วันหยุดช่วงปิดเทอมของทั้งคุณครูสาวกับลูกศิษย์ตัวน้อยนั้นก็ผ่านไปได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว เหลือเวลาที่จะได้พักผ่อนเที่ยวเล่นอยู่ในจังหวัดเชียงรายอีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น
กริ๊ง.....กริ๊ง......กริ๊ง
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ” เสียงหวานกรอกไปตามสาย
“สวัสดีครับน้องเจ้าขา พรุ่งนี้น้องเจ้าขามีแพลนจะทำอะไรหรือไปไหนหรือยังคะ” เสียงทุ้มดังมาจากปลายสายเรียกรอยยิ้มจากเจ้าขาได้เป็นอย่างดี
“พี่ณดลถามทำไมคะ น้องน้ำหวานอยากจะชวนเจ้าขาไปไหนอีกหรอคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามเขายิ้มๆ เขามักจะให้หลานสาวตัวน้อยคอยเป็นคนที่ชวนเธอไปนั่นไปนี่เสมอ ซึ่งน้องน้ำหวานได้บอกเธอเอง
เมื่อสองวันก่อนเขาให้น้องน้ำหวานโทรมาชวนไปเที่ยวที่ไร่ชาด้วยกัน เธอเลือกที่จะปฏิเสธไปเพราะเธอต้องไปในเมืองกับครอบครัวเพื่อดูชุดเครื่องนอนสำหรับห้องนอนของเธอ ซึ่งตอนนี้บิดาได้ปรับปรุงให้ดูกว้างขวางขึ้น ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นักว่าจะขยับขยายไปทำไม จะมีใครรู้เรื่องนี้ดีเท่าบิดาและมารดาของเธอ เพราะทั้งสองท่านมองการณ์ไกลไว้แล้วต่างหาก
“คราวนี้เป็นพี่เองค่ะที่อยากจะชวน พี่อยากชวนน้องเจ้าขาไปไหว้พระที่วัดร่องขุ่นด้วยกันค่ะ อีกอาทิตย์เดียวเราก็ต้องกลับกรุงเทพฯกันแล้ว พี่ยังไม่ได้ไปไหว้พระในเชียงรายเลย” เสียงทุ้มเอ่ยชวนขึ้น เจ้าขาชั่งใจก่อนที่จะตอบตกลง
“ได้ค่ะ พี่ณดลอยากจะไปกี่โมงคะ เจ้าขาจะได้เตรียมตัวรอ” เสียงหวานเอ่ยบอกเขา คำตอบของหญิงสาวทำให้หัวใจของชายหนุ่มฟู่ฟ่อง เขาดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธเขาเหมือนสองวันก่อน
“ไปเช้าๆ ดีไหมคะ พี่กลัวว่าอากาศจะร้อนมาก พี่ไม่อยากให้น้องเจ้าขากับน้องน้ำหวานต้องมาลำบากไปกับพี่ด้วย” ชายหนุ่มบอกเวลานัดหมาย
“อันที่จริงก็ไม่ได้ลำบากนะคะพี่ณดล หากจิตใจของเราตั้งใจจะไปทำบุญจริงๆ อากาศร้อนแค่นั้นไม่ได้ทำให้เรารู้สึกลำบากหรอกค่ะ” เจ้าขาบอกเขา ทางฝั่งณดลก็แอบยิ้มให้กับความคิดของสาวสวย ‘นี่แหละ สวย จิตใจดี ว่าที่แม่ของลูก’
“ครับ พี่เห็นด้วย พรุ่งนี้สายๆ เจอกันนะครับ เดี๋ยวพี่กับน้องน้ำหวานเข้าไปรับที่ไร่”
ณดลบอกก่อนที่จะวางสายไป เจ้าขาจึงได้ไปบอกกับมารดาว่าพรุ่งนี้ณดลกับน้องน้ำหวานจะมารับไปไหว้พระที่วัดร่องขุ่น คุณอมรรัตน์กับคุณวิโรจน์ไม่ได้ว่าอะไรไปกว่าการบอกว่า
‘ดีแล้วลูก ไปเปิดหูเปิดตาบ้างใกล้จะกลับกรุงเทพฯอยู่แล้วยังไม่เห็นไปไหนเลย’
เจ้าขาเลยได้แต่ยิ้มๆ ก่อนที่จะขอตัวบิดาและมารดากลับห้องไป เพราะนี่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เจ้าขาชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออิงประวัติศาสตร์ หรือหนังสือวิชาการต่างๆ ส่วนเวลาที่อยากRelax เจ้าขาจะเลือกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาอ่านแทน ไม่ก็อ่านจากอีบุ๊คที่มีแอปภายในโทรศัพท์
วันต่อมา
ณดลขับรถออกจากไร่ ‘สบายอารมณ์’ ของบิดามาพร้อมกับหลานสาวตัวน้อยที่ชวนเขาคุยไม่หยุด เสียงเจื้อยแจ้วดังอยู่สักพักก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองเด็กหญิงที่นังคาร์ซีทอยู่ทางด้านหลังอีกทีก็พบว่าหลับปุ๋ยไปแล้ว รอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลา เพียงไม่นานรถเบนซ์คันหรูสีดำมันปลาบก็แล่นเข้ามาจอดที่ไร่ ‘เอกดำรงกุล’ คุณอมรรัตน์ และเจ้าขาจึงพากันออกมาดูก็พบว่าเป็นคนที่เจ้าขากำลังรอคอย เช้านี้คุณวิโรจน์เข้าไปในไร่ตั้งแต่เช้าเลยไม่ได้พบกับบุตรชายและหลานสาวตัวน้อยของเพื่อนรัก
“ฮ้าว......คุณอาณดลขา ถึงบ้านคุณครูเจ้าขาแล้วหรอคะ” น้องน้ำหวานบิดกายไปมาก่อนที่จะเอ่ยถามผู้เป็นอา
“ค่ะ นั่นไงคะ คุณย่าอมรรัตน์ กับคุณครูเจ้าขา ยืนรออยู่ตรงนั้นไง ไปค่ะน้องน้ำหวาน ลงไปสวัสดีคุณย่าอมรรัตน์กันก่อนนะคะ” ณดลบอกพร้อมกับชี้ให้หลานสาวดู ก่อนที่จะชวนเด็กน้อยให้ลงไปทักทายผู้สูงวัยกว่า
ณดลเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูให้หลานสาว เด็กหญิงพิชญ์สินี ลงจากรถมาก็จูงมือผู้เป็นอาเดินไปหยุดตรงหน้าของสองสาวต่างวัย
“สวัสดีครับคุณป้าอมรรัตน์ สวัสดีครับน้องเจ้าขา” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือพนมไหว้ผู้สูงวัยกว่า และรับไหว้หญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าตนตรงหน้าที่ยกมือขึ้นไหว้เขาเช่นกัน
“สวัสดีค่ะคุณย่าขา สวัสดีค่ะคุณครูเจ้าขา” หลานสาวตัวน้อยยกมือพนมไหว้ก่อนที่จะเอ่ยทักทายคุณย่าและคุณครูเช่นกัน สองสาวต่างวัยยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กหญิงตัวน้อย ไม่ว่ากี่ทีที่คุณอมรรัตน์ได้เห็นก็อดที่จะชื่นชมณดลไม่ได้ เพราะเขาเลี้ยงดูหลานสาวมาได้เป็นอย่างดี
“ทานอะไรกันมาหรือยังลูก” คุณอมรรัตน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
“น้องน้ำหวานทานมื้อเช้าฝีมือคุณอาณดลแล้วค่ะ อร๊อยอร่อย” เด็กหญิงตอบเสียงใส จนคนฟังอดที่จะยิ้มอ่อนโยนออกมาไม่ได้
“ผมก็ทานมาแล้วครับ น้องเจ้าขาพร้อมหรือยังครับ พี่อยากจะพาน้องเจ้าขากับน้องน้ำหวานไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านของพี่สาขาในเมืองด้วย คุณป้าไปด้วยกันไหมครับ” ณดลตอบผู้ใหญ่ก่อนที่จะหันไปถามเจ้าขาและเอ่ยชวนมารดาของหญิงสาว
“ไปกันเถอะลูก ป้าไปบ่อยจนเบื่อแล้ว วัดร่องขุ่นน่ะ ไปเถอะเจ้าขาลูก เดี๋ยวสายๆ แดดจะร้อน คนก็เยอะด้วย” คุณอมรรัตน์ตอบชายหนุ่มคราวลูกก่อนจะหันไปบอกบุตรสาว
“ค่ะ แม่ ถ้าอย่างนั้นเจ้าขาขอตัวก่อนนะคะ” เจ้าขาบอกมารดาก่อนที่จะยกมือพนมไหว้มารดา หนึ่งหนุ่มและเด็กหญิงตัวน้อยก็ทำเช่นเดียวกัน
ณดลเดินไปเปิดประตูให้หลานสาวตัวน้อยได้กลับขึ้นไปนั่งที่เบาะคาร์ซีท ก่อนที่จะเปิดประตูด้านข้างคนขับให้คนสวยได้นั่งเคียงข้างเขา เจ้าขาก็เห็นว่าเป็นมารยาทที่ถูกต้อง เขาไม่ใช่คนขับรถส่วนตัว เพราะฉะนั้นเธอต้องนั่งหน้าไปกับเขาถึงจะถูก น้องน้ำหวานส่งยิ้มและยักคิ้วให้กับคุณอาหนุ่มผ่านกระจก เมื่อคุณครูคนสวยขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ณดลยิ้มให้กับการรู้เยอะของหลานสาวตัวน้อย ก่อนที่ทั้งสามคนจะมุ่งสู่อำเภอเมือง ที่เป็นที่ตั้งของวัดร่องขุ่น วัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงราย
ใช้เวลาเพียงไม่นานรถเบนซ์คันหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถของบริเวณวัดร่องขุ่น ถึงแม้ตอนนี้จะเริ่มสายแล้วแต่ผู้คนก็ยังคงพลุกพล่านไม่บางเบา เสียงคุยกันจ้อกแจ๊กจอแจดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ‘วัดร่องขุ่น’ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่นักท่องเที่ยวที่ได้มาเชียงรายแล้ว ต่างพลาดไม่ได้
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ได้รับการบูรณะโดยอาจารย์เฉลิม ชัยโฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชาวเชียงราย ผู้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) จากวัดเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ในสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรมนี้ได้กลายเป็นศาสนสถานที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะเต็มไปด้วยลวดลายอ่อนช้อยประณีตดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมวัดนี้อย่างคับคั่งตลอดปี อุโบสถของวัดร่องขุ่นมีสีขาวบริสุทธิ์สะอาดซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์เป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งพากันเรียกวัดร่องขุ่นว่าวัดขาว (Thailand White Temple) ประดับประดาด้วยช่อฟ้าใบระกาอย่างวิจิตรอลังการตามด้วยลวดลายอ่อนช้อยอื่น ๆ อีกมากมายเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันลงมาหน้าบันประดับด้วยพญานาคและติดกระจกระยิบระยับโดยความตั้งใจของผู้สร้างนั้นต้องการสื่อสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพุทธศาสนาโดยสีขาวหมายถึงพระบริสุทธิคุณ ส่วนกระจกหมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ส่องแสงโชติช่วงชัชวาลนอกจากนี้ตัวพระอุโบสถยังสร้างอยู่บนเนินเตี้ยๆ ที่มีทะเลสาบใสสะอาดสะท้อนเงาอาคารได้อย่างชัดเจนและทางเดินเข้าอุโบสถที่เป็นสะพานทอดยาวนั้นก็หมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิส่วนบนของหลังคาได้นำหลักธรรมอันสำคัญยิ่งคือศีลสมาธิปัญญามาแสดงออกในรูปของสัตว์ในช่อฟ้าชั้นต่างๆ และภายในอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรวมทั้งอาคารแสดงภาพวาดที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเพื่อแสดงผลงานของอาจารย์เฉลิมชัยให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกเช่นกัน
ณดลพาเจ้าขาและน้องน้ำหวานไปไหว้พระและเดินดูบรรยากาศรอบๆ ก่อนที่จะถ่ายภาพร่วมกันเพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกันก่อนที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตนอีกไม่กี่วันหลังจากนี้
“คุณอาณดลถ่ายคู่กับคุณครูเจ้าขาสักภาพสองภาพนะคะ” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยขึ้นก่อนที่สองหนุ่มสาวจะมองหน้ากันและส่งยิ้มให้กัน ณดลและเจ้าขายอมทำตามที่เด็กหญิงตัวน้อยร้องขอทันที
“ยืนใกล้ๆ กันหน่อยค่า”
น้องน้ำหวานร้องบอกจนคนรอบข้างหันมามองคนทั้งคู่แล้วยิ้มออกมา ให้กับภาพที่เหมือนกับเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ณดลและเจ้าขาต่างส่งยิ้มเขินๆ ให้กันเพราะสายตาของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่มองมา
สองหนุ่มสาวยืนชิดจนไหล่บางชนกับหน้าอกหนั่นแน่นของณดล เขาก้มหน้าลงมองใบหน้าหวานที่เงยขึ้นมามองเขาพอดี น้องน้ำหวานรีบกดชัตเตอร์ช๊อตเด็ดนี้ไว้ พอใกล้เที่ยงสองหนุ่มสาวกับหนึ่งเด็กน้อยต่างพากันเดินทางออกจากวัดร่องขุ่น มุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย ณดลตั้งใจจะพาสองสาวต่างวัยมาทานอาหารที่ร้านอร่อยเหาะ สาขาย่อยของเขา ทันทีที่สองหนุ่มสาวและอีกหนึ่งเด็กหญิงเดินเข้าไปในร้าน ผู้จัดการร้านที่กำลังต้อนรับลูกค้าอยู่ก็จำบอสใหญ่ได้จึงรีบเข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับคุณณดล” ธนากรทักทายผู้เป็นบอสใหญ่ทันที
“สวัสดีครับคุณธนากร เป็นไงบ้างครับ ลูกค้าเยอะไหม” ณดลยืนคุยกับผู้จัดการร้านโดยที่ข้างๆ มีสองสาวต่างวัยยืนอยู่ด้วย
“ใครอะแก ที่ยืนคุยอยู่กับผู้จัดการอะ หล่อมากเลยแก คนข้างๆ นั่นภรรยากับลูกสาวเขาใช่ไหมน่ะ แต่เขากับภรรยายังดูเด็กอยู่เลยนะน่ะ” พนักงานที่กำลังเก็บโต๊ะกับเพื่อนอยู่เอ่ยขึ้น
“ไม่รู้อะ คนรู้จักของผู้จัดการแหละมั้ง แต่ว่าคุณผู้ชายคนนั้นหน้าคุ้นๆ อยู่เหมือนกันนะ เหมือนว่าจะเคยเห็นที่ไหน” พนักงานที่กำลังเก็บตะอยู่อีกคนเอ่ยขึ้น พร้อมกับทำท่านึกไปด้วย
“อ๋อ..............คุณณดล เสสกุล บอสใหญ่ของร้านอาหารอร่อยเหาะที่เราทำงานอยู่นี่ไง หู้ย ตัวจริงหล่อเวอร์ แต่เอ๊ะ ฉันไม่เคยได้ยินว่าบอสใหญ่ของเรามีลูกมีภรรยาแล้วนะ” คนนึกได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แฟนบอสหรือเปล่า แต่ผู้หญิงสวยมากเลยนะ ยิ้มทีนี่โลกสดใสไปทั้งใบเลย ฉันว่าเหมาะสมกันดี” พนักงานคนแรกเอ่ยขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะรีบเก็บโต๊ะแล้วกลับเข้าไปที่หลังร้าน
สองหนุ่มสาวกับหนึ่งเด็กน้อยนั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาของลูกค้ารอบๆ ที่มองมาที่ทั้งสามคนอย่างเอ็นดู ต่างคนต่างคิดว่าทั้งสามคนนั้นเป็นครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกสาว นักข่าวท้องถิ่นที่มาทานอาหารร้านของณดลก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพนี้เพื่อทำข่าวทันที ณดลถือเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย ข่าวคราวของเขาในหน้าหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของการทำธุรกิจ ส่วนเรื่องผู้หญิงนั้นเขาไม่เคยมีข่าวออกมาให้ได้เห็นเลยสักครั้ง นี่จึงเป็นโอกาสดีในการเปิดเผยข่าวนี้ออกไป
จากการที่ได้ไปทำบุญร่วมกันมาวันนี้ทำให้ทั้งสองหนุ่มสาวมีความสนิทกันขึ้น ความรู้สึกที่เจ้าขาเคยมีต่อคุณอายังหนุ่มก็เริ่มค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย จากที่ไม่เคยรู้สึกอะไรเลย ก็แอบหวั่นไหวทุกทีที่ได้เจอกัน และรู้สึกเขินกับสายตาที่เขามองมาที่เธอแทบทุกครั้ง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments