04 ศิลปะแห่งความตาย

“อะไรกัน ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ บังเอิญจริงๆ”

“เด็กผู้หญิงที่คุณว่าเป็น อิซุมิ เองหรอกเหรอครับ”

“ก็ตามนั้นล่ะนะ”

อามาคุจิ-ซัง นั่งอยู่บนโต๊ะใหญ่ใกล้กับหน้าต่าง เขามองมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ เหมือนกับไม่คาดคิดว่าพวกเราจะได้มาเจอกันที่นี่ ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“ก็ในเมื่อทั้งคู่รู้จักกันอยู่แล้ว งั้นฉันก็ขอฝากให้นายจัดการทั้งหมดก็แล้วกัน ฉันไปก่อนล่ะ”

“ครับ......”

อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ ตบบ่าของ อามาคุจิ-ซัง อย่างสนิทสนม พร้อมมอบคำสั่งก่อนที่จะเดินจากไป อามาคุจิ-ซัง ก็ตอบรับแต่โดยดี ภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ ทำให้ฉันคิดได้แค่อย่างเดียว และเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากเชื่อเลย......อามาคุจิ-ซัง เป็นคนของ อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ......

เสียงประตูปิดลง เหลือไว้แต่ความเงียบ เมื่อได้รับรู้ว่า อามาคุจิ-ซัง เป็นคนของ อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ ความเชื่อมั่นในตัวเขามันก็ลดลงอย่างมาก ภาพความทรงจำอันแสนดีที่ฉันมีกับเขา มันก็เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย

“ฉันดีใจนะ ที่เธอมาที่นี่”

อามาคุจิ-ซัง ยิ้มออกมา แต่นั่นก็ทำให้ฉันยิ้มไม่ออกเลย เพราะรอยยิ้มของเขาในตอนนี้ ฉันมองมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ที่จริงฉันก็แอบเล็งเธอไว้ตั้งแต่แรก ไม่คิดว่าเธอจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาฉันเอง”

เขา......พูดเรื่องอะไรน่ะ......ที่ผ่านมา......เขามีเป้าหมายในตัวฉันตั้งแต่แรกแล้วงั้นเหรอ......

“อะไรที่ทำให้เธอตัดสินใจมาที่นี่ บอกฉันหน่อยได้ไหม”

ฉัน......ต้องพูดด้วยเหรอ เรื่องมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าฉันน่ะไม่ได้อยากมาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่เพราะถูกบังคับให้มาต่างหาก

“ฉันขอไม่พูด......ได้ไหมคะ”

“ถ้าเธอไม่อยากพูด ก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าให้ฉันเดา ก็คงเกี่ยวกับความลับที่เธอพูดถึงใช่ไหมล่ะ”

เขาเดาได้ถูกจนน่าตกใจ ทำฉันสับสนแล้วว่าเขานั้น แกล้งไม่รู้เรื่อง หรือไม่รู้เรื่องจริงๆกันแน่

“นี่! อิซุมิ......ความลับของเธอน่ะ......บอกฉันหน่อยสิ”

เขาพูดออกมา ด้วยแววตาที่ดูตื่นเต้น เหมือนกับเด็กน้อยที่ต้องการของเล่น ในตอนนั้นฉันก็รู้แล้วว่าเขา ยังไม่รู้ความลับของฉันจาก อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าฉันเองก็ไม่อยากบอกเขาเหมือนกัน และยิ่งไม่อยากจะคุยกับเขาตอนนี้ด้วย อยากจะจบบทสนาพวกนี้เร็วๆ

“ฉันไม่อยากพูด......อะไรทั้งนั้นค่ะ”

“......”

ทันทีที่ฉันพูดออกไปอย่างนั้น ด้วยน้ำเสียงที่ดูก้าวร้าว บรรยากาศในห้องก็เริ่มเปลี่ยนไป มันเงียบจนน่าใจหาย ฉันก็ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ขอไม่รับรู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นในตอนนี้

......

ในระหว่างที่ความเงียบปกคลุมห้องอยู่นั้น เสียงประตูของห้องชมรม ก็ได้เปิดขึ้น เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงหันหลังมองไปยังทิศทางของเสียงตามสัญชาตญาณ และสิ่งที่ฉันเห็นก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ฉันนั้นไม่เคยเจอหน้ามาก่อน

“เอ่อ......ฉันมารบกวนหรือเปล่าคะ”

“อิซึกะ มาได้เวลาพอดีเลย เข้ามาข้างในก่อนสิ”

เมื่อถูกเรียก หญิงสาวคนนั้นก็เดินเข้ามาข้างในห้องชมรม เธอเป็นหญิงสาวที่ดูสุขุมเยือกเย็น ใส่ชุดมอปลายเหมือนกันกับฉัน มีผมยาวสีฟ้าเข้ม ดวงตาคม ผิวขาวผ่อง เธอเป็นผู้หญิงที่ฉันยอมรับว่าสวยงามมากเลยทีเดียว

“คนนี้คือ......”

“อ่อ เธอคือคนที่ อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ แนะนำมาน่ะ ชื่อว่า ซาซากิ อิซุมิ”

“เอ่อ......อิซุมิ คนนี้คือ มินาโตะ อิซึกะ เป็นสมาชิคชมรมของที่นี่”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

“อ่ะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ.....”

เธอคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับ อามาคุจิ-ซัง ดูเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพเหมือนกัน แต่ก็ยังมีบรรยากาศบางอย่างที่แตกต่างกันอยู่บ้าง รู้สึกประหม่านิดหน่อยแฮะ เมื่อต้องอยู่ใกล้กับเธอ

“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่อย่างงั้นเหรอ อิซึกะ เวลาแบบนี้ต้องกลับบ้านไปแล้วนิ”

“พอดีว่าฉันอยากจะใช้โน๊ตบุ๊คของประธานนิดหน่อยน่ะค่ะ”

“หืม โน๊ตบุ๊คของฉันเหรอ จะเอาไปทำอะไร”

“เอาไปโหลดภาพที่ฉันต้องการน่ะค่ะ”

“นี่เธอจะเอาโน๊ตบุ๊คของฉัน ไปโหลดของแบบนั้นเนี่ยนะ ทำไมไม่ใช้มือถือของเธอเองล่ะ”

“ใช้มือถือมันช้านิคะ เดี๋ยววันหน้าจะตอบแทนเรื่องโน๊ตบุ๊คให้ วันนี้ขอใช้ก่อน”

พวกเขาคุยกันสนุกปากเหมือนกับเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ฉันที่ไม่รู้ต้องทำอะไร ก็ได้แต่ยืนแน่นิ่งไร้ตัวตน ฉันควรจะทำอะไรต่อไปดี

“ก็ได้อยู่หรอก แต่ตอนนี้เรามีเรื่องของ อิซุมิ ที่ต้องจัดการก่อนนะ”

“อ่อ จริงด้วย.....ฉันลืมไปเลย”

“ก่อนอื่นขอแนะนำชมรมนี้สักหน่อย ที่นี่คือชมรมพูดคุย ซึ่งรวมคนที่มีรสนิยมแปลกๆมาอยู่ด้วยกัน”

“แม้จะไม่อยากพูดเท่าไหร่ แต่คนที่มีรสนิยมแปลกๆนั้น ก็รวมถึงฉัน และ อิซึกะ ด้วย”

“ความลับอันดำมืดที่ฉันเคยพูดถึง......มันก็คือรสนิมแปลกๆของฉันเองแหละ”

พวกเขาทั้งสองคนน่ะเหรอ....เป็นคนที่มีรสนิยมแปลกๆน่ะ ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย ภาพในหัวที่เคยจินตนาการเอาไว้ มันต่างกับที่เคยคิดไว้มาก......แต่ว่า ไอ้รสนิยมแปลกๆที่ว่าน่ะ มันแปลกขนาดไหน ถึงกับต้องตั้งชมรมอยู่กันลับๆ แบบนี้ด้วย

แล้วเธอคนนี้ มินาโตะ อิซึกะ-ซัง ผู้หญิงที่ดูสวย ดูสุขุมเยือกเย็น แทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นสมาชิกชมรม ไม่คิดด้วยช้ำว่าชมรมแบบนี้จะมีผู้หญิงอยู่ด้วย ภายใต้ใบหน้าอันไร้อารมณ์นั้น แอบซ่อนอะไรเอาไว้อยู่กันแน่นะ ฉันคิดแทบไม่ออกเลย

“เธอสนใจฉันงั้นเหรอ ถึงได้จ้องมาแบบนั้น”

“เอ๊ะ?!! ข-ขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไร ถ้าเธออยากรู้ฉันก็จะบอกให้ก็ได้ รสนิยมของฉันน่ะ......ได้ใช่ไหมคะ ประธาน”

“ก็......อิซุมิ ถูกแนะนำมาโดย อาจารย์ อาซึซิ ฮาจิเมะ ดังนั้นก็ถือว่าเธอเป็นคนของเรา บอกได้เลย”

“ค่ะ เข้าใจแล้ว......แล้วเธอล่ะ อยากรู้เรื่องของฉันหรือเปล่า”

เธอมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ดูคาดหวัง ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ตอนนี้กลับดูมีความตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อย บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ก็ยอมรับว่าฉันเองก็สนใจในตัวเธออยู่เหมือนกัน อยากรู้ว่าไอ้ชมรมแปลกๆนี้ มันจะแปลกได้ขนาดไหนกันเชียว

“เอ่อ......ค่ะ ถ้าไม่ว่าอะไร”

“งั้นฉันจะพูดล่ะนะ ตั้งใจฟังให้ดี......รสนิยมของฉันก็คือ......ศิลปะแห่งความตาย~”

“ศิลปะแห่งความตาย......เหรอคะ?”

มันคืออะไร ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ฟังจากชื่อก็ดูน่ากลัวอยู่นะ......แต่ไม่รู้ทำไม พอพูดถึงมัน ตัวเธอกลับมีรอยยิ้มเล็กๆออกมา ทั้งที่น่านิ่งไร้อารมณ์มาโดยตลอด มันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกขนลุกไปหมดแล้ว

“พูดอย่างเดียวอาจไม่เข้าใจ เรามาดูภาพจริงกันดีกว่า ว่าศิลปะแห่งความตายน่ะ มันหน้าตาเป็นยังไง”

“เอ๊ะ?!!”

“ประธานคะ ช่วยเปิดเว็บมืดให้ด้วยค่ะ”

“เฮ้อ~......ก็ได้......”

เมื่อกี้ว่าไงนะ……เว็บมืดอย่างงั้นเหรอ!!! ไอ้ที่ฉันเคยได้ยินในคลิปเล่าเรื่องสยองขวัญนั่นน่ะนะ ที่เขาว่ามันเป็นเว็บใต้ดินอันแสนน่ากลัว......ท-ทำไมพวกเขาถึงต้องเข้าเว็บแบบนั้นด้วย แล้วภาพที่จะให้ฉันดูมันคือภาพอะไรกันแน่ ในหัวฉันตอนนี้มันวิตกกังวลไปหมด

“ซาซากิ อิซุมิ ใช่ไหม......มาสิ มาดูด้วยกันเถอะ”

มินาโตะ อิซึกะ-ซัง ได้กวักมือเรียกฉันให้ไปหา รอยยิ้มของเธอมันเริ่มเบิกกว้างมากขึ้น ฉันเริ่มรู้สึกกลัวจนตัวสั่น แต่ก็ต้องจำใจเดินไปตามความเรียกร้อง......เอาไงเอากัน ขอฉันเห็นหน่อยเถอะ ว่ามันจะมีอะไรกันแน่

“อ่ะค่ะ”

......

ในตอนแรกที่ทำใจมาดู ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่นี่มัน......บ...บ้าไปแล้ว ภาพที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้า มันเต็มไปด้วย ซากศพคนตาย ภาพการผ่าตัด ภาพอุบัติเหต ฉากฆาตกรรม และภาพศพที่บิดเบี้ยวไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนกับมีใครสักคนไปตกแต่งมันให้ออกมาเป็นอย่างนั้น

อึก!!......บ้าเอ้ย พวกเขาดูภาพแบบนี้ได้ยังไงกัน แค่ฉันมองผ่านเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้รู้สึกกลัว ขนลุก ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน พะอืดพะอม สารพัดความรู้สึกแย่ๆที่ถาโถมเข้ามาที่ร่างกาย......ทำไมฉันต้องมาดูอะไรแบบนี้ด้วย พวกเขาต้องการจะบอกอะไรกันแน่

“นี่แหละ ศิลปะแห่งความตายที่ฉันพูดถึง มันคือศิลปะที่สวยงาม เป็นศิลปะที่ฉันชอบมากที่สุด”

“ดูภาพนี้สิ ภาพนี้เป็นฉากฆาตกรรม ที่ฆาตกรหั่นศพของเหยื่อ แล้วเอาไปตอกไว้บนกำแพง”

“ส่วนภาพนี้ก็เป็น หัวของคนที่ถูกล้วงของข้างใน และเอาเทียนไปจุดใส่แทน เหมือนกับฟักทอง”

“ภาพนี้ก็เป็น จรเข้ที่กินคนจนเหลือแต่หัว และคาบเอาไว้ก่อนจะกลืน โชคดีที่มีคนถ่ายมาได้ก่อน”

ธ-เธอ......ไม่เพียงไม่กลัว แต่กลับกำลังสนุกที่ได้ดูภาพพวกนี้ พร้อมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ มันต้องเป็นคนที่วิปริตขนาดไหน ถึงทำอย่างงั้นได้ ทั้งที่ภายนอกดูสวยงามมีเสน่ห์ แต่ข้างในกลับดูพิศวง และน่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้

......!!!

ม-เมื่อกี้นี้ อามาคุจิ-ซัง แอบจ้องมองมาที่ฉัน มันเป็นสายตาที่เบิกกว้าง เหมือนกับพยายามจะมองทะลุตัวฉันด้วยสายตาคู่นั้น แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉันรู้ตัว ก็รีบหันหน้ากลับไปยังหน้าจอโน๊ตบุ๊คของเขา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น......ท-ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น

จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันก้าวขาเข้ามาที่แห่งนี้ อามาคุจิ-ซัง ก็จ้องมองฉันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเวลาไหน แม้แต่ตอนที่ ผู้หญิงคนนี้เข้ามา เขาก็ยังคงหาโอกาศจ้องมองฉันอยู่เรื่อยๆ ด้วยสายตาจริงจังแทบไม่กระพิบ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอเห็นอย่างนี้แล้ว ก็ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกขนลุก......บางทีตัวฉันอาจจะรู้จักเขาน้อยกว่าที่คิดไว้

“ไม่ว่าจะภาพไหน ก็สวยงามหมดเลย ว่างั้นไหมคะ”

“ไม่รู้สิ สำหรับฉันแล้ว พอเห็นภาพพวกนี้ก็รู้สึกสงสารคนที่อยู่ในภาพยังไงก็ไม่รู้”

“ก็จริงนะคะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ความตายเป็นของที่อยู่คู่กันกับสิ่งมีชีวิต ไม่ว่ากับใคร ไม่ว่าเวลาไหน”

“แต่อย่างน้อยหลังจากที่ตายไป พวกเขาก็ได้ให้กำเนิดภาพงานศิลปะที่สวยงามเหล่านี้”

“ก็แล้วแต่เธอละกัน อย่างน้อยก็ฉันคนหนึ่งนี่ล่ะ ที่ไม่อยากมีสภาพแบบเดียวกันกับพวกเขา”

พวกเขาคุยกันสนุกปาก เหมือนกับภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นภาพธรรมดาทั่วไป จนกลายเป็นว่าคนที่ผิดปกติจะเป็นฉันเสียเอง เหมือนกับตอนนี้ฉันได้เข้ามาสู่โลกวิปริตที่แสนบิดเบี้ยวเสียแล้ว......

ทำไมฉันต้องมาเจอกับคนพวกนี้ด้วย ฉันก็แค่มีรสนิมทางเพศที่แปลก และ น่ารังเกียจต่อสังคมก็เท่านั้นเอง แต่ไม่ถึงขั้นเดียวกันกับคนพวกนี้ ที่มองภาพคนตายอันน่าสยดสยองแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย แถมยังยิ้มชอบใจอยู่แบบนี้ได้ อย่างกับพวกเขาเป็นฆาตกรโรคจิตอย่างงั้นล่ะ......หรือว่าคนพวกนี้......

“เห็นเงียบอยู่ตั้งนานแล้ว พูดอะไรหน่อยสิคะ”

“อ-เอ๊ะ?!!”

“คิดว่าไงล่ะ ศิลปะแห่งความตายที่ฉันชื่นชอบน่ะ......มันสวยหรือเปล่า”

ในวินาทีนั้น สายตาของเธอได้จ้องมองมาที่ฉันด้วยความเปร่งประกาย เหมือนกับกำลังคาดหวังความคิดเห็นจากฉันอยู่......แต่จะให้ตอบไปว่ายังไงล่ะ......เมื่อนึกถึงภาพพวกนั้น ก็มีแต่ความรู้สึกสยดสยอง

ไม่ไหวแล้ว......ฉันจะต้องออกไปจากที่นี่ ฉันเริ่มไม่ไว้ใจพวกเขาแล้ว ถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรบ้าง แถมพวกเขามีกันตั้งสองคน ฉันนึกหนทางที่จะชนะพวกเขาไม่ได้เลย

“ค-คือว่า ฉันรู้สึกไม่สบายน่ะค่ะ ข-ขอฉันกลับบ้านก่อนได้ไหมคะ ข-ขอร้องล่ะค่ะ”

ฉันก้มหัวขอร้องพวกเขา พร้อมเอามือกุมท้องทำเหมือนคนป่วยที่อาการกำลังแย่ แต่แท้จริงก็เพื่อคอยประคองร่างตัวเองเอาไว้ เพราะตอนนี้ร่างกายของฉันมันสั่นระริก หน้ามืดตามัว ท้องไส้ปั่นป่วน พะอืดพะอมแทบจะอ๊วกออกมาได้ทุกเมื่อ จนแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว

“ก-ก็ ถ้าไม่สบาย......จะกลับก่อนก็ได้นะ”

เสียงของหญิงสาวกระทบใบหู ทันที่ที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รีบเดินไปที่ประตูและออกห้องไปอย่างเร่งรีบ......เมื่อออกมาครั้งนอกได้ ก็สับตีนแตกวิ่งหนีทันที ในใจตอนนี้คิดแค่ว่า ต้องวิ่งออกห่างจากพวกเขาให้มากที่สุด

--------------------------------------------------

เอ๊ะ!! นั่นมันห้องน้ำนิ......จะว่าไปฉันก็วิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้วนะ ถ้างั้นแวะสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร......เพราะตอนนี้น่ะ......ฉ-ฉันไม่ไหวแล้ว

ม-มีอะไรที่ฉันพอจะ......อ่างล้างมือก็ได้......อ๊วก!!!......ให้ตายเถอะ ภาพคนตายพวกนั้น ยังคงติดตาและหลอกหลอนฉันจนถึงตอนนี้ แค่ฉันไม่อ๊วกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นพวกมัน ก็นับได้ว่าปาฏิหาริย์แล้ว

แต่ว่า......ถึงแม้ภาพพวกนั้นจะน่ากลัวแค่ไหน แต่คนที่สามารถดูพวกมัน แล้วยิ้มชอบใจ น่ากลัวยิ่งกว่า เพราะไม่รู้ว่าในหัวคนของพวกนั้นมันคิดอะไรอยู่

ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ขอล้างหน้า สงบสติอารมณ์เสียก่อน หวังว่ามันจะช่วยทำให้ฉันดีขึ้นได้นะ ไม่อยากกลับบ้านด้วยสภาพจิตใจแบบนี้ด้วยสิ

......

ฮ่า~ พอสาดน้ำเข้าหน้า ก็ทำให้ความรู้สึกมัวหมองดีขึ้น กลายเป็นความสดชื่น ต่อไปก็เช็ดหน้าให้แห้ง......เอาล่ะเสร็จแล้ว ยังไงก็ขอดูสีหน้าตัวเองในกระจกสักหน่อยเถอะ......

......อะไรกันเนี่ย!!

ฉันสะดุ้งอย่างแรงด้วยความตกใจ ภาพที่อยู่ในกระจกคือตัวฉัน......และมีหญิงสาวสมาชิกชมรมพูดคุย ยืนอยู่ข้างหลังในตอนนี้......เมื่อฉันหันไปมองก็แทบไม่อยากเชื่อสายตา......เธออยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย

ต-ต้องรีบคว้าอาวุธ-

ฉันลนลานด้วยความหวาดกลัว พยายามจะหยิบกระเป๋าแต่ก็พลาดทำตก สร้างเสียงกระทบพื้นดังก้องไปทั่วห้องน้ำ ตัวฉันสั่นระริกเหมือนกับลูกหมาที่กำลังหวาดกลัว ในหัวตอนนี้มีแต่ภาพอันน่าสยดสยอง ของศพตัวเองในรูปแบบหลากหลายชนิด เหมือนกับที่พวกเขาเอาให้ฉันดู

น-นี่ฉัน กำลังจะถูกฆาตกรรมในห้องน้ำอย่างงั้นเหรอ......ไม่นะ ฉันไม่อยากมีสภาพแบบนั้น ฉันยังไม่อยากตาย......

ถึงแม้ว่าจะเคยเตรียมใจสู้จนตัวตายหลายครั้ง แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้......และไม่รู้ทำไม ฉันมองไม่เห็นโอกาสที่จะชนะเธอได้เลย ไม่ว่าจะสู้ยังไงก็มีแต่ตายกับตาย

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ.....คือว่า......ฉันอยากมาขอโทษน่ะ”

“ข-ขอโทษเหรอคะ......”

“ขอโทษที่ทำให้เธอต้องได้เห็นภาพอันน่ากลัวเหล่านั้น เพียงเพราะนิสัยส่วนตัวของฉัน”

“ฉันเป็นคนที่ชอบให้คนอื่น มาชื่นชมงานศิลปะอันเป็นที่โปรดปรานของตัวเอง”

“โดยลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น ถึงแม้ว่าฉันจะมองว่ามันสวยงาม แต่คนอื่นไม่ได้มองแบบนั้น”

“ฉันเป็นสมาชิกชมรมรุ่นแรก ปกติเวลามีคนใหม่เข้ามา ฉันก็จะเป็นคนแรกที่บอกรสนิยมของตัวเอง”

“ล-แล้วพวกเขาคิดยังไงเหรอคะ”

“พวกเขาก็ไม่ชอบมันเท่าไหร่หรอก แต่มันก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร พวกเขาแค่แสดงความคิดเห็นปกติ”

“ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันพอใจ และเคยซินกับการทำแบบนั้น จนลืมนึกถึงคนที่เขารับไม่ไหวจริงๆ”

“ซึ่งนั่นก็คือเธอ......ต้องขอโทษอีกครั้งจริงๆ หวังว่าเธอจะให้อภัยฉันนะ”

“ค-ค่ะ ถ้ามีแค่นั้นจริงๆ ฉันก็ไม่คิดมากแล้วล่ะค่ะ......”

“อืม ขอบคุณมากนะ ฉันหวังว่าเธอจะไม่คิดมาก และยังคงเข้าร่วมชมรมของพวกเราอยู่”

เมื่อพูดเสร็จเธอก็เดินออกจากห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ เหมือนกับว่าเธอตั้งใจจะมาขอโทษจริงๆ......บางทีฉันอาจจะมองเธอในแง่ร้ายมากเกินไปหรือเปล่า เธออาจจะเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีรสนิยมวิปริตมากไปหน่อยก็เท่านั้นเอง ฉันเองก็เหมือนกันกับเธอไม่ใช่หรือไง อาจเป็นเพราะถูกบังคับมา ก็เลยมองทุกอย่างแบบอคติไปหมดสินะ คงต้องลองเปิดใจและมองใหม่แล้วล่ะ

“อ่อ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะคุยกับเธอสักหน่อย”

“อ-เอ๊ะ?! ม-มีอะไรคะ”

“เธอเรียกประธานว่า อามาคุจิ-ซัง สินะ เธอมีความสัมพันธ์กับเขายังไงเหรอ”

“เอ๊ะ?!...ก-ก็ ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ พวกเราก็แค่ได้มีโอกาศคุยกันนิดหน่อย เท่านั้นเอง”

“......งั้นเหรอ ก็ดีแล้วล่ะ แต่ว่า......ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิง ฉันมีเรื่องที่อยากจะเตือนเธอ”

“อ-อะไรเหรอคะ”

“ระวังตัวด้วยนะ อย่ามองคนที่เปลือกนอกล่ะ เพราะมันอาจมีอะไรมากกว่านั้น......แค่นี้ล่ะ ฉันไปก่อน”

เอ๊ะ? หมายความว่าไงกัน นี่เธอกำลังเตือนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ อามาคุจิ-ซัง อย่างงั้นเหรอ......หรือว่าเธอเองก็อาจจะเคยโดนอะไรบางอย่างมาเหมือนกัน เพราะเธอดูเกรงใจ อามาคุจิ-ซัง ยังไงก็ไม่รู้......อามาคุจิ-ซัง......ฉันก็ไม่อยากจะสงสัยคุณหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้......ฉันคงมองคุณแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว.......

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!