You Are My Glory
[ท่านชายเเฉข่าว มีข่าวจะบอกพวกคุณ ตอน ม.ปลายฉันเรียนอยู่โรงเรียน Y เมือง X เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับดาราหญิงที่ดังมากคนหนึ่งในตอนนี้ เดาได้ง่ายมากเลยใช่มั้ยว่าใคร ความจริงตอนเธออยู่ ม.ปลายหน้าตาไม่ได้เลยสักนิด ก็ได้ จะบอกว่าไม่สวยเลยก็ไม่ได้ แต่ก็ห่างใกลจากตอนนี้มากๆๆ น่าจะไปศัลยกรรมมามั้ง สรุปคือ ดาวโรงเรียน ดาวห้องนั้นไม่ใช่เธอหรอก เป็นสาวสวยเรียนเก่งอีกคน ดาราหญิงคนนั้นชื่อย่อว่า Q แล้วกัน ขี้อวดมาก วันๆทำตัวเหมือนลูกผู้ดีมีเงิน ตอนหลังพึ่งมารู้ว่าพ่อเป็นช่างประปา ทุกคนในห้องหัวเราะกันฟันร่วง พวกผู้หญิงในห้องแทบไม่ชอบหน้าเธอทั้งนั้น ห้องของพวกเรามีเด็กเทพอยู่คนหนึ่ง ห้องเราเป็นห้องคิงของโรงเรียน (ส่วน Q ได้ยินว่าเธอจ่ายเงินเข้ามาคะเเนนกากมาก) เด็กเทพห้องเราแน่นอนว่าเป็นที่หนึ่งของโรงเรียน เขาคือคนดังของโรงเรียน ไม่ว่าการแข่งขันอะไรก็กวาดที่หนึ่งหมด แถมยังหล่อมากด้วย ไม่ว่าบาสเกตบอล ฟุตบอล ก็เล่นดีมาก ก็เหมือนพวกพระเอกในซีรี่ไอดอลที่นิยมกันในสมัยนี้แหละ แต่ฉันยังว่าพวกนักเเสดงชายที่เอามาแสดงในทีวีไม่มีใครสู้เขาได้สักคน นักแสดงน่ะ ความรู้ความสามารถไม่ได้เรื่องหรอก แต่บุคลิกก็ห่างกันหลายช่วงถนนแล้ว จะเทียบของจริงได้ยังไง Q ไปสารภาพรักกับเขา ที่อนาถกว่านั้นคือถูกคนเห็น ผลเหรอ ฮ่าๆๆ ถูกปฎิเสธไม่ไว้หน้า บอกว่าเขาเลือกคนดูที่ไอคิวด้วย เด็กเทพกับคนสวยเรียนเก่งนั่นตอนหลังสอบติดชิงหวาทั้งคู่ เป็นแฟนกันไปแล้ว นี่สินะคู่รักฟ้าประทาน Q ตอนนี้ดังมาก ไม่รู้ว่าดังยังไง เหอะๆ เพราะดูยังไงก็ไม่เห็นมีความสามารถอะไร ไม่รู้ว่าท่านชายเเฉข่าวจะกล้าแฉข่าวนี้รึเปล่า]
เฉียวจิงจิงสวมชุดราตรีเข้าร่วมงานประกาศรางวัลงานหนึ่ง พอจบงานพึ่ง
ก้าวขึ้นรถตู้ก็ถูกผู้จัดการโยน "แฉข่าว" ใส่เต็มหน้า
" เอาไปดูซะ เพื่อนสมัยเรียนของเธอเอาเธอมาแฉว่าตอน ม.ปลายเฉียวจิงจิงไล่จีบหนุ่มแล้วหน้าแตกต่อหน้าสาธารญชน...ฉันขอถามเธอหน่อย จิงจิงทำไมแม้เเต่เพื่อนสมัย ม.ปลายของเธอก็ยังแฉเธอด้วย "
เฉียวจิงจิงเอาถ้วยรางวัลยัดใส่มือผู้ช่วยที่ตามขึ้นรถมาติดๆ สบัดรองเท้าส้นสูงทิ้ง คว้ามือถือแล้วนั่งจ่อมอยู่ในที่นั่งประจำของตัวเอง ก้มหน้ากวาดตาอ่านไปได้แค่สามประโยคก็ปิดหน้าต่างโพสต์อย่างหมดอารมณ์ เปลี่ยนไปค้นหาความคิดเห็นบนเวยปั๋วที่มีต่อเสื้อผ้าหน้าผมให้เธอวันนี้แทน
เห็นครั้งนี้บัญชีผู้ใช้ของพวกการตลาดเจ้าหลักๆ โดยรวมยอมรับและชื่นชมในตัวเธอ พวกแฟนครับยิ่งชมเธอสวยเหมือนนางฟ้า เฉียวจิงจิงจึงสบายใจ อารมณ์เปลี่ยนดีขึ้นทันตา
ไม่เสียเเรงที่ฉันอุสาห์กัดฟันซ้อมอยู่ในโรงยิมตั้งสามเดือน!
ช่วงครึ่งปีแรกเธอถ่ายหนังที่ต้องมีฉากเกี่ยวกับอาหาร พอกินอาหารที่ใช้ประกอบในฉากเยอะเกินไป ก็เลยอ้วนขึ้นตั้งเกือบสองกิโลกรัม ถึงกับถูกแฟชั่นบล็อกเกอร์ปากร้ายคนหนึ่งบอกว่าเธออ้วนจนจอระเบิด บล็อคเกอร์คนนั้นแน่นอนว่าถูกแฟนคลับของเธอรุมด่าเละตุ้มเป๊ะ ขณะที่เฉียวจิงจิงก็ถอดวิณญาณครึ่งหนึ่งลงไปทัวร์บล็อกเกอร์ด้วยอีกคน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งโพสต์ลงเวยปั๋วว่าตัวเองฟิตหุ่นลดนํ้าหนัก
"ผ่านไปอีกสักพักก็ลงรูปออกกำลังกายนะ" เหงื่อจะเสียไปเปล่าๆ ไม่ได้ หุ่นฟิตมาเปล่าๆ ไม่ได้ ของมันต้องโชว์
"ได้ ข่าวแฉนั่นเธอเห็นรึยัง" พี่หลิงชะโงกหน้ามาจากเบาะหลัง สีหน้าอยากเมาทฺเต็มที่
เฉียวจิงจิงมไองบนใส่ทีหนึ่ง กลับมาอ่านเนื้อหาข่าวเเฉนั้นอีกรอบอ่านจบก็เลื่อนดูข้างล่าง ส่วนความคิดเห็นถูกแฟนครับเธอคุมหมดแล้ว
ต้าเฉียวคือโจวอวี่ของฉัน : [ถ้าเป็นความจริง งั้นก็ขอบคุณที่ช่วยบอกทุกคนว่าเฉียวของฉันเรียนอยู่ห้องคิงสมัย ม ปลาย
แถมอีกเรื่อง เฉียวของฉันผลสอบ 211 กาก? โม้ทั้งเพ] (10260 ถูกใจ)
เรือนต้าเฉียว : [นี่เป็นภาพที่เฉียวของฉันไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวงานแต่งงานเพื่อนสนิทสมัย ม. ปลายของเธอ เพื่อนเธอเป็นคนลงเวยปั๋วเองนะหาว่าเฉียวของฉันไม่มีเพื่อน เหอะๆ หัวเราะใส่หน้า] (รูปถ่าย.jpg) (9765 ถูกใจ)
ทัพต้าเฉียว : [จขพ. เกลียดไอดอลฉันแทบดิ้นตายขนาดนี้ แต่กลับไม่มีข่าวฉาวให้แฉ ไอดอลฉันเป็นเด็กดีจริงๆ] (8876 ถูกใจ)
ต้นหญ้าน้อย : [เข้ามาดูเรื่องสนุก +1 แต่กลับกลายเป็นว่าไอดอลบ้านฉันกลับโดนดึงมาเอี่ยวด้วย จขพ ดาดชราเขาไปกินข้าวบ้านคุญเหรอ ถึงได้มานั่งพรามเรื่องไร้สาระอยู่นั่น อย่างคุณมีวัฒนธรรม มีการศึกษา เคยเรียนหนังสือ?] (5870 ถูกใจ)
พี่หลินยังคอยืดคอยาว เอามือพลักจิงจิง "ที่เขาว่าเป็นความจริงรึเปล่า? "
" มีจริง ไม่จริง "
คราวนี้คนในรถพากันหูตั้ง
" ไม่จริงที่บอกว่าเมื่อก่อนฉันไม่สวย ฉันสวยไม่มีที่ติแบบนี้มาตลอด อีกเรื่องคืออีกฝ่ายไม่ได้ปฏิเสธรุนเเรงแบบนั้น เขาสุภาพมาก ''
พี่หลิงตกใจ " เธอเคยสารภาพรักแล้วถูกปฎิเสธ? "
" แน่นอน ผู้ชายคนนั้นหล่อมากจริงๆ " เฉียวจิงจิงย้อนนึกถึงชีวิตสมัยวัยรุ่นสามนาที " นี่ไอดีเล็กของพี่ใช่มั้ย "
" ใช่ แล้วสาวสวยเรียนเก่งคนนั้นสวยกว่าเธอจริงเหรอ "
พี่หลิงคิดไปคิดมาก็รู้สึกไม่สมเหตุผล ไม่ใช่เธอเข้าข้างศิลปิลของตัวเอง แต่รูปร่างหน้าตาอย่างเฉียวจิงจิงถือว่าเป็นระดับท็อปในหมู่ดาราหญิงด้วยกันในวงการ ตั่งแต่หัวจดเท้าหาจุดบอดไม่ได้เลย...
คนเฟอเฟ็กต์ขนาดนี้ในชั้นเรียนของพวกเธอมีถึงสองคน!
" ไม่มีทางอยู่แล้ว! '' พี่หลิงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จ้องตาไม่กระพริบ บังเอิญเห็นความคิดเห็นที่เฉียวจิงจิงส่งออกไป...
[ความขี้อิจฉาทะลุมิติแบบนี้! ขอให้เธออย่าโกธรจนเป็นบ้า]
ผู้ช่วยเสี่ยวจูขำพรืด พี่หลิงทำหน้าเอือม " เรื่องเป็นการเป็นงานไม่ทำ รีบโพสต์เวยปั๋วขอบคุณทุกคนเร็ว "
" ตอนที่เพิ่งออกมาก็โพสต์ไปแล้ว พี่ไม่เห็นเห็นเหรอ "
พี่หลิงเถียงต่อไม่ออก ไม่กล้าพูดว่ามัวเเต่ไม่สนใจข่าวกอสซิป เลยไม่ทันได้สังเกตความเคลื่อนไหวของศิลปิลตัวเอง รีบหยิบมือถืออีกเครื่องขึ้นมากดเข้าเวยปั๋วของสตูวิดิโอ แล้วกดรีโพสต์ต่อ ปากยังบ่นพึมพัมอย่างไม่วางใจ
" ไม่ให้ฉันดูโพสต์ก่อนก็โพสต์ไปแล้ว "
เฉียวจิงจิงขี้เกียจจะสนใจเธอ ถ่ายสกรีนช็อตหน้าโพสต์ข่าวแฉมาไว้ในมือถือตัวเอง จากนั้นก็ส่งต่อไปให้เพ่ยเพ่ย เพื่อนที่นั่งติดกันสมัยมัธยมปลายปีสามของเธอ
เพ่ยเพ่ยเห็นเธอโผล่มา ก็ส่งเครื่องหมายตกใจมาเป็นชุดก่อนเลย...
เพ่ยเพ่ย : [!!! จิงจิง ดาราหญิงยอดนิยมประจำปี! ฉันเพิ่งเห็นในทีวีเมื่อกี้ ยินดีด้วยนะ!]
จิงจิง : [เธอดูภาพที่ฉันส่งไปให้สิ]
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง
เพ่ยเพ่ย : [!!! นังเพศยสหน้าไหนมาพูดจาเหลวไหลเนี่ย! เธอหน้าตาดีเเบบนี้มาตลอดเลยชัดๆ!]
เพื่อนซี้รู้จักประเด็นขนาดนี้ เฉียวจิงจิงปลื้มมาก
เพ่ยเพ่ย : [อย่างมากก็แค่เฉิ่มไปหน่อย]
จิงจิง : ...
เพ่ยเพ่ย : [แต่ว่าตอนนี้ก็มีเสื้อผ้าหน้าผมแบบเดียวกับเฉียวจิงจิงเต็มเมืองไปหมด!]
เฉียวจิงจิงขี้เกียจสนใจเธอ
จิงจิง : [เธอว่าคนที่แฉข่าวเป็นใคร]
เพ่ยเพ่ย : [ไม่รู้สิ ก่อนหน้านี้ในกลุ่ม ม. ปลายมีถกเถียงเรื่องเธอกันอยู่เยอะ ละครฮิตเกินไป และเธอดังเกินไปนี่น่า คงมีคนตาร้อนจนทนไม่ไหวล่ะมั้ง]
เฉียวจิงจิงไม่คาดหวังว่าเพ่ยเพ่ยจะเดาคนที่แฉข่าวได้ หลังจากคุยเรื่องนี้กันไม่เท่าไร่ก็โยนออกจากหัวสมองไป
ตอนที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถเร็จ เตรียมพร้อมพักผ่อน เพ่ยเพ่ยก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง
เพ่ยเพ่ย : [จริงสิ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินหลี่หมิงบอกว่า อวี๋ถูกับซย่าฉิงเลิกกันเมื่อหลายปีก่อนตอนอยู่ปีสี่ คบกันแค่ปีเดียวเอง เธอจำหลี่หมิงได้มั้ย บ้านเขาอวี๋ถูอยู่ชุมชนเดียวกัน พ่อแม่รู้จักกัน ได้ยินว่าตอนนี้อวี๋ถูก็อยู่ซ่างไห่เหมือนกัน]
เฉียวจิงจิงเลิกคิ้ว มองชื่อบนมือถือที่ไม่ได้เจอมานาน
เลิกกันแล้วเหรอ ตอนฉันอยู่มหาวิทยาลัยที่เมืองอื่นก็ได้ยินข่าวว่าพวกเขาคบกัน แต่ว่า...
ช่างเถอะ!
อดีตน่าอนาถนั่นอย่าไปนึกถึงมันดีกว่า
เพ่ยเพ่ย : [ฮี่ๆ เธอว่าอวี๋ถูนึกคิดถึงเธอแล้วนึกเสียใจมั้ย]
จิงจิง : [อย่ามาไร้สาระ]
รถตู้นั้นขับมาอย่างมั่นคงบนทางยกระดับเหนือใต้ เฉียวจิงจิงที่ไม่ไร้สาระแม้แต่น้อยเปิดหน้าต่างรถรับลมอ่อนๆ จินตนาการอย่างสุขใจถึงท่าทางเสียใจของอวี๋ถู
เธอนึกถึงครั้งนั้นที่สารภาพรักกับเขาตอนอยู่มัธยมปลายปีสอง ที่แรกเขาก็แค่บอกว่าขอโทษ แต่เธอยืนกรานเเละเซ้าซี้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมอยากจะรู้เหตุผลให้ได้ เธอจำได้เจาตอบว่า " ขอโทษนะ ฉันอยากหาคนที่ขยันไปด้วยกันกับฉัน "
ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเธอไม่มีทางเป็นคนที่พยายามฝ่าฟันไปด้วยกันกับเขาได้ แต่สุดท้ายคนที่เขาคบด้วยไม่ใช่คนที่พยายามกับเขาจนถึงที่สุดสักหน่อย
เฉียวจิงจิงรู้สึกสะใจนิดๆ แต่ในใจกับรู้สึกเสียดายและข่มขื่นหน่อยๆ
…อารมณ์สาวน้อยของฉันคงอยู่นานเกินไป
ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่
แต่ว่า…
เธอมองออกไปยังท้องถนนที่วิ่งผ่านไปนอกหน้าต่างรถ เห็นทิวทัศน์ในเมืองเจริญเต็มสายตา ขนาดที่เธอเป็นส่วนหนึ่งที่รุ่งโรจน์ที่สุดในโลกที่เจริญแห่งนี้
เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางคิด ไม่ว่าเขาทำอะไรอยู่ จะต้องถูกเหวี่ยงกระเด็นไปไกลจนตามไม่ติดแน่ๆ
" จะสามทุ่มแล้ว วันนี้ก็พักที่ซ่างไห่เถอะ " พี่หลิ'พูด " พรุ่งนี้ออกเดินทาง ตอนบ่ายถึงกองถ่าย ฉันจะให้กองสลับฉากที่เธอต้องถ่ายไปเก็บไปเก็บไว้ช่วงบ่าย "
เฉียวจิงจิงได้สติกลับมา " ไม่ได้พรุ่งนี้มีตั้งสิบฉาก ไปกองถ่ายตอนนี้เลย ฉันหลับบนรถได้ พี่ให้คนขับขับนิ่มๆ หน่อยก็พอ ฉัน… "
" หยุดเลย! " พี่หลิงขัดเธออย่างรู้ทัน
ตั้งแต่ผู้กำกับชมว่าเฉียวจิงจิงขยันทุ่มเท สร้างภาพลักษณ์นักแสดงมืออาชีพให้เธอ เฉียยจิงจิงก็กลายเป็นนักเเสดงหญิงที่แบก ‘ความเป็นมืออาชีพ’ ไว้บนหลัง สโลแกนของชีวิตเธอคือ…
" ฉันจะเสียภาพลักษณ์นักแสดงมืออาชีพไม่ได้ " เฉียวจิงจิงยืนกรานพูดสโลแกนจนจบ
" รู้แล้วๆ รีบนอนซะ " พี่หลิงยกธงขาวอย่างจนใจ สุดท้ายก็หันไปบอกคนขับว่าไปกองถ่ายเลย
เฉียวจิงจิงปรับเก้าอี้เอราบเพื่อให้นอนหลับ หลายปีมานี้เดินทางไปทั่วทุกที่
จนฝึกความสามารถในการนอนหลับสนิทบนยานพาหนะทุกชนิดได้ แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรถึงนอนไม่ค่อยหลับ ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ จะหลับมิหลับแหล่เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในห้องเรียนห้องหนึ่ง ในฝันนั้น ไม่นานเธอก็นึกออกว่านี่คือห้องเรียนสมัยมัธยมปลาย เพียงกระพริบตาเธอก็เห็นตัวเองกำลังทำข้อสอบ พอดูคำถามกลับเป็นสตอเบอร์รี่ลูกหนึ่งมีกี่เเคลอรี
คำถามนี่ยากเกินไป ต่อให้เป็นเด็กเทพคงทำไม่ได้ เฉียวจิงจิงซึ่งตอบไม่ได้ตกอยู่ในสภาวะกลัวสอบตก เวลานี้เอง อยู่ๆ ห้องเรียนก็สั่นอย่างแรง มีเสียงใครคนหนึ่งกำลังร้องตะโกน
" เธอเล่นเกมออฟคิงกลอรีเหรอ "
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
≧﹏≦ (〃∀〃)ゞ
รเพกถคกรเ
2022-03-15
4