บทที่ 3 ค่ายอสูรคลั่ง
หลังจากออกมาจากกำแพงเขต 9 ห่างมากว่า 15 กิโลเมตร ที่นี่มีค่ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่มีรอยโจมตีมากมายและรวมถึงกลิ่นที่เหม็นเน่าจากศพอสูรในป่า
เย่เทียน มองเหล่าคนในหน่วยปกป้อยชายแดนที่ต่างพากันนั่งกินเนื้ออสูรพร้อมพูดคุยกันราวกับว่าไม่ได้พูดคุยกันมานาน
ชายชราที่นั่งข้างเย่เทียนถึงกับกลืนน้ำลายกับสถานที่ที่ตนเองเห็นมันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้ว่าจะมีรถถัง อาวุธล้อมรอบมากมาย แต่ความจริงก็คือมีแต่มนุษย์เท่านั้น
หลิวตงมองเหล่าผู้มาใหม่ด้วยแววตาเยาะเย้ย เพราะทุกรอบทุกคนต่างมีอาการแบบนี้ เย่เทียนเองก็ทำเพียงแค่ถอนหายใจสำหรับเขามันแย่มากแต่เพื่อภารกิจถือว่าลดความกลัวได้
“ เอาหละทุกคนลงจากรถ และนำสัมภาระไปไว้ในค่ายก่อน วันนี้พวกแกทุกคนต้องทำความเข้าใจกฎของค่ายนี้ หลังจากนั้นเราจะแบ่งให้พวกแกติดตามไปหน่วยต่างๆ “ หลิวตงประกาศอย่างจริงจัง
เหล่าหน่วยปกป้องชายแดนต่างพากันเดินมาดูผู้มาใหม่ด้วยแววตาสนอกสนใจพวกเขาไม่ดูถูกเพราะพวกที่กล้ามาที่นี่นั้นคือพวกที่ยอมทิ้งชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตเหมือนกัน
เย่เทียนนำกระเป๋าไปเก็บตามคนอื่นๆ เขาได้เห็นข้างในอาคารมีเตียงนอนรวมกว่าร้อยเตียง ซึ่งบางเตียงอาจเป็นเตียงคนตายร้อยศพตามที่คนอื่นๆเล่ากัน
ในขณะที่เขากำลังจะออกไปที่จุดนัดรวมตัว เขาเห็นชายร่างใหญ่ผิวแทนเดินเข้ามาในมือถือขวานที่ถูกทำมาจากเขี้ยวหมูป่ายักษ์ เขามองคนมาใหม่ก่อนจะไม่สนใจแล้วหาเตียงตัวเองและนอนลง
คนอื่นๆรวมเย่เทียนงุนงงกับชายคนนี้
ด้านนอกจุดนัดรวมตัว นายพลตงหลิวกำลังฟังรายงานหน่วยล่าสุดที่ออกปฎิบัติงาน 50 คน บาดเจ็บ 29 ตาย 7 นั่นทำให้ใบหน้าของนายพลหลิวตงแย่กว่าเดิม
“ เดือนนี้ก็ตายรวม 349 ราย พิการ 211 ราย เฮ้อคนที่ยอมเสี่ยงมาเข้าหน่วยนี้นับวันยิ่งลดลง คิดไงบ้างหละ “ นายพลหลิวกล่าวถามชายอายุ 30 ที่เป็นผู้จัดการฐานแห่งนี้
“ เรื่องนี้ผมก็คิดแบบเดียวกันกับท่านเขามีฝีมือล้วนแต่แก่ลง ต่อให้พวกเขายืดชีวิตจาก เขตแดนที่พวกเขามีก็ตาม ตอนนี้คนที่มีเขตแดนเหนือมนุษย์มีแค่ 4 คน “
หลิวตงได้ยินเช่นนั้นนั้นเขาไม่ตอบกลับก่อนจะมองไปที่คนมาใหม่ที่รีบวิ่งมารวมตัวแต่สายตาเขามองไปที่เย่เทียนอย่างสนอกสนใจ
“ เอาหละที่ฉันจะบอกพวกแกที่มาใหม่ฟังให้ดี ในบรรดาทั้ง 10 เขต จะมีค่ายหน่วยปกป้องชายแดน 10 ค่ายในแต่ละค่ายจะมีชื่อ ที่นี่คือค่ายอสูรคลั่ง ความหมายก็ตรงตัวเพราะจุดที่เราอยู่อสูรต่างดาวมันทั้งดุและโหดเหี้ยมกว่าค่ายอื่นๆ “
ผู้มาใหม่ได้ยินพวกเขาถึงกับเหงื่อตก ส่วนผู้ที่อยู่มานานก็ทำเพียงเห็นใจ ส่วนเย่เทียนเขาไม่คิดสิ่งใดสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือทำภารกิจให้เสร็จ
นายพลที่กำลังจะกล่าวต่อจู่ๆก็ถูกขัด
“ เออท่านนายพลครับ ถ้าผมอยากจะถอนตัว “ ชายร่างท้วมจู่ๆก็ยกมือขึ้นทำให้ทุกคนในค่ายต่างจ้องมองมาที่ชายร่างท้วมคนนี้
นายพลตงหลิวที่ถูกขัดเขาเงียบพร้อมกับเดินตรงไปหาชายร่างท่วม ในขณะที่เดินผ่าน เขตแดนเหนือมนุษย์ขั้น 5 ถูกประทุออกมาจนเกิดออร่าราชสีห์ยักษ์ มือของเขาคว้าไปที่คอเสื้อชายร่างท่วมก่อนจะยกชายร่างท้วมด้วยแขนข้างเดียว
“ แกกำลังพูดอะไร พูดอีกครั้ง ! “
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ล้วนถอยห่าง เย่เทียนเองที่มีกายพระเจ้าเก้าหทัยเองก็เหมือนรับแรงกระตุ้นให้รีบหาอวตารมาใส่เพื่อยกระดับเขตแดนตนเอง ดูเหมือนกับว่ากายของเขานั้นไม่ชอบโดนพลังกระจ้อยร่อยพวกนี้ดูถูก
“ พูดอีกครั้ง ! “
เสียงตะโกนถามอีกรอบ จนเกิดคลื่นขนาดเล็กพัดฝุ่นใต้เท้าของเขากระจาย
“ ผมแค่อยากจะถามว่าถอนตัวได้ไหมแค่นั้นเองครับ “ ชายร่างท้วมตอบด้วยใบหน้าซีดเซียว กางเกงของเขาเปียกชื้น
นายพลหลิวตงปล่อยชายร่างท่วมลงกับพื้นแต่ชายร่างท่วมราวกับไม่มีแรงทำให้ล้มกระแทกพื้นอย่างแรงและสลบไป
“ นำตัวเจ้านี่ไปในอาคารพรุ่งนี้หาคนส่งมันกลับไป เอาคนเช่นนี้ไว้มีแต่เป็นภาระในค่ายเรา “
ชายร่างท้วมถูกหามออกไป คนอื่นๆรีบกลับมายืนประจำที่เหมือนเดิม เย่เทียนที่สัมผัสถึงความรุนแรงเมื่อกี้ก็ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของเขาถูกยกระดับมาอีกขั้น
“ เอาหละ ฉันจะไม่พูดพร่ำทำเพลง ค่ายนี้มีเหลืออยู่ 6 หน่วย ซึ่งทุกหน่วยล้วนแต่มีรุ่นพี่ของพวกแกที่ผ่านการต่อสู้มามากมาย ฉันจะให้พวกแกตัดสินใยเลือกที่จะไปอยู่กับหน่วยใดหน่วยหนึ่งใน 6 หน่วยนี้ จำไว้ว่า แกเลือกได้อีกฝ่ายก็ปฏิเสธได้เหมือนกันส่วนคนที่ไร้หน่วยก็ทำได้เพียงเป็นแกะติดตามหน่วยนั้นๆอย่างไม่มีใครสนใจเพราะแกต้องทำตัวมีคุณค่าก่อน “
หลิวตงกล่าวพร้อมกับเดินจากไปปล่อยให้ผู้มาใหม่นั้นต่างรีบกระจายตัวหาเหล่าผู้ที่อยู่มาก่อนในสถานะรุ่นพี่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
ชายชราที่เคยพูดคุยกับเย่เทียบตบไหล่เย่เทียนเบาๆ
“ เธอสนใจไปหน่วย 18 ด้วยกันกับฉันไหม ฉันมีคนรู้จักอยู่พวกเราจะได้ช่วยเหลือกัน “ ชายชราชักชวน
เย่เทียนครุ่นคิด เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าหน่วยที่ชายชราชวนให้ติดตามเป็นหน่วยย่อยแบบไหน จากนั้นเขาก็ตัดสินใจตอบ “ ผมขอดูหน่วยที่คุณว่าก่อน เดี๋ยวผมตัดสินใจหลังจากที่เห็น “
ชายชรายิ้ม “ ดีตามฉันมา หน่วยนี้มีแต่คนแก่ๆคนรู้จักฉันเป็นทหารผ่านศึกมาก่อนทำให้มีฝีมือพอตัวเชียวหละ “
เย่เทียนยิ้ม “ ดูเหมือนคุณจะหายกลัวแล้วนะ “
ชายชราหัวเราะ และเดินตรงไปเรื่อยๆจนมาถึงเต็นท์ที่ตั้งอยู่หลายที่ มีชายอายุ 40-60 ปี ต่างกำลังนั่งพูดคุยกันต่างๆนาๆ ก่อนที่ชายคนนึงในนั้นจะสังเกตเห็นชายชราข้างๆเย่เทียน
“ กงหนิ่ว ! นั่นกงหนิ่วนิ ! “ ชายชราฟันหมดปากตระโกนบอกคนอื่นๆ ทุกคนได้ยินชายฟันไม่มีพูดต่างหันไปมองที่กงหนิ่วกันยกใหญ่
“ อาจารย์กงหนิ่ว ! “ ชายคนนึงพุ่งตัวหน้ากระแทกพื้นและทำความเคารพอย่างซาบซึ้ง
เย่เทียนเองก็มองไปที่ เขตแดนทุกคน เขตแดนแต่ละคนอยู่ที่ เขตแดนเหนือมนุษย์ขั้น 1 จำนวน 1 คน และ อีก 6 คนอยู่ที่เขตแดนนักรบขั้น 9
“ ฮ่าๆไม่เจอกันนานเลยนะศิษย์ของฉัน ฮ่าๆ “
เย่เทียนก็ยังงุนงงกับชายชราคนนี้ที่ก่อนหน้านี้ทำทีท่าหวาดกลัวแต่ทำไมถึงได้ใจเย็นอย่างรวดเร็ว เขาคนนี้คือใครเย่เทียนเริ่มจะสงสัย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments