มือหนากำลังง่วนอยู่กับการจับตะหลิวกับกระทะอยู่ภายในห้องครัว แม่บ้านได้แต่คอยช่วยหยิบจับวัตถุดิบต่างๆ ให้เจ้านายหนุ่ม ณดลมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงมือทำอาหารเอง โดยเฉพาะการทำอาหารให้คนที่รักได้ทาน
“คุณอาณดลขา.............ดูสิคะว่าใครมา” เสียงเจื้อยแจ้วดังมาจากทางประตูของห้องครัว ณดลหันหลังกลับไปมองตามเสียงของหลานสาวก็ต้องยืนนิ่งอึ้ง ตกตะลึงไปชั่วขณะ
‘นี่เขาคิดถึงเธอจนตาฝาดมองเห็นคนอื่นเป็นหน้าเธอเชียวหรอนี่’ จนเสียงหวานเอ่ยทักทายนั่นแหละเขาถึงหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิด
“สวัสดีค่ะคุณณดล”
มือบางพนมขึ้นมากระพุ่มไหว้ชายหนุ่มอย่างงดงาม แม่บ้านมองมาที่แขกของคุณหนูตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะมองปฏิกิริยาอาการของผู้เป็นนายหนุ่ม
“สวัสดีครับ อะ..เอ่อ คุณครูเจ้าขาหรอครับ นี่ผมไม่ได้ตาฝาดใช่ไหมเนี่ย” ณดลยกมือรับไหว้ก่อนที่จะทักทายหญิงสาวตรงหน้าอย่างงงๆ
“ตาไม่ฝาดค่ะคุณอาณดลขา คุณครูน้ำหวานเป็นลูกสาวของปู่โรจน์ เพื่อนของคุณปู่อาจค่ะ” เด็กน้อยตอบคุณอาหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม
“ลุงโรจน์ที่คุณปู่บอกว่าจะขอผลไม้ที่ไร่มาช่วยลงที่ไร่เราใช่ไหมครับ” ณดลเอ่ยถามหลานพรางมองหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงไปด้วย
“ใช่ค่ะ วันนี้ปู่โรจน์จะมาดูไร่ของคุณปู่อาจ ครูเจ้าขาเลยมากับคุณปู่โรจน์ด้วยค่า” เด็กน้อยพูดจาฉะฉานอธิบายให้ผู้เป็นอาฟังเสร็จสรรพ โดยที่หญิงสาวที่ยืนมองเขาอยู่ไม่ต้องพูดหรืออธิบายอะไรออกมาให้เขาฟังสักคำ
“ที่แท้คุณพ่อผมก็รู้จักกับคุณพ่อของคุณครูเจ้าขาหรอกหรอครับเนี่ย นี่โลกมันจะกลมอะไรขนาดนี้” ณดลเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น เจ้าขาเองก็คิดไม่ต่างกัน
“เห็นว่าท่านเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนน่ะค่ะ ดิฉันก็เพิ่งจะรู้วันนี้นี่เอง” เจ้าขาบอกเขา
“ไหนๆ เราก็คนกันเองแล้ว เจ้าขาเรียกผมว่าพี่ณดลก็แล้วกันนะครับ และก็แทนตัวเองว่าเจ้าขาด้วย” ณดลบอกลูกสาวของเพื่อนสนิทของบิดาด้วยรอยยิ้มทำเอาเจ้าขาอดที่จะเขินกับการเปลี่ยนการเรียกขานของเขาและเธอไม่ได้
“จริงๆ ด้วยค่า คุณครูเจ้าขา ไหนๆ เราก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว คุณครูเจ้าขาเรียกคุณอาณดลว่าพี่นะคะ เพราะคุณครูเจ้าขาเด็กกว่าคุณอาณดลตั้ง...” เด็กหญิงทำท่าทางนับนิ้ว
“สี่ปีแน่ะ ใช่ไหมคะ”
คำตอบและท่าทางใช้ความคิดของเด็กหญิงตัวน้อยเรียกเสียงหัวเราะและสายตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่ทั้งสามได้เป็นอย่างดี เจ้าขาแอบเขินสายตาของณดลที่มองมา
‘นี่เธอต้องเรียกเขาว่าพี่ณดลจริงๆ หรอเนี่ย มันดูไม่ชินปากเลยอะ’
“ใช่ค่ะคนเก่ง เพราะฉะนั้น น้องเจ้าขาเรียกพี่ว่าพี่ณดลนะครับ เพราะพี่แก่กว่าน้องเจ้าขาสี่ปี”
ณดลเอ่ยชมหลานสาวตัวน้อยจนเจ้าตัวปรบมือและก่อนที่จะหันไปบอกกับหญิงสาวที่ตนหลงรักตั้งแต่แรกพบ เขาส่งยิ้มหวานให้เจ้าขาจนเธอไม่กล้าที่จะมองรอยยิ้มของผู้ชายเจ้าเสน่ห์อย่างเขา หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากอก นี่ขนาดเขาไม่ได้เอ่ยประโยคที่เกี้ยวพาราสีเธอเลยสักนิด ยังทำเอาเธอเขินซะขนาดนี้ได้
“อ่ะ..เอ่อ ได้ค่ะพ่ะ...พี่ณดล” เจ้าขาตอบเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“คุณพ่ออยู่ไหนครับ พี่ว่าพี่ไปไหว้ท่านสักหน่อยดีกว่า ป้าแก้ว ผมฝากจัดอาหารใส่จานแล้วตั้งโต๊ะได้เลยนะครับ จัดจานเพิ่มอีกสองที่นะครับ ขอบคุณครับ” ณดลเอ่ยถามหาบิดาของหญิงสาว ก่อนที่จะหันไปบอกป้าแม่บ้านที่ยังคงยืนอยู่ในครัว
“คุยกับคุณพ่อของคุณณดล อุ้ย!!...ขอโทษค่ะ คุยกับคุณพ่อของพะ..พี่ณดล อยู่ที่ห้องรับแขกน่ะค่ะ”
หญิงสาวยังรู้สึกไม่ชินกับการที่ต้องเรียกขานเขาด้วยสรรพนามใหม่ ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับไปล้างมือในครัว เขาถอดผ้ากันเปื้อนออก ทุกๆ อิริยาบถอยู่ในสายตาของเจ้าขาตลอด หญิงสาวอดที่จะมองเขาอย่างชื่นชมไม่ได้
ณดลเป็นคนที่ดูดีไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหนก็ตาม แต่จะหล่อมากถ้าเขาอยู่ในชุดพ่อครัว รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่มุมปากของคุณครูสาว น้องน้ำหวานลอบมองคุณครูคนสวยก็อดที่จะยิ้มดีใจออกมาไม่ได้
‘คุณครูต้องรู้สึกดีกับคุณอาของเธออย่างแน่นอน ไม่งั้นของไม่มองไปที่อาของเธอด้วยรอยยิ้มหรอก น้องน้ำหวานดีใจ น้องน้ำหวานอยากได้คุณครูเป็นคุณอา’ เด็กน้อยคิดตามประสาเด็กและมันก็ถูกเพราะเจ้าขานั้นแอบหวั่นไหวกับพี่ชายคนนี้เสียแล้ว
ห้องนั่งเล่นที่มีผู้ใหญ่ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาด และบทสนทนาก็คงจะไม่พ้นเรื่องของสองหนุ่มสาว
“อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้วะฮ่าๆๆ” คุณองอาจเอ่ยออกมากลั้วหัวเราะ
“เออ นั่นสิ ข้าก็นึกว่าไอ้หนุ่มที่ไหนมันใจกล้ามาขายขนมจีบให้ลูกสาวข้า ที่ไหนได้ก็ลูกเสืออย่างแกนี่เอง”
คุณวิโรจน์เอ่ยออกมาอย่างขบขันเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้ฟังภรรยาเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานมีหนุ่มหล่อแวะมาส่งลูกสาวของตน แถมผู้ชายคนนี้ดูท่าจะชอบเจ้าขาอยู่ไม่น้อย
“บอกตรงๆ ลูกชายแกเจองานหนักแล้วล่ะ ลูกสาวของฉันน่ะมันแม่ชีฮ่าๆๆ” คุณวิโรจน์พูดต่อพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ทำไมหรอคะ หนูเจ้าขาไม่ชอบผู้ชายหรอคะ” คุณหนึ่งฤทัยอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
“ฮ่าๆ เปล่าครับ เจ้าขาน่ะ ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน เลยไม่รู้และเข้าใจในเรื่องของความรักระหว่างชายหญิงเท่าไหร่หรอกครับ เจ้าขาเอาแต่เรียน เวลามีหนุ่มๆ มาจีบก็ไม่สนใจ บางทีก็รู้สึกตัวช้าว่าเขาจีบ กว่าที่จะรู้ตัวว่าเขาจีบ ผู้ชายคนนั้นก็ถอยทัพไปแล้วครับฮ่าๆๆ”
วิโรจน์เล่าเรื่องของบุตรสาวให้สองสามีภรรยาฟังพร้อมกับหัวเราะออกมาให้กับความซื่อของบุตรสาว คุณองอาจและคุณหนึ่งฤทัยหันมองหน้ากันก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา
“ถ้างั้นเราก็มาช่วยเป็นสะพานให้ลูกๆ กันสักหน่อยก็ดีนะคะ ตาดลก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน เพราะตั้งแต่พี่ชายของแกกับพี่สะใภ้เสีย ตาดลก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการดูแลหลานสาวคนเดียว และก็สร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าพี่โรจน์ไม่รังเกียจลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของเราสองคนก็ช่วยเปิดทางให้เขาสักหน่อยเถอะนะคะ” คุณหนึ่งฤทัยเอ่ยขึ้น วิโรจน์รีบส่ายศีรษะไปมาทันที
“รังเกียจอะไรกัน ทางบ้านพี่ต่างหากที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเด็กๆ เขาล่ะนะ ว่าจะมีใจให้กันหรือเปล่า ไอ้เราก็คงทำได้แค่เป็นสะพานส่งให้เขาสองคนข้ามไปเจอกันเท่านั้นแหละ”
วิโรจน์ตอบเพื่อนรักและภรรยาของเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม เขาจะไปรังเกียจครอบครัวขององอาจได้ยังไงกัน โดยเฉพาะเด็กหนุ่มณดล ที่ภรรยาของเขาเอ่ยชื่นชมให้ฟังไม่ได้ขาดปาก เห็นทีที่บ้านจะได้ต้อนรับลูกเขยเร็วๆ นี้แล้วล่ะ
“ดีเลยค่ะ หนึ่งอยากให้ณดลลงเอยกับใครสักคน และจะดีมากถ้าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นหนูเจ้าขา”
คุณหนึ่งฤทัยเอ่ยออกมาด้วยความโล่งใจเธอปลื้มสาวสวยลูกสาวคนเดียวของเพื่อนสนิทสามีเช่นกัน ยิ่งรู้จักกับคุณอมรรัตน์แล้วด้วย บุตรสาวต้องมีกิริยาเรียบร้อยเช่นเดียวกัน อย่างเช่นที่โบราณกล่าวไว้ว่า
‘ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่’
และก่อนที่ผู้ใหญ่ทั้งสามจะได้พูดคุยอะไรกันไปมากกว่านี้ ณดล เจ้าขาและหลานสาวตัวน้อยก็เดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมๆ กัน เรียกสายตาทั้งสามคู่ให้มองไปทั้งสามคนอย่างพร้อมเพรียง กับความรู้สึกที่อบอุ่นในใจ ราวกับกำลังมองเห็นภาพบุตรสาวบุตรชายที่มีครอบครัวร่วมกัน สามผู้สูงวัยต่างยิ้มออกมาพร้อมกัน
“นี่น่ะหรอลูกชายคนเล็กของแก เฮ้ย... หล่อนี่หว่า สวัสดีลูก ไหว้พระเถอะ”
คุณวิโรจน์กวาดตามองณดลอย่างสำรวจจนชายหนุ่มอดที่จะประหม่าไม่ได้ เขายกมือไหว้เพื่อนสนิทของบิดา ก่อนที่จะรู้สึกผ่อนคลายจากประโยคทักทายของคนตรงหน้า
“สวัสดีครับคุณลุงวิโรจน์” ชายหนุ่มลดมือลงก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
“เจ้าขามานั่งนี่มาลูก” คุณวิโรจน์เรียกบุตรสาวมานั่งข้างๆ ก่อนที่คุณหนึ่งฤทัยจะกวักมือเรียกบุตรชายไปนั่งฝั่งตนเช่นกัน หลานสาวตัวน้อยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“นี่เราสองคนรู้จักกันมาก่อนแล้วใช่ไหม” คุณวิโรจน์เอ่ยถามเจ้าขาขึ้น เจ้าขาจึงมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้างกัน
“อะ..เอ่อ ใช่ค่ะ คือคุณณดลเป็นผู้ปกครองของน้องน้ำหวาน ส่วนน้องน้ำหวานเป็นลูกศิษย์ของเจ้าขาเองค่ะ” หญิงสาวอธิบาย
“เรียกคงเรียกคุณอะไรกันลูก คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างพี่เขาแก่กว่าเราตั้งสี่ปี เราต้องเรียกเขาว่าพี่ถึงจะถูก” คุณวิโรจน์บ่นบุตรสาวออกมาเล็กน้อย หญิงสาวได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้บิดาราวกับว่า ‘ขอโทษค่ะเจ้าขาไม่ชิน’
“นั่นน่ะสิครับผมก็บอกน้องเจ้าขาแล้ว ว่าให้เรียกผมว่าพี่ณดล สงสัยน้องเจ้าขาจะคงยังไม่ชินใช่ไหมคะ ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆ เปลี่ยนก็ได้ เปลี่ยนปุบปับก็แบบนี้แหละครับ” ณดลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงนุ่ม วิโรจน์คิดในใจ ‘ไม่ธรรมดาเว้ยไอ้หนุ่มนี่ มันมีคารมพอตัว แต่ลูกสาวของเขาจะรู้ตัวไหม นี่แหละเรื่องหนัก’
ผู้ใหญ่ทั้งสามนั่งคุยกันต่อโดยที่ณดลพาเจ้าขาและน้องน้ำหวานไปเที่ยวชมไร่ของบิดาของตนโดยที่ไร่มีรถกอล์ฟสำหรับพานักท่องเที่ยวทัวร์ไร่ที่กว้างขวางแห่งนี้อยู่ คนที่เห็นจะตื่นเต้นดีใจที่สุดคงจะไม่พ้นหลานสาวตัวน้อยของเขา ส่วนสาวสวยนั้นเอาแต่นั่งเงียบ แต่ก็ยิ้มแย้มจนบางทีเขาก็อดที่จะแอบมองรอยยิ้มของเธอไม่ได้ รอยยิ้มที่สดใส ออกมาจากใจนี่มันทำให้เขาตกหลุมรักเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มขับรถพาสองสาวทัวร์ไปทั่วไร่อย่างสนุกสนาน ต่อไปเรื่องมันคงไม่ยากเท่าไหร่ ก็เขากับเธอน่ะ
‘ที่แท้ก็คือคนกันเอง’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments