยกันเป็นปกติอยู่แล้ว เธอดูแปลกๆนะ อิซุมิ”
“ไม่หรอก มันวิเศษมากๆเลยล่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะ ที่พวกเธอคอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอน่ะ”
“หืม......วันนี้เธอดูแปลกๆจริงด้วยล่ะ อิซุมิ”
“อ-เอ๋~ ท-ทำไมคิดงั้นล่ะ”
“งั้นวันนี้เราไปกินที่ดาดฟ้ากันไหมคะ เปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อย”
“โอ้!!! เป็นความคิดที่ดีมากเลยล่ะ มิกะ เอางั้นไหม อิซุมิ”
“อืม......ฉันเองก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ”
“งั้นพวกเรา ไปกันเลย!!!”
เวลาผ่านไป พวกเราสามคนได้มากินข้าวเที่ยงด้วยกันที่ดาดฟ้าโรงเรียน เพราะไม่มีคนอยู่เลย พวกเราก็เลยพูดคุยเรื่องต่างๆอย่างสนุกสนานโดยไม่ต้องเกรงใจใคร บรรยากาศก็แสนเป็นใจ แดดไม่แรงเกินไป ลมพัดมากำลังดี และต้นไม้ธรรมชาติที่อยู่รอบข้างมันก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
“......อิซุมิ......มีเรื่องอะไรก็บอกพวกเราได้นะ”
“ใช่ๆ ฉันกับ มิกะ อาจช่วยได้ไม่มาก แต่ว่าอย่างน้อยก็เป็นผู้ฟังที่ดีได้นะ”
“อ-เอ๊ะ......ท-ทำไมอยู่ดีๆมาพูดเรื่องนี้กันเล่า เมื่อกี้ยังคุยเรื่องสนุกๆกันอยู่เลย”
“ก็เธอน่ะสิ ทั้งที่คุยเรื่องสนุกกันแบบนั้น แต่หน้าเธอก็ยังดูซึมๆอยู่เลย”
นี่ใบหน้าของฉันมันแสดงออกไปแบบนั้นเหรอ ทั้งที่คิดว่าตัวเองรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แต่ความรู้สึกแย่ๆมันก็ยังไม่ได้หายไปสินะ...ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่อยากบอกเรื่องที่ฉันเจอให้พวกเธอรู้ ไม่อยากให้พวกเธอเป็นห่วง ไม่อยากให้พวกเธอรับรู้ และยิ่งไม่อยากให้พวกเธอต้องไปเกี่ยวข้อง
“อิซุมิ บอกพวกเรามาเถอะนะ~”
......ย-อย่าสิ......อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น......สายตาที่อ้อนวอน ด้วยความเป็นห่วง......บ-แบบนี้ฉัน......จะปฏิเสธความหวังดีจากเพื่อนได้ยังไง......ต-แต่ว่า ฉันไม่อยากให้พวกเธอรู้ความลับของฉัน ถึงจะเป็นเพื่อนที่แสนดีแค่ไหน แต่ถ้าเห็นความน่ารังเกียจของฉัน พวกเธอต้องหนีจากฉันไปแน่เลย......แบบนั้นไม่เอานะ......หรือว่าฉันควรจะบอกพวกเธอแค่เรื่องของชมรมนั้น โดยที่ไม่ต้องพูดถึงความลับของฉันเลย แบบนั้นอาจจะดีก็ได้......
“ก-ก็ได้......คืออย่างนี้นะ......”
หลังจากนั้นฉันก็ได้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆให้พวกเธอฟัง โดยไม่ได้พูดชื่อคนที่เกี่ยวข้องเลย พร้อมกับหลีกเลี่ยงเรื่องแบล็กเมล์ และบอกพวกเธอไปว่า ฉันแค่บังเอิญเดินผ่านเลยแวะเยี่ยมดูชมรมก็เท่านั้นเอง ซึ่งพวกเธอก็เชื่อสนิทใจ
“อ-อะไรกันเนี่ย โรงเรียนเรา มีชมรมแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ”
“น-น่ากลัวมากเลยค่ะ ยังดีที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไร อิซุมิ”
เมื่อได้เห็นสีหน้าตกใจของ มิกะ ก็ทำให้ฉันนึกถึง อามาคุจิ-ซัง ขึ้นมา เพราะเธอบอกเองว่าแอบชอบเขา......นั่นทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา ที่ดันไปแอบชอบผู้ชายที่ลึกลับแบบนั้น
“ยังไงก็เถอะ พวกเธอห้ามไปยุ่งกับชมรมนั้นเด็ดขาดเลยนะ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องด้วย”
“มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ฉันยังขนลุกอยู่เลยเนี่ย”
“ใช่ค่ะ ฉันเองก็กลัวมากเหมือนกัน......แต่ว่า ฉันก็ดีใจนะ ที่ อิซุมิ เล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง”
“มิกะ ดูสิ อิซุมิ เขินหน้าแดงหมดแล้ว”
“ป-ป่าวสักหน่อย”
คำพูดของ มิกะ ทำให้ฉันเขินจนหน้าแดงจริงๆนั่นล่ะ ถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่เพื่อนที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยก็เป็นคนที่สามารถอยู่เคียงข้างตอนที่เราทุกข์ใจ เพื่อนแบบนั้นฉันคิดว่ามันก็เพียงพอแล้วล่ะ
หลังจากที่พวกเรากินข้าวเที่ยงด้วยกันเสร็จ ก็เดินลงบันไดเพื่อที่จะลงชั้นล่างไปยังห้องเรียน ในตอนนั้นเอง ตัวฉันที่อยู่หลังสุดก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากข้างหลัง ฉันจึงหันไปดูอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่พบอะไร
รู้สึกเหมือนมีใครแอบมองเราอยู่เลยแหะ......คงคิดไปเองล่ะมั้ง......
หลังจากนั้นฉันก็เดินตามเพื่อนของฉันไป พวกเราเดินอยู่โถงทางเดินพร้อมพูดคุยกันเรื่องต่างๆอย่างสนุกสนาน จิตใจของฉันกำลังเบิกบานและมีความสุข......แต่ว่าความสุขนั้นมันช่างสั้นเหลือเกิน
อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ ได้มายืนอยู่ต่อหน้าฉันและเพื่อนๆของฉัน พวกเธอทั้งสองคนต่างทำหน้าแปลกใจที่เห็นเขามายืนดักรออยู่อย่างนี้ ส่วนฉันนั้นก็เครียดสุดๆ เพราะในใจก็พอรู้อยู่บ้างว่าเขาต้องการอะไร
“ขอโทษด้วยนะ พอดีฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับ ซาซากิ อิซุมิ สักหน่อย พวกเธอช่วยไปก่อนจะได้ไหม”
“เอ๊ะ?!! ถ้ามีอะไรจะคุย ก็คุยกันตอนนี้เลยสิคะ ไม่เห็นต้องไล่เราเลย”
“นั่นสิคะ ทำไมต้องไล่เราด้วยล่ะ”
“คือว่า......มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันน่ะ พวกเธอช่วยไปกันก่อนเถอะนะ มิกะ อายาเนะ ฉันขอล่ะ”
“อิซุมิ ทำไมล่ะ มันเป็นเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวน่ะ ฉันต้องปรึกษาอาจารย์เขา”
“แน่นะ”
“อืม! ก็แน่สิ พวกเธอกังวลอะไรอยู่เนี่ย โธ่เอ๊ย~”
“งั้นพวกเราไปก่อนนะ”
“อืม แล้วฉันจะรีบตามไปนะ”
หลังจากนั้นเพื่อนทั้งสองคนก็ได้เดินจากไป......ฉันนั้นได้เสแสร้งยิ้ม และโกหกเพื่อนที่แสนดีไปเสียแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ แต่จะให้พวกเธอรู้ความลับของฉันไม่ได้ เพราะฉันไม่อยากเสียพวกเธอไป ขอโทษจริงๆ
“เอาล่ะ ตอนนี้ก้างขวางคอก็ไปแล้ว แถมตอนนี้ไม่มีใครผ่านมาด้วย พวกเรารีบมาคุยธุระกันดีกว่า”
“ค่ะ......”
“งั้นฉันจะเข้าเรื่องเลยละกัน......เมื่อวานนี้ ทำไมเธอถึงเดินหนีออกจากห้องชมรมแบบนั้น!!!”
เขาเดินเข้ามาใกล้ และตระคอกใส่หูของฉันอย่างดัง ด้วยน้ำเสียงที่เกี้ยวกราด ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้ฉันตกใจ และเริ่มรู้สึกหวาดกลัว
“ค-คือว่า ฉันกลัวน่ะค่ะ ก็เลย-”
“งั้นเธอไม่กลัวหรือไง!!! ว่าฉันจะเอาคลิปของเธอไปเผยแพร่น่ะ ห๊ะ!!!”
“ฉ-ฉันขอโทษค่ะ”
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ!!! ฉันต้องการให้เธอมีชื่อในฐานะของสมาชิกชมรมพูดคุย เข้าใจไหม!!!”
“ข-เข้าใจแล้วค่ะ ครั้งหน้าฉันจะทำให้สำเร็จค่ะ ฉันสัญญา”
“ดี!!! นี่ล่ะคำตอบที่ฉันต้องการ แต่ถ้าถึงวันจันท์แล้วฉันยังไม่เห็นชื่อของเธอในชมรมล่ะก็ เจอดีแน่!!!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็เดินจากไป เหลือก็แต่ฉันที่ยังคงยืนตัวแข็งทื่อไม่ไหวติง แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ความอดทนของฉันก็ได้หมดลง จนสุดท้ายก็เข่าทรุดลงกับพื้น ด้วยความเหนื่อยล้า
“โธ่เอ๊ย!!! ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย แล้วฉันจะทำยังไงดี ฉันต้องเข้าชมรมนั้นจริงๆเหรอ”
ในตอนที่กำลังบ่นคนเดียวเป็นชุดอยู่นั้น สายตาของฉันก็เหลือบเห็นใครสักคนที่กำลังจ้องมองมาที่ฉัน นั่นทำให้ฉันถึงกับขนลุก
“ค-ใครน่ะ!!!”
พอฉันสังเกตุเห็น ก็หนีหายไปเลย......นี่มันอะไรกันเนี่ย ตอนที่เดินลงบันไดมาก็ทีหนึ่งแล้วนะ แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าฉันกำลังถูกจับตามองอยู่......หรือว่านี่มันจะเป็นฝีมือของสมาชิกชมรมพูดคุย อย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าเป็นพวกเขาจริง มีอะไรจำเป็นถึงต้องมามองกันด้วย......มัวแต่คิดเอาเองก็เสียเวลาเปล่า ฉันควรรีบกลับไปห้องเรียนก่อนดีกว่า
ระหว่างที่กำลังจะเดินกลับไปห้องเรียนอยู่นั้น ฉันก็ได้เจอเข้ากับ มิกะ ที่มายืนดักรออยู่ ฉันจึงหยุดและเข้าไปคุยกับเธอ ว่ามีอะไร
“มิกะ มีอะไรเหรอ ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”
“ฉันก็มีเรื่องที่ต้องคุยกับเธอน่ะสิ”
“คุยเหรอ คุยเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็......เรื่อง อายาโนะ-ซัง น่ะ ไปถึงไหนแล้วเหรอ”
“เรื่องนั้นหรอกเหรอ......”
ถึงมันจะสำเร็จแล้วก็เถอะ......แต่ว่าฉัน ไม่อยากให้เธอไปยุ่งกับเขาเลย
“เธอทำหน้าแบบนั้น แสดงว่ายังไม่สำเร็จเหรอ......ม-ไม่ต้องรีบก็ได้นะ ฉันรอได้”
ถึงแม้เธอจะพูดอย่างนั้น แต่สีหน้าก็แสดงออกถึงความผิดหวังชัดเจน......ฉันสัญญาไปแล้วนิ ว่าจะสนับสนุนความรักของเธอ......ดังนั้นแล้ว ฉันก็ไม่ควรทำให้เธอต้องผิดหวัง
“ไม่หรอก ฉันได้ข้อมูลส่วนตัวจากเขา ตามที่เธอต้องการมาได้แล้วล่ะ”
“จ-จริงเหรอ!! ดีจังเลย ขอบคุณมากเลยนะ อิซุมิ”
“ไม่เป็นไร”
“แต่ว่าคุยที่นี่น่าจะไม่สะดวก ไว้หลังเลิกเรียนเราค่อยมาคุยกันนะ ตอนนี้เราไปห้องเรียนด้วยกันเถอะ”
“อืม”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปยังห้องเรียนด้วยกันตามปกติ และเวลาก็ผ่านไป จนถึงช่วงหลังเลิกเรียน ตามที่ มิกะ นัดเอาไว้
เธอบอกให้ฉันมารอที่ห้องเรียนประจำของพวกเรา ในช่วงที่ไม่มีคน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ตะวันใกล้ตกดิน จนมีแสงอาทิศย์สาดส่องเข้ามาทั่วห้องเรียน ฉันยังคงยืนรอเพื่อนอย่างใจจดใจจ่อ
“อิซุมิ!!! รอนานหรือเปล่า”
มิกะ วิ่งเข้ามาที่ห้อง พร้อมหอบด้วยความเหนี่อยล้า
“ไม่หรอก ฉันพึ่งมานี่เอง”
“ขอโทษด้วยนะ พอดีว่าฉันต้องพยายามอย่างมากเลยล่ะ เพื่อไม่ให้ อายาเนะ ตามมาน่ะ”
“เอ๋~ ให้เธอมาด้วยก็ไม่เห็นจะเป็น-”
“ห้ามให้ อายาเนะ รู้เรื่องนี้เด็ดขาด!!”
“อ-เอ่อ......นั่นสินะ”
พอฉันจะพูดถึง อายาเนะ ตัวของ มิกะ ก็ตะโกนออกมาทันที เหมือนว่าเธอจะไม่อยากให้ อายาเนะ รู้เรื่องนี้จริงๆ ซึ่งฉันเองก็เริ่มนึกขึ้นมาได้ จากนิสัยยัยนั่นแล้ว ถ้ารู้ว่าเพื่อนของเธอมีผู้ชายที่แอบชอบ ก็คงจะเข้าไปคุยตรงๆกับผู้ชายคนนั้นแน่ๆ แค่คิดก็วุ่นวายแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยสิ
“งั้นเราไม่ต้องสนใจ อายาเนะ แล้วรีบทำให้เสร็จกันดีกว่า”
“อืม”
หลังจากนั้นฉันก็ได้บอกข้อมูลทุกอย่างของ อามาคุจิ-ซัง ให้ มิกะ ได้รับรู้ ทั้งจากสมุดโน๊ตที่ฉันเขียนเอาไว้ และสิ่งที่พอจำได้ในหัว ฉันบอกไปทุกอย่างเลย......ยกเว้นเรื่องที่เขาเป็นประธานชมรมพูดคุย เพราะฉันนั้นไม่กล้าพอ......ที่จะทำลายความสุข ของหญิงสาวคนหนึ่ง......
“ขอบคุณมากเลยนะ อิซุมิ ฉันไปก่อนละ”
“อืม โชคดีนะ”
มิกะ วิ่งจากไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ฉันก็ได้แต่ยืนมองเธอจากไป โดยที่ในใจก็มีแต่ความกังวล ยิ่งเห็นเธอมีความสุขมากเท่าไหร่ มันก็ยากสำหรับฉันที่จะทำลายความสุขนั้น คงมีแต่ต้องตามน้ำไปก็เท่านั้น
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะนะ ฉันเองจะไปขัดความสุขของเพื่อนก็ไม่ได้ด้วยสิ แถมทางฉันเอง ก็ยังมีเรื่องที่น่ากังวลยิ่งกว่า เกี่ยวกับชมรมนั้น......คิดในแง่ดี บางทีชมรมนั้น อาจไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ก็ได้ และ อามาคุจิ-ซัง ก็อาจจะเป็นผู้ชายที่แสนดี ตามที่ฉันเคยคิดเอาไว้......ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสินะ......เอ่อ......ใครน่ะ......
ในระหว่างที่ฉันกำลังเหม่อลอย เงยหน้ามองดูเพดานพร้อมคิดเรื่อยเปื่อย แต่เมื่อหันมามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้เห็นเด็กสาวปริศนาคนหนึ่ง มายืนจ้องหน้าฉันด้วยแววตาที่ดูโกรธเกรี้ยว
เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กมากกว่าฉันนิดหน่อย ผิวขาวผ่อง รูบร่างบอบบาง ไว้ทรงหน้าม้า หน้าตาน่ารัก มีผมสีดำเข้มยาวไปถึงกลางหลัง และใส่ชุดมอปลายเหมือนกันกับฉัน
ความประทับใจแรกที่เห็นเธอคือ เธอทำให้ฉันรู้สึกใจบาง ถึงแม้ฉันจะชอบเด็กผู้ชายเป็นพิเศษ แต่เพราะธรรมชาติของฉันนั้นเป็นคนรักเด็ก เมื่อได้เห็นคนที่น่ารักอย่างเธอ ก็อดใจไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดู
“เอ่อ......คือว่า......มีอะไรเหรอ”
ให้ตายเถอะ!! พอเจอคนที่น่ารักแล้วฉันหยุดยิ้มไม่ได้เลย อะไรกันเนี่ย ทั้งที่พึ่งเจอหน้ากันครั้งแรกนะ
“เธอน่ะ!!! กล้าดียังไงถึงได้เอาเรื่องของชมรมพูดคุย ไปพูดให้คนอื่นฟังน่ะ!!”
“ธ-เธอ รู้เรื่องของชมรมพูดคุยด้วยอย่างงั้นเหรอ”
“ก็ต้องรู้น่ะสิ!! ก็เพระว่าฉันเป็นสมาชิกชมรมพูดคุย ยังไงล่ะ”
“ธ-เธอเป็น......สมาชิกชมรมพูดคุยอย่างงั้นเหรอ”
“ใช่!!! ฉันชื่อ ไดโกะ มิเสะ เป็นสมาชิกชมรมพูดคุย นั่นล่ะคือตัวฉัน!!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments