3.

3.

‘คำว่ารักมันทำให้คนตาบอด’ จู่ๆพี่อุ่นก็นึกถึงประโยคนี้ขึ้นมา เมื่อสุทินกลับมาทั้งสองก็ใช้ชีวิตกันหวานชื่นเสมือนไม่เคยมีเรื่องราวใดเกิดขึ้น แต่มันก็เป็นความสงบสุขให้กันยาได้แค่ชั่วคราว สุนัขที่มันเคยได้ลิ้มรสของเน่าของเสีย มันก็มักจะติดใจในรสชาตินั้นจนหยุดกินไม่ได้ หลายปีมานี้มีผู้หญิงชั้นต่ำของสุทินจำนวนมากแวะเวียนมาสร้างความทุกข์ใจให้กันยาไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ หนึ่งในบรรดาผู้หญิงพวกนั้นเป็นลูกบุญธรรมที่กันยาเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูขึ้นมากับมือ ยามที่กันยาต้องไปออกงานสังคม ความสัมพันธ์ของพ่อลูกก็บรรเลงกันอย่างหฤหรรษ์ภายในบ้าน อย่างไม่แคร์สายตาว่าใครจะเดินมาพบเห็น พี่อุ่นจึงได้รับรู้ถึงรสนิยมการกินที่พิลึกพิลั่นของสุทินมาโดยตลอด

“ป้าอุ่น เอาจริงนะ ฉันว่าคุณกันยาแกดูแปลกๆยังไงไม่รู้”

“อย่าพูดให้มากความ เอาเวลาไปทำความสะอาดก่อนที่คุณหนูอลิสจะกลับมาเถอะ”

ป้าอุ่นหันไปดุเด็กคนงาน ในตอนนี้แกต้องเป็นทั้งคนข้างกายของกันยา และยังต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับคุณหนูอลิสาด้วย เรื่องงานทำความสะอาดส่วนใหญ่จึงเป็นของคนงานที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เวลานี้คุณหนูอลิสเพิ่งจะอายุแค่ห้าขวบ มีลุงคนขับรถคอยไปรับส่งถึงโรงเรียนทุกวัน ในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่มีใครให้ความรัก ช่วงเวลาในตอนกลางวันที่ได้ไปโรงเรียนอนุบาล คงเป็นความสุขที่สุดที่เด็กคนนั้นจะสามารถมีได้ ป้าอุ่นหันไปสั่งงานอีกเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องครัว ถึงจะมีคำสั่งให้คืนนี้ไม่ต้องเตรียมอาหาร แต่คงต้องให้ในครัวเตรียมเมนูง่ายๆไว้แอบยกไปให้คุณหนูอลิสทานในห้องนอน ป้าอุ่นไม่อยากให้เด็กน้อยต้องพบเจอเผชิญหน้ากับสุทินเพียงลำพังในบ้านที่ไม่มีกันยาอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะป้าอุ่นกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิม ถึงยังไงทั้งคู่ก็เป็นสายเลือดเดียวกันแท้ๆ แต่เพราะป้าอุ่นคือคนที่รู้จักความคิดของกันยาดีที่สุดในบ้านนี้ และแกรู้ถึงสิ่งที่กันยากำลังจะทำกับชีวิตของคุณหนูหลังจากนี้ด้วย มันน่าตลกที่กันยาตั้งมั่นในการวางแผนร้ายน่ารังเกลียดมากมายขนาดนั้น แต่ป้าอุ่นเห็นว่าทุกครั้งที่พ่อลูกได้พูดคุยกันครั้งใด เวลาต่อมาบนเนื้อตัวของคุณหนูจะมีรอยเล็บของกันยาหยิกจนเขียวช้ำ รอยจ้ำเหล่านั้นมักจะถูกซุกซ้อนไว้ภายใต้เสื้อผ้า แต่ป้าอุ่นคือคนที่ต้องช่วยอาบน้ำให้เด็กน้อยทุกวัน ถึงไม่อยากเห็นก็ต้องได้เห็น แม้ลึกลงในใจจะสงสารมากแค่ไหน ก็ทำได้เพียงแค่คอยหายามาทาให้

“พี่อุ่น ฉันแอบเตรียมของว่างไว้ให้คุณหนู คุณกันยา แกออกไปข้างนอกรึยัง?”

“ออกไปเมื่อสักพักนี่เอง วันนี้อบขนมเหรอ มิน่าล่ะกลิ่นหอมเชียว”

สองคนยืนคุยกันได้เพียงสองสามประโยค ป้าอุ่นก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด พร้อมกับเสียงสดใสของคุณหนูตัวน้อยวิ่งเสียงดังเรียกหาแกอยู่หน้าบ้าน เด็กก็ย่อมมีความสดใสเดียงสาไปตามวัย ต่อให้ผู้ใหญ่บางคนจะพยายามสาดสีเข้าใส่สักแค่ไหน ครั้งนี้ป้าอุ่นตั้งใจแล้วว่าจะใช้เวลาชีวิตที่เหลือน้อยนิดของพวกแก คอยโอบกางปีกเพื่อปกป้องจิตใจอันบริสุทธิ์ดวงนั้นให้ได้ หลังจากยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือเหี่ยวย่นก็ยกถาดน้ำส้มกับคุ๊กกี้เนยหอมๆเดินออกจากห้องครัวไป

*

*

“ลุงทอม เห็นเจ้า เอวา บ้างไหม? ฉันเดินหาจนรอบบ้าน ปวดขาไปหมดแล้ว”

เสียงบ่นเหนื่อยหน่ายใจของเจ้านาย ทำให้ลุงทอมลืมตาขึ้นมาดู ปากสีน้ำตาลใหญ่หาวโชว์ไปหนึ่งที บ่งบอกถึงความเหนื่อยใจเช่นเดียวกับผู้เป็นนาย หากนับตามอายุของสุนัขตอนนี้มันก็แก่มากแล้ว ร่างอ้วนกลมสีน้ำตาลยืดตัวขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินนำเจ้าของไปยังพื้นที่สวนด้านหลังบ้าน

“โฮ่งๆ”

คุณป้าเดินตามเสียงส่งสัญญาณของสุนัขคู่ใจ เบื้องหน้าคือใต้ต้นมะม่วงต้นหนึ่ง หลานสาววัยห้าขวบ กำลังนอนหลับอยู่บนพื้นดิน คราบน้ำลายที่ไหลย้อยลงข้างแก้มเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงความหลับสนิทมากแค่ไหน ทั้งเนื้อทั้งตัวขมุกขมอมไปด้วยเศษใบไม้และขี้ฝุ่น ข้างกายมีเจ้าแมวสามสี กำลังนอนหงายท้องให้เด็กน้อยกอดไว้นิ่ง ดวงตาแป๋วของมันมองปริบๆมาทางคุณป้า เหมือนกำลังจะฟ้องว่า ‘หนูไม่ได้ชวนเล่นนะ แต่เจ้าเด็กนี่มันซนมากเลย’

“มอมแมมขนาดนี้ นี่ลูกคนหรือลูกแมวกันแน่”

มือเหี่ยวย่นช้อนร่างเล็กขึ้นมาอุ้มไว้ เด็กน้อยดิ้นยุกยิกเข้าซุกหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นยาย เมื่อได้เห็นความมอมแมมของหลานใกล้ๆ ก็แทบอยากจะหยิกเนื้อนิ่มๆนี่สักสองที นี่ตัวแกมีหลานสาวจริงๆใช่ไหม ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ซุกซนเสียจนคนแถวบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้ชายกันหมดแล้ว คิดแล้วก็ได้แต่เดินถอนหายใจ

เอวาคือหลานสาวเพียงคนเดียว ที่ลูกสาวของแกนำมาฝากเลี้ยงไว้ตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กน้อยต้องไปทำงานไกลถึงเมืองนอก ในช่วงนั้นแกจำได้ดีเลยว่า บ้านหลังเล็กนี้จากที่เคยมีเพียงแค่ตัวแกกับลุงทอมสุนัขคู่ใจ เวลานี้มันกลับเต็มไปด้วยของเสียงเด็กทารก และเสียงลูกแมวอีกสามตัว เป็นความวุ่นวายที่เข้ามากลบความเหงาออกไปจากชีวิตผู้หญิงแก่ๆคนนึง เวลาของความสุขเคลื่อนผ่านมาจนถึงช่วงปลายปีที่แล้ว แม่แมวตัวสีดำก็จากไปด้วยโรคไข้หัดแมว คงเป็นเพราะมิเชลต้องอยู่แบบไร้เจ้าของมานาน แม่แมวผู้หน้าสงสารจึงไม่ได้รับวัคซีนตามที่ควร หลังจากที่มิเชลจากไป ตัวแกจึงเริ่มคิดหาบ้านใหม่ให้กับลูกทั้งสามตัวของมัน ไม่ใช่ว่าแกไม่รัก แต่ความตายของมิเชล ทำให้ตัวแกตระหนักได้ถึงวันเวลาของชีวิต หากวันนั้นของแกเดินทางมาถึง เจ้าแมวที่น่าสงสารเหล่านี้จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง เป็นความโชคดีที่มิเชลได้ท้องกับแมวตัวผู้ที่มีสายพันธุ์ดี จึงทำให้ลูกๆของมันออกมาหน้าตาน่ารัก ถึงขนจะไม่ได้ยาวสวย แต่พวกมันก็มีขนหนานุ่มทุกตัว ทำให้เมื่อลงประกาศหาบ้านได้ไม่นาน ความน่ารักของเจ้าตัวสีขาวดำและสีนวล ก็มีคนมารับไปเลี้ยงอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแต่เจ้าสามสีตัวเดียว เพราะความพิการทำให้มันไม่ถูกใครเลือกไปสักที เมื่อเห็นว่าคงไม่มีใครอยากได้แมวพิการตัวนี้ แกเลยตั้งชื่อให้มันว่าเดซี่ และเลี้ยงมันเอาไว้ให้เป็นเพื่อนเล่นของหลานสาว

เจ้าเหมียวเดซี่เดินตามหลังคุณป้าเข้ามาภายในบ้าน มันนั่งทำความสะอาดขนอยู่นานจนพอใจ แล้วค่อยเดินไปล้มตัวลงนอนใกล้ๆลุงทอม เท้าปุยสีขาวไล่ตะปบหางสีน้ำตาลของลุงทอมที่กำลังแกว่งหยอกล้อไปมา

‘วันนี้พากันไปเล่นซนจนมอมแมมเชียวนะ ระวังโดนคุณป้าทำโทษให้อดข้าว เดี๋ยวจะหาว่าลุงไม่เตือน’

ลุงทอมแกล้งทำเป็นดุเสียงเข้ม ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาจับหัวกลมๆปุยๆเอาไว้ เพราะเจ้าแมวตัวแสบนั่นเริ่มจะงับหางเขาแรงขึ้น ถึงเขาจะเป็นสุนัขที่มีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังต้องรักษาความน่ารักเอาไว้ จะปล่อยให้ขนหางตัวเองแหว่งคงไม่ได้ เดซี่ร้องแง๊วขึ้นมาเพราะการถูกขัดใจจากของเล่นตรงหน้า เมื่อสู้แรงไม่ไหวจึงยินยอมปล่อยหางปุยๆออกจากปากอย่างไม่เต็มใจ เจ้าตัวซุกซนนอนแกว่งหางไปมาอย่างเบื่อหน่าย หลังจากนอนนิ่งๆได้เพียงไม่นาน ในหัวเล็กๆนั่นก็นึกถึงเรื่องสนุกขึ้นมา

‘ลุงทอมคะ หนูอยากออกไปเที่ยวตรงบ้านหลังใหญ่หน้าปากซอย ลุงไปกับหนูหน่อยสิ’

‘จะไปทำไม เดี๋ยวก็โดนเขาไล่ออกมาอีก’

‘ก็ในบ้านหลังนั้นมีของแปลกๆเยอะมาก วันก่อนหนูยังสำรวจไม่ทั่วเลย แอบไปด้วยกันเถอะนะ’

เดซี่ใช้หัวกลมปุยน่ารักของตนถูไถไปตามขนสีน้ำตาล ลุงทอมหันหน้าหนี พยายามทำใจแข็งไม่ยอมหันไปสบตากลมโตแป๋วนั่น หลายวันก่อนเดซี่วิ่งมาบอกแกว่า เจอช่องปูนแตกตรงกำแพงบ้านหลังใหญ่ จึงชวนกันไปเดินตรวจตราดูแถวนั้น ลุงทอมเดินดมกลิ่นอย่างระแวดระวังแต่ไม่เจอสิ่งใดผิดปกติ คงเป็นเพราะก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนักติดกันหลายวัน รั้วสูงใหญ่ที่สร้างมานานจึงทรุดพังบ้างไปตามกาลเวลา พื้นที่ของบ้านหลังนี้กว้างมาก ไม่แปลกใจที่คนในบ้านจะยังไม่เห็นรอยชำรุดตรงนี้ ระหว่างที่ลุงทอมกำลังเดินดมรอบๆอีกครั้ง รู้ตัวอีกทีเจ้าเดซี่ก็มุดรูเข้าไปสำรวจข้างในรั้วเรียบร้อย ลุงทอมยืนตกใจได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนโวยวายพร้อมๆกับที่เห็นเดซี่วิ่งหางชี้ฟูพุ่งกลับออกมาจากทางเดิม

‘ไม่เคยเข็ดเลยรึไง ไปอีกรอบนี้ได้โดนเขาเอาไม้ไล่ตีจริงๆแน่’

ถึงจะบ่นออกไปแบบนั้น แต่เพราะทนความอ้อนของเจ้าแมวไม่ไหว ก้นอวบๆจึงขยับลุกขึ้นเดินนำไปทางประตูหน้าบ้าน พอเห็นแบบนั้นดวงตาของเดซี่ก็เป็นประกาย ครั้งนั้นมันจำได้ดี ก่อนที่จะโดนคนพวกนั้นไล่ออกมา มันเห็นเด็กผู้หญิงคนนึงกำลังนั่งซุกอยู่ในครัวเหมือนกำลังหลบอะไรสักอย่าง ดูจากขนาดตัวแล้วน่าจะอายุพอๆกับเจ้าหนูเอวา มันอยากให้เอวาได้เจอกับเด็กคนนั้นจริงๆนะ เจ้าหนูเอวาจะดีใจขนาดไหนถ้ามีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคน ในหัวเล็กปุยเวลานี้คิดแค่อย่างเดียวว่า จะต้องใช้วิธีไหน ถึงจะได้เป็นเพื่อนกับเด็กคนนั้น

“วันนี้จะพาเดซี่ไปเดินเล่นกันที่ไหนล่ะลุงทอม?”

“โฮ่ง โฮ่ง”

“ฮ่าๆ อย่าพากันไปใกลนักล่ะ กลับบ้านช้าระวังจะโดนไม้เรียวหวดก้นเอานะ”

เสียงทักทายของผู้คนตลอดทางที่เดินผ่าน ทำให้ลุงทอมหยุดแวะกระดิกหางทักทายอย่างอารมณ์ดี ภาพของสุนัขพันธุ์โกลเด้นริทรีฟเวอร์สีน้ำตาลกับแมวสลิดสามสีที่มีแค่สามขา เป็นสิ่งที่ผู้คนแถวนี้เห็นเป็นประจำทุกวัน ทั้งคู่มักจะมาแวะทักทายอยู่หน้าบ้านอย่างเป็นมิตร ไม่ว่าใครที่ได้เห็นความน่ารักนี้ ต้องอดใจไม่ได้ที่จะหยิบขนมอร่อยๆมายื่นให้กิน รูปร่างของลุงทอมกับเดซี่จึงอ้วนตุ้ยนุ้ยมากขึ้นทุกวัน

*

*

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 3

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!