แสงอาทิตย์สาดส่อง กระทบลอนคลื่นทะเลในยามเช้า นกนางนาลโผบินและแผดเสียงร้อง บ่งบอกถึงวันอันสงบสุขของวังวารี ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกหนึ่งวัน เหล่านักรบผู้กล้าทั้งหก ที่ต้องออกเดินทางระเหเร่ร่อนจากวังวารีแห่งนี้อีกครั้ง แผ่นหลังที่เห็นอยู่ไกลๆ ผ่าแสงของอรุณรุ่งออกไปเบื้องหน้า ไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้เค้าจะได้พบเจอสิ่งใดบ้าง แต่ฉัน…เธียร์ ก็อยากให้พวกเค้ากลับมาอย่างปลอดภัย
อัลเลน "ไม่ต้องห่วงไปหรอกเธียร์ พวกเค้าจะปลอดภัย"
เธียร์ "อืม…"
ฟอร์คอนหันหลังกลับไปที่วังวารี พร้อมทั้งกระโดดโบกมือให้เธียร์ และคนที่ไม่ได้ร่วมเดินทางในครานี้ มายืนส่งที่ปลายสะพาน
ฟอร์คอน "เธียร์…บอกให้พวกเราระวังตัว"
เซริน "บอกท่านเธียร์ด้วยนะ ถ้าข้ากลับมาแล้ว จะมาดวลดื่มด้วย…55…"
อามีน "เดี๋ยวข้าทำเครื่องดื่มให้นะ"
ทุกคน "ไม่เอา!!"
ทุกคนหันมาเหล่อามีนกันเป็นตาเดียว แล้วรีบเดินหนีไปในทันที อามีนเดินตามไปหาใคร คนนั้นก็วิ่งออกห่างไม่ยอมให้อามีนน้อยเข้าใกล้
อามีน "เอ้า!!…ทำไมไม่มีใครอยากเดินกับข้าเลย ทุกคนรอข้าด้วยสิ!"
พวกฟอร์คอนเดินทางออกจากวังวารี มาได้หนึ่งวันแล้ว และตอนนี้ก็จวนจะพลบค่ำ จึงได้จัดแจงหาที่พักกันก่อนในคืนนี้ พวกเค้ายังคงไม่ต้องก่อกองไฟเช่นเดิม เพราะตัวพวกเค้ายังคงเรืองแสง เรืองรองจนสว่างไสว พอที่จะเห็นอะไรได้ชัดเจนในความมมืด
ฟริส "กลางคืนในป่านี่ มันหนาวและวังเวงจริงๆน้า"
เซริน "ใครกันเล่าที่ทำให้เรา ต้องมาตกระกำลำบากอย่างนี้"
ฟอร์คอน "ข้าไม่ได้ขอให้เจ้ามานะเซริน"
ฟอร์คอนหันหน้าไปต่อปากต่อคำกับเซรินอย่างไม่ลดละทันที
เซริน "ข้าเป็นห่วงลินหรอก"
เซรินก็หันหน้ากลับไปปะทะกับฟอร์คอนอย่างไม่มีเกรงกลัว พร้อมปะทะเสมอทางสายตา สายตาของทั้งสองคนจ้องเขม็งเขม่นใส่กันเริ่มฟาดฟันกันในใจ จนมาทีส่ายหัวเล็กๆ คิดที่จะหาทางจัดการสองคนนี้ให้เด็ดขาด ในการเดินทางที่มาทีต้องเป็นหันหน้าผู้รับผิดชอบครั้งนี้
มาที "อืม…หากเจ้าสองคนยังทะเลาะกันไม่เลิก ข้าจะสาปเจ้าเซริน…ให้เจ้าใช้การไม่ได้ตลอดชีวิต และสาปลินไม่ให้มีหัวใจรักใครได้อีกเลย ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูหน่อยไหม"
ฟริส "อุ๊…หึหึ"
เซริน "มันท่าจะเอาจริงนะ ฟอร์คอน"
ฟอร์คอน "แววตามันเลือดเย็นชะมัด เจ้าเป็นคู่ซี้กับมันไม่ใช่รึ"
เซริน "แต่คราวนี้มันเป็นหัวหน้า เถียงมันไม่ได้ เดี๋ยวโดนสาป"
ฟอร์คอน "งั้นเอาเป็นว่า เราสงบศึกชั่วคราวแล้วกัน"
เซริน "อืม…ตามนั้น"
ฟริส "เค้ากระซิบอะไรกันสองคน อย่าบอกน่าว่าทะเลาะกันแบบกระซิบนั่นหนะ"
อามีน "แต่ผมว่าเค้ากำลังตกลง ทำสัญญาอะไรกันอยู่นะครับ"
ลิน "เฮ้ย…ก็ยังดีกว่า มาโหวกเหวกโวยวาย"
มาที "ข้าสาปพวกมันให้เลยมั้ย…"
ฟริส "…55…ใจเย็นก่อนเถอะ"
ฟอร์คอน "หืม!!…มีคนเดินมาทางนี้"
ทุกคนต่างหาที่หลบกันโดยไว ไม่ต้องให้มีใครบอก ร่างตะคุ่มๆเรืองแสงอ่อนๆ เดินซัดโซเซเหมือนหมดแรงอ่อนล้า และร่างนั้นก็พลันล่วงหล่นลง ไปนอนกองแน่นิ่งบนพื้นในทันที
เซริน "อ้าว…มาทีเจ้าร่ายมนต์อะไรใช่เค้าหละ สลบเหมือดขนาดนี้"
มาที "ข้าเปล่าทำ"
ฟริส "เหมือนจะสลบไปเอง"
มาทีเช็ดหน้าเข็ดตา ให้เค้าผู้นี้ฟื้นขึ้นมาจนได้ ลินส่งน้ำให้เค้าดื่ม เค้าดื่มด้วยความกระหาย
อาเชียร์ "ขอบคุณพวกท่านมากครับ ข้าต้องขอตัวไปก่อน"
อาเชียร์เพียงแค่ขยับตัวลุกขึ้นได้ ก็รีบที่จะเดินทางไปต่อทันที ด้วยอาการรีบเร่ง อย่างไม่สนใจสภาพตัวเองเลย
มาที "เดี๋ยวก่อนเถิด หากท่านไปตอนนี้มีแต่จะเอาชีวิตไปทิ้ง ท่านควรพักผ่อนสักหน่อย"
อาเชียร์น้ำตาไหลเอ่อ เอามือกุมหน้าทรุดตัวลงกับพื้นทันที จนทุกคนตกใจในอากับท่าทางของอาเชียร์ จนไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกเลย
อาเชียร์ "ข้าต้องรีบไปช่วยเมียของข้า มันจับเมียข้าไป ฮือๆ…ข้าตามมันมาสามวันแล้วว ฮือออ!!…"
เสียงสะอื้นไห้เหมือนดั่งหัวใจจะขาดรอนๆ มันสะท้อนเข้าไปเขย่าใจทุกคนยิ่งนัก มาทีตัดสินใจเดินเข้าไปจับไหล่เค้าเบาๆ
มาที "ท่านจะไปที่ใดเล่า"
อาเชียร์ "เมืองทีเบียร์"
มาทีหันหน้ากลับมามองสมาชิกที่เหลือ ฟอร์คอนยิ้มให้ เซรินพยักหน้า สีหน้าทุกคนได้ตอบคำถามของมาทีหมดแล้ว โดยไม่ต้องพูดอะไร
มาที "อยากให้พวกเราช่วยหรือไม่"
อาเชียร์รีบหันกลับมาทั้งรอยน้ำตา ใบหน้าที่มีความหวังสูงสุด เข้าพุ่งเข้ามาจับมือมาทีอย่างรวดเร็ว
มาที "จะจริงหรือท่าน พวกท่านเป็นภูตรับจ้างสินะครับ ข้ามีค่าจ้างนะครับ"
มาที "เอ่อ…คือ…"
อาเชียร์มือสั่นงันงก รีบเอาห่อผ้าเล็กๆที่เหน็บไว้ที่เอว ออกมาด้วยมือที่สั่นเทาริกๆ เพราะอาการเหนื่อยล้า อาเชียร์เปิดห่อผ้าออก ปรากฏว่ามันคือนิลรัตติกาล อัญมณีเวทมนตร์ที่หายากของเผ่าคนแคระ ผู้ช่ำชองในการทำแหมืองแร่ มันเป็นอัญมณีที่สีดำสนิทเป็นมัน มันสามารถต้านเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งได้ในระดับหนึ่ง
อาเชียร์ "ข้ารู้ว่าผู้ที่ข้าจะไปหา มีเวทมนตร์ที่ไม่ธรรมดา ข้าเลยเอามันติดตัวมาด้วย ข้าใช้มันเป็นค่าจ้างได้ไหมครับ"
มาทียิ้มให้อาเชียร์อย่างอ่อนโยน และรับหินนั้นมาอย่างถนอม
มาที "ท่านได้ทำการว่าจ้างพวกเราเรียบร้อยแล้ว
อาเชียร์ "ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก…อือออ…นีน่าเจ้ารออีกเดี๋ยวนะข้าจะไปช่วยเจ้าแล้ว"
น้ำตาอาเชียร์ปริ่มเออออกมา ด้วยความคับแค้นใจจนสัมผัสได้ชัด มันจับใจคนที่ได้พบเห็น ถึงความทุกข์ใจของเค้าผู้นี้
มาที "เล่าให้พวกเราฟังก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราจะได้หาทางช่วย"
อาเชียร์เช็ดหน้าปาดป้ายน้ำตาออกไป รีบหันมานั่งคุยกับพวกมาทีทันที
อาเชียร์ "ข้าเป็นเอลฟ์เผ่าคนแคระ ชื่ออาเชียร์ เมื่อสามวันก่อน มังกรบินฟอร์คอนในตำนาน มันบินมาจับตัวเมียข้าไป"
ฟอร์คอน "ห๊า!!…"
ทุกคนหันไปมองที่ฟอร์คอนเป็นตาเดียวกัน แบบทำหน้าสงสัยเชิงรังเกียจ ฟอร์คอนหันไปมองหน้าลินส่ายหัวยึกๆ อึกอักๆ ลนลานไปหมด
ฟอร์คอน "จะ…เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นมังกรบินฟอร์คอน ไม่ผิดตัวแน่นะ"
อาเชียร์ "ไม่ผิดหรอกท่าน ใครๆก็รู้ว่ามันหลุดการการถูกจองจำแล้ว เค้าเล่าลือกันว่า มันถูกจองจำนาน มันเลยหื่นกระหายผู้หญิงมาก เที่ยวออกบินอาละวาดไล่จับผู้หญิงไปทั่ว…ฮือ ไอ้ชั่วฟอร์คอน"
ฟอร์คอนสะดุ้ง เหงื่อตกเม็ดน้อยเม็ดใหญ่ ที่โดนด่าซึ่งๆหน้า
มาที "รูปร่างมังกรฟอร์คอนเป็นยังไง เจ้าพอรู้ไหม"
อาเชียร์ "รู้ครับมันตัวสูงใหญ่กว่าพวกเราหลายเท่า ชอบร้องเพลงพร่ำรักเป็นประจำ มันมีเขาน่าเกลียดเหมือนเขาแพะ ตาโปนแดงก่ำ เห็นผู้หญิงตาก็จะบิดเบี้ยวผิดรูปร่าง"
เซริน "เป๊ะเลย…ฟอร์คอนในตำนาน"
ฟอร์คอน "ห๊าาา!!…"
ฟอร์คอนหน้ากระตุกๆ ใบหน้าเกรงเพราะกัดฟันอยู่กรอดๆ โมโหหน้าดำหน้าแดง เส้นเลือดปูดพองเลือดขึ้นหน้า
ฟอร์คอน "ไม่จ้างข้าก็จะไปแล้ว!!…ใครกันแอบอ้างชื่อข้า ชื่อเสียงข้าไม่เหลือชิ้นดีแล้ว ข้าจะฆ่ามันน!!…"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments