Ch. 2

...| ตอน อลิซาเบธ |...

...++++...

...เคนได้ขึ้นกวาดมือตัวเองไปมาสายตาในตอนนี้เห็นทุกอย่างเบลอไปหมด แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือใครบางคนจับมือของเคนไว้!!...

มือขนาดใหญ่จับไปที่มือของอคนที่เล็กและนุ่มนิ่ม เคนค่อยๆได้สติกลับสายตาเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น เคนมองขึ้นไปบนเพดานด้านบน

เพดานสีทองที่ส่องประกายลงมายังตาของเคนจนแสบตาไปหมด

... เคนเขากระพริบตาตัวเองไปมาพร้อมกันนั้นก็หันมองไปยังรอบๆ...

...ภาพที่เห็นคือ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ข้างกายเคนเธอมองมาหาเคนดูสีหน้าเหมือนคนที่ร้องไห้จนตาแดงไปหมด...

...เธอคนที่ว่านั้นคือ มารีน นั้นเองเป็นผู้ให้กำเนิดเคน แต่หากตอนนี้เคนยีงไม่รู้ตัวเอง...

... ดวงตาคู่นั้นของมารีนสีดำ มองมาที่เคนที่อยู่ร่างเด็กทารก...

...อะไรกันเนี้ยที่นี้ คือ.....

...—เคนได้ตั้งถามขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ไม่รู้จัก ที่เหมือนกำลังร้องไห้มองมาที่เขาอยู่พลางมองไปรอบๆตัวเองก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงขอบเตียง ใบหน้าเช่นเดียวกับหณิงสาวที่มองมาที่เคนไม่มีผิด ...

... เขาเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหล่อพอสมควรผมของเขาสีดำ...

...เขาจ้องมองมาที่ดูเคน สีหน้าทั้งสองแสดงออกมาจนเคนรู้สึกได้ชัดว่า...

... โล่งอีกไปที!!...

...นี้คงเป็นฝันสินะ...

—ความฝันบางครั้งคนที่กำลังตายอาจกำลังฝันอะไรก่อนตายก็ได้ เคน เป็น บรรณารักษ์ที่อ่านหนังสือมามากมาย มักจะเคยอ่านเจอว่า 'ผู้คนที่กำลังจะตายมักเห็นสิ่งที่ตัวเอง ใฝ่ฝันก่อนจากไปเสมอ '

เมื่อคิดแบบนั้น มันอาจไม่ใช่เรื่องแปลกหากเคนจะฝันอะไรแบบนี้ออก

แต่ทำไมต้องเป็น แบบนี้ฉันฝันอยากได้อะไรแบบนี้เหรอ.?? —เกิดคำถามขึ้นมาภายในหัวของเคนเมื่อได้เห็นภาพที่มองอยู่ เมื่อคิดได้แบบนั้น เคนก็ได้เอามือกุมขมับตัวเอง..

และสิ่งที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น..กับมือตัวเองที่จับไปที่หัว

มือ ทำไมมือมัน.? —เคนตกใจกับมือตัวเองที่จับไปที่หัว และเอามือลงมาจากหัวที่จับอยู่ มือทั้งสองได้ปรากฏอยู่ต่อสายตาของเคนที่มองอยู่ สายตาที่ว่ามองดูมือทั้งสองอย่างประหลาดจนถึงที่สุด มือที่เล็กเสียกว่าขาของไก่ ที่เคนเคยกินเสียอีกมือที่ขาวและสั้นเหมือนกับแค่ของทารกแรกเกิด...

ทารกแรกเกิดชัด ๆ —ความคิดวิ่งพลางเข้ามาในหัวของเคนในตอนที่เห็นมือของตัวเองที่คิดว่าฝันอยู่ แต่แล้วเคนก็ต้องหยุดชะงักลงหลังจากได้คิดแบบนั้น

หากเป็นมือของเด็กทารก ทำไมตัวของเขาถึงฝันถึงเด็กได้

เมื่อคิดได้แบบนั้น เคนก็ได้ตกใจขึ้นส่งเสียงร้องออกมา

"....." —เสียงร้องของเด็กทารกได้ส่งเสียงออกมาพร้อมกับเคนที่ตกใจในเสียงนั้นของตัวเอง

...อะไรกันเนี้ยยย ความฝันสินะต้องฝันแน่ๆ —เคนเขาเชื่อสุดใจว่ามันคือความฝันที่ตัวเองสร้างขึ้นก่อนตาย เพราะทุกอย่างที่เขารับรู้มันเร็วมาก...

...เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เขายังรู้สึกได้ถึงความตายที่พุ่งชนเขาอยู่เลย ความตายที่ว่าคือรถสิบล้อที่มุ่งชนตัวเขาที่ลอยไปพร้อมกับเพือนๆ...

...เมืาอคิดได้ถึงตรงนี้ เคนก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกชนคนเดียว แต่เป็นตัวเขาและเพือนๆ...

...ทุกคน.. เดียวสิแล้วเพือนๆฉัน —ทุกอย่างราวกับความฝันที่เคนสร้างขึ้นมา ที่อย่างภายในห้องไม่เหมือนกับสถานที่เคนอยู่ก่อนหน้านี้มีเพียงกำแพงรอบด้านและหน้าต่างหนึ่งบานที่ตั้งอยู่ใกล้ๆตัวเอง...

...ทุกอย่างคงเป็นความฝันสิ ฝันก็แค่ต้องตื่น ตื่นขึ้นมาทุกคน — เคนในตอนนี้ราวกับคนสติหลุดขยับตัวไปมาเพื่อพยายามจะดิ้นให้หลุดจากความฝันที่ตัวเองเห็นอยู่...

แต่ในทางกลับกันนั้นเองทุกคนรอบๆที่เห็นกลับเห็นเพียงเด็กทารกน้อยเพศหญิงที่ดิ้นไปมาร้องออกมา

"ดูเหมือนว่า เด็กจะไม่เป็นอะไรแล้วนะ ขอรับ " —หมอทำคลอดกล่าวขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ

เลย์ผู้เป็นสามีได้เดินมาใกล้ๆมารีนผู้เป็นภรรยา จับลงไปที่มือของเธอใบหน้าที่ดูเศร้าของเขาได้หายไปแล้วตอนนี้เขายิ้มออกมาได้อย่างมีความสุข พร้อมกับเคนที่อยู่ในสภาพเด็กทารกที่ดิ้นอยู่อย่างงั้น

"ลูกของเราเขา.... พระเจ้าขอให้ท่านฟาเรียนาคุ้มครอง" —เลย์ผู้เป็นพ่อ ได้กล่าวขึ้นใบหน้าของเขามีน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจที่เอ่อล้นออกมาอย่างที่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่

มารีน,หมอ,และผู้ช่วยสามคน ต่างยิ้มออกมาเพื่อเป็นดารยินดีต่อเด็กน้อยที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

โดยที่มีเพียง เคนที่ร้องออกมาอยู่ทั้งภายนอกและภายในใจของเขา

...+++++++++...

3 ปี ผ่านไปหลังจากการเกิดใหม่เป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วสำหรับใครบางคนแต่กลับช้าและนานแสนนานสำหรับเคน เหลือเกิน

เคนในตอนนี้ ก็โตขึ้นมาแล้วหลังจากสามปีก่อน ตอนนี้ก็อายุได้ 3 ขวบทำให้ตัวเคนรับรู้ว่าจริงๆแล้วมันหากไม่ใช่ความฝัน แต่เขากลับมาเกิดใหม่จริงๆ เกิดใหม่ที่ว่าดูเหมือนจะเป็นวิญญาณที่ได้มายังที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใช่โลกที่เคนเคยอยู่ มาเกิดในร่างที่มีตัวตนอยู่ในอีกโลกหนึ่งอย่างแท้จริง..

สามปี นานเป็นบ้าเลย อยากกลับบ้านจัง!! — เคนนึกคิดขึ้นในตอนที่หลบอะไรสักอย่างอยู่ภายในห้องของตัวเอง

"คุณหนูค่ะ...อยู่ไหนค่ะ" —เสียงหญิงสาวรับใช้ดังขึ้นเธอเดินไปมาภายในห้องที่ไร้คนอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าเคนได้ย่องตัวผ่านเธอออกไป

ชื่อของฉันคือ อลิซาเบธ.. ลาโน มันเป็นชื่อที่ถูกใช้ในโลกใบนี้ เป็นชื่อที่คนที่ชื่อว่า มารีนตั้งให้ มารีนคือแม่ของฉันในโลก ส่วนพ่อคือ เลย์ — เด็กน้อยอลิซาเบธเดินไปเรื่อยๆผ่านทางเดินที่กว้างทอดยาวไปไกล

เส้นทางที่ว่าถูกสร้างขึ้นมาด้วยกระจก ทั้งแต่พื้นที่เหยียบรอบไปที่ถึงกำแพงกระจกจนถึงหลังคาด้านบนที่เป็นกระจก และมันเป็นครั้งแรกที่ ตัวเด็กน้อยอลิซาเบธได้เห็นโลกภายน้อยครั้งแรกที่กลับมาเกิดใหม่

"สุดยอดนี้เหรอ หิมะ พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเลย" —เด็กน้อยอลิซาเบธได้กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูแปลกใจ แม้จะเป็นเด็กที่กลับมาเกิดใหม่แต่ก็เป็นครั้งแรกของตัวอลิซาเบธเองได้ห็นอะไรแบบนี้ แม้ตอนเป็นเคนในโลกก่อนจะเคยไปเที่ยวในเมืองที่มีหิมะก็ตาม แต่เทียบไม่ได้เลยกับเมืองที่มีหิมะพัดผ่านไปมาราวกับอยู่ในศูนย์กลางพายุแบบนี้

เด็กน้อยอลิซาเบธเธอยืนแข็งทื่ออยู่อย่างั้น.. ยืนอยู่ในสิ่งที่หน้าสนใจอยู่แบบโดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาจากด้านหลังจับตัวอลิซาเบธยกขึ้น..

"หาเจอสักทีนะคะ... อย่าทำแบบนี้สินะ!!"—สาวรับใช้ เธออุ้มอลิซาเบธลอยขึ้นมาไว้บนอ้อมกอดเธอ มองไปที่เด็กน้อยอลิซาเบธที่มีใบหน้าผู้น่ารักผิวที่นุ่มนิ่มสีขาวอมชมพู ผมสีขาวปนกับสีทองเหมือนกับผู้เป็นแม่ ดวงตาสีดำสนิท

บ้าจริงโดนจับได้จนได้... —ทั้งคู่ได้ยืนอยู่ตรงทางเดินอยู่แบบนั้นสักครู่เพื่อให้เด็กน้อยอลิซาเบธได้มองออกไปในภายนอก

โลกภายนอกมองเห็นเพียงหิมะและภูเขาสีขาวรอบๆไปหมด เมืาอผ่านไปสักพักนึงสาวใช้เห็นว่าได้เวลากลับแล้ว ก็ได้ถามตัวอลิซาเบธขึ้นมาว่า

"กลับกันนะคะ คุณหนู.! " — สาวใช้กล่าวขึ้นและเริ่มเดินกลับห้องโดยทันที โดยไม่รอคำตอบจากอลิซาเบธเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้อลิซาเบธเพียงแต่กอดคอสาวใช้มองกลับหลังไปมองเพียงวิวด้านหลังที่ค่อยๆห่างไปเรื่อยๆ กลับสู่ที่ตัวอลิซาเบธเกลียดที่สุด..

อลิซาเบธได้กลับสู่ห้องอีกครั้ง สำหรับคนอื่นนั้นอาจเป็นห้องที่เต็มไปด้วยสบายมากมายแต่สำหรับเด็กน้อยอลิซาเบธที่มีความจำของเคนแล้ว มันคือคุกชั้นดีๆเลยนี้เอง..

"เราออกไปอีกไม่ได้เหรอ.? " — อลิซาเบธกล่าวขึ้นหลังจากสาวใช้วางตัวเธอลงบนเตียงนุ่มๆ ด้วยสีหน้าอ้อนวอน..

"คงไม่ได้นะคะ เพราะตอนนี้อากาศภายนอกมันหนาวมาก ถ้าออกไปจะเป็นอันตรายได้" —สาวใช้กล่าวปฏิเสษใบหน้าน่ารักนั้นโดยไม่ใยดี เหลือเพียงอลิซาเบธที่ทำหน้าเจื่อนๆ

ให้ตายสิ ห้องขังชัดๆ เห็นฉันตัวเป็นเด็กแล้วขังกันแบบนี้มันไม่แฟร์เลย อยากออกไปข้างนอก เกิดใหม่บ้าอะไรอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมน่าเบื่อเป็นบ้า —ความคิดของเคนปรากฏตัวขึ้นมาด้วยความน่าเบื่อ เพราะในเดิมทีแล้วในโลกก่อนนั้น เคนเป็นเก็บตัวระดับนึงแต่ก็มีสังคมเพือน

อยู่ด้วยแม้จะเพือนน้อยขนาดไหนเคนก็ไม่เคยขังตัวเองไว้ในห้องแคบๆถึงสามปี

และนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวเคนที่อยู่ในร่างอลิซาเบธโดนขังไว้ในห้องกว่า สามปี ตั้งแต่เกิดมีเพียงสาวใช้หน้าประจำสามถึงสี่คนเท่านั้นที่เข้ามาภายในห้อง ทำธุระให้ตัวเคนที่เบื่อหน่ายสุดๆและออกไป และบางช่วงของวันก็จะมี มารีนผู้เป็นแม่เข้ามาหาบ้างในวันที่เธอว่างๆ แม้จะไม่รู้ว่าเธอทำอะไรแต่เธอมักจะมา ใน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนผู้เป็นพ่ออย่าง เลย์ ก็แทบไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำหลังจากมาเกิดใหม่มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ได้เจอจนทุกวันนี้ แทบจะคิดว่าไม่ใช่พ่อแล้ว มีเพียงหน้าต่างเก่าๆบานหนึ่งที่เป็นเพือนอลิซาเบธ

อลิซาเบธได้เพียงแต่หันไปยังหน้าต่างที่มีวิวด้านนอกพัดผ่านไป มีเพียงภาพสีขาวของหิมะที่ปลิวไปมาให้เธอได้เห็นเท่านั้นเหมือนกับใจของอลิซาเบธที่โครตว่างเปล่าในตอนนี้

ภายในห้องที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยเครื่องประดับมากมาย มีเด็กน้อยอลิซาเบธนั่งอยู่ เธอนั่งอยู่บนเตียงไม่ได้ลุกไปไหน พร้อมๆกับเสียงถอนหายใจที่ออกมาเป็นระยะๆ

"เห้อ"

สาวใช้ที่เห็นแบบนั้นก็ได้เดินจากไปอย่างเงียบๆทิ้งไว้เพียงอลิซาเบธที่มองหน้าต่างอย่างเหงาอยู่คนเดียว

ในทุกๆวัน ได้เพียงอยู่ในห้อง ทิวทัศน์ที่ว่างเปล่าจากหน้าต่างและ เพดานสีทองจากด้านบนซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น

"คุณหนูค่ะ... น้ำผลไม้ค่ะ" —เสียงสาวใช้ของวันใหม่ก็มาถึง พร้อมกับน้ำผลไม้ที่มาส่งให้อย่างทุกที

ตัวอลิซาเบธได้เพียงแต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับกล่าวเพียงในใจเป็นเสียงเคนว่า

ไม่หิวเลยครับ ผมขออยู่อย่าคนไร้หัวใจแบบนี้เถอะได้โปรด —อลิซาเบธนึกคิดขึ้นแต่ท้องกลับไม่เป็นไปตามความคิดของเธอ ท้องที่ควรจะเงียบกลับร้องดังออกมาด้วยความหิว

"ไอ่ท้องบ้า... เอิ่มเข้ามา" —อลิซาเบธกล่าวขึ้น ในทันใดนั้นเองสาวใช้ก็เข้ามาถึงแล้ว สาวใช้ไม่รอช้าเธอรินน้ำผลไม้ลงแก้วโดยทันที ในจานขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีเพียงน้ำผลไม้แต่กลับมีอาหารติดมาได้ อลิซาเบธได้เพียงแต่มองอาหารด้วยหางตาของเธอ โดยไม่พูดอะไรออกมา สาวใช้ที่เห็นเช่นนั้นก็ได้กล่่วขึ้น..

"อร่อยนะค่ะ"—เธอพูดออกมาเช่นนั้น.. โยไร้การตอบกลับจากอลิซาเบธ

เด็กน้อยอลิซาเบธนั่งนิ่งเงียบสาวใช้เห็นแบบนั้นก็รับรู้ได้ในทันที.. ว่าเด็กน้อยกำลังดื้อเงียบกับตนอยู่

สาวใล้ได้มองที่เด็กน้อยที่หน้าไม่ตรงกับใจอยู่ แม้ปากไม่พูดออกมาแต่ใบหน้าของเธอก็ฟ้องชัดว่าตัวเธอกำลังหิวอยู่

"งั้นไปก่อนนะคะ" —หลังกล่าวจบสาวใช้ก็จะลุกขึ้นเพื่อจะออกจากห้องโดยทันที แต่แล้วก็มีมือหนึ่งจับแขนของเธอไว้ในทันที มือที่ว่าคือ อลิซาเบธนั้นเอง

ปากเธอในตอนนี้ไม่ไหวสุดคิ้วขมวดชนกัน พลางกัดปากตัวเองหวังทนความหิว แต่เหมือนว่าแขนกลับทนไม่ไหวเลยจับมือสาวใช้ไว้

สาวใช้ได้เพียงแต่ยิ้มออกมาหันกลับมาหา เด็กน้อยอลิซาเบธที่ดื้อรั้น

"นี่ค่ะ กินสิ" —สาวใช้ยื่นอาหารออกมาจากจานขนาดใหญ่ ให้กับอลิซาเบธที่ตอนนี้ไม่ไหวเต็มทนแล้ว เธอคว้าอาหารโดยไม่ตอบอะไรและกินเข้าไปทันที ที่ได้รับช้อนจากสาวใช้

...ผ่านไปหลังจาก 10 นาทีหลังจากนั้นสาวใช้ก็ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากที่อลิซาเบธกินข้าวไปเธอกลับมาอีกครั้งในรอบนี้พร้อมกับกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ตัวอลิซาเบธขอไว้ก่อนหน้าสาวใช้จะออกไป...

"นี้ค่ะ..." —สาวใช้กล่าวขึ้น ยื่นกระดาษ บางๆจำนวน 40 แผ่นให้อลิซาเบธในตอนนี้ที่กินข้าวอิ่มแล้ว...

"ขอบคุณ " —อลิซาเบธกล่าวบึ้นด้วยสีหน้าดีใจ มันเป็นวิธีเดียวที่จะคลายเครียดให้กับตัวเธอเองได้ในตอนนี้ที่สุด มันคือการเขียน.. เดิมที่นั้นตัวอลิซาเบธในชาติก่อนที่คือ เคนเป็นคนที่ชื่นชอบในการอ่าน แต่เนื่องจากในคฤหาสน์แห่งนี้ไม่มีหนังสืออยู่เลยทำให้ มีเพียงทางเดียวที่ตัวอลิซาเบธจะทำได้คือการเขียนหรือวาดอะไรลงไป แก้เหงาลงไม่มากก็น้อย..

ตั้งแต่มาโลกแห่งนี้ครั้งแรก ทุกๆอย่างราวกับฝัน ฝันที่ไม่ยอมตื่นทุกอย่างที่เห็นมันราวกับเรื่องโกหก ร่างกายที่เล็กลง แม้แต่ผู้คนที่ผ่านเข้ามาล้วนเป็น คนที่แตกต่างไปจากโลกเก่าโดยแท้จริง!!

ทำไมถึงเกิดใหม่?

แล้วเพือนๆฉันไปไหน?

ทำไมถึงกลายเป็นเด็กผู้หญิงได้กันนะ?

แล้วเราอยู่ที่ไหน?

—คำถามมากมายถูกตั้งขึ้นมาในหัว ทุกอย่างดูมึน งง ไปหมดสับสนไปหมด เคนในตอนนี้เขาไม่อาจจะเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆของตนเองออก

เรื่องที่ว่าตัวเองกลับชาติด้วยเหตุผลอะไร ไหนจะเรื่องเพือนๆที่โดนแบบเดียวกับตัวเองพวกเขาจะอยู่ในสภาพแบบเดียวกันรึเปล่า มันก็ยังเป็นคำถามที่ขึ้นมาในหัวของเคนในตอนนี้

ภาพทุกอย่างในตอนเกิดเหตุก็ซ้อนทับกันไปหมดทุกครั้งที่คิดถึงมันมีเพียงความรู้สึกที่เคยสัมผัสมันเท่านั้น แต่มันก็รู้สึกเลือนลางหายไปในช่วงหลายปีที่กลับมาเกิดใหม่

มันเป็นความรู้สึกที่ว่า คนที่เคยผ่านอะไรมากมายกว่า 30 ปี ได้มาอยู่ในห้องกว่า 3 ปี เมื่อถูกตัดขาดจากโลกไปหมดเลยแม้แต่ความคิดในตอนนี้ก็ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า ตัวเองใช่เคนที่กลับชาติมาเกิดรึเปล่า.? หรือเป็นเพียงความทรงจำเพียงเท่านั้นที่มาอยู่ร่างของอลิซาเบธ เป็นสิ่งที่ความทรงจำของเคนคิดไปเอง

อลิซาเบธได้เพียงนั่งคิดอะไรวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น ในมือก็วางรูปภาพที่ดูไม่ได้อยู่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ภาพว่าที่ว่าคือ ภาพที่มาจากความทรงจำของเคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกเก่า ภาพของห้องนอนที่นอนอยู่ประจำ ภาพของที่ทำงานประจำที่ตัวเองต้องไปทำ สถานที่บอกรักสาวครั้งแรก และที่ตัวเองโดนสาวบอกเลิกครั้ง และสถานที่เกิดกับเพือนๆ ทุกอย่างมากมายถูกวาดลงไปภายในกระดาษ

กว่า 10 แผ่นและเริ่มเยอะขึ้นเป็นยี่สิบและสามสิบ จนในที่สุดก็เป็นร้อยแต่แล้วก็มีความคิดนึงขึ้นมา

อยากอ่านหนังสือจังเลย — มันคือคิดเดียวที่เขาคิดขึ้นมาตลอดทุกครั้งที่วาดภาพลงไปและมองหน้าต่าง เป็นสิ่งที่ชอบที่สุดแต่กลับไม่ได้เลยตั้งแต่ได้มาในที่แห่งนี้ เหมือนกับคนที่ชอบกินอะไรมากๆ และก็ต้องหยุดกินเองไม่ใช่เพราะเขาคนนั้นไม่ได้อยากหยุดกินสิ่งนั้นลงไป แต่มันไม่มีให้เขากิรแล้วต่างหาก มันเป็นเรื่องที่เศร้าสำหรับจิตใจของเคนผู้รักการอ่าน และส่งผลไปถึง อลิซาเบธที่รู้สึกโดดเดียวภายในห้องที่เหมือนห้องขังสำหรับเธอ ทั้งคู่มีสิ่งที่เหมือนกัน ความเหงาขั้นสุด และความเบื่อขั้นสุด

จนในที่สุดก็เด็กน้อยอลิซาเบธก็มีเพียงความว่างเปล่า ว่างเปล่าที่ว่าคือการไร้ความสุขที่รับได้จาการโดดเดียว แม้แต่สาวใช้ที่เข้ามาในทุกวัน ทุกคนที่สลับเปลี่ยนกันไปก็รับรู้ได้ ว่าเด็กน้อยภายในห้องสี่เหลี่ยมช่างเหงาเพียงใด

จนในวันหนึ่ง ก็ได้มีสาวใช้คนหนึ่งได้เขามาเธอเป็นเด็กสาววัย 6 ขวบที่เดอนเข้ามาหาอลิซาเบธด้วยหนังสือ ที่อลิซาเบธเฝ้าคอยหามันมานานแสนนาน

และเป็นการเจอกันครั้งแรกของเด็ก 3 ขวบ | อลิซาเบธ | และ สาวใช้ 6 ขวบ | มิโกะ |

มิโกะคือชื่อเธอคนนั้นผู้เป็นสาวใช้เด็กน้อยคนแรกที่ได้เข้ามาภายในห้องอลิซาเบธในวัย 3 ขวบ พร้อมกับหนังสือที่เขียนไว้ว่า ' เวทมนต์ ' ชื่อนั้นทำให้แววตาของเด็กน้อยอลิซาเบธจุดประกายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมา

"ขอดูได้ไหม..?" —อลิซาเบธกล่าวคำนั้นออกมาดวงตาจ้องมองไปยังสิ่งที่เรียกว่าหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ..

สาวใช้ได้เพียงนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ โน้มตัวลงทำความเคารพอลิซาเบธ

? อะไรของเขา — เกิดคำถามขึ้นภายในใจของอลิซาเบธต่อการกระทำนั้นของอลิซาเบธก่อนที่สาวใช้จะได้ยื่นหนังสือในมือให้อลิซาเบธ

"นี้เจ้าค่ะ คุณหนู " —สาวใช้กล่าว..ตัวเธอสั่นไปหมด

และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองได้คุยกันครั้งแรก... เป็นสิ่งที่ตัวเคนเลยมีมาก่อนในชาติก่อน แต่สำหรับอลิซาเบธนั้นกลับไม่เคยมีมาก่อน 'เพือน' หัวใจของอลิซาเบธแน่นฟูขึ้นมาโดยทันที แม้จะเป็นการเจอกันครั้งแรกก็ตาม เคนกลับคิดเพียงแค่ว่า

เธอช่วยเป็นเพือนกับฉันได้ไหม..? —เป็นคำพูดที่อยู่ในใจของอลิซาเบธที่ไม่อาจกล่าวออกมาได้

เพราะในตอนนี้สาวใช้ตรงหน้าเธอตัวสั่นราวกับหวาดกลัวต่อตัวอลิซาเบธที่เด็กกว่าตัวเอง มันไม่ใช่เรืีองเกี่ยวกับขนาดตัวของคนแต่เป็นเรื่องของอำนาจ ย่อมเป็นเรืีองธรรมดาที่สาวใช้คนหนึ่งจะกลัวคนที่เป็นเด็กสาวเจ้าของคฤหาสน์

ช่วงเวลาผ่านไป....

"อลิซาเบธ! นี่ ๆ " — มันเป็นเสียงเรียกของสาวใช้ที่ชื่อมิโกะที่เรียกอลิซาเบธที่ดูไม่สั่นกลัวเมื่อก่อน.. เธอยิ้มออกมาพลางชี้นิ้วลงไปที่ตัวหนังสือที่กำลังถืออยู่ให้อลิซาเบธได้เห็น!!

ทั้งสองใช้เวลาว่างที่มิโกะได้มาส่งอาหารในการพูดคุยกันของเที่ยงวันกะนเล่นในทุกๆวัน แรกๆมิโกะก็มีความกลัวต่ออลิซาเบธผู้เป็นน้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป หลายเดือนนานๆ เข้าระยะของทั้งสองก็แคบลงจนในที่สุดก็เรียกได้เต็มปากว่า มิโกะเป็น ' เพือน ' คนแรกของอลิซาเบธ

"พี่ ฉันอ่านอันนี้ไม่ออก " — อลิซาเบธเรียกมิโกะว่าแบบนั้น ไม่ใช่เพราะตัวจิตใจของเคนอยากเรียกแบบนั้น แต่เป็นความรู้สึกที่นับถือในตัวมิโกะจริงๆ เพราะเคนในชาติก่อนเป็นลูกคนเดียวไม่เคยรับรู้สึกการมีพี่น้องอย่างแท้จริง พอมีมิโกะเข้ามาในช่วงเวลาที่ว่างเปล่าเหมือนได้เติมเต็มสิ่งที่หายไป การเรียกมิโกะว่า ' พี่ ' สำหรับมิโกะในช่วงแรกมันดูเกินเอื้อมเกินไปแต่ในที่สุดเธอก็ยอมรับ แต่สำหรับ ' อลิซาเบธ ' คำว่า ' พี่ ' ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะใช้มันได้เลย

"ขมอะ"—มันเป็นคำพูดของอลิซาเบธในทุกวันที่จะต้องพูดออกมา เป็นคำพูดที่ได้กินยาที่ถูกส่งมาให้ตลอดในช่วงนี้ เนื่องจากในช่วงนี้อากาศภายนอกดูไม่ค่อยสู้ดีเลย ดูหนาวจนแม้ภายในห้องอลิซาเบธก็ยังรับรู้ได้เลย

"ขมก็ต้องทนนะคะ"—มิโกะพูดขึ้นพลางลูบหัวอลิซาเบธไปมา อลิซาเบธได้ขัดขืนต่อการกระทำนั้นได้เพียงหลับตาเหมือนลูกหมาที่ชอบทุกครั้งที่เจ้านายลูบหัวมัน

"แล้วหนังสือล่ะ"— อลิซาเบธพูดขึ้นยื่นมือ ออกไปตรงหน้ามิโกะที่กำลังลูบหัวตัวเองอยู่เหตุมาจากวันก่อนที่ มิโกะสัญญาต่อตัวอลิซาเบธไว้ว่า จะนำหนังสือเล่มใหม่มาให้!

มิโกะที่เห็นแบบนั้นยิ้มขึ้น หันไปด้านหลังของตนเองที่เป็นถาดใส่อาหารขนาดฝหญ่ที่มีผ้าคลุมไว้อยู่ มิโกะเธอไม่รอช้าเปิดผ้านั้นออกภายใต้ผ้านั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งถูกซ่อนไว้อยู่....

รูปร่างของหนังสือดูเก่าพอสมควร หน้าปกมีตัวหนังสือที่ขาดหายไปบางส่วน

"มันคืออะไรงั้นเหรอ" —อลิซาเบธกล่าวถามมิโกะที่หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาโชว์

"มันคือ แปปนะ หนังสือ คำสาป.!? " —มิโกะกล่าวขึ้น พลางดึงสลักอะไรบางอย่างออกจากหนังสือเพื่อจะเปิดมันออกมาอ่าน..

ไม่ใช่แม้แต่ภายนอกที่ดูยับเยินพอสมควร ภายในก็มีส่วนที่ขาดหายไปเช่นเดียวกัน บางส่วนเหมือนโดนฉีกขาดหายไป บางส่วนก็เหมือนโดนเผาจนอ่านไม่ออก

"จริงเหรอ.. มันจะไม่เป็นอะไรเหรอ..? " —อลิซาเบธได้กล่าวขึ้นสีหน้าดูถอนสีเล็กน้อย 'คำสาป ' สำหรับตัวอลิซาเบธที่ยังเด็กน้อยอาจจะไม่รู้อะไรเลย แต่สำหรับเคนที่ผ่านโลกมามากและอ่านหนังสือมาหลายประเภท คำสาป นั้นจัดอยู่ในพวกที่ไม่ดีเสียสักส่วนใหญ่ เป็นสิ่งที่ดำมืดโดยแท้จริง..

"ดูนี่สิ..." —มิโกะกล่าวขึ้นนิ้วชี้ไปยังหน้าหนึ่งของหนังสือ

อลิซาเบธที่เห็นแบบนั้นแม้จะอ่านไม่ค่อยออกก็รับรู้ได้โดยทันทีว่ามันคืออะไร..

"เวทย์ ประตูมิติ ?" —อลิซาเบธกล่าวขึ้นพร้อมกับหน้าที่มองไปในรายละเอียดที่ถูกเขียนไว้ สำหรับเคนแล้ว มันคือหนทาง

หนทางที่ว่าคือการได้กลับโลกเก่าตนเอง แม้จะไม่รู้ว่าต้องกลับไปทำอะไรก็ตามแต่จะให้ตัวเองในตอนนี้นอนรอความตายในที่หนาวเย็นแบบนี้ เคนไม่อาจรับได้มันรู้สึกเหมือนกับตัวเขาไม่ยอมทำอะไรสักอย่างได้เพียงนอนรอความตายให้มาถึงเท่านั้น...

เคนที่เห็นแบบนั้นก็ได้เริ่มเรียนภาษาอย่างจริงจังโดยผ่านการสอนของมิโกะ และอ่านหนังสือเวทมนต์เล่มแรกๆที่ได้จากมิโกะ อ่านไปและเรียนคำต่างๆด้วยสลับกันไปมาอยู่อย่างงั้น

"รอด้วยอลิซาเบธ" — มิโกะกล่าวขึ้น วิ่งตามอลิซาเบธที่วิ่งนำหน้าตนเองตรงไปที่ห้องตัวเอง...

..."รีบๆหน่อย เราต้องรีบ"— อลิซาเบธกล่าวขึ้นเปิดประตูห้องตัวเองที่ถูกใส่ไม้ไว้ด้านล่างกันล็อค...

...ในตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 1 ปี แล้วตอนนี้อลิซาเบธ อายุได้สี่ขวบแล้วในตอนนี้อลิซาเบธอ่านหนังสือได้คล่องและอ่านออกได้เกือบหมด หากไม่ใช่เพราะมิโกะที่ให้การช่วยเหลือ อลิซาเบธในวัยสี่ขวบก็ไม่อาจทำได้ขนาดนี้ เป้าหมายมีเพียงอย่างเดียวคือ เวทย์มิติ ที่ได้ถูกเขียนไว้ในหนังสือเวทย์...

ทั้งสองได้วิ่งเข้ามาในห้องได้โดยสำเร็จ.. โดยไม่มีใครเห็นตัวได้ ทั้งสองหาวใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า อลิซาเบธที่วิ่งมาด้วยความเร็วก็หายใจออกมาด้วยความเหนื่อยเช่นเดียวผมสีทองปนสีขาวยาวไปถึงไหล่ปิดบังใบหน้าของอลิซาเบธไปหมด มีเพียงเสียงหายใจกับลมทีาเป่าผมลอยขึ้นตามจังหวะหายใจนั้น ของอลิซาเบธอยู่...

"มาต่อกันเลย"— อลิซาเบธเธอก้มลงไป เป็นสิ่งของที่ได้จากการไปหามาจากในคฤหาสน์ เธอขีดเขียนอะไรบางอย่างลงไปสู่พื้นไม้รูปวงเวทย์ขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้น อลิซาเบธเธอตั้งใจเขียนมันสุด สายตาเธอดูมีสมาธิสุด เพราะวันนั้นเป็นวันที่รอคอยมานาน วันที่ตัวเธอจะได้ลองสิ่งที่เรียกรู้ว่า

อลิซาเบธได้เขียนวงเวทย์ขนาดใหญ่ภายในห้องของเธอจนเสร็จ วงเวทย์ขนาดได้ถูกสร้างภายในห้อง พร้อมกับตัวมิโกะและอลิซาเบธที่ยืนอยู่ตรงกลางวงเวทย์

ทั้งสองไม่อาจปล่อยเวลาให้สูญเปล่าได้ ทั้งสองจ้องมองกันด้วยสายตาที่เป็นการให้สัญญาณเริ่มการทดลอง..

อลิซาเบธไม่รอช้าเธอ จับไม้แหลมแทงลงไปที่ปลายนิ้วตัวเองเบาๆ ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีเลือดไหลออกมา ไหลผ่านไม้ที่แทงเข้าไป.. อลิซาเบธไม่ได้ส่งเสียงเจ็บปวดออกมา

อลิซาเบธเธอยื่นมือออกไปด้านหน้าตัวเองที่มิโกะยืนอยู่ หยดเลือดของเธอได้ไหลลงสู่พื้นไม้ที่มีเวทย์เขียนไว้อยู่ แสงได้ปรากฏขึ้นหลังจากเลือดหยดลง มันส่องสว่างไปทั่วบริเวณในห้อง จากพื้นสู่เพดานด้านบน ที่มาพร้อมกับเสียงดัง ดุ๊บ.. และก็เงียบไปพร้อมกับแสงที่หายไปเช่นเดียวกัน

"ไม่สำเร็จงั้นเหรอ..? " —อลิซาเบธกล่าวขี้นพร้อมกับความสับสนมึน งง ภายในห้องกับมิโกะ

... จู่ๆก็มีเสียงเดินดังขึ้น เสียงเดินดังขึ้นเข้ามาใกล้ๆห้องอลิซาเบธ เสียงเท้าคนมากกว่าหนึ่งค่อยๆใกล้เขามาเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันที่อลิซาเบธและมิโกะที่ทำตัวไม่ถูกเมื่อได้ยินเสียงนั้น...

เสียงเหยียบย่ำไม้ดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆและเสียงดังกล่าวเงียบหยุดตรงหน้าประตูที่ภายในมีมิโกะและอลิซาเบธ

... "..."...

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงเคาะดังกล่าวสร้างความตกใจให้ ทั้งสองคนในห้องสุด ทั้งสองเดินเข้ามาหากันกลางห้องมิโกะที่เห็นเช่นนั้นก็ได้จับมือเธอไว้

... "ไม่ต้องกลัว" —มิโกะพูดออกมาอย่างนั้นด้วยเสียงที่สั่นกลัวเช่นกัน...

มิโกะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นคืออะไร แต่หากคิดจะเสียใจภายหลังแล้วล่ะก็ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า

...เสียงประตูไม้เปิดขึ้น เสียงไม้ที่ใกล้พังดังขึ้นมันดูเป็นเสียงที่ดูธรรมดาอย่างเช่นเคยที่ได้ยิน...

... แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ทำให้มันดูไม่ธรรมดาและน่ากลัวสุดๆ...

...บุลคลปริศนาที่โผล่ออกมาจากหลังประตูไม้นั้นก็คือ...

แม่ของอลิซาเบธ มารีน นั้นเองเธอปรากฏตัวขึ้นหลังจากหายไปนานหลายเดือนหลังเจอกันครั้งล่าสุดเธอเดินมาพร้อมกับเหล่าคนใช้ราวๆ 4-5 คน

เมื่อมารีนเห็นทั้งสอง เธอก็ส่งสัญญาณไปหาสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง มารีนเธอมองดูใบหน้าของอลิซาเบธอยู่แบบนั้น เหมือนภาพทับซ้อนใครบางคนที่เธอเคยรู้จัก หญิงสาวคนหนึ่งที่มีอายุมาก สีผมเหมือนกัน ดวงตาสีดำเช่นเดียวกัน หากมีเพียงใบหน้าที่ดูต่างกันตามช่วงวัยแต่ก็สัมผัสได้เลยว่า อลิซาเบธช่างเหมือนกับเธอคนนั้นที่ทับซ้อนอลิซาเบธอยู่ในภาพของ มารีน

เหล่าสาวใช้ที่มากับมารีนเดินเข้าไปจับตัวมิโกะและอลิซาเบธที่ยืนอยู่แบบนั้นอย่างไรการขัดขืนใดๆ

อลิซาเบธและมิโกะได้เพียงแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรก้มหน้าลงอย่างคนสำนึกผิดไปแล้วต่อการกระทำที่เกิดขึ้น..

"ปล่อยนะ"—เสียงของมิโกะเธอดังขึ้น เธอถูกเหล่าคนใช้จับตัวไว้

"อลิซาเบธไม่ผิดฉันเป็นคนทำ... "— แขนทั้งสองถูกล็อคไว้แขนละคน ทำให้ตัวเธอในตอนนี้แทบจะขยับตัวไม่ได้

อลิซาเบธได้ถูกจับแขนทั้งสองข้างไว้ ได้มองไปยังหน้าของมารีนผู้เป็นแม่ เหมือนจะอ้อนวอนอะไรบางอย่าง...

"ท่านแม่... ปล่อยมิโกะเถอะเจ้าค่ะ"— อลิซาเบธเธอกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่ดูสำนึกผิด

มารีนผู้เป็น แม่ของอลิซาเบธนั้นเธอไม่พูดอะไรออกมา เธอได้เพียงแต่จ้องมองมาที่ลูกของตนเอง

ด้วยสีหน้าที่ดูรังเกลียดราวกับเด็กน้อยอลิซาเบธที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นในตอนนี้ไม่ใช่ลูกของตัวเองอีกต่อไป..

"พาตัวไปขังไว้"—เสียงของผู้เป็นแม่อลิซาเบธได้กล่าวขึ้น น้ำเสียงของเธอชั่งเย็นชาเธอเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอลิซาเบธเลยแม้แต่น้อย

"ท่านแม่"— อลิซาเบธเธอกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดังเรียกผู้เป็นแม่ของตัวเองที่เดินจากไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

แต่ถึงจะเรียกชื่อผู้เป็นแม่เท่าไหร่ มารีนก็ไม่หยุดเดินลง เดินต่อไปและหายไปจากสายตาของอลิซาเบธในที่สุด เหลือทิ้งไว้เพียงอลิซาเบธที่ยืนอยู่ดิ้นไปมาในอ้อมแขนของเหล่าคนใช้

อะไรฉันทำอะไรผิด..? ฉันโดนขังและไม่ได้เห็นหน้าเธอมาเป็นเดือนๆเพื่อให้เธอมองฉันแบบนั้นเหรอ? และเดินหนีกันแบบนั้นมันคือะไร กลับมานะ ยัยบ้ามารีน กลับมา

—อลิซาเบธได้เพียงร้องไห้อยู่อย่างงั้น

เสียงกลอนประตูเหล็กดังขึ้น ประตูเหล็กขนาดใหญ่ถูกเปิดขึ้นอลิซาเบธเธอถูกโยนเข้าไปยังห้องแห่งนั้นในทันทีประตูเหล็กถูกปิดลงหลังจากร่างของสาวน้อยล้มลงไปในห้อง

ภายในห้องมีเพียงความมืด มีเพียงแสงจากช่องน้อยๆที่ส่องลงมาจากด้านบนหัวอลิซาเบธที่ไม่แม้จะเอื้อมถึง ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบไปหมด

จนอลิซาเบธอ้วกออกมาเธอได้เพียงแต่นั่งลง พิงไปกำแพงของอยู่ในห้องที่มืดอยู่ลำพัง!!

เวลาร่วงเลยผ่านมากว่า 3 วัน อลิซาเบธเธอได้เพียงนั่งพิงกำแพงอย่างไร้เรี่ยวแรง

สภาพดูแทบไม่ได้ ขาดน้ำมาสามวันไม่แม้จะได้ของกินเข้าท้องตลอดสามวัน

จิตใจเหม่อ มองไปมุมต่างๆของห้องอย่างคนเหม่อลอยเห็นภาพหลอนเต็มไปหมด

หลังจากที่อยู่ในความมืดมานานถึงสามวันทำให้ตอนนี้สายตาก็ปรับให้มองเห็นในความมืด ได้แล้วในที่สุด

แม้มันจะไม่ชัดแต่ในห้องตอนนี้แคบเพียงให้ คนห้าคนอยู่ได้เพียงเท่านั้น เด็กน้อยที่หิวโหยได้เพียงแต่นั่งกอดเข่าตัวเองอยู่อย่างงั้น

ตัวสั่นกลัวไปหมด แต่แล้วจู่ๆ ก็มีแสงสว่างส่องเข้ามาในห้อง.. แสงสว่างนั้นโผล่ขึ้นมาในห้องนั้นออกมาจากด้านล่างประตูเหล็ก

มีของบางอย่างถูกส่งเข้ามาในห้อง ถึงแม้จะเห็นไม่ได้ชัดแต่จมูกของเด็กน้อยก็รับรู้ได้โดยทันทีก่อนสายตาจะโฟกัสเห็น

มันคือกลิ่นของอาหารนั้นเอง เด็กสาวไม่รอช้าเธอพุ่งไปยังกลิ่นดังกล่าวโดยทันที..สภาพที่เธอมุ่งไปยังอาหารมันไม่มีคาบความเป็นคุณหนูลงเหลืออยู่เลย..

มันเป็นภาพที่ราวกับขอทานไร้บ้านที่หิวโหยเท่านั้น หลังจากอาหารถูกส่งเข้ามาภายในห้อง

แสงสว่างก็ดับลงอีกครั้งพร้อมกับเสียงปิดช่องเล็กๆนั้นเอง ภาพทุกอย่างกลับมามืดขึ้นอีกครั้ง

เหลือทิ้งไว้เพียงอลิซาเบธที่กินอาหารอย่างเหม่อลอย นึกคิดทบทวนถึงเรื่องต่างๆอยู่ในหัวตัวเองภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างลงมาเท่านั้น

ในทุกๆสามวันอาหารจะถูกส่งเข้ามาในห้องทุกๆเช้า มันถูกส่งเข้ามาซ้ำๆ เป็นสิ่งเดิมๆ ถึงแม้ในช่วงแรกๆเด็กน้อยจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร

แต่ได้กินมันอยู่หลายครั้ง ก็ทำให้รับรู้ได้โดยทันที มันคือ อาหารที่มีข้าวที่โรยไปด้วยสิ่งของบางอย่าง...

ในช่วงแรกๆนั้นเด็กสาวรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับมันจนประหลาดใจ แต่พอกินไปเรื่อยๆ ภาพบางอย่างก็วิ่งเข้ามาในหัว ภาพที่เห็นอยู่บ่อยครั้งในโลกเก่า ในความทรงจำของเคน

'นัตโต๊ะ' ชื่อของมันแม้สิ่งที่กินอยู่อาจจะไม่ใช่แต่ก็พอใกล้เคียงพอสมควรก็เท่านั้น

เด็กน้อยได้เพียงแต่นั่งพิงกับกำแพงนอนลงกับพื้น ผ่านวันแล้ววันอีกอยู่แบบนั้นนับเดือนนับวันไม่ถ้วน ผ่านตัวเลขบนกำแพงที่สลักลงกับช้อนที่กินข้าว นับกว่า 10 เดือน

เธอนั่งอยู่ในนั้นนอนลงและหลับอยู่ในนั้น นึกคิดถึงวันวานและร้องไห้ออกมาเหมือนกับคนบ้าอยู่อย่างวันงั้นในทุกๆ วัน

จิตใจของอลิซาเบธตอนนี้แทบจะจมดิ่ง ลงไปในทะเลที่มืดไร้แสงสว่างเหมือนกับห้องที่ขังเธอไว้แห่งนี้..

"กะ...เอ...อะ..วะ..." —คำพูดมากมายพูดออกเสียงออกมาจากตัวอลิซาเบธ

เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำมันไปทำไม และทำไปเพื่ออะไรเหมือนกับการเขียนกำแพงอย่างเช่นทุกๆวันที่ท้องฟ้าเช้าวันใหม่ขึ้น เธอเพียงแต่ทำมันด้วยความเคยชินแบบนั้น

ผ่านตัวเลขบนกำแพงกว่า 2 ปีเต็ม ไม่รู้สึกอะไรไม่รู้ว่าตัวเองคือใครแล้วทำไมต้องร้องไห้ทุกครั้งที่ผ่าน 1 คืนไปทุกครั้ง สิ่งที่จำได้มีเพียง ตัวอักษรที่สลักไว้ตรงช่องส่งอาหารที่เขียนว่า ' อลิซาเบธ ' เพียงเท่านั้น

สายตาของเธอก็ได้หลับลงไปทั้งอย่างงั้น.. ในของคืนวัน อลิซาเบธเธอตื่นขึ้นในที่แห่งหนึ่งที่ตัวเองไม่รู้จักมันเป็นพื้นที่มีแต่สีขาวไปหมด

ไม่มีพื้นดิน ไม่มีท้องฟ้าสีฟ้าอยู่ ทุกอย่างขาวและว่างเปล่าหมด เธอมองไปรอบๆตัวเอง ร่างกายที่น่าจะเป็นเด็กสาวตัวน้อยกลับ

แปรเปลี่ยนกลายเป็น คนปริศนาสูงใหญ่ราวกับคนสูง 190 แม้แต่เพศในตอนนี้ก็ยังเป็นผู้ชาย

อลิซาเบธในหัวเธอนั้นสับสนไปหมด ในตอนนี้เธอใส่ชุดที่ดูแปลกตาที่ตัวเองไม่รู้จักมาก่อน..

เธอได้แต่มองไปมาตามรอบๆตัวที่มีเพียงแต่ความว่างเปล่าอยู่ แต่จู่ๆเธอก็สัมผัสได้บางสิ่งบางอย่างที่โผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า!!

เป็นหญิงสาวบางคนแต่ตัวประหลาดที่เธอไม่รู้จัก

... "ชุดนักเรียนงั้นเหรอ"...

เสียงของอลิซาเบธเธอพูดออกมาแบบนั้น แม้จะไม่รู้อะไรแต่เธอก็พูดออกไปทั้งแบบนั้น จู่ๆ ภาพที่เหมือนความฝันก็ได้ขยับขึ้น รูปภาพต่างๆมากมายได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับค่อยๆดำมืดลง ทีละภาพทีละนิดจนมือดไปหมด

เหลือทิ้งไว้เพียงเด็กสาวในชุดนักเรียนที่ยืนอยู่ในความมืดแบบที่ตัวอลิซาเบธยืนอยู่ เธอเดินตรงมา รู้สึกตัวอีกที เด็กสาวก็มาปรากฏตรงหน้าอลิซาเบธเสียแล้ว

เด็กสาวตรงหน้าอลิซาเบธไม่พูดอะไร ได้เพียงแต่ก้มหน้าลงมองด้านล่าง.. หญิงสาวเธอยืนแบบนั้น.. อย่างกับคนที่ไร้สติ!!

... " นี่ " —อลิซาเบธเธอได้เรียกเด็กสาวที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อออกไปทั้งแบบนั้น...

แต่แล้วจู่ๆ มือของเด็กสาวที่ควรนิ่งอยู่ก็ขยับจับมาที่มือของอลิซาเบธเด็กสาวไม่พูดออกมาได้เพียงแต่ขยับและหยุดนิ่งไปอีกครั้ง แต่แล้วจู่ๆ ท้องฟ้าที่ควรจะมือก็ส่องสว่างขึ้น..

พร้อมกับภาพของใครบางคนที่เห็นหน้าไม่ชัดจับมือใครบางคนอยู่เหมือนจับมืออลิซาเบธไว้แบบนี้

ใส่ชุดนักเรียนเหมือนเด็กสาวตรงหน้าอลิซาเบธ เพียงแต่ไม่เห็นหน้าชัดอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนได้ยินคำพูดได้ไม่ชัด

"พี่ค่ะ..."— เป็นหนึ่งในคำพูดที่ได้ยินออกมาจากเสียงสายฝนที่ตกดังสนั่นอยู่ จากนั้นภาพทุกอย่างก็มืดอีกครั้ง

อลิซาเบธเธอลืมตาขึ้นอีกครั้งในรอบวันของที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เธอได้ยินเสียงคนมากมายข้างนอกกำลังทำอะไรบางอยู่

เสียงกริ๊ดร้องมากมายดังสนั่นไปหมด.. และก็เงียบลงไป..และในตอนที่เด็กสาวกำลังสับสนและตกใจกับเสียงเหล่าอยู่นั้นเอง ประตูเหล็กที่ถูกปิดมานานก็ได้เปิดขึ้น..

พร้อมกับกำแพงที่มีรอยขีดเส้นวันเต็มไปหมดปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงที่ส่องเข้ามา ตรงหน้าอลิซาเบธมีใครบางคนกำลังยืนอยู่มองลงมาหาอลิซาเบธที่กำลังนอนอยู่อย่างคนใกล้ตาย ผิวขาวซีด ใบหน้าเหม่อลอย ผมสีดำยาวไปถึงขา

"มีคนงั้นเหรอ" —เสียงชายปริศนากล่าวขึ้นภายใต้แสงที่ส่องจากด้านหลัง

"เจ้ามาอยู่ที่แห่งนี้ได้ไง"

ชายปริศนากล่าวขึ้นยื่นมือจับอลิซาเบธที่นอนไร้แรงขยับตัวอยู่ยกขึ้นสู่อ้อมกอด

"พูดไม่ได้งั้นเหรอ"— ชายปริศนาได้หันหลังของเขากลับเดินออกไป ภาพที่เห็นในดวงตาของอลิซาเบธคือผู้คนมากมายที่นอนตายอยู่นับไม่ถ้วน เต็มพื้นไปหมดตลอดทางที่ชายปริศนาเดิน ดวงตาสีทองเหมือนแมว ผมสีเงิน ผิวสีขาวซีด ใบหน้าดูโกรธอยู่ตลอด เขาได้เดินไปเรื่อยผ่านศพมากมายโดยมีอลิซาเบธอยู่ภายในอ้อมกอด ขึ้นบันไดขึ้นด้านบนและหายไป...

เหลือทิ้งไว้เพียงร้างไร้วิญญาณ.. ที่ไม่อาจหวนคืนมาได้อีก

จบ(2)

ฮอต

Comments

Escanos

Escanos

ได้อารมณ์มากเห็นภาพเลยเหมือนได้อยู่ในโลกนั้นจริงๆ แต่ก็ยังมีคำผิดอยู่บ้างอันนี้ต้องแก้ไขกันไป

2023-01-15

0

ทั้งหมด

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!