ณดลใช้เวลาขับรถออกจากไร่ ‘เอกดำรงกุล’ เพียงไม่นานก็เข้าสู่อำเภอแม่สลวย มองไปยังคนที่นั่งอยู่บนที่นั่งคาร์ซีทด้านหลังก็หลับปุ๋ย รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า ก่อนที่เขาจะนึกถึงคำพูดของมารดาของคุณครูสาวที่บอกไว้ก่อนที่เขาจะออกมา ‘เจ้าขาค่อนข้างหัวช้าเรื่องอื่นน่ะค่ะ แต่เรื่องเรียนน่ะเก่ง เรื่องอื่นกว่าจะเข้าใจก็ช้าไปแล้วล่ะค่ะ เราต้องใจเย็นๆ นะคะ เพราะถ้ารอไม่ได้ที่ทำมาทุกอย่างก็สูญเปล่า’
เพราะความใสซื่อของเจ้าขานี่แหละที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เข้าหาเขาเพราะเขาหล่อ เพราะเขารวย เจ้าขาไม่เคยมองเห็นตรงนี้เสียด้วยซ้ำ อีกทั้งยังพยายามตีตัวออกห่างจากเขาอีก เวลาที่เขาพยายามที่จะรุกเธอหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อไปเขาจะใจเย็น แต่อย่างที่บอก เปิดเทอมใหม่เขาจะตามจีบเธออย่างเปิดเผย ไม่อ้อมค้อมเหมือนที่ผ่านมา
รถเบนซ์คันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดในไร่ ‘สบายอารมณ์’ เป็นไร่ผลไม้ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ บิดาและมารดาของเขารักธรรมชาติและป่าเขาที่นี่มาก จึงยอมทิ้งความสุขสบายในกรุงเทพฯมาอยู่ที่นี่ ตอนแรกเขาไม่ค่อยเข้าใจมากนักแต่เดี๋ยวนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ความสุขของคนสูงวัยไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง หรือความสุขกายต่างๆ ที่จะได้รับจากคนรับใช้หรือเครื่องอำนวยความสะดวกในเมืองใหญ่ แต่เป็นความสุขที่ว่าอยู่ที่ไหนแล้วสบายใจและมีความสุขมากกว่า
“น้องน้ำหวาน น้องน้ำหวานคะ ถึงบ้านคุณปู่คุณย่าแล้วค่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างเด็กหญิงที่มีใบหน้ายามหลับราวกับตุ๊กตาที่มีชีวิต
“ห๊าว...........”
ร่างเล็กบิดกายไปมาบนคาร์ซีท ก่อนที่เปลือกตาบางจะเปิดออก และหรี่ตามองออกไปด้านนอก ก็เห็นว่าพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยรีบปลดเข็มขัดคาร์ซีทโดยมีผู้เป็นอาคอยช่วย ก่อนที่ร่างเล็กจะลงมาจากด้านหลังของรถ คุณองอาจและคุณหนึ่งฤทัย เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามาจอดที่หน้าบ้านก็ไม่รอช้า พากันจับจูงออกไปดู สองปู่ย่าต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าหลานสาวตัวน้อย ที่เป็นดั่งตัวแทนของบุตรชายคนโตกับลูกสะใภ้ที่รัก
“คุณปู่ขา............. คุณย่าขา...............” เสียงเจื้อยแจ้วร้องเรียกผู้เป็นปู่เป็นย่า สองผู้สูงวัยต่างยิ้มแย้มก่อนที่จะขานรับหลานสาวตัวน้อย
“น้องน้ำหวานขา คุณปู่กับคุณย่ามาแล้วค่ะ” สิ้นเสียงสองร่างชายหญิงวัยเลยกลางคนมาได้เกือบสิบปีก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าของเด็กหญิงตัวเล็กและบุตรชายคนเล็ก
“สวัสดีค่ะคุณปู่ขา คุณย่าขา”
เด็กน้อยรู้หน้าที่รีบตรงเข้าไปหาชายหญิงสูงวัย แล้วยกมือป้อมๆ ขึ้นกระพุ่มไหว้ แล้วโผกอดสองปู่ย่าด้วยความคิดถึง ทั้งปู่และย่าต่างโอบกอดหลานสาวตัวน้อยเอาไว้อย่างแสนคิดถึง
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”
ณดลเดินตามเข้ามาสมทบก่อนที่จะยกมือไหว้บิดาและมารดาเช่นกัน คุณหนึ่งฤทัยเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของบุตรชายวัยใกล้สามสิบด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินไปกอดบุตรชายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ด้วยความรัก
“เหนื่อยไหมลูก ทานอะไรกันมาหรือยัง” คุณองอาจอุ้มหลานสาวขึ้นมาบนอ้อมแขนก่อนที่เอ่ยถามบุตรชายที่ยืนกอดกับมารดาอยู่ราวกับเป็นเด็กๆ
“ไม่เหนื่อยเลยครับ แต่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมรีบตรงมาที่บ้านเลยครับ” เขาตอบบิดาเสียงนุ่ม มารดายิ้มออกมา ก่อนที่จะดึงร่างหนาของบุตรชายตามเข้าไปในบ้านพร้อมกับสองปู่หลาน
“น้องน้ำหวานกับคุณอาณดลแวะส่งคุณครูเจ้าขาที่ไร่มาค่ะ อากาศดีมากเลย น้องน้ำหวานชอบ”
เด็กหญิงตัวน้อยเล่าให้สองปู่ย่าฟังทันทีที่มานั่งลงที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว บ้านทรงโมเดิร์นหลังขนาดกลางตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่กว้างขวางภายในไร่ผลไม้ที่มีคนแวะเวียนมาเที่ยวชมไม่ได้ขาดสาย คุณองอาจนั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเหมาทานผลไม้แบบบุฟเฟ่ สวนแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบทานผลไม้
คุณองอาจและคุณหนึ่งฤทัยต่างมองไปที่บุตรชายคนเล็กเป็นตาเดียวกันก่อนจะนึกถึงชื่อของคุณครูที่หลานสาวรายงานว่าคุณอากำลังจีบอยู่ ‘ครูเจ้าขาอีกแล้ว อยากเห็นหน้าแล้วสิ บ้านอยู่เชียงรายซะด้วย’
“เหอะๆ มองอะไรกันครับเนี่ย”
ณดลร้อนตัวทันทีที่สายตาชายหญิงสูงวัยมองมาที่ตนเป็นตาเดียวหลังจากได้ยินหลานสาวตัวน้อยบอกเกี่ยวกับคุณครูสาว
‘หรือแม่หลานสาวตัวน้อยจะแอบเล่าเรื่องที่เขาจีบคุณครูเจ้าขาให้บิดามารดาของเขาฟังกันนะ’ ณดลคิดในใจก่อนที่ตักอาหารใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยเพราะความหิว
“ชอบเขาหรอเราน่ะ แล้วนี่ยังจีบไม่ติดอีกหรอ” คุณหนึ่งฤทัยเอ่ยถาม ณดลสำลักข้าวแทบจะทันที จนหลานสาวตัวน้อยต้องยื่นน้ำมาให้
“ค่อยๆ ทานสิคะคุณอาณดลขา ทานเร็วก็สำลักพอดีค่ะ” เด็กน้อยเอ่ยออกมาด้วยความไร้เดียงสา เรียกเสียงหัวเราะจากคุณปู่คุณย่าได้เป็นอย่างดี
“อะเอ่อ พอดีคุณอาลืมเคี้ยวข้าวน่ะค่ะ พอเผลอกลืนลงไปเลยสำลัก” ณดลตอบหลานสาวก่อนที่จะเงยหน้ามองมารดา แม่ของเขารู้แล้วแน่นอน และมองไปที่หลานสาวตัวน้อยที่ตอนนี้ตักอาหารทานอย่างเรียบร้อย
หลังจากมื้ออาหารเย็นผ่านไป คุณย่าก็พาตัวหลานสาวตัวน้อยขึ้นไปอาบน้ำและพาเข้านอน เพราะเด็กน้อยอ่อนเพลียเดินทางไกลมาตั้งแต่เช้าแล้ว ณดลเลยนั่งคุยอยู่กับผู้เป็นบิดาแทน
“เป็นไงเรา กิจการร้านอาหาร” คุณองอาจเอ่ยถามขณะที่ยกชาร้อนขึ้นมาจิบ
“ก็ดีครับพ่อ ผลกำไรบวกเพิ่มทุกเดือน ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงข้ามกับเศรษฐกิจตอนนี้เลยครับ ส่วนมากอาหารจะขายดีมากกว่าอย่างอื่น” ณดลตอบบิดาก่อนที่จะยกชาคาโมมายร้อนขึ้นมาจิบเช่นกัน
“แล้วแกมีผู้หญิงที่ชอบแล้วจริงหรือเปล่า ปีนี้แกก็ 27ย่าง 28แล้วนะ เป็นพ่อช่วงวัยนี้แต่งงานมีพวกแกไปแล้ว"
คุณองอาจเอ่ยถามและลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของบุตรชายที่มีส่วนคล้ายกับเขาสมัยหนุ่มๆ อยู่เพียงยี่สิบส่วน ส่วนมากบุตรชายคนนี้จะใบหน้าคล้ายภรรยาของเขามากกว่า ผิดกับบุตรชายคนโตที่เหมือนเขาอย่างกับแกะ ถึงต้องมาอายุสั้น เพราะมีชะตาชีวิตที่อาภัพ ตามความเชื่อของคนเหนือนั้นหากบุตรชายหน้าเหมือนกับบิดาย่อมมีชะตาชีวิตที่อาภัพ ถ้าไม่เสียชีวิต ก็สูญเสียบุคคลที่รัก แต่บุตรชายของเขานั้นเสียทั้งชีวิตและภรรยาที่รัก คิดมาถึงตรงนี้ก็อดที่จะเศร้าใจไม่ได้ ทุกทีที่นึกถึงบุตรชายคนโตหัวใจของเขาที่มันบอกว่าไม่เป็นอะไรมันบีบรัดจนแทบจะหายใจไม่ออกทุกครั้ง ณดลสังเกตอาการของบิดาก็รู้ได้ทันทีว่าท่านคิดถึงเรื่องอะไรอยู่
“คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ปีหน้าผมจะพาลูกสะใภ้เข้าบ้านเสสกุลของเราให้ได้ และผมจะรีบมีน้องให้น้ำหวานและมีหลานอีกคนให้พ่อทันทีเลยครับ” ณดลพูดพร้อมรอยยิ้ม เรียกรอยยิ้มจากมุมปากของบิดาได้เป็นอย่างดี
“พ่อก็หวังว่าแกจะทำสำเร็จนะไอ้เสือ พ่อกับแม่แกแก่แล้ว ไม่รู้จะอยู่บนโลกนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ขอแค่ลูกสะใภ้ของพ่อเป็นคนดี รักแกจากใจ ดูแลแกให้ดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็หมดห่วงแล้วล่ะ”
คุณองอาจเอ่ยขึ้นอย่างปลงๆ ณดลมองใบหน้าของบิดาที่ปีนี้ดูแก่ขึ้นมาจากปีก่อนพอสมควร ด้วยคุณองอาจนั้นชอบทำงานในไร่ ถึงแม้จะมีลูกน้องอยู่เต็มไร่ คนเป็นนายแบบเขาก็ไม่เคยที่จะละเลยให้คนอื่นได้มาดูแลแทนตนเท่าไหร่
“เออ พรุ่งนี้เพื่อนพ่อจากพานจะมาดูไร่ของเรา ช่วงนี้ผลไม้ของพ่อไม่พอทำบุฟเฟ่ เขาเลยจะส่งผลไม้จากไร่ของเขามาช่วยด้วย” คุณองอาจบอกบุตรชายก่อนจะนึกถึงบ้านของคุณครูสาวที่เป็นสวนผลไม้เช่นกัน
“ครับ พ่อจะให้ผมช่วยอะไรก็บอกได้นะครับ ผมกับหลานมาพักผ่อนสองอาทิตย์ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ นี่ผมว่าอีกสักสองสามวันจะเข้าเมืองไปดูร้านสาขาเชียงรายสักหน่อย” ณดลบอกบิดา คุณองอาจพยักหน้า สองพ่อลูกคุยกันอยู่สักพักจึงแยกย้ายกันไปนอน
วันรุ่งขึ้น
“เจ้าขาไปกับพ่อไหมลูก พ่อจะไปดูสวนขององอาจซะหน่อย เห็นบอกผลไม้ไม่พอทำบุฟเฟ่” คุณวิโรจน์เอ่ยถามบุตรสาวคนเดียว
“จะชวนลูกไปทำไมกันล่ะคะคุณ ลูกเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯเหนื่อยๆ” คุณอมรรัตน์บ่นให้สามีทันที
“ไม่เป็นไรค่ะคุณ แม่เจ้าขาไปเป็นเพื่อนคุณพ่อได้ค่ะ”
สาวสวยส่งยิ้มให้กับมารดา คุณอมรรัตน์ได้แต่ส่ายศีรษะให้กับบุตรสาวที่ชอบตามบิดาไปตามไร่นั้นไร่นี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา จนได้ไปเป็นครูประจำอยู่ในกรุงเทพฯจึงห่างไกลงานไร่งานสวยไปบ้าง
สายๆ รถกระบะคันกลางเก่ากลางใหม่ได้แล่นออกจากไร่เอกดำรงกุลมุ่งสู่อำเภอแม่สรวย ผ่านไร่ต่างๆ เข้าไปด้านใน ซึ่งไร่ที่บิดากำลังมุ่งตรงไปนั้นเป็นไร่ที่อยู่ไม่ไกลจากภูเขามากนัก บรรยากาศโดยรอบมีธรรมชาติรายล้อมไม่ต่างจากไร่ที่บ้านของเธอเลย จนรถกระบะได้ขับมาถึงปากทางเข้าไร่ ‘สบายอารมณ์’ ถนนหนทางที่มาไร่แห่งนี้นั้นสะดวกสบายเพราะถนนนั้นลาดยางมาหมดแล้ว ดวงตากลมโตมองไปยังสองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจก่อนที่จะสะดุดตากับรถเบนซ์คันหรูที่จอดอยู่ที่หน้าบ้านทรงโมเดิร์นสองชั้นกลาง พอบิดาของเธอขับเข้าไปใกล้เธอก็ต้องตกใจ
“พ่อคะเจ้าของไร่นี้เป็นเพื่อนกับพ่อหรอคะ” สาวสวยหันไปคุยกับบิดาทันทีที่เขาจอดรถแล้ว
“ใช่ เพื่อนสนิทสมัยเรียนน่ะ มันเพิ่งมาทำสวนที่นี่ได้สี่ปีเอง ก็ตั้งแต่ลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้มันเสียนั่นแหละ เลยพากันย้ายจากกรุงเทพฯมาอยู่ที่เชียงรายทั้งคู่เลย ไป เข้าไปข้างในกันลูก”
คุณวิโรจน์บอกบุตรสาวก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถไป และเพียงไม่นานเจ้าของบ้านที่เป็นสองผู้สูงวัยรุ่นราวคราวเดียวกันกับบิดาและมารดาของเธอก็เดินออกมาต้อนรับ เจ้าขามองไปที่รถเบนซ์คันหรู เธอจำไม่ผิดแน่ นี่มันรถสองอาหลานที่มาส่งเธอเมื่อวานแน่นอน
เจ้าขาเดินลงจากรถไปก่อนที่จะยกมือไหว้สวัสดีผู้สูงวัยทั้งสอง คุณวิโรจน์จึงเอ่ยแนะนำบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนให้กับเพื่อนรักและภรรยาได้รู้จัก
“อาจ หนึ่ง นี่เจ้าขาลูกสาวคนเดียวของข้า เจ้าขานี่ลุงอาจเพื่อนพ่อ ส่วนนี่คุณป้าหนึ่งภรรยาของลุงอาจเค้า”
สองสามีภรรยามองใบหน้าหวานของบุตรสาวเพื่อนรัก ก่อนที่จะรู้สึกสะดุดกับชื่อของหญิงสาว ‘เจ้าขา’ อย่างนั้นเหรอ คุณหนึ่งฤทัยไม่ปล่อยให้คาใจจึงเอ่ยถามขึ้นทันที
“หนูเป็นครูสอนอยู่ที่กรุงเทพฯใช่ไหมจ๊ะ” เสียงหวานดังออกมาจากหญิงสูงวัย
“ใช่ค่ะ เจ้าขาเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนรัฐบาลแถวย่านมีนบุรีน่ะค่ะ” เจ้าขาตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ครูเจ้าขา.........................”
เสียงเด็กน้อยดังมาจากด้านในของบ้าน ทำเอาผู้ใหญ่มองมาที่เธอเป็นตาเดียว สองสามีภรรยามองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มออกมา ‘ไม่ผิดแน่นอน ลูกสาวของเพื่อนรัก คือคนที่บุตรชายแอบรัก’
“น้องน้ำหวาน นี่คุณปู่คุณย่าของน้องน้ำหวานหรอคะ” เจ้าขาเอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ บิดาของณดลกลับกลายเป็นเพื่อนสนิทของบิดาเธอ โอ้ น่าเหลือเชื่อ
“ใช่ค่า นี่คุณปู่อาจ ส่วนนี่คุณย่าหนึ่งค่า” เด็กหญิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“อ้าว ที่แท้ก็รู้จักกันหรอกหรอเนี่ย แล้วที่เจ้าขาบอกว่าคุณอากับหลานสาวที่เป็นลูกศิษย์ไปส่งที่บ้านเมื่อวานก็ลูกชายแกกับหลานสาวแกหรอกหรอเนี่ยไอ้อาจ ฮ่าๆๆ”
คุณวิโรจน์หัวเราะออกมากับความโลกกลม เจ้าขาได้แต่ยิ้มแหยๆ คุณหนึ่งฤทัยอดที่จะปลื้มในตัวของสาวสวยบุตรสาวของเพื่อนรักของสามีไม่ได้ แบบนี้นี่เองบุตรชายของตนที่ครองตนโสดมานานถึงขั้นยอมตามจีบสาวน้อยคนนี้
“ไปๆ เข้าบ้านก่อนดีกว่า ไปนั่งคุยกัน คงจะมีเรื่องคุยกันอีกยาว น้องน้ำหวานลูกคุณอาณดลตื่นหรือยังคะ” คุณหนึ่งฤทัยบอกเพื่อนสนิทของสามีกับบุตรสาวคนสวย ก่อนที่จะหันไปถามหลานสาวตัวน้อยถึงบุตรชายของตน ณดลคงจะเซอร์ไพร้น่าดู
“คุณอาณดลทำอาหารอยู่ค่า ครูเจ้าขาไปกับน้องน้ำหวานนะคะ”
เด็กหญิงตัวน้อยตอบ ก่อนที่จะหันไปชวนคุณครูคนสวยของเธอเข้าบ้านอย่างดีใจ คุณอาณดลของเธอต้องดีใจมากๆ แน่นอน เจ้าขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนที่จะโดนลูกศิษย์ตัวน้อยจูงมือหายเข้าไปในบ้าน สามผู้ใหญ่ต่างมองหน้ากันก่อนที่จะพากันหัวเราะออกมาอย่างขำขัน
‘นี่มันเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตกันนะ’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments