ที่เขาสุเมรีพันลี้ มีข้าที่เฝ้ารอเจ้า
*ที่ที่สูงส่งแต่กลับเงียบเหงา ที่ที่ต่ำตมก็เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา จะหามีที่ใดได้บ้างที่จะสงบสุขและไร้ซึ่งความโลภละโมบ
เสียงสายลมพัดไปกับกิ่งไม้และใบหญ้า ภูเขาที่เหล่าทวยเทพฝึกตนที่เงียบสงบ* เสียงน้ำกระทบกับจอกสุรา ชายชาตรีท่าทีสง่างามผมดกดำ ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยถูกแสงสุริยัน ยกจอกสุรากระดก
"หวู่ฉิง เจ้าร่ำสุราตั้งแต่หัวตะวันอีกแล้วรึ.." เสียงนุ่มทุ้มของชายผู้ใช้ชีวิตมานานราวนับ100ปี พูดตักเตือนศิษย์ที่สำมะเรเทเมาตั้งแต่หัววัน "ท่านอาจารย์วางใจเถิด ศิษย์เพียงผ่อนครายเล็กน้อยหลังจากนี้ก็จะออกฝึกตนตามที่ท่านอาจารย์บอกแล้ว" ชายผู้เป็นศิษย์นามหวู่ฉิง กล่าวให้อาจารย์ใจเย็นลง ก่อนที่ตงกวนผู้เป็นอาจารย์จะลดตัวลงนั่งข้างๆศิษย์"เมื่อคืนเป็นเช่นไรบ้าง" ตงกวนถามหวู่ฉิง "อาจารย์เป็นห่วงศิษย์ด้วยหรือ^^" หวู่ฉิงทำหน้าทะเล้นหยอกล้อผู้เป็นอาจารย์
"เจ้าเป็นศิษย์ข้าหาใช่คนอื่นไกล ข้าย่อมเป็นห่วงเจ้าเป็นเรื่องปกติมิใช่รึ"ตงกวนพูดขึ้น
สีหน้าของหวู่ฉิงแลดูสลดขึ้น ก่อนที่จะกลั้นใจกระดกจอกที่4ตามไป
"**ท่านอาจารย์..ศิษย์ขอถาม.."
"ว่ามาสิ//กินเหล้าในมือ"
"ข้า..เป็นเพียงศิษย์..รึ"เสียงของหวู่ฉิงแผ่วเบาลงจนแถบจะต้องเอียงหูฟัง เมื่อถามถึงสถานะที่ท่านอาจารย์ผู้เป็นที่รักมองมาที่ตน
"แน่นอน เจ้าเป็นศิษย์ของข้าและจะเป็นศิษย์ของข้าตลอดไป" ตงกวนคงจะไม่ได้ยินเสียงหวู่ฉิงเป็นแน่หากเขาไม่ได้มีหูทิพพ์ศักยภาพพิเศษทั้งห้าของผู้ฝึกเซียน
"นั้น..สินะ"เสียงหวู่ฉิงพึมพำ
"หรือเจ้าคิดจะแปรพักไปเป็นศิษย์สำนักอื่นกัน?"
"ศ..ศิษย์มิกล้า! ท่านอาจารย์โปรดวางใจ! หากศิษย์คิดชั่วแปรเปลี่ยนใจที่มีต่อท่านอาจารย์ศิษย์ขอตาย!"หน้าของหวู่ฉิงแดงระเรื่อพร้อมกับเสียงที่ตึงขึ้นและท่าทีลุกลี้ลุกลนเอ๋ยคำสัญญาชั่วนิรันน์
"หวู่ฉิง.."
"ขอรับท่านอาจารย์?"
"ข้า..."ตงกวนตะหนักถึงคำที่หวู่ฉิงเอ๋ย หน้าระเรื่อสีแดงและเศร้าหมอง
"ท่านปรมจารย์เซียนขอรับ! สำนักเหว่ยถูกตีแตกขอท่านโปรดช่วยเหลือ!!"ยังไม่ทันที่ตงกวนจะพูดความในใจเสียงของศิษย์สำนักไท่เว่ยก็พูดขอความช่วยเหลือแทรกขึ้น
"..ข้าเข้าใจแล้ว" ตงกวนลุกขึ้นยืน
"ท่านอาจารย์จะไปแล้วหรือขอรับ.."
"อื้ม..เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบกลับมา"
"แต่ว่า!ท่านอาจารย์.."
"หรือเจ้าจะผิดสัญญาที่ให้กับข้าล่ะ"ตงกวนพูดยิ้ม
"ท่านอาจารย์เข้าใจที่ศิษย์สื่อ"หน้าของหวู่ฉิงแดงระเรื่อและเสียงที่สั่นคลอนพร้อมกับเอามือบังหน้า
"รอข้ากลับมาแล้วข้าจะให้คำตอบ"เสียงตงกวนยิ้มและหน้าแดงทำให้หวู่ฉิงใจสั่นจนแถบทนไม่ไหว
ก่อนที่ตงกวนจะเหาะอากาศลอยออกไปจนสุดสายตาของหวู่ฉิง
...----------------...
สายลมพัดผ่านยามราตรี ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วทั้งผืนป่า แต่กลับมีเสียงอันไม่พึงประสงค์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เสียงประทะกันจนเกิดเสียงแหลมผู้ที่ทำให้เกิดเสียงนั้นคือกลุ่มคนทั้งสองที่ประทะกันด้วยพลังเซียนและฝีมือดาบ กลุ่มนึงใส่เสื้อสีเขียวมรกตและหยกรูปพยาหงค์ อีกกลุ่มเสื้อสีฟ้าครามตัดดำปิดบังหน้า ไม่ทันที่จะเกิดการวิวาทมากกว่านี้นักตงกวนก็มาทันการ เข้าประทะกับกลุ่มชายชุดครามเพื่อรักษาสำนักเหว่ยไว้ ไม่ต้องเอ๋ยคำใดทุกคนต่างรู้ดีว่าทั้งฝีมือวิชาเซียนและฝีมือดาบของตงกวนไม่เป็นสองรองใคร ศึกครานี้ไม่ต้องรอผลตัดสินก็มั่นใจได้ว่าตงกวนจะชนะ เช่นเดียวกันที่ฝ่ายผู้บุกรุกที่รู้ชะตาตน จึงใช้กลโกงหยิบผนึกศิลาพันปีที่ผนึกปีศาจที่ทำลายโลกเมื่อ100ปีก่อนออกมา
"หยุดเอาไว้แค่นั้นซะ!!!"
ไม่ทันที่ตงกวนจะตะโกนห้าม กลุ่มเสื้อครามก็เปิดผนึกอสูรกาย100ปีออกมา
ความโกลาหลบังเกิด ความวิบัติของโลกเริ่มต้นอีกคราแล้ว เกิดเสียงแผ่นดินไหวดังสนั่นทั่วพิภพฝนฟ้าคนองส่งพายุลูกใหญ่ประเดประเข้ามา สัตว์ประหลาดที่ถูกผนึกไว้ครานี้มันได้คืนชีพมาอีกแล้ว ตงกวนกัดฟันแน่นก่อนจะหันไปหาหนึ่งในกลุ่มสำนักเหว่ย
"ฝากไปบอกลูกศิษย์ข้าด้วย บัดนี้ข้าคงไม่สามารถไปบอกคำตอบที่เค้ารอได้แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่าน ข้ามีความสุขเหลือเกิน โชคชะตากลั่นแกล้งเล่นตลกร้ายกับข้าอีกคราเสียแล้ว ขอเจ้าจงอย่าร้องไห้เสียใจ จงใช้ชีวิตในทางแห่งธรรมหมั่นฝึกฝนให้ดีแล้วกลายเป็นผู้กล้าปกป้องเหล่าผู้อ่อนแอ"
*สิ้นคำพูดของตงกวนที่เป็นราวกับคำสั่งเสียเค้าก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่องคาถาและแสงสีทองอร่ามปกคลุมทั่วร่าง เขาขี้นิ้วรวบรวมพลังเซียนทั้งหมดที่สะสมมา100ปีทำการปิดผนึกสัตว์ร้ายโดยใช้ร่างกายเค้าเป็นภาชนะ เมื่อปีศาจถูกผนึกลงภัยธรรมชาติต่างๆก็ยุติลงเช่นกันร่างของตงกวนค่อยๆสลายไปกับแรงลม*
...------ที่เขาฝึกเซียน-------...
หวู่ฉิงเฝ้ารออาจารย์ตนกลับมาจนเข้าวันที่สาม สายตายังคงมองรอตงกวน เหล้าในตอนนี้ไม่เหลือเลยแม้สักหยด เขานั่งเงียบ ดวงตาสีดำขลับเดียวกับเส้นผม มองด้วยสายตาจดจ่อและคาดหวัง เค้าเฝ้ารอคำตอบของผู้เป็นอาจารย์ว่าสุดท้ายนี้อาจารย์จะรู้สึกเช่นไรกับตน
"หวู่ฉิง หวู่ฉิง!" เสียงร้องตะโกนของชายคนนึงทำให้ภวังแห่งความเงียบสิ้นสุดลง
"ท่านคือ.."หวู่ฉิงถามชายที่พรวดพลาดเข้ามาในภูเขาฝึกเซียนที่เป็นที่ฝึกฝนของเค้าและอาจารย์
"ข้าคือศิษย์สำนักเหว่ย ข้าคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด.."เสียงชายสำนักเหว่ยตึงขึ้นมาพร้อมกับความกังวล
"เจ้า คือคนจากสำนักที่ท่านอาจารย์ไปช่วยเหลือนี่ แปลว่าท่านอาจารย์สามารถกู้สำนักเหว่ยมาได้แล้วสินะ..! แล้ว..ท่านอาจารย์ล่ะ? "เสียงของหวู่ฉิงถามถึงอาจารย์ตนด้วยท่าทีดีใจที่จะได้เจอท่านอาจารย์แล้ว
"ท่านปรมจารย์ตงกวน..สิ้นลมหายใจแล้ว"ชายสำนักเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงสลด
".... เจ้าหมายความเช่นไร" เสียงของหวู่ฉิงตึงจนน่ากลัว
"ท่านปรมจารย์ตงกวนสละชีวิตใช้ตนเป็นภาชนะผนึกปีศาจที่ทำลายโลกเมื่อ100ปีก่อน ช่วยเหลือสำนักเหว่ย และช่วยเหลือยุธภพใบนี้.." *คนสำนักเหว่ยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้หวู่ฉิงฟัง รวมถึงคำสั่งเสียของตงกวน
"......"ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง 'ไม่ทันที่จะบอกความในใจที่มีต่อท่านตลอดหลายปี ท่านก็ด่วนจากข้าไปเสียแล้วหรือท่านอาจารย์' 'จะเรียกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อโลก หรือคนที่เห็นแก่ตัวดี*'
คนสำนักเหว่ยที่เห็นท่าทีโศกเศร้าของหวู่ฉิงที่เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของตงกวน ทุกคนต่างรู้ถึงความสามารถและสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองอาจารย์และศิษย์นี้มาก แค่เห็นก็เห็นใจแทนจึงได้แต่กลับไปเพื่อให้หวู้ฉิงได้ทำใจกับการจากไปของอาจารย์
...สายฝนพรำลงมา สัญญาญของฤดูฝนที่เริ่มอีกคราพร้อมกับหยาดหยดน้ำตาของหวู่ฉิง เสียงสะอื้นไห้ดังกึกก้องสนั่นลั่นเขาและถูกกลบลงไปด้วยเสียงแห่งสายฝน บัดนี้อาจารย์ที่เขาเคารพและผู้เดียวที่เค้ารักได้หายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับแล้ว บาดแผลในใจถลำลึกลงสู่รากเหง้าจิตวินญาญ เขาอยากที่จะทำลายเหล้าผู้คนที่รังแกอาจารย์ นั่งนิ่งดูดายปล่อยให้อาจารย์ตายลงอย่างทรมาน หยดน้ำตาไหลพรากพร้อมกับสายฝน ในหัวหวู่ฉิงคิดมากมายพรรณนา...
ไม่ทันคิดแค้นก็ชุกคิดถึงคำสั่งเสียของอาจารย์ หวู่ฉิงกัดฟันทน และคิดที่จะรอตงกวนกลับมา
"*ท่านอาจารย์ไม่มีวันตาย!ท่านอาจารย์ไม่มีวันตายย!!"เสียงตะโกนของหวู่ฉิงดังสนั่นลั่นไปไกลนับพันลี้
...ความเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของตงกวนนั้นทำให้หวู่ฉิงนึกผิด คิดไปว่าอาจจะเป็นกลอุบายทำลายความสัมพันธระหว่างอาจารย์และเค้า 'อาจารย์จะต้องกำลังทำธุระเลยทำให้กลับมาช้าอยู่แน่เพราะอาจารย์สัญญาเอาไว้แล้ว*'...
...------แคว้นกงหยวน------...
"องค์รัชทายาท!!หยุดเถิดพ่ะย่ะค่ะ!!"
"ว..ว้าย!องค์รัชทายาท"
"องค์รัชทายาท!!!"
...เสียงร้องตะโกนห้ามดังไปทั่ววังหลวง ความวุนวายที่บังเกิดตั้งแต่เช้าตรู่และผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์อลมานนี้หาใช่ใครอื่น รัชทายาทแห่งแคว้นกงหยวน...
...อี๋เหลิน ฉงเฉิง...
เส้นผมยาวสีบลอนยาวถึงเอว ดวงตาสีฟ้าอ่อน และใฝเสนห์ที่ใต้ตา ใบหน้าจิ่มหลิ่มของหนุ่มอายุ21 และใช่ นี่หาใช่ชายหนุ่มที่ไหนไม่แต่เป็นตงกวนที่กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นรัชทายาทแห่งแคว้นกงหยวนหลังจากที่ตงกวนตายก็ผ่านมาแล้ว1000ปี การฝึกเซียนกลายเป็นสิ่งที่ใครก็ทำได้ แต่ไม่มีใครบรรลุถึงแก่นแท้เท่ารุ่น1000ปีก่อน
...... บัดนี้ตงกวนที่เกิดเป็นฉงเฉิงและลืมอดีตชาติของตนเองไปแล้วหมดสิ้น แต่กลับยังมีความรู้สึกที่ยังคงเหลือไว้ด้วยพลังแห่งเซียน ถึงไม่อาจรักษาร่างกายและจิตวิญญาญของตงกวนได้ แต่ยังสามารถรักษาความรู้สึกนึกคิดของตงกวนคนเดิมได้ทั้งหมด......
"ข้าหยุดไม่ได้หรอก!ข้าต้องรีบแล้ว!" เสียงฉงเฉิงตะโกนดังอธิบายแก่ทหารเฝ้ายามที่ตามเค้ามาติดๆตามคำสั่งของฮ่องเต้ที่ให้ตามองค์รัชทายาทกลับมาจากการเที่ยวเล่นไปเรื่อยให้มาศึกษาตำราการสืบครองบัลลังต่อจากตน แต่หากคงจะได้ผลกว่านี้ถ้าองค์รัชทายาทที่ว่าไม่ได้เป็นคนที่สนอกสนใจในเรื่องแก่นแท้ของเซียน
"ขอโทษ และขอตัวนะ!!!"เสียงฉงเฉิงร้องตะโกนก่อนจะใช้วิชาตัวเบาไต่กำแพงกั้นวังและภายนอก วิ่งหายเข้าไปในป่า
...------ที่เขาฝึกเซียน-------...
..."วันแล้ววันเล่าเลยผ่านไป จากวันไปเป็นอาทิตย์จากอาทิตย์ไปเป็นเดือนจากเดือนไปเป็นปี ข้ารอท่านมาก็1000ปีแล้ว..ท่านก็ยังไม่หวนกลับมา"...
...--ด้านฉงเฉิง--...
"เห้อ...หนีมาพ้นแล้วสินะ.."ฉงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงโล่งใจ เค้าหนีมาไกลจากวังหลวงมายังแคว้นเพื่อนบ้าน ที่เขาต้องทำขนาดนี้ก็เพราะเค้านั้นได้ไปเจอตำราเซียนเล่มโบราณมา ราชวงษ์อี๋หลินของเค้านั้นตามเดิมเคยเป็นคนของสำนักเหว่ย และบรรพบุรุษของเค้าก็เป็นผู้นำสำนักเหว่ยที่เคยถูกช่วยชีวิตโดยเซียนคนนึงหลังจากเหตุการที่สำนักเหว่ยเคยถูกตีแตก เค้าไปเจอบันทึกโบราณเกี่ยวกับเซียนคนนั้น ซึ่งเค้ารู้สึกคุ้นเคยกับเซียนที่บันทึกกล่าวถึงเป็นอย่างมากถึงจะไม่เคยมีความสงจำเกี่ยวกับเซียนคนนั่นแต่ความรู้สึกและสันตชาตญาตของเค้าบอกว่ารู้เกี่ยวกับคนคนนี้ และอีกคนที่เค้าอ่านเรื่องราวแล้วเค้ารู้สึกผิดและมีความรู้สึกคิดถึงแปลกๆกับเค้าคนนี้และคนที่ว่าอยู่ก็คือหวู่ฉิง ศิษย์ของตงกวนปรมจารย์แห่งยุทธภพเซียนเมื่อ1000ปีก่อน เค้าจึงตั้งใจเดินทางไปยังที่ภูเขาสุเมรีภูเขาที่บอกเอาไว้ว่าเป็นภูเขาฝึกเซียนที่ที่ตงกวนและหวู่ฉิงไปฝึกบ่อยที่สุด ตำราโบราณนั้นแม้จะถูกเขียนเอาไว้เมื่อนานมาแล้วแต่เค้ากับผูกพันและมีความรู้สึกร่วมกันมากราวกับเป็นเรื่องราวของตนเอง..
"ข้าจะต้องไขข้อข้องใจนี้ให้ได้เสีย..มิฉะนั้นคงนอนไม่หลับทั้งชีวิตนี้แน่..//คิดในใจ"
ฝากกดไลน์เป็นกำลังใจให้แอดในการสร้างตอนต่อไปด้วยนะค้า~
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments