ท้องฟ้าใกล้มืดค่ำ ตัวฉันเดินอยู่ข้างถนนตามลำพัง ฉันจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองมาถึงตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันมีหลายอย่างให้คิดมากเกินไป แต่มันก็ใกล้จะถึงบ้านฉันแล้วล่ะ หวังว่ากลับบ้านไป จะทำให้อาการดีขึ้น
แสงไฟตามที่ต่างๆเริ่มเปิดขึ้น ฉันก้าวเดินอย่างช้าๆด้วยความเหนื่อยล้า แสงไฟนีออนสวยดีนะ ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้ฉันเจอเรื่องแย่ๆ ก็คงจะชื่นชมมันได้อย่างเต็มที่
ฉันมองไปยังร้านต่างๆ ข้างในร้านมีผู้คนมากมายกำลังสนุกสนานกัน แต่ฉันในตอนนี้คงทำแบบพวกเขาไม่ได้ ฉันอิจฉาพวกเขาจัง ที่สามารถใช้ชีวิตปกติสุข
ที่ร้านฟิตเนสแห่งหนึ่ง มีผู้คนใช้งานอยู่นิดหน่อย ดูแล้วก็น่าเล่นดี จำไม่ได้แล้วแฮะ ว่าออกกำลังกายล่าสุดตอนไหน มีคนบอกว่าการออกกำลังกายจะช่วยทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่านะ......
......
“นั่นมัน...อามาคุจิ-ซัง?!!”
ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่พึ่งเจอกันได้ไม่นาน แต่การที่ได้เห็นเขา มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อย...ขาของฉันหยุดเดิน และจ้องมองไปที่เขาอย่างไม่ละสายตา ทันใดนั้น ความคิดในหัวก็ผุดออกมา
วันนี้...บางที...ออกกำลังกายสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
ฉันตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปยังร้าน มีคุณพนักงานต้อนรับมาทักทายนิดหน่อย เพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าใหม่จึงให้เข้าฟรี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันใส่ใจ สิ่งที่ฉันสนใจตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว...นั่นก็คือ อามาคุจิ-ซัง
ฉันค่อยๆเดินย่องไปอย่างช้าๆ หัวใจของฉันเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น อามาคุจิ-ซัง นอนยกน้ำหนักอย่างตั้งใจ ไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของฉัน และนั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการ
ทั้งที่เครียดมาโดยตลอด แต่สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ มันก็รู้สึกสนุกจนทำให้ฉันยิ้มออกมาได้นิดหน่อย
“เจอกันอีกแล้วนะคะ อามาคุจิ-ซัง”
“อ-เอ๊ะ?!!...อ-อิซุมิ อย่างงั้นเหรอ”
“ค่ะ ฉันเองค่ะ ซาซากิ อิซุมิ”
......
“แล้ว...มีอะไรอย่างงั้นเหรอ”
“ก-ก็ ฉันอยากออกกำลังกายน่ะค่ะ พอดีเห็น อามาคุจิ-ซัง เลยเข้ามาทักทาย”
“การทักทายของเธอเนี่ย มันทำฉันตกใจมากเลยรู้ไหม ฉันเกือบยกน้ำหนักพลาดแน่ะ”
“ข-ขอโทษค่ะ...”
“ไม่เป็นไร ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ อยากออกกำลังกายใช่ไหม เดี๋ยวฉันช่วยด้วยละกัน”
“ขอบคุณค่ะ ฝากตัวด้วยค่ะ”
หลังจากนั้น อามาคุจิ-ซัง ก็คอยแนะนำเรื่องออกกำลังกายให้ฉันมากมาย คอยดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างใกล้ชิด อามาคุจิ-ซัง ใจดีมากเลยล่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะพลาด ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เรื่อง แต่ก็ไม่เคยดุไม่เคยต่อว่าฉัน มีแต่คอยเป็นห่วงกลัวฉันจะบาดเจ็บ มันสนุกมากเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยไปหน่อย แต่ก็สนุกมาก มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่น จนลืมเรื่องราวแย่ๆที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
การออกกำลังกายจบลงแล้ว ฉันมานั่งพักพร้อมหอบด้วยความเหนื่อยล้า อามาคุจิ-ซัง เดินมาหาฉันด้วยรอยยิ้มสดใส ยื่นน้ำให้ พร้อมนั่งลงข้างๆฉัน
“ออกกำลังกายเป็นไงบ้าง”
“เหนื่อยมากเลยล่ะค่ะ แต่ต้องขอบคุณ อามาคุจิ-ซัง ที่ทำให้มันราบรื่นกว่าที่คิดเอาไว้”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ......แล้วเรื่องเมื่อเช้าเป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม”
“เรื่องนั้น...ฉันไม่ใส่ใจแล้วล่ะค่ะ”
“งั้นเหรอ ก็ดีแล้วล่ะ ไม่ต้องไปใส่ใจพวกคนในอินเทอร์เน็ตหรอกนะ ปวดหัวป่าวๆ”
“ยังไงก็อย่าให้ใครมาตัดสินตัวเธอได้ และเชื่อเถอะว่าสักวันต้องเจอแน่ คนที่เห็นคุณค่าในตัวเธอ”
“ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ อามาคุจิ-ซัง”
อามาคุจิ-ซัง ใจดีจังเลยนะ เขาคอยเป็นห่วงฉัน คอยช่วยเหลือฉัน ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับเขา มันรู้สึกอบอุ่น มันรู้สึกปลอดภัย มันรู้สึกสบายใจ เหมือนได้คุยปรึกษากับผู้ใหญ่ที่พึ่ง พาได้......ไม่อยากให้เขารู้เรื่องอันน่ารังเกียจของฉันเลย...อยากให้เขายังคงรักษารอยยิ้มอันอบอุ่นนี้ไว้...
“ดูเหมือนว่าจะมืดแล้วแฮะ ให้ฉันเดินไปส่งไหม”
“เอ๊ะ?!”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินกลับบ้านด้วยกัน ระหว่างทางก็พูดคุยเรื่องต่างๆมากมาย อามาคุจิ-ซัง พูดเก่งจนน่าตกใจ มันสนุกมากเลยล่ะ พวกเราพูดคุยกันเพลินจนเกือบเดินผ่านบ้านฉันไป และเมื่อถึงช่วงที่ต้องบอกลากัน มันก็ทำให้รู้สึกเศร้าใจนิดหน่อย ฉันยังอยากคุยกับเขาให้มากกว่นี้
สุดท้ายแล้ว อามาคุจิ-ซัง ก็เดินกลับบ้านคนเดียว ฉันก็ได้แต่โบกมือลาเขาที่หน้าบ้านของฉันนี่ล่ะนะ บ้านที่ฉันอยู่ เป็นอพาร์ทเม้นท์สูงหลายชั้น ฉันอาศัยอยู่ในห้องคนเดียว เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างแดน ไม่ค่อยได้กลับมาบ่อยนัก ถึงกลับมาพวกเขาก็มีบ้านอีกหลัง ทำให้ยังไงฉันก็ต้องอยู่คนเดียว
แต่ฉันน่ะไม่เหงาหรอกนะ เพราะมีหลานชายหลายคนมาเล่นด้วยกันบ่อยๆ โดยเฉพาะ ได-คุง...พอนึกถึง ได-คุง เรื่องแย่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกแล้ว ฉันเองก็อยากขอความช่วยเหลือหรอกนะ แต่ก็ไม่อยากให้ใครรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้น ถึงจะน่าเศร้า แต่ตอนนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองเท่านั้น
ฉันเดินกลับเข้าห้องปกติ มันก็เงียบเหงาตามที่มันเคยเป็นล่ะนะ วันนี้ก็ไม่มีหลานๆมาเล่นด้วย แต่ตัวฉันกลับไม่ได้รู้สึกเหงาหรือเศร้าใจแต่อย่างใด ฉันปิดประตูล้มตัวนอนที่เตียงอันนุ่มนิ่ม วันนี้เหนื่อยมากเลยล่ะ
“อามาคุจิ-ซัง......อยากเจออีกเร็วๆจัง”
ตื่นเช้ามาอีกวัน ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ตัวฉันก็ยังคงต้องเดินทางไปโรงเรียนตามเดิม ที่รถไฟสายเดิม แต่วันนี้มันแต่งตากจากทุกวันที่ผ่านมา เพราะฉันมีนัดสำคัญที่จะตัดสินชีวิตฉันต่อจากนี้ พอนึกถึงมันก็มีแต่ความรู้สึกแย่ๆเต็มไปหมด
แต่ก่อนอื่น......อามาคุจิ-ซัง อยู่ไหนนะ น่าจะอยู่แถวสถานีรถไฟนี้นิ......อ่ะ เจอแล้ว
“อามาคุจิ-ซัง อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“เอ๊ะ?!! อ่อ อิซุมิ เองหรอกเหรอ อรุณสวัสดิ์นะ ดูร่าเริงดีนะวันนี้ รู้สึกไม่ชินยังไงก็ไม่รู้”
“ต้องขอบคุณ อามาคุจิ-ซัง นั่นล่ะค่ะ”
“งั้นเหรอ ดีใจที่ได้ช่วยนะ...แล้วออกกำลังกายเป็นไงบ้าง วันนี้ปวดเมื่อยตรงไหนบ้างไหม”
“อ่อ เรื่องนั้น รู้สึกว่าจะปวดนิดหน่อยนะคะ แต่ไม่มาก ต้องขอบคุณ อามาคุจิ-ซัง อีกนั่นล่ะ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ ยังไงก็ไปทางเดียวกัน สนใจที่จะเดินไปด้วยกันไหม”
“ค่ะ!! ไปค่ะ! ไป!”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินด้วยกัน พวกเราคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยระหว่างทาง ฉันยิ้มให้เขาด้วยความร่าเรง เขาก็ยิ้มให้ฉันด้วยความอบอุ่น แต่เวลาผ่านไปได้สักพัก เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
โอโนะ มิกะ เพื่อนสาวของฉัน ได้มายืนดักรอระหว่างทาง นั่นทำให้ฉัน และ อามาคุจิ-ซัง ประหลาดใจต่อการปรากฎตัวของเธอ
“อิซุมิ...อารุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อ-อืม...อารุณสวัสดิ์นะ มิกะ”
“และก็...อายาโนะ-ซัง อารุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อ-เอ่อ อารุณสวัสดิ์นะ...แล้วเธอรู้จักฉันด้วยเหรอ”
“......ค่ะ รู้จักดี......แล้ว อายาโนะ-ซัง ล่ะคะ......รู้จักฉันหรือเปล่า”
“เอ่อ......โทษทีนะ ไม่รู้จักจริงๆ ต้องขอโทษด้วย”
“ค่ะ......ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจดี”
มิกะ วันนี้ดูแตกต่างไปจากทุกที บรรยากาศโดยรอบรู้สึกตรึงเครียดไปหมด จนฉันทำตัวไม่ถูก และสายตาที่เธอมองไปยัง อามาคุจิ-ซัง ก็แปลกมากด้วย
“คือว่า...ขอฉันคุยกับ อิซุมิ เป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ”
“เธอว่าไง อิซุมิ”
“อ...เอ่อ...รบกวนด้วยค่ะ อามาคุจิ-ซัง”
“ถ้าเธอว่าอย่างนั้น......งั้นฉันไปก่อนนะ”
อามาคุจิ-ซัง เดินจากไปแต่โดยดี เหลือไว้แค่ฉันกับ มิกะ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปคุยกันตรงม้านั่งใกล้ๆแถวนั้น ถึงฉันจะรู้สึกสับสน และกดดันนิดหน่อย กับการแสดงออกของ มิกะ แต่ในฐานะเพื่อนแล้ว ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่
“ตรงนี้ไม่มีคน และ อามาคุจิ-ซัง ก็ไปแล้วด้วย เธออยากพูดอะไรก็พูดออกมาได้เลยนะ”
“ฉัน......แอบชอบ อายาโนะ-ซัง เขาน่ะ”
“อ-เอ๋?!!! จริงเหรอ มิกะ”
“อ-อืม...”
มิกะ แอบชอบ อามาคุจิ-ซัง อย่างงั้นเหรอเนี่ย!!! ไม่อยากจะเชื่อเลย ไปแอบชอบตอนไหนเนี่ย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ถึงว่าบรรยากาศตอนที่เธอเจอกับ อามาคุจิ-ซัง มันถึงได้ดูแปลกๆ
“อิซุมิ...เธอกับ อายาโนะ-ซัง ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนะ”
“ก็...ใช่แหละ พวกเราอาจดูสนิทกัน แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันเองก็ไม่ได้ชอบเขาแบบนั้นด้วย”
“จ-จริงนะ”
“อืม จริงสิ”
ถึงฉันจะชอบที่ได้อยู่ใกล้เขาก็เถอะ แต่ฉันคิดว่าความรู้สึกพวกนั้นก็คงเป็นความเคารพนั่นล่ะ ฉันมองเขาเป็นคนที่พึ่งพาได้ สามารถปรึกษาด้วยได้ เรื่องมันก็มีแค่นั้น แถมตอนนี้เพื่อนสาวที่สนิทของฉัน บอกว่าแอบชอบเขา ฉันจะทำร้ายเพื่อนด้วยการแย่งผู้ชายกับเธอได้ยังไงกัน
“โล่งอกไปที เห็นทั้งสองคนเดินมาด้วยกัน มีท่าทีสนิทสนม นั่นทำให้ฉันกังวลมากเลยล่ะ”
“ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะ ฉันพร้อมช่วยเหลือเธอทุกอย่างเลยนะ เพื่อให้เธอได้สมหวังในความรักน่ะ”
“ช่วยได้ทุกอย่างจริงนะ”
“เอ่อ...ก็ ถ้ามันไม่เกินความสามารถของฉันนั่นล่ะนะ”
“ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ฉันน่ะอยากให้ อิซุมิ ช่วยไปสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเขามาให้ได้ไหม”
“ให้ฉันเข้าไปถามจาก อามาคุจิ-ซัง โดยตรงเลยอย่างงั้นเหรอ”
“อืม จะช่วยได้มากเลยล่ะ ฉันอยากได้ข้อมูลติดต่อของเขา งานอดิเรก เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร”
“ถ้าแค่นั้น ฉันคิดว่า ฉันพอทำให้ได้ล่ะนะ”
“จริงนะ!! ขอบคุณมากๆเลยนะ อิซุมิ......แต่ว่า อย่าบอกเขานะ ว่าฉันฝากถามมา”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน เข้าเรียนด้วยกันตามปกติ ส่วนเรื่อง อามาคุจิ-ซัง ฉันคิดว่าจะลองไปคุยกับเขาในช่วงพักเที่ยงนี้ หวังว่าช่วงนั้นเขาจะสะดวกนะ
เวลาผ่านไป ช่วงพักเที่ยงก็ได้มาถึง ฉันเดินไปหา อามาคุจิ-ซัง ที่ห้องเรียนของเขา แต่ไม่กล้ารบกวนคนข้างใน จึงได้ยืนรอเขาที่หน้าห้องอยู่อย่างนั้น รอให้เขาออกมาเอง
“อิซุมิ เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
“อามาคุจิ-ซัง สวัสดีค่ะ สนใจไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหมคะ”
“เธออยากกินข้าวเที่ยงกับฉันงั้นเหรอ...”
“ค่ะ...แล้วก็ ฉันมีเรื่องสำคัญที่อยากคุยกับ อามาคุจิ-ซัง น่ะค่ะ แบบส่วนตัว ได้ไหมคะ?...”
อามาคุจิ-ซัง มองหน้าฉันด้วยสีหน้าประหลาดใจ เหมือนกลับไม่คาดคิดว่าฉันจะมาชวนเขากินข้าวเที่ยงแบบนี้ ฉันก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับเขาไป จริงๆแล้วที่ฉันชวนเขา มันก็มีเจตนาแอบแฝงอ่ะนะ
“ก็ได้นะ”
“จริงเหรอคะ!!!”
“อืม แต่เธอช่วยไปรอฉันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ กลางโรงเรียนนั่นก่อนได้ไหม ขอฉันคุยกับเพื่อนก่อนนะ”
“อ่ะ ได้ค่ะ”
ต้นไม้ใหญ่กลางโรงเรียน เป็นที่ที่เงียบสงบและเย็นสบายมากเลยล่ะ ฉันได้มานั่งรอ อามาคุจิ-ซัง ตามที่เขาบอก ตอนนี้ก็มีแต่ต้องรอให้เขามาเท่านั้นล่ะ
“รอนานหรือเปล่า อิซุมิ”
“อามาคุจิ-ซัง?!! ไม่นานเลยค่ะ นั่งก่อนสิคะ”
อามาคุจิ-ซัง นั่งลงข้างๆตัวฉัน พวกเราหยิบเอาข้าวกล่องที่เตรียมมา ออกมารับประทานกัน มันก็เป็นข้าวกล่องธรรมดาทั้งคู่ล่ะนะ
“แล้ว มีเรื่องอะไรที่อยากคุยงั้นเหรอ”
“ก็ ฉันน่ะ อยากสนิทกับ อามาคุจิ-ซัง น่ะค่ะ”
“งั้นเหรอ...ที่จริง ตอนนี้เราก็ดูสนิทกันดีนะ”
“แต่ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องของ อามาคุจิ-ซัง เท่าไหร่เลยนะคะ มันดูห่างเหินยังไงก็ไม่รู้”
“แล้วเธออยากรู้อะไรล่ะ ถ้าเธออยากรู้ก็ถามมาได้เลย ฉันจะตอบเท่าที่ตอบได้ละกัน”
“เอ๊ะ จริงเหรอคะ งั้นฉันจะถามแบบไม่เกรงใจนะคะ”
ในตอนนั้นฉันเองก็มีคำถามแรกผุดขึ้นมาในหัวอยู่แล้ว คำถามนี้ทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้ มันรู้สึกเขินนิดหน่อย ที่จะถามแบบนี้ออกไป
“อามาคุจิ-ซัง มีแฟนหรือยังคะ”
“อ-เอ๊ะ นั่นมันคำถามอะไรกันน่ะ”
“เอาเถอะน่า แค่ตอบมาก็พอ”
“ไม่มีหรอก”
“แล้วคนที่ชอบล่ะคะ”
“คนที่ชอบนี่......หมายถึงชอบแบบไหนเหรอ”
“ก็คนที่เราอยากได้เป็นแฟนยังไงล่ะคะ”
“อืม......คนที่อยากได้เป็นแฟนเหรอ......ถ้าแบบนั้นไม่มีหรอก”
เยี่ยม อามาคุจิ-ซัง โสดสนิทไร้คู่แข่ง ยินดีด้วยนะ มิกะ
“อิซุมิ......ที่เธอถามเนี่ย คงไม่ใช่ว่า......แอบชอบฉันหรอกใช่ไหม”
“อ-เอ๊ะ ท-ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะคะ อามาคุจิ-ซัง เข้าใจผิดแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะคะ”
“งั้นเหรอ นี่ฉันคิดไปเองเหรอเนี่ย”
“ใช่ๆ อามาคุจิ-ซัง อย่าหลงตัวเองแบบนั้นสิคะ”
“ฮ่าๆ โทษทีนะ”
แต่ก็มีคนที่แอบชอบเขาจริงๆอยู่ล่ะนะ งั้นฉันลองถามคำถามลองใจเขาดูดีกว่า
“แล้วถ้ามีผู้หญิงที่แอบชอบ อามาคุจิ-ซัง อยู่จริงๆ จะตอบกลับเธอยังไงเหรอคะ”
“ก็คงต้องบอกให้เธอตัดใจไปหาคนอื่น ดีกว่าน่ะ......เพราะว่าคนอย่างฉัน มันไม่คู่ควร.....”
“ท-ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะคะ”
ไม่รู้ทำไม อามาคุจิ-ซัง ถึงได้แสดงสีหน้าที่ดูเศร้าแบบนั้น เหมือนกับมีเรื่องที่อยู่ในใจ แบบนี้คงงานหินน่าดู สู้ๆนะ มิกะ
“ช่างเรื่องนั้นเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ......ถ้า อามาคุจิ-ซัง พูดอย่างนั้น”
“แล้วมีเรื่องที่อยากถามอีกไหม เร็วหน่อยล่ะ ไม่งั้นเวลาเที่ยงหมดนะ”
“อ่ะ ค่ะ ยังเหลือคำถามอีกเยอะเลยล่ะค่ะ”
หลังจากนั้นฉันก็ถามเขาเท่าที่จะนึกออก ไม่ว่าจะเรื่องอาหารที่ชอบ งานอดิเรกที่เขาทำ ข้อมูลติดต่อ และก็ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ เขาก็ตอบมาตามตรง จนเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลาพักเที่ยงได้จบลง พวกเราจึงแยกย้ายไปเข้าห้องเรียนกันปกติ
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องของ อามาคุจิ-ซัง ก็ยังคงค้างคาในจิตใจ เขาเคยบอกว่า เขาเองก็มีความลับอันดำมืดอยู่เหมือนกัน แล้วมันคืออะไรกันแน่ จะเกี่ยวกับการแสดงออกของเขาเมื่อไม่นานมานี้หรือเปล่านะ แต่พูดไปแล้วฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ เพราะฉันเองก็ปิดบังเขาเหมือนกัน
ณ ห้องเรียนที่คุ้นเคย วันนี้ก็เป็นวันที่สงบสุขดี......แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่ลืมหรอกนะ...ฉันน่ะมีนัดสำคัญที่จะต้องไป ถึงแม้จะไม่อยากให้มันมาถึง แต่เวลาก็ไม่เคยหยุดเดิน มันยังคงเดินหน้าต่อ ไปยังช่วงเวลาตามนัด ฉันก็ได้แค่จ้องมองมัน หากเป็นสถานะการ์ณปกติ คงอยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้ แต่สำหรับฉันแล้วกลับตรงกันข้าม ไม่อยากให้เวลาเดินต่อไปเลย ไม่อยากให้ความสงบสุขนี้......จากไปเลย
ท้ายที่สุด เวลานัดก็ได้มาถึง ฉันในตอนนี้อยู่ตัวคนเดียว ได้บอกให้เพื่อนๆกลับบ้านไปก่อน เพราะไม่อยากให้พวกเธอมารับรู้เรื่องราวต่อจากนี้.......แสงอาทิตย์อัสดงสาดส่องทั่วตึกโรงเรียน ฉันคนนี้เดินอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางความเงียบเหงา พยายามเดินอย่างเชื่องช้าเพื่อไม่ให้ถึงจุดหมาย แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีความหมาย
“มาแล้วเหรอ”
คนที่ฉันไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดในเวลานี้ได้ปรากฏตัว เขาคือชายวัยกลางคนรูปร่างซูบผอม เป็นอาจารย์ของโรงเรียนแห่งนี้ มีชื่อว่า “อาซึซิ ฮาจิเมะ”
“กำลังรออยู่พอดี วันนี้มีคนสำคัญที่ฉันอยากให้เธอเจอ”
เมื่อมองไปที่ชายคนนี้ ความรู้สึกต่างๆมากมายก็ไหลผ่านเข้ามาในจิตใจ ฉันนั้นรู้สึกหวาดกลัวเขา ช่วงเวลาเดียวกันก็อยากฆ่าเขาให้ตาย แต่ความขี้ขลาดก็ทำให้ฉันไม่กล้าลงมือ เพราะเกรงกลัวต่อความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
“ตามฉันมาสิ”
เขาได้เดินนำทางฉันไปสู่ห้องที่คุ้นเคย “ชมรมพูดคุย” เขาเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยเหมือนกับเป็นห้องของตัวเอง เหลือก็แต่ฉัน ที่ยังคงลังเลอยู่
มีดคัตเตอร์ ยังอยู่ดีสินะ อาวุธเพียงหนึ่งเดียวของฉัน หากเกิดเรื่องร้ายขึ้น ฉันคงต้องหวังพึ่งนายล่ะนะ......
“มัวทำอะไรอยู่ เข้ามาได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงเรียก ฉันจึงจำใจเดินเข้าไป แม้จะไม่อยากก็ตาม และวินาทีที่ฉันก้าวเดินเข้ามาข้างใน ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ
“ขอแนะนำให้เธอรู้จัก คนนี้ก็คือ ประธานชมรมของที่นี่”
“อิซุมิ......”
“อามาคุจิ-ซัง......”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments