เพลิงเล่ห์​ฤดี​

เพลิงเล่ห์​ฤดี​

คฤหาสน์​

หากแม้ชีวิตจะสิ้นขอสู้จนนาทีสุดท้าย หากโชคชะตาจะทำร้าย ขอให้ความดีผลาญมันให้สิ้น

"​​​​​​คุณนพทำใจเถอะค่ะ เรายื้อไม่ได้อีกแล้วเราต้องปล่อยมันไป" กานดาผู้เป็นภรรยาของมานพกอดปลอบผู้เป็นสามีที่ต้องถูกฟ้องกลายเป็นบุคคล้มละลาย จากบุคคลที่มีความร่ำรวย เงินทอง กลับหายไปในชั่วพริบตา

"ผมขอโทษนะคุณ ต่อไปนี้พวกเราจะลำบาก ผมสงสารคุณและก็ลูก" มานพร่ำไห้กับความเสียใจที่สูญสิ้นทุกอย่างที่สร้างมากับมือ เหลือเพียงร่องรอยความทรงจำ และความเจ็บปวดที่กำลังจะแผ่เข้ามา

"เราจะผ่านช่วงวิกฤติ​นี้ไปด้วยกัน ขอแค่คุณเข้มแข็งและเราต้องสู้กันใหม่"

"บ้านเราก็ถูกยึด ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมต้องให้เจ้าม่านฟ้ามันไปอยู่กับเพื่อนของผม เพราะลูกของเราจะต้องมีอนาคต"

"แต่ลูกคือแก้วตาดวงใจของเรานะคุณนพ"

"แต่เราต้องทำเพื่อลูก เพื่อนผมแค่จะช่วยดูแลและส่งม่านฟ้าเรียนหนังสือ เมื่อผมกับคุณหาแนวทางกันได้แล้วลูกก็จะได้กลับมาอยู่กับเรา"

"ดาเข้าใจค่ะ งั้นเรากลับบ้านกันเลยนะคะจะได้ไปบอกลูกด้วยว่าลูกต้องแยกอยู่กับเรา"

บ้านธรรมกุลศิริโชติ

"ม่านฟ้าลูก พ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยด้วย" สีหน้าของผู้เป็นมารดาและบิดาวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย

"ค่ะ คุณพ่อคุณแม่" ม่านฟ้าตรงเข้ามานั่งข้างๆทั้งสอง

"พ่อกับแม่มีเรื่องจะบอกลูก" มานพผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

"เรื่องอะไรหรอคะ" ม่านฟ้ายังไม่รู้ชะตาชีวิตเธอพูดไปพลางอมยิ้มให้ผู้มีพระคุณ

"ธุรกิจของพ่อล้มละลาย และเรากำลังจะไม่มีที่อยู่อาศัยตอนนี้พ่อกับแม่ก็ไม่เหลืออะไรเลย" น้ำเสียงของมานพฟังดูช่างน่าสลดยิ่งนัก

"ไม่เป็นไรนะคะคุณพ่อคุณแม่ ฟ้ายังไม่เรียนก็ได้ เดี๋ยวฟ้าไปช่วยพ่อกับแม่ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้ค่ะ" หญิงสาวอายุ 20 ปี กล่าวไปแบบนั้นหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตนคิดมันแทบจะเป็นไปไม่ได้

"ลูกทำอย่างนั้นไม่ได้ม่านฟ้า" ผู้เป็นมารดากล่าวคำห้ามความคิดของลูกสาว

"ทำไมละคะ ฟ้าก็แค่อยากจะช่วยพ่อกับแม่" หญิงสาวทำหน้าสลดเมื่อถูกมารดาปฏิเสธความต้องการของตน

"ลูกต้องไปอยู่บ้านของลุงเดชและอาฤดี" มานพผู้เป็นพ่อกล่าวคำเสริม หากแต่ว่าลูกสาวของตนก็ยังไม่เข้าใจ

"ทำไมละคะ พ่อกับแม่ก็ด้วยหรอคะ"

"ไม่จ้ะ พ่อกับแม่ต้องไปทำงานใช้หนี้ ระหว่างนี้ลูกต้องอยู่กับคุณลุงและคุณอา"

"ไม่นะคะคุณพ่อคุณแม่ ฟ้าอยากไปอยู่กับพ่อแม่" หล่อนร่ำไห้เพราะไม่เคยจากอ้อมกอดของบิดามารดา

"ลูกไม่ได้จะไปอยู่ถาวร พ่อกับแม่แค่ฝากลูกไว้หากวันใดพ่อกับแม่ใช้หนี้หมด ก็จะรับลูกมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง แต่ลูกยังต้องเรียนและเพื่อนของพ่อก็ยังเอ็นดูและจะดูแลลูกเป็นอย่างดี" มานพพูดปลอบใจลูกสาวของเขา

"ค่ะ ฟ้าเข้าใจคุณพ่อกับคุณแม่ ฟ้าจะตั้งใจเรียนให้จบอีกแค่2ปี หากฟ้าเรียนจบฟ้าจะได้ทำงานมาช่วยพ่อกับแม่ใช้หนี้นะคะ"

"ลูกต้องคิดอย่างนี้นะ อย่าเศร้าไปเลย ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะลูก เย็นนี้ลูกจะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของคุณลุง"

"ค่ะคุณพ่อ" หญิงสาวยิ้มให้ผู้บังเกิดเกล้า สองเท้ายำชัยไปที่ห้องเพื่อเก็บสัมภาระ

"เสร็จหรือยังลูก" กานดาผู้เป็นมารดาของม่านฟ้าเรียกลูกสาวที่อยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม

"ค่ะคุณแม่" ม่านฟ้าถือกระเป๋ามองดูรอบๆห้องนอน​ ห้องที่เธอนั้นเคยอยู่แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้วเพราะหล่อนกำลังที่จะจากบ้านหลังนี้ไป

"ไปกันเถอะลูก" กานดาจับมือลูกสาวไปยังรถยนตร์​ ขากำยำเหยียบคันเร่งไปยังที่หมาย​ หากทว่าม่านฟ้านั่งหันหน้ามองเส้นทางตลอดทั้งสาย​ ชวนให้นึกถึงภาพวันวานที่ยังตราตรึงในใจ

เมื่อมาถึงยังบ้านเศรษฐ​ีคนนึง​ มีคนมาคอยรอต้อนรับที่หน้าบ้าน​ ม่านฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวขาลงจากรถอย่างช้าๆ​ รอยยิ้มจางๆส่งมอบให้กับเจ้าของบ้านหลังนี้

"ม่านฟ้านี่คุณลุงเดช​ เพื่อนของพ่อที่ลูกจะมาอยู่​ด้วย ส่วนนี่คุณอาฤดี​ภรรยาของลุงเดช" 

"สวัสดีค่ะคุณลุงคุณอา" ม่านฟ้ายกมือพนมไหว้อย่างงาม​รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นให้กับคนตรงหน้า

"อยู่ที่นี่นะหนูม่านฟ้า​ ลุงกับอาฤดีจะดูแลหนูเองไม่ต้องเป็นห่วง" เดชณรงค์​เอ่ยกล่าวกับหญิงสาวผู้มาใหม่

"เดชฝากม่านฟ้าลูกเราด้วยนะ​"

"ไม่ต้องห่วงนพ​ เราจะดูแลลูกนายเอง​"

"อื้ม​ ไปก่อนนะ" มานพกล่าวลาแต่ก็ไม่วายหวนกลับไปกอดลูกสาว

"พ่อกับแม่ไปก่อนนะลูก​ ห้ามดื้อกับคุณลุงและคุณอานะ​ ไว้ทุกอย่างมันดีขึ้นพ่อจะมารับลูกไปอยู่เป็นครอบครัวอีกครั้ง ตั้งใจเรียนนะรู้ไหม"

"ค่ะ​คุณพ่อ"

"ไม่ต้องห่วงนะคะ​ เราจะดูแลลูกของคุณให้เหมือนคนในครอบครัว" ฤดีผู้เป็นภรรยาเจ้าของบ้านพูดเพื่อคลายความกังวลใจให้กับทุกคน

"ขอบคุณนะฤดี"

"ค่ะ" ฤดีกอดม่านฟ้าแล้วพาหล่อนเข้าไปภายในตัวบ้าน

"ป้านวลฝากเอากระเป๋าไปไว้ในห้องที่เพิ่งทำความสะอาดหน่อย" เสียงเล็กที่ฟังดูสุขุมเอ่ยขึ้น

"ได้ค่ะคุณหญิง" สาวรับใช้ข้างกายรับคำสั่งจัดแจงสัมภาระของผู้มาใหม่ให้เข้าที่ตามนายสั่ง

"ไปกันเถอะม่านฟ้า​ เดี๋ยวอาจะพาหนูไปห้องของหนู" ฤดียิ้มให้หญิงสาวและเดินนำเธอไปยังห้องนอนดังกล่าว

"เดี๋ยวฟ้าจัดของเองค่ะ​ ขอบคุณมากนะคะ" ม่านฟ้ากล่าวเสียงนุ่มนวลพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ

"ไปเถอะป้านวล​ ไปจัดเตรียมอาหารเย็นเถอะ​ ม่านฟ้าเพิ่งมาถึงเมื่อครู่คงจะเหนื่อยจะได้รับประทานอาหาร"

"ค่ะคุณหญิง" สาวใช้โค้งตัวลงและเดินผ่านหน้าของทั้งสองไปในทันที

"ม่านฟ้าไปอาบน้ำ​ เสร็จแล้วลงไปทานอาหารนะอาจะรอ"

"ค่ะ​ ขอบคุณนะคะที่เมตตาฟ้า"

"จ้ะ​ เป็นเด็กดีนะ" ฤดีปลอบประโลม​ลูมผมดำเงาของม่านฟ้าอย่างเอ็นดู

"ค่ะ" หญิงสาวจัดเตรียมของเครื่องใช้ให้เข้าที่ ​ผ้าขนหนูสีขาวถูกหยิบออกมาจากตู้​หล่อนพาดบ่าอย่างเคยตัว เธอเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำกิจธุระส่วนตัวให้เสร็จสับ​ เวลาผ่านไปชั่วขณะหญิงสาวก็อาบน้ำแต่งด้วยชุดนอนสุภาพ​เสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวสีขาวเช่นกัน​ สองเขายาวก้าวออกจากห้องสี่เหลี่ยมเพื่อไปร่วมรับประทานอาหาร

"มานั่งตรงนี้สิม่านฟ้า" ฤดีผายมือให้หล่อนมานั่งข้างกายของตน

"ม่านฟ้า​ นี่ลิษาเป็นหลานของอาเอง" ม่านฟ้ายิ้มให้ลิษาผู้ที่นั่งตรงข้ามกับเธอ

"สวัสดีค่ะคุณลิษา" ม่านฟ้ายกมือไหว้ผู้ที่มีอายุไร่เรี่ยกับตน

"ทานอาหารเถอะค่ะลิษาหิวแล้ว" การกระทำของลิษาทำเอาม่านฟ้าหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย​ราวกับถูกหักหน้า เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพื่อข่มอารมณ์​นอยเมื่อครู่

"ไม่ทานหรอม่านฟ้า" ฤดีมองหญิงสาวที่นั่งข้างๆตน หล่อนนิ่งไปชั่วขณะ

"ค.. คะ" ม่านฟ้ามองอาฤดีด้วยแววตาที่มีความกังวลและประหม่าอยู่เล็กน้อย

"ทานนี่หน่อยนะ​ คงจะเดินทางมาเหนื่อยๆรีบทานจะได้รีบขึ้นไปพักผ่อน"

"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้ายิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะลงมือรับประทานอาหาร​ แต่ทว่าไม่วายมีคนมาก่อกวน

"ใครกันหรอคะคุณอา" ลิษาหันไปถามเดชณรงค์ผู้มีศักดิ์เป็นอาของเธอ ลิษามีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก

"เป็นลูกของเพื่อนอาเอง​ เขามาอยู่เพราะว่าธุรกิจล้มละลายเป็นหนี้​ อาเลยอาสารับม่านฟ้าเข้ามาดูแลระหว่างที่พ่อกับแม่ของม่านฟ้าหาเงินมาใช้หนี้"

"อ่อ​ ที่ก็ผู้ดีตกกระป๋องนี่เอง" คำพูดของลิษาทำเอาทุกคนในโต๊ะอาหารถึงกับไม่พอใจ

"ลิษา​ ทำไมไปพูดกับม่านฟ้าอย่างนั้นล่ะหลานรัก​ ม่านฟ้าอายุมากกว่าเราด้วยนะมีศักดิ์เป็นพี่"

"ไม่ค่ะ​ ลิษาไม่รับมันเป็นพี่ใครที่ไหนก็ไม่รู้​ มันจะมาแย่งความรักของคุณอากับคุณน้าใช่ไหมคะ" ลิษาพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองใจแววตาเจ้าแค้นหันไปมองม่านฟ้าราวกับจะกินคนตรงหน้า

"ใครจะแย่งอาไปจากหลานได้ล่ะ​ ไม่คิดแบบนี้สิลิษา​ขอโทษพี่เขาก่อนเร็ว"

"ไม่ค่ะ​ ลิษาไม่ขอโทษ" ลิษายังทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมลดหย่อนมองม่านฟ้าด้วยสีหน้าไม่พอใจยิ่งทำให้ม่านฟ้ารู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ตรงนี้

"ฟ้าอิ่มแล้ว​ ขอตัวก่อนนะคะ" ม่านฟ้าที่กำลังจะก้าวขาลุกออกจากเก้าอี้ แต่ก็ต้องหยุดการกระทำนั้นไว้เมื่อมีใครบางคนพูดแทรกขึ้นมา

"เสียมารยาท​ เคยเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล​มาก่อนไม่รู้หรอว่ามันไม่สมควรที่ลุกจากโต๊ะอาหารก่อนผู้ใหญ่" ม่านฟ้าได้ยินดังนั้นจึงหันไปกล่าวคำขอโทษเดชณรงค์และฤดีโดยทันที

"ขอโทษค่ะคุณลุง​ คุณอา" ม่านฟ้ายกมือขึ้นไหว้อย่างรู้สึกผิด

"ไม่เป็นไรหรอกลูก​ ไปเถอะ" เดชณรงค์รู้ว่าภายในจิตใจของม่านฟ้าตอนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก 

"ไป เดี๋ยวอาไปส่ง" ฤดียืนขึ้นหันไปสบตากับม่านฟ้าเพื่อให้เธอนั้นเดินตามมา​ เมื่อมาถึงยังห้องสี่เหลี่ยม ม่านฟ้าก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่กล่าวอะไรสักคำ

"อาขอโทษแทนลิษาด้วยนะ"

" ไม่เป็นไรค่ะ​ ฟ้าเข้าใจ" หญิงสาวยิ้มให้คนตรงหน้าเพราะกลัวว่าฤดีจะกังวล

"เราคงคิดถึงบ้าน​ คิดถึงพ่อกับแม่ใช่ไหม​ แถมเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้รับคำพูดที่มันไม่ค่อยจะดี"

"ฟ้าต้องยอมรับค่ะ​ เพราะฟ้าไม่ใช่คุณหนูอีกต่อไป​ ฟ้าเป็นแค่ผู้ที่มาอาศัยก็เท่านั้น"

"ไม่คิดแบบนี้สิม่านฟ้า" ฤดีกอดปลอบหญิงสาวที่ในใจขุ่นมัวเศร้าหมองอยู่​ ณ​ ขณะนี้

"ทำไมชีวิตฟ้าต้องมาเจออะไรแบบนี้คะคุณอา​จากที่บ้านรวย​มีธุระกิจ​ แต่ตอนนี้ล้มละลาย​ ฟ้าไม่มีแม้กระทั่งบ้านให้อาศัย" ม่านฟ้าปลดปล่อยความทุกข์ออกมาผ่านดวงตาสีน้ำตาลอ่อน​

"ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะม่านฟ้า​ วันนี้มีไม่ได้แปลว่าวันต่อๆไปจะเป็นอย่างที่ใจเราหวัง​ อาพูดถูกมั้ย"

"ค่ะคุณอา​ ขอโทษนะคะที่วันนี้ฟ้าเสียมารยาทบนโต๊ะอาหาร​ แต่ฟ้าทนฟังไม่ได้แม้ว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเป็นความจริง" ม่านฟ้าเช็ดน้ำตา​หล่อนผละออกจากอ้อมกอดของฤดี

"ไม่เป็นไรนะ​ อาว่าที่ลิษาพูดมันก็ไม่ถูก​คนเราล้มต้องอย่าข้ามเดี๋ยวอาจะไปบอกลิษาให้นะ"

"ไม่เป็นไรค่ะคุณอา​ ลิษาเขาดูจะไม่ค่อยชอบฟ้าสักเท่าไร เธอคงกลัวฟ้าไปแย่งความรักของคุณลุงกับคุณอา"

"ไม่คิดมากนะ​ ม่านฟ้ามาอยู่ที่นี่ก็เหมือนเป็นครอบครัวของอา เหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง​ อาไม่อยากให้เราทำตัวเกร็งๆใส่กัน​ ให้คิดซะว่าอาเป็นอาของฟ้านะ"

"ค่ะคุณอา​ ขอบคุณนะคะที่เมตตาฟ้า" ม่านฟ้ายิ้มอ่อนให้ฤดี​ เธอเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจดี​แถมอยู่ด้วยและรู้สึกสบายใจ​

"หิวมั้ย​ เดี๋ยวอาไปชงนมอุ่นๆให้ดื่มรอแป๊บนึงนะ" ฤดียิ้มให้ม่านฟ้าก่อนจะย่างกายเตรียมนมอุ่นมาให้ผู้มาใหม่​ ม่านฟ้าเองก็นั่งที่โต๊ะทำงานภายในห้องสี่เหลี่ยมของเธอ​พลางหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาทำรายงานส่งอาจารย์

"นมอุ่นๆมาแล้ว ดื่มก่อนนอนนะม่านฟ้า" ฤดีถือแก้วนมอุ่นยื่นให้กับคนตรงหน้าที่จดจ้องกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

"ขอบคุณค่ะคุณอา" หล่อนหยิบแก้วจากมือของฤดีแล้วยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว

"ฟ้าทำอะไรอยู่คะดึกแล้วนะ​ จะ4ทุ่มแล้วเดินทางมาถึงก็เกือบจะค่ำไม่เพลียบ้างหรือ" ฤดีถามด้วยท่าทีเป็นห่วง

"ฟ้าทำรายงานส่งอาจารย์​อยู่ค่ะคุณอา​ ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ"

"ขยันจริงๆเลยนะ​ แล้วเรียนอะไรอยู่ปีไหนแล้ว"

"ฟ้าเรียนบริหาร​ค่ะ​ ปี3แล้ว​ ตอนแรกที่เรียนก็หวังว่าจบมาจะได้ช่วยคุณพ่อกับคุณแม่มาบริหารงานที่บริษัท​ แต่ยังไม่ทันจบก็......"

"อาเชื่อว่าถ้าม่านฟ้าเรียนจบยังไงม่านฟ้าก็สามารถบริหาร​ที่บริษัท​ได้​"

"ค่ะคุณอา"

"แล้วเราเรียนที่ไหนล่ะ" 

" ฟ้าเรียนที่มหาวิทยาลัย​สินธนบุรีค่ะ"

"หื้ม... เรียนที่เดียวกับลิษาเลย​ ก็ดีหน่อยเวลาไปทำเรียนจะได้ไปพร้อมกัน"

"พร้อมกันหรอคะ" ม่านฟ้ากดเสียงต่ำพลางมองใบหน้าของฤดีด้วยสีหน้าที่มีความกังวล

"ไม่ต้องห่วงนะ​รถตู้ที่บ้านไปส่ง คนขับรถก็จะขับรถไปรับไปส่ง​ฟ้าอย่ากังวลไปเลย"

"ค่ะคุณอา" เธอพูดไปอย่างนั้นแม้ว่าในใจลึกๆแล้วเธอรู้ดีว่าลิษาไม่ชอบเธอ​ แถมยังต้องไปเรียนด้วยรถคันเดียวกันอีก​ เธอกังวลว่าจะถูกลิษาต่อว่าและดูถูก​ ขนาดต่อหน้าคุณลุงและคุณอายังว่าหล่อนขนาดนี้​ ลับหลังหล่อนจะโดนอะไรบ้างก็ยังไม่รู้"

"นี่ก็​ 4​ ทุ่มแล้วคุณอายังไม่ง่วงหรอคะ" ม่านฟ้าเอียงศีรษะ​ถามอย่างสงสัย

"เดี๋ยวอาก็จะเข้านอนแล้วล่ะ​ พรุ่งนี้อามีประชุม แล้วเราล่ะ​ทำงานจะเสร็จเมื่อไหร่นอนดึกตื่นเช้ามันไม่ดีนะ"

"ฟ้าเสร็จแล้วค่ะ​ แค่มาตรวจสอบงานว่าเรียบร้อยหรือเปล่า​ คงจะแปลกที่มั้งคะฟ้าเลยนอนไม่ค่อยหลับ" หญิงสาวถอนหายใจมือปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊คให้พับลง​ สายตามองไปยังห้องนอนกว้างที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย

"คิดถึงพ่อกับแม่สินะเรา"

"ค่ะฟ้าคิดถึงท่านทั้ง​ 2​ ค่ะ​ ไม่เคยคิดว่าจะได้แยกกับคุณพ่อคุณแม่​ อย่างน้อยถ้าวันไหนฟ้ารู้สึกไม่สบายใจก็ยังมีคุณพ่อกับคุณแม่คอยกอดฟ้า" หล่อนร่ำไห้อีกครั้งก่อนจะเดินไปยังเตียงนอน

"ยังมีอาอยู่ทั้งคน​ อาบอกแล้วไงฟ้า​ว่าให้มองอาเป็นเหมือนคนในครอบครัว​ ยังไงฟ้าก็คือหลานของอา​ อย่าคิดว่ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้วตัวคนเดียวเลยนะ​ อาไม่คิดจะมองฟ้าเป็นคนอื่นคนไกล" ฤดีกอดม่านฟ้าให้สยบความคิดแบบนั้น

"ขอบคุณนะคะที่ไม่รังเกียจ​ฟ้า แถมเอ็นดูฟ้าอีก​ คุณลุงเดชโชคดีจังเลยนะคะที่มีภรรยาแบบคุณอา"

"สิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงมันไม่เหมือนกันหรอกนะ" ฤดีปัดเป่าปอยผมที่ปิดบังใบหน้าของหญิงสาว

"หมายความว่าอย่างไงหรอคะคุณอา"

"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ​ อยู่อีกหน่อยเดี๋ยวฟ้าก็รู้เอง​ เรียนรู้นิสัยคนในบ้านเอาเองนะ"

"ค.. ค่ะ" หญิงสาวงงกับคำพูดของฤดีอยู่ไม่น้อยแต่ไม่อยากเอ่ยปากถามอะไรมาก​ เพราะเธอเพิ่งจะเข้ามาอยู่​ กลัวฤดีจะมองตนว่าเป็นคนสอดรู้สอดเห็น

"ให้อานอนเป็นเพื่อนหรือเปล่า"

"ไม่เป็นไรค่ะคุณอา​ ห้านอนได้ค่ะ"

"งั้นนอนฝันดีนะม่านฟ้า" ฤดีดึงผ้าห่มมาห่มกายให้เด็กสาวพลางลูบผมสีดำดกเงางามอย่างเอ็นดู

"ฝันดีค่ะคุณอา" หญิงสาวพูดยิ้มหลับตาลง​ ฤดีมองคนที่กำลังหลับอย่างเอ็นดู

สองเท้าก้าวเบาๆเพราะเกรงว่าจะทำให้ม่านฟ้านั้นตื่นเธอปิดไฟในห้องก่อนจะค่อยปิดประตูอย่างช้าๆ

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!