หนี้รักนายรุ่นน้อง
...Ep1...
...บทนำ Nc...
"ขายตัวให้ผมดิ แล้วผมจะช่วยพี่เอง"
"ฮะ! "
จุดเริ่มต้นทุกอย่าง มันเกิดขึ้นที่คืนนั้น วันที่ฉันเพิ่งได้รับการ์ดแต่งงานจากแฟนและเพื่อนรัก
1 เดือนก่อน
ฉันกลับมาบ้านของตัวเอง เพราะกลับมาทำความสะอาดบ้านทุกวันเสาร์ตามปกติ ส่วนวันธรรมดา ฉันจะอยู่บ้านเช่ากับเพื่อน
ตอนนี้บ้านของฉันไม่มีแม่บ้านอีกต่อไปแล้ว หน้าที่นี้เลยตกเป็นของฉันเพราะว่าฉันทำงานออนไลน์โปรโมทสินค้าให้กับทางบริษัทของเรา ฟังๆ ไปแล้วก็เหมือนกับคนว่างงานดีๆ นี่เองแหละ
ส่วนพี่สาวของฉันพอนางแต่งงานเสร็จ ก็ย้ายไปอยู่เมืองนอกกับพี่เขย และไม่กลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลย ทุกอย่างจึงตกมาอยู่ที่ฉันผู้ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน
กริ่ง!
"ใครมาว่ะ?"
ฉันรีบวางไม้กวาดแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน
"มีของมาส่งครับ"
ฉันรีบรับการ์ดใบนั้น มาจากมือของคนส่งของเพราะคิดว่ามันคงจะเป็นใบทวงหนี้ของทางบ้านฉันอีกตามเคย แต่เมื่อดูดีๆ แล้วการ์ดใบนั้นเป็นสีชมพูหวานแหววจนฉันสงสัย
"การ์ดแต่งงานเหรอเนี้ย ใครยังกล้าเชิญครอบครัวฉันไปงานแต่งอีกเนี่ย"
ฉันรีบเปิดดูชื่อในการ์ดแต่งงานทันที เพราะอยากรู้ว่าใครกันที่ส่งการ์ดเชิญมาให้ที่บ้านฉัน แต่เมื่อเปิดดูชื่อเจ้าสาวและเจ้าบ่าวในการ์ดแล้ว ฉันก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะนั้นคือเพื่อนและแฟนของฉันเอง
พวกมันหักหลังฉันแอบคบกันจนได้แต่งงานกัน ฉันทรุดตัวนั่งลงที่พื้นบ้านด้วยความเสียใจอย่างสุดขีดเสมือนถูกมีดนับพันเล่มทิ่งแทงหัวใจจนยากจะเอ่ยปากกรีดร้องออกมาได้ ฉันรีบฉีกการ์ดแต่งงานทุเรศนี้ขว้างทิ้งในทันที
ทำไมเหรอแค่ธุรกิจบ้านฉันกำลังมีปัญหาถึงกับต้องทิ้งฉันไปแต่งงาน กับเพื่อนสนิทของฉันเลยหรือ ส่วนเพื่อนสนิทของฉันก็อีกคน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่านั้น มันแฟนของฉันแต่ก็ยังลักกินขโมยกินจนได้แต่งงานกัน
ฉันเริ่มรู้สึกตะขิดตะขวงใจตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วที่เจอกันครั้งสุดท้ายแล้ว ว่าทำไมท่าทางมันดูแปลกๆ และมันก็บอกฉันและเพื่อนๆ ในกลุ่มว่ามันท้อง ตอนนั้นพวกเราต่างก็ยินดีให้กับมัน แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะท้องกับแฟนของฉัน
แฟนที่ฉันคบมาตั้งแต่ม.3 แฟนที่ฉันยอมให้ครั้งแรกกับมัน แฟนที่ฉันคาดหวังถึงอนาคตที่สวยงามว่าจะมีลูกที่น่ารักๆ ด้วยกันและใช้ชีวิตด้วยกันไปจนตาย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบแล้ว
มันพังทลายลงในพริบตา เหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน กริ่ง! กริ่ง! กริ่ง!
"ฮัลโหล"
"ฮัลโหล อี่เนมมึงโอเคป่าวว่ะ? "
เมื่อแบมรูมเมทของฉันโทรมา ความรู้สึกจุกจนร้องไห้ไม่ออกเมื่อกี้ก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
"อี่แบม ฮื้อๆๆๆ "
"เอ้า! เอองั้นเดี๋ยวกูไปรับนะมึง"
เมื่อวางสายจากแบม เพื่อนสนิทของฉันอีกคน ฉันก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดเสียง ที่ร้องไห้ขนาดนี้ได้ก็ต้องขอบคุณแบมมัน ถ้ามันไม่โทรมา ป่านนี้ฉันคงอกแตกตายแน่ๆ
และบวกกับคุณพ่อคุณแม่ของฉันไม่อยู่บ้านแถมพวกแม่บ้านก็ถูกเชิญออกไป หลายคนแล้ว จะเหลือก็มีแต่แม่นมของฉันที่ชื่อแม่นา ที่ไม่ยอมไปไหนและยังช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานอยู่ที่บ้านตลอด
ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะถูกปรับให้น้อยลงก็ตาม แต่แม่นาก็ไม่เคยทิ้งฉันและคุณพ่อคุณแม่เลยแม่นาเปรียบเหมือนแม่อีกคนของฉันที่ฉันเคารพนับถือ
แต่วันนี้เธอไม่อยู่เพราะไปเฝ้าไข้หลานที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ฉันจึงต้องอยู่เฝ้าบ้านเพียงคนเดียวและยังมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้อีก
มันช่างมืดมนสำหรับฉันจริงๆ ฉันไม่รู้จะคุยกับใคร ตอนนี้ที่ทำได้คือร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียงเพื่อระบายอารมณ์เสียใจที่ไอ้ระยำนั่นมันหลอกฉัน
"ไอ้นทีไอ้เลว ไอ้บัดซบ! "
ฉันละอยากทำลายข้าวของในบ้านเสียเหลือเกิน แต่ก็ตั้งสติได้ว่า ช่วงนี้ทางบ้านมีปัญหาอยู่ ถ้าเกิดทำอะไรลงไปมีหวัง ฉันอาจจะถูกทำโทษก็เป็นได้
ฉันจึงตัดสินใจ ลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุดป่นกับเสียงสะอื้นเป็นระยะ ก็ช่างหัวมันประไรแค่เสียคนเลวๆ แค่ 2 คนออกไปจากชีวิตฉันไม่เห็นจะต้องแคร์เลย
เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็เดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนลุคใหม่ให้กับตัวเอง ฉันหยิบเสื้อซีทรูรัดรูปสีขาวแวกหลังที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เอามาใส่พร้อมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นขาดๆแบบแฟชั่น
พร้อมทั้งปล่อยผมยาวลงมาที่ปกติแล้วมันจะจุกเป็นม้วนอยู่บนหัวของฉัน ก่อนจะลงมารอเพื่อนที่ด้านล่างของบ้าน แต่เอ๊ะ! เพื่อนฉันมันเข้ามารอฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"อี่เนม เป็นเหี้ยไรเนี้ยกูโทรหามึงเป็น สิบๆ สาย แล้วนี่มึงแต่งตัวแบบนี้จะไปไหน? "
ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบดึงแขนอี่แบมไปขึ้นรถในทันที
"ป่ะมึง ไปผับกับกู"
"ฮะ เวลานี้เนี่ยนะ เออๆ งั้นก็ไปกินที่บ้านก่อนก็ได้ พอดีวันนี้พวกเพื่อนจากต่างจังหวัดก็มาเที่ยวหากูด้วยที่กูบอกมึงไว้อ่ะ"
"เอาแบบนี้ละกัน ไปนั่งกินที่บ้านก่อน พอ 4 ทุ่มแล้วค่อยออกไปผับเคป่ะ กูจะได้รู้จักเพื่อนๆ มึงด้วย จะได้ไม่ต้องคิดฟุ่งซ่าน"
"เออ ได้ๆ แต่อี่เนมปกติมึงทำตัวดีมาตลอดหนิ ผับก็ไม่เที่ยว เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่ดูด แต่ทำไมมึงถึงจะประชดชีวิตตัวเองแบบนี้"
ฉันถอนหายใจพร้อมกับเม้มปากลง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะ ถึงไม่พูดอี่แบมมันก็รู้อยู่แล้ว จนกระทั่งขับรถถึงบ้าน
ฉันรีบเปิดขวดเหล้าเบียร์ดื่มเป็นครั้งแรกดู โอ้ให้ตายเถอะ! ขมปี๋เลย แต่ฉันก็ยังดื่มต่อไปและดื่มมันไปเรื่อยๆ
แรกๆ มันก็แค่มึนๆ อะนะ ฉันเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรกับร่างกายตัวเองเท่าไหร่ เพราะฉันรอที่จะไปเที่ยวผับเป็นครั้งแรกในชีวิตไงล่ะ
4 ทุ่ม
เมื่อถึงเวลาตามกำหนด ฉันกับอี่แบมและเพื่อนของอี่แบมที่มาจากต่างจังหวัด ก็พากันไปเที่ยวผับตามความประสงค์ของฉันฮ่าๆๆ ตอนนี้พวกเรามาเที่ยวกันตั้ง 5 คนจะไม่สนุกได้ไง
"เฮ้! ชนแก้ว ขอต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าชมรมคนโสด เนาะอี่เนม"
"ไม่ยินดีกูก็ต้องยินดีแล้วแหละ กูโสดแล้วโว้ยยยย ฮ่าๆๆ"
ฉันและเพื่อนๆ ดื่มและสนุกไปกับมันจนเวลาล่วงเลยไปนานพอสมควร จริงๆ มันก็อยู่ในช่วงมึนเมาแล้วแหละ
"เก็บทรงไม่อยู่ (เก็บทรงไม่อยู่ทำไมมันเมาอย่างนี้ๆ) "
ยิ่งเริ่มเมาน้ำตาของฉันก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้น จนสุดท้ายมันก็เก็บไม่อยู่ ฉันจึงปล่อยโฮออกมาอย่างสุดเสียง
"ฮื้อๆๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยแม่ง!"
"เบาเพื่อน อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะมึง มึงแค่อกหักครั้งแรกเองเดี๋ยวมันก็ชิน"
"อื้มงั้นกูขอตัวไปนั่งสงบจิตใจที่มุมหน้าบาร์แป๊บนะ พอดีขึ้นแล้วเดี๋ยวจะกลับมา"
เพื่อนๆ ต่างแตะไหล่ฉันเพื่อเป็นกำลังใจ ให้ผ่านพ้นการเลิกราในครั้งนี้ไปได้
"ไม่ไหวบอกนะอี่เนม"
"อื้ม ขอตัวนะ"
เพื่อนๆ ต่างพยักหน้ารับ ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นจากโต๊ะในผับไปนั่งมุมโต๊ะหน้าบาร์ เพราะมันมืดและรู้สึกผ่อนคลายดี ฉันสั่งเหล้าที่หน้าบาร์นั่งกินคนเดียว ทั้งที่ฉันก็ไม่เคยกินเหล้าด้วยซ้ำ
แต่แล้วก็มีผู้ชายร่างสูงใหญ่หุ่นเหมือนดาราเกาหลีก็ไม่ปาน แต่ทำไมใบหน้าถึงออกไปทางชาวยุโรปก็ไม่รู้ แต่ว่าก็ดูหล่อดี
แถมผิวยังดูขาวสะอาดอีกด้วยคาดว่าน่าจะเป็นลูกครึ่ง ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้ากางเกงยีนส์ธรรมดาๆ ทั่วไปตามประสาวัยรุ่น เข้ามาทักทายฉัน
"Hi ขอนั่งด้วยได้ไหม? "
ฉันแล่มองหน้าชายคนนั้น ก่อนจะพยักหน้าให้เขาแบบส่งๆ ไป และยกเหล้าเข้าปากอย่างหนักหน่วงป่นกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
"อกหักเหรอ? "
ฉันรีบหันหน้าไปทางผู้ชายคนนั้นก่อนจะขมวดคิ้วใส่เขา
"รู้ได้ไงอ่ะ? "
"ก็ไม่เห็นแปลก ก็เธอร้องไห้ อ่ะ! ลืมถามเลยเธอชื่ออะไร? "
"เนม"
"อ่อ เราชื่อแอนทัน หรือเรียกสั่นๆ ว่า ทัน หรือจะเรียกว่า........ช่างเถอะ!"
"อ่อ อื้ม ชื่อคุ้นหูจัง...แต่คงไม่ใช่หรอก"
จริงๆ ฉันไม่ค่อยได้สนใจผู้ชายที่เข้ามาพูดคุยกับฉันเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ ที่ได้มารู้จักเพื่อนใหม่ๆ เพราะตลอดเวลาที่คบกับไอ้เวรนทีแฟนเก่าฉัน
ฉันปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกมากเกินไป เพราะรักมันมาก และไม่อยากทะเลาะกับมัน แต่ตอนนี้ ฉันสามารถพูดกับใครก็ได้ รู้จักกับใครก็ได้ โดยไม่ต้องแคร์มันอีกต่อไปแล้ว
"เพิ่งเลิกกับแฟนหรือเปล่าเนี้ย? "
"อื้ม ไม่รู้ดิ แล้วทันอ่ะ มาเที่ยวกับแฟนเหรอ?"
"เราโสดน่ะ ตอนนี้กำลังหา..........แฟนอยู่ คงจะเรียกว่า เพิ่งเจอหัวใจละมั้ง!"
คำพูดที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของเขา มันดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก จนฉันไม่กล้าถามอะไรเขาต่อ ก่อนที่ฉันจะรีบยกเหล้าใส่ปากอีกครั้ง
"อ่าส์"
ฉันทำหน้ายี๋จนไอ้ผู้ชายที่นั่งข้างฉันหัวเราะออกมา ท่าทางหัวเราะของเขาดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่หน้าตายังเด็กอยู่แท้ๆ
"เอาจริง เนมกินเหล้าไม่เป็นเหรอ ไม่เห็นเหมือนคนอื่นที่มาเที่ยวเลย แสดงว่าเพิ่งเคยเที่ยวล่ะสิ"
ฉันยิ้มออกมาตามมารยาท และพยักหน้ารับเพื่อบอกเขา "อื้ม ใช่ แล้วทันอายุเท่าไหร่เหรอ เห็นหน้าตายังดูเด็กอยู่เลย? "
" 23 ครับ ส่วนเนมอายุเท่าไหร่เหรอ? "
ฉันรีบกลืนน้ำลายลงคออย่างรวดเร็วก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าบาร์ เพราะไม่อยากบอกอายุกับเขา ก็ฉันแก่กว่าเขาตั้ง 3 ปีฉันก็อายเป็นเรื่องธรรมดา
"เท่าไหร่? "
"ยี่.. ยะ..26"
เจ้าเด็กนี่ไม่มีท่าทีตกใจอะไร นอกจากถือแก้วเหล้ามาชนแก้วกับฉัน
"งั้นยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พี่เนม"
"อะ......อื้ม"
โอ๊ย! ตายแล้วดูแก่แท้ แต่ก็ช่างเถอะก็เราแก่จริงๆ นิ จะให้เขาเรียกแค่ชื่อมันก็ดูไม่ดี
และแล้ว ฉันกับไอ้เด็กนี่ก็นั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เวลาล่วงเลยไปนาน จนภาพนั้นตัดไปตอนไหนก็ไม่รู้ มีเพียงความรู้สึกมึนเมา และร่างกายที่อ่อนแรง ก่อนที่เสียงมือถือของฉันจะดังขึ้น
กริ่ง กริ่ง กริ่ง! ฉันน่ะอยากจะรีบรับสายนะ แต่มือมันไม่มีแรง จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงของอี่แบมมาเรียก
"อี่เนม...อี่นะ....เนม"
เสียงอี่แบมตอนเรียกชื่อฉันหยุดชะงักไป เหมือนกับว่ามันกำลังกลัวใครบางคนอยู่ จากนั้นก็เงียบไป ฉันล่ะอยากจะเรียกชื่อมันกลับอะนะแต่ติดทีว่ามันไม่มีแรงเรียกแล้ว
ดื่มเหล้าเวลาเมามันเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย มันเหมือนโลกหมุน และสติเรือนรางในเวลาเดียวกัน มันเหมือนจะลอย ตัวมันดูเบา
จากนั้นเสียงเรียกพร้อมกับมืออุ่นที่สัมผัสบนใบหน้าฉันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเพื่อเรียกสติฉัน
"พี่เนม ....พี่เนมครับ ให้ผมไปส่งพี่ที่บ้านไหม? "
ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองถูกพยุงและถูกอุ้ม แต่โลกมันหมุนเร็วจัง แล้วหลังจากนั้นทุกอย่าง ก็มืดลงอีกครั้ง เหลือไว้เพียงแค่ความมืด และกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งฉันก็อยู่บนเตียงในห้องมืดสลัว
และกลิ่นห้องที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับมีอะไรใหญ่ๆ แข็งๆ กำลังสอดใส่อยู่ตรงช่วงล่างของฉันอยู่ นี่ฉันคงฝันอยู่ใช่ไหมงั้นก็ดี ฝันแบบนี้แหละฉันจะได้รู้สึกดี
"อ้าส์ .....ซี๊ด!"
"เจ็บเหรอ นี่เคยผ่านผู้ชายมากี่คนเนี่ยทำไมแน่นจัง"
ชายหนุ่ม ที่มีม่านเป็นความมืดบังไว้อยู่กำลังมีอะไรกับฉันอย่างอ่อนโยน แต่ในวินาทีนั้นฉันกลับเห็นเขาเป็นแฟนเก่าของตัวเองและได้เอ่ยชื่อนั้นออกมา
"นที"
ชายหนุ่มคนนั้นหยุดชะงักลง ก่อนที่ฉันจะดึงเขาเข้ามากอด "เรามี นทีแค่คนเดียว จะไปมีอะไรกับใครได้อย่างไง เราไม่เคยนอกใจนทีเลยด้วยซ้ำ"
ฉันกอดผู้ชายคนนั้นอย่างอ่อนโยน พลางร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
"เคยผ่านมาแค่คนเดียวเองเหรอ มิน่ามันถึงได้แน่นขนาดนี้ แถมพี่ยังกินเหล้าไม่เป็นอีก เป็นเด็กดีจังนะ"
ของแข็งนั้นเริ่มขยับเข้าออกอีกครั้ง แต่ฉันรู้สึกว่ามันจะแน่นกว่าปกติและเจ็บมากๆ ด้วยเหมือนกับว่าสิ่งนั้นมันใหญ่เกินไปจนทำให้ตรงนั้นของฉันมันฉีกขาด
เพราะตอนฉันมีอะไรกับนที ของนทีไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เพราะถุงยางที่นทีซื้อ มันแค่ 49 แต่ทำไมตอนนี้มันรู้สึกแปลกๆ
ถึงอย่างนั่นก็ช่างเถอะ เพราะนี้คือความฝันนิ ตอนนี้ฉันอยู่ในความฝัน ฝันว่านทีกลับมาหาฉันแล้ว และกำลังนอนกับฉัน นทีแค่ไปทำงานเขาไม่ได้มาหาฉันนานแล้ว มันเลยดูแน่นกว่าปกติ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments