ชมรมวิปริตจิตมืดมน

ชมรมวิปริตจิตมืดมน

จุดจบสู่จุดเริ่มต้น

รสนิยม มีนิยามหมายถึง ความชอบ ความพอใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันในฐานะของมนุษย์ เพียงแต่รสนิยมของทุกคนนั้นแตกต่างกันไป ทั้งเรื่องอาหาร หนัง เกม หรือแม้แต่......รสนิยมทางเพศ

ตัวฉันมีชื่อว่า ซาซากิ อิซุมิ เป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไปที่เห็นได้ตามท้องถนน มีผมยาวสีน้ำตาลแปะหลัง ดวงตากลมโตสีดำ ใบหน้าขาวใสตามแบบฉบับสาวญี่ปุ่น ใส่ชุดนักเรียนมอปลายสีขาว กระโปงสีฟ้าเข้ม ยาวไม่ถึงหัวเข่า

ใช่แล้ว......ตัวฉันก็คือ นักเรียนสาวมอปลายธรรมดาทั่วไปยังไงล่ะ......แต่คุณรู้อะไรไหม ภายใต้ความธรรมดาจนกลมกลืนไปกับผู้คนนั้น มันมีความมืดมิดอันน่ารังเกียจซ่อนอยู่ ความมืดมิดที่ถูกเกลียด ความมืดมิดที่ถูกปฏิเสธ ตัวฉันน่ะ นับได้ว่าเป็น......สัตว์ประหลาดในคราบมนุษย์......

ถึงแม้ฉันจะไม่อยากยอมรับก็ตาม แต่มันก็คือสิ่งที่......สังคม...กำนดให้ฉันเป็น และนั่นก็ทำให้ฉันทำได้เพียงแค่เก็บซ่อนตัวตนอันน่ารังเกียจนั้นเอาไว้ เพื่อแฝงตัวอยู่ในสังคมต่อไปได้ เพราะฉันเองก็มีสิ่งที่รักที่ต้องปกป้องเอาไว้ ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง ความสงบสุข และ อิสรภาพ

แต่ว่า ถึงแม้ฉันจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขดีเรื่อยมา ทุกคนต่างเห็นรอยยิ้มของฉัน เห็นฉันใช้ชีวิตอย่างร่าเริง แต่ทุกอย่างมันก็แค่การเสแสร้งเท่านั้น ในโลกอันกว้างใหญ่ มีผู้คนอยู่มากมาย ตัวฉันกลับรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง ฉันต้องการ ฉันโหยหา ใครสักคน คนที่เข้าใจฉัน คนที่ยอมรับในตัวตนด้านมืดของฉัน

เพราะฉะนั้น ฉันจึงได้ตัดสินใจตั้งกระทู้ลงบนเว็บบอรด์ในอินเตอร์เน็ต สารภาพทุกความรู้สึก การกระทำ ที่ฉันไม่เคยบอกใครมาก่อน และหวังว่ามันจะได้รับการตอบกลับที่ดี แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ดี อย่างน้อย ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถปิดบังตัวตนได้ ก็จะทำให้ผลของมันไม่สามารถส่งมาถึงชีวิตจริงได้

ฉันตั้งกระทู้ลงไปตั้งแต่มืดค่ำ จนมาถึงช่วงเช้าสดใส ฉันในตอนนี้กำลังนั่งรถไฟ เพื่อไปโรงเรียนตามกิจวัตรประจำวันอันแสนน่าเบื่อ แต่ยังโชคดีที่มีมือถือคู่ใจ คอยเฝ้ารอ และ ติดตามการตอบกลับกระทู้นั้น อย่างใจจดใจจ่อ ตอนนี้ฉันกำลังตัดสินใจที่จะเปิดอ่านมัน หลังจากที่ปล่อยทิ้วไว้นานพอสมควร มันน่าจะมีการตอบกลับที่มากพอ ตามที่ฉันต้องการ

“ไปตายซะ!!!”

“คนแบบแกน่ารังเกียจที่สุด!”

“แค่ฉันรู้ว่ามีคนแบบแกอยู่ก็ทำให้ฉันอยากจะอ๊วก!”

อ่า......ด่าได้เจ็บมาก......ก็ตรงตามที่ฉันคิดไว้......ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว......ถึงจะแอบคาดหวังอยู่นิดหน่อยก็เถอะ...

อ่า ดูเหมือนว่าจะถึงแล้วสินะ ยังไงตอนนี้ก็รีบลุกออกจากรถไฟก่อนดีกว่า แต่ให้ตายเถอะ ทั้งที่ทำใจไว้แล้ว แต่ก็เจ็บเป็นบ้าเลย นี่จิตใจฉันมันอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

กริ้ง!!!

เอ๋ ใครกันแชทมาตอนนี้ กำลังจะเดินออกจากรถไฟอยู่แล้วเนี่ย

นี่มัน......มิมิ-จัง นี่นา เธอแชทมา แสดงว่าเธออ่านเรื่องที่เราสารภาพไปแล้วสินะ ไม่แน่ใจว่าเธอจะตอบมาว่ายังไง แต่มันคงไม่เลวร้ายเหมือนพวกในเว็บบอร์ดนั่นหรอกเนาะ ก็พวกเราเป็นเพื่อนทางออนไลน์ ที่สนิทกันมากยังไงล่ะ

“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะอุบาทขนาดนี้!! อย่ามาเรียกฉันว่าเพื่อนอีกนะ!”

อ-เอ๋......ข้อความนี้ มาจาก มิมิ-จัง อย่างงั้นเหรอ?!

“สิ่งที่เธอเล่ามาน่ะ ทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้!!”

“คนแบบเธอน่ะ ไม่น่าเกิดมาเลย!”

“ฉันแนะนำว่าให้เธอน่ะ ขังตัวเองซะ!!! ไม่ก็ไปตาย!!! ทุกคนจะได้ปลอดภัยจากคนอย่างเธอ!”

ม...ไม่นะ...ไม่ใช่เธอสิ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เธอ

ม-ไม่ได้นะ จะร้องไห้ตอนนี้ไม่ได้ น้ำตาหยุดเดี๋ยวนี้นะ คนเยอะเกินไป ต้องรีบเดินออกจากที่นี่

อ๊า!!!

เจ็บจัง เมื่อกี้ฉันเดินชนอะไรเข้ากันน่ะ......

“นี่เธอน่ะ ตาบอดหรือไง”

เอ๋ ทำไมผู้ชายวัยกลางคน ใส่ชุดพนักงานออฟฟิค มองมาที่ฉันด้วยท่าทางอารมณ์เสียแบบนั้น

“เพราะเธอเลย กาแฟของฉันมันถึงหกเลอะเทอะไปหมด!!”

จ-จริงด้วย กาแฟหกเลอะเต็มพื้น แถมยังโดนรองเท้าของเขาด้วย นั่นมันฝีมือของฉันอย่างงั้นเหรอ?!

ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบขอโทษเขา เร็วเข้าตัวฉันรีบลุกขึ้น

“ข-ขอโทษด้วยค่ะ!! ฉันรีบไปหน่อยต้องขอโทษจริงๆค่ะ”

“เธอคิดว่าขอโทษแล้วจะจบหรือไง รู้ไหมช่วงนี้ฉันโดนอะไรมาบ้าง ฉันแค่อยากจิบกาแฟให้อารมณ์ดีขึ้น แต่เธอกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เธอทำให้รองเท้าฉันเลอะ ฉันต้องไปสัมภาษณ์งานนะรู้ไหม!!!”

เขาดูโกรธมาก เขากำลังง้างมือเหมือนจะเข้ามาต่อยฉัน วันนี้มันบ้าวันอะไรกัน มีแต่คนเข้าทำร้ายฉัน

อ่า แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงคนที่น่ารังเกียจอย่างฉัน มันก็สมควรโดนแล้วล่ะนะ

“ก-แกเป็นใคร?! เข้ามายุ่งทำไม!!”

“ผู้ชายจะทำร้ายผู้หญิง ผมก็ต้องยุ่งอยู่แล้ว”

ฉันที่หลับตาสนิทเพราะกลัวเจ็บ แต่เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มปริศนา นั่นก็ทำให้ฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง

ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือชายหนุ่มอายุราวเดียวกันกับฉัน เขาใส่ชุดนักเรียนมอปลาย มีร่างกายกำยำ สูงประมาณ 180 มีใบหน้าที่ดูจริงจัง เขาได้ใช้มือของเขา จับแขนของชายคนนั้น คนที่พยายามจะทำร้ายฉัน

“ผมว่าคุณรีบออกไปจากที่นี่ดีกว่านะ ทุกคนกำลังจ้องมองคุณอยู่”

“เอ๊ะ?!”

ชายวัยกลางคนหันมองดูรอบตัวของเขา ฉันเองก็ทำแบบนั้น มีผู้คนมากมายกำลังลายร้อมพวกเรา พวกเขามองมาด้วยแววตาที่หวาดกลัว บางคนก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเหตุการ์ณเอาไว้

“ซิ ฉันจะยอมไปก็ได้ โถ่เอ้ย!!! วันนี้ซวยจริงๆ”

ชายวัยกลางคนเดินหนีออกไปอย่างเร่งรีบ พร้อมอารมณ์หงุดหงิด ผู้คนเริ่มแยกย้ายทำธุระของตัวเอง ยังเหลือก็แต่ฉัน ที่ยังยืนแน่นิ่งไม่ไหวติง กับชายหนุ่มคนนั้น คนที่เข้ามาช่วยฉันเอาไว้

“ไม่เป็นไรนะครับ”

“อ่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ”

ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งที่เจอกันครั้งแรก แต่เขากลับทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ

จะว่าไป เสื้อผ้าที่เขาใส่ มันดูคุ้นๆนะ...

“ชุดนั่น เป็นของโรงเรียนมอปลาย ซากุไร ใช่ไหมคะ”

“ใช่แล้วล่ะ เธอเองก็เหมือนกันสินะ”

“ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ”

ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอคนจากโรงเรียนเดียวกัน ในสภาพแบบนี้ รู้สึกน่าอายเป็นบ้าเลย เขาเองก็ดูเหมือนจะเขินนิดหน่อยด้วย

“ผมชื่อ อายาโนะ อามาคุจิ นะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“อ่ะ ส่วนฉันชื่อ ซาซากิ อิซุมิ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

“ในเมื่อเราเรียนที่เดียวกัน สนใจเดินไปโรงเรียนด้วยกันไหมครับ”

“……คะ?!!”

ไม่รู้ทำไมเขาถึงชวนฉันเดินไปโรงเรียนด้วยกัน ฉันเองก็ประติเสธไม่ได้ด้วยสิ พวกเราเดินมาได้สักพักแล้วโดยที่แทบไม่พูดอะไรสักคำ รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยแหะ ควรหาเรื่องคุยดีไหมนะ……

“ทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ”

“เอ๊ะ?!!”

“ผมเห็นมันนะ น้ำตาของเธอ”

“ค-คงจะเป็นเพราะฉันกลัวล่ะมั้งคะ ก็ชายวัยกลางคนคนนั้น น่ากลัวจะตายไป”

“ไม่ใช่ ก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านั้นอีก”

“ก่อนหน้านั้นเหรอคะ...ค-คุณมองอยู่ อย่างงั้นเหรอคะ”

“ใช่แล้วล่ะ มองอยู่ตลอด ตั้งแต่ที่เธอทำหน้าเศร้าใจ ตั้งแต่ที่เธอเริ่มร้องไห้ออกมา ฉันก็ดูอยู่ตลอด”

“น-น่าขนลุก...อ่ะ!! ขอโทษค่ะ”

“ฮ่าๆๆ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ผมชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้วล่ะครับ”

เขาถอนหายใจออกมา พร้อมกับยิ้มแห้ง เหมือนกำลังรู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อนิสัยของตัวเองอยู่

“แต่ว่า ถ้ามันหนักเกินจะรับไหว ผมก็ยินดีที่จะช่วยแบกรับให้นิดหน่อยนะครับ ถ้าเธอต้องการ”

เอ๊ะ?!......ไม่รู้ทำไม พอได้ยินสิ่งที่เขาพูด มันก็ทำให้ฉันรู้สึกปลื้มปลิติอย่างบอกไม่ถูก บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ฉันต้องการตั้งแต่แรก ความต้องการที่อยากจะมีใครสักคนมาถามเรื่องราวภายในใจ โดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยขอสักคำ......แต่ว่าฉันยังรู้จักเขาได้ไม่นาน จะให้บอกเรื่องราวทั้งหมดคงจะไม่ไหว เพราะจิตใจของฉันมันไม่กล้าพอ ฉันไม่อยากเสี่ยงแบบนั้นอีกแล้ว โดยเฉพาะการคุยต่อหน้าแบบนี้

“ฉันมีความลับที่บอกใครไม่ได้น่ะค่ะ มันเป็นความลับที่ดำมืด ได้แต่เก็บไว้ในใจ ไม่เคยบอกใคร”

“พอนานเข้ามันก็รู้สึกอึดอัด จนในที่สุดก็ได้ตัดสินใจระบายออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต”

“แต่ว่าผลลัพธ์......ก็อย่างที่คุณเห็นนั่นล่ะค่ะ...”

“ความลับที่ดำมืดนั้น คงเป็นเรื่องที่จะให้ใครรู้ไม่ได้สินะครับ ผมเข้าใจ และ จะไม่ถามเรื่องนี้”

“สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้ก็มีแต่ การอวยพร”

“สักวันหนึ่งจะต้องเจอแน่ คนที่เข้าใจ คนที่รับฟัง คนที่คอยให้กำลังใจ ขอให้อย่ายอมแพ้นะครับ”

คำพูดนั้นของเขา มันได้เข้าไปถึงส่วนลึกในจิตใจ ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับฉันมาก่อน รอยยิ้มอันเป็นมิตรมันช่างทำให้รู้สึกอบอุ่น มันทำให้ฉันรู้สึกดีจนมีกำลังใจมากขึ้น

“เอ่อ...คือว่า ขอบคุณค่ะ คุณ...”

“เรียกผมว่า อามาคุจิ ก็ได้ครับ”

“อ่ะค่ะ อามาคุจิ-ซัง จะเรียกฉันว่า อิซุมิ ก็ได้นะคะ”

“ด้วยความยินดีครับ”

“และก็ขอโทษที่พลั้งปากพูดไปว่าคุณน่าขนลุก ขอเปลี่ยนคำพูดใหม่นะคะ”

“คุณน่ะเป็นคนที่ใจดีมาก นิสัยชอบยุ่งเรื่องคนอื่นของ อามาคุจิ-ซัง ทำให้วันที่แย่กลายเป็นวันที่ดีได้”

“ฮ่าๆ ขอบคุณที่ชมครับ”

“......จริงๆแล้ว ผมเองก็มีความลับที่ดำมืดอยู่เหมือนกัน...”

“อ-เอ๋ จริงเหรอคะ”

“ครับ ถึงจะไม่ชอบ แต่ก็ต้องขอบคุณนิสัยชอบยุ่งเรื่องคนอื่น”

“ที่ทำให้ผมได้เจอกับเพื่อนๆ ที่รับฟังเรื่องราวความลับอันดำมืดของผม”

ฉันที่จ้องมอง อามาคุจิ-ซัง อย่างไม่ละสายตา อยู่ดีๆเขาก็หยุดเดิน พอมองดูรอบตัวถึงได้รู้ว่าพวกเรานั้นได้มาถึงหน้าโรงเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้

“ผมเองยังตามหาได้ เธอเองก็ทำได้เช่นกัน ขอให้โชคดีนะครับ”

อามาคุจิ-ซัง ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะเดินจากไป ตัวฉันนั้นยังคงยืนแน่นิ่งไม่ไหวติง วันนี้เป็นวันที่ความรู้สึกอันแปลกใหม่ ไหลพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายอย่างมากมาย แม้จะเป็นการคุยเพียงสั้นๆ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ไม่ได้ระบายทุกสิ่งที่อยู่ในใจ แต่แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้สุขใจ

ขอบคุณมากค่ะ อามาคุจิ-ซัง หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันอีก

 

“อิซุมิ อารุณสวัสดิ์!”

มีเสียงของหญิงสาวกำลังเรียกชื่อฉัน เมื่อหันไปมองก็เป็นคนที่คุ้นเคย เป็นหญิงสาวสองคน ที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าพวกเธอคือเพื่อนสาวของฉัน

คนหนึ่งเป็นสาวผมสั้นสีน้ำตาล ท่าทางร่าเริงเหมือนทอมบอย ชื่อว่า “ซูซุกิ อายาเนะ” เธอวิ่งเข้ามากอดฉันด้วยความสนิทสนม เป็นเรื่องน่าอายที่เคยซินเสียแล้วล่ะ

“อารุณสวัสดิ์นะ อิซุมิ”

อีกคนเป็นสาวผมยาวสีดำใส่แว่นตา มีท่าทางที่นุ่มนวล และ ดูขี้อายนิดหน่อย ชื่อว่า “โอโนะ มิกะ”

“อืม ออารุณสวัสดิ์นะ ทั้งคู่เลย”

“นี่ๆ อิซุมิ ผู้ชายที่เดินมาด้วยเมื่อกี้นี้ ใครน่ะ”

“เอ๋?! พวกเธอเห็นด้วยเหรอ”

“ก็เห็นจากไกลๆน่ะนะ พวกเรามาไม่ทัน ก็เลยเห็นหน้าเขาไม่ชัด นี่เธอไปแอบมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ม-ไม่ใช่นะ”

“อายาเนะ เธอไม่ควรถามเรื่องส่วนตัวแบบนั้นนะ”

“แหม~ ก็ฉันอยากรู้นี่นา เธอเองก็ไม่อยากรู้หรือไง มิกะ”

“ก-ก็นิดหน่อย”

“เห็นไหม มิกะ ยังอยากรู้เลย ดังนั้นเล่ามาซะ อิซุมิ”

“พวกเธอทั้งคู่น่ะเข้าใจผิดแล้วนะ เขาไม่ใช่แฟนฉันสักหน่อย”

“แล้วทำไมดูสนิทกันจังเลยล่ะ”

“ก-ก็ เขาช่วยฉันนิดหน่อยน่ะ พวกเราก็เลยเดินคุยกันจนมาถึงโรงเรียน เรื่องมันก็มีแค่นั้นเอง”

“แค่นั้นเองเหรอ ไม่สนุกเลย~”

“ว่าแต่เขาเป็นใครเหรอคะ ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับเขามากเลยล่ะค่ะ”

“อ่อ รู้สึกว่าเขาจะชื่อ อายาโนะ อามาคุจิ น่ะนะ เท่าที่ฉันจำได้”

“อามาคุจิ-ซัง…อย่างงั้นเหรอ?!”

“เอ๊ะ?! มิกะ-จัง รู้จักเขาด้วยเหรอ”

“ค่ะ......”

ไม่รู้ทำไม พอพูดถึง อามาคุจิ-ซัง มิกะ ก็มีท่าทีแปลกไป ดูกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก

“อ่ะ เสียงกระดิ่งดังแล้วพวกเรารีบไปกันเถอะ”

“จริงด้วย ต้องรีบแล้ว ไม่งั้นเข้าเรียนสายแน่เลย”

“อามาคุจิ-ซัง...กับ...อิซุมิ...อย่างงั้นเหรอ”

“เร็วเข้ามิกะ!!”

“อ่ะ! ค่ะ!!”

ชีวิตในรั้วโรงเรียนม.ปลายทั่วไป ชีวิตที่สงบ และ แสนเรียบง่าย พร้อมกับเหล่าเพื่อนสาวอันเป็นมิตร พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดี คอยพาฉันไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆด้วยกัน พูดคุยเรื่องสัพเพเหระ และ คอยมอบความสุขให้ฉัน ในฐานะเพื่อนสาว จนบางครั้งก็รู้สึกว่า ตัวฉันมันไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนพวกเธอ

“สักวันหนึ่งจะต้องเจอแน่ คนที่เข้าใจ คนที่รับฟัง คนที่คอยให้กำลังใจ ขอให้อย่ายอมแพ้นะครับ”

แต่ว่า...คำพูดของ อามาคุจิ-ซัง ยังติดค้างอยู่ในความคิด อาจเป็นเพราะตัวฉันเองก็คาดหวังเอาไว้ ว่าสิ่งที่เขาพูดจะกลายเป็นจริง ชีวิตที่สงบสุขในตอนนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันกลับรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง เหมือนกับว่าฉันไม่คู่ควรที่จะอยู่ที่นี่ ที่แห่งนี้ กับผู้คนเหล่านี้ ที่แสนดี ที่ปกติ ที่ไม่ใช่ตัวตนอันแปลกประหลาด และ น่ารังเกียจอย่างฉัน

ชีวิตของฉันต่อจากนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหรือเปล่านะ ฉันหวังอยู่ในใจ พร้อมมองไปยังต้นไม้ใหญ่สีเขียวกลางโรงเรียน อันแสนสวยงาม

ก็หวังการเปลี่ยนแปลงอยู่หรอก แต่ไม่ใช่แบบนี้!!!

ณ โถงทางเดินที่สาดส่องด้วยแสงอาทิศย์อัสดง พร้อมความเงียบสงัดว่างเปล่าไร้ผู้คน มีเพียงแค่ตัวฉันกับอาจารย์ชายวัยกลางคน ที่กำลังยืนประชันหน้ากันด้วยบรรยากาศอันตรึงเครียด ตัวฉันยืนแน่นิ่งมือไม้สั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ทางอาจารย์กลับกำลังยืนใช้มือถืออย่างสบายใจ มือถือนั้นเป็นของฉันเอง นอกจาก นั้น มันก็ยังเป็นสิ่งที่เก็บรวบรวมความลับอันดำมืดของฉันเอาไว้ทั้งหมด แต่ตอนนี้มันอยู่ในมือของเขา ......เขาก็ได้เห็นทุกอย่าง......สิ่งที่ฉัน......ไม่อยากให้ใครเห็น......

“ซาซากิ อิซุมิ ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาอย่างเธอ ที่แท้ก็เป็นพวก......ใคร่เด็ก......”

ชีวิตของฉัน......จบสิ้นแล้ว......

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!