ไปด้วยกันไหม

( วินท์ )

:

:

"นั่งดีๆ"

"มึงอย่ายุ่งกับผมกู อย่าจับ" เสียงมันโวยวาย ที่ตอนนี้ผมพยายามจะผูกผมให้มันอยู่ เพราะทนเห็นสภาพมันตอนนี้ไม่ไหว

"มึงจะให้กูผูกดีๆหรือมึงจะให้กูตัด..ว่ามา" ผมถามเสียงแข็ง ก่อนมันจะนิ่งและมองผมด้วยแววตาเคืองๆ

"แล้วทำไมมึงต้องมายุ่งกับผมกูด้วยวะ ผูกขึ้นไปก็หมดเท่กันพอดี "

"ก็กูอยากเห็นหน้ามึงชัดๆ เหตุผลแค่นี้พอไหมวะ แล้วจำไว้ถ้ามึงทำให้มันยุ่งเหยิง อีกละก็ กูจะตัดมันทิ้งชะ หรือไม่มึงก็กลับบ้านมึงไปเลย เพราะกูไม่อยากเห็นแม่นาคเดินไปเดินมาในบ้านกู" มันเบ่หน้าออกมาเล็กน้อย "เป็นไร "

"ป่าว...กูหิวข้าว "

"งั้นไปกินข้าวที่วัดกัน"

"ห้ะ...อีกแล้วหรอ กูไม่ไป"

"เอ้า...แล้วมึงจะไปกินที่ไหนแถวนี้ไม่มีร้านอาหารหรูๆให้มึงกินหรอกนะ ที่วัดน่ะหรูสุดแล้ว เฮ้ยยย..เสียงมันถอนหายใจออกมายืดยาว

"ถามจริง มึงไม่คิดจะกลับบ้านมึงไปหรอวะ เรื่องแค่นี้มึงก็ค่อยๆทำไป มึงเป็นความหวังของตระกูลไม่ใช้หรอ" ไม่มีเสียงตอบจากต้นทาง มันนั่งนิ่งเหมือนประมวนอะไรบางอย่างในหัวอยู่

"งั้นมึงก็ไปช่วยกูสิ มึงก็เป็นคนมีฝีมืออีกอย่างมึงก็อยู่คนเดียว มึงจะเอาค่าจ้างเท่าไหร่ว่ามาเลยเดี๋ยวกูจ่ายเอง

"มึงจะบ้าหรอ กูไม่ไปหรอก ขืนกูไปทำงานกับมึงกูได้ประสาทแดกตายก่อนพอดี อีกอย่างนะ กูต้องเฝ้าสมบัติ ก็คือที่นี่และกูก็ยังมีพ่อ กูทิ้งไปไม่ได้หรอก" ผมพูดพรางหยิบเชือกที่วางอยู่บนโต๊ะมาผูกผมให้มัน

!!

"เอี่ยยยย.. เสียงเบรครถที่ดังลากเสียงมาตั้งแต่หน้าปากซอยจนถึงหน้าบ้าน ดูมันแล้วก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร

"มาจนได้...งั้นกูกลับก่อนละกัน มึงไม่ไปกับกูแน่หรอวะ" ผมพยักหน้าให้มันเป็นคำตอบพร้อมกับเดินไปส่งมันที่หน้าบ้าน รถสปอร์ต จอดเรียงรายเป็นแถว พร้อมกับบอดี้การ์ด เป็นโขยง ที่เดินเรียงแถวลุงมาจากรถ พร้อมกับทำความเคารพ เจ้านายของมัน

"คุณซิตเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยถาม

"ไม่เป็นไร" .... "กูไปก่อนนะวินท์มึงแน่ใจใช้ไหมว่าจะไม่ไป ผมพยักหน้าให้มันเป็นคำตอบก่อนจะยกมือขึ้นเป็นการบอกลา แล้วมันก็ก้าวขาขึ้นรถไป ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะไปที่วัดต่อ รู้สึกบ้านโล่งไปเยอะที่ไม่มีมันอยู่ แต่ก็ใจหายแปลกๆ เหมือนกัน มันก็เหมือนเป็นเพื่อนผมคนนึงตลอดหลายวันที่ผ่านมา มันทำให้ผมไม่เหงา ถึงจะดูไม่รู้ประสีประสาเท่าไหร่ แต่ผมก็ยอมรับว่าหน้าหวานๆของมันดึงดูดผมได้เยอะเลยทีเดียว " คิดอะไรเนีย" คิดแล้วส่ายหน้าตัวเองเรียกสติก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ทำไมวันนี้รู้สึกเป็นกังวนแปลกๆนะ พอมาถึงวัดมีเด็กคนหนึ่งรีบวิ่งกุลีกุจอมาทางผมอย่างรีบร้อน "พี่วินท์ครับ รีบไปดูหลวงตาเร็ว" เด็กน้อยเอ่ยออกมาและรีบดึงมือผมไป ผมรีบวิ่งไปอย่างรีบร้อน และภาพที่เห็น พ่อผมถูกยิงเข้าหน้าอกด้านช้ายนอนหายใจโรยรินอยู่บนพื้นห้องพร้อมกับเลือดที่กระจัดกระจายเต็มพื้น

"พ่อครับเป็นอะไร " ผมรีบไปพยุงพ่อลุกขึ้นด้วยมือที่สันเทาตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกมันตื่อและตันไปหมด ผมจะทำยังไงดี ผมรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารถพยาบาล "หมับ" พ่อคว้ามือผมไว้ก่อนจะพูดออกมา

"หนีไป" คำเดียวที่พ่อเอ่ยกับผมพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ก่อนจะสิ้นใจไปต่อหน้า

"พ่อครับ" นํ้าตาเแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาเต็มสองข้างแก้ม ปลอกกระสุนรวดรายแปลกๆที่ตั้งอยู่ข้างร่างของพ่อ ผมรีบเก็บมันยัดใส่กระเป๋า "หนีไป" คำเดียวที่เป็นคำสั่งของพ่อ ผมรีบออกมาจากที่นั้นทันที ผมไม่รู้ว่าทำไมหรือเพราะเหตุใด แต่เมื่อมันออกมาจากปากของพ่อผมก็เลือกที่จะฟัง ผมตรงมาที่บ้านพร้อมกับเก็บของยัดใส่กระเป๋า ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ กระดาษแผ่นหนึ่งที่พ่อให้ไว้ มันคืออะไร ผมรีบเปิดจนหมายนั้นออกมาดู ในข้อความของจดหมาย

!!

พ่อรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง ไม่ต้องเสียใจ พ่อเลือกที่จะปกปิดเรื่องราวทุกเรื่องมาตลอด เพราะความปลอดภัยของเรา มณีแก้วคือตระกูลของเราผู้ที่ครอบครองดวงแก้วสีขาว ตระกูลของเรามีมนต์ช่วยรักษาเลือดของเจ้าจะช่วยชีวิตคนที่แม้จะเจ็บปางตายได้ แต่ลูกอย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด เพราะมันจะแลกมากับชีวิตของลูกเอง จงจำไว้อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร และหนีไปให้ไกลที่สุด

อย่าไว้ใจใครเด็ดขาดจำไว้ ส่วนดวงแก้วเมื่อถึงเวลาลูกจะรู้เองว่ามันอยู่ที่ไหน รีบหนีไป...

!!

ข้อความในจดหมายมันทำให้ผมเกิดคำถามมากมายในหัว ผมเลือกที่จะเผากระดาษแผ่นนั้นทิ้งแล้วเดินออกมาจากบ้านทันที ก่อนจะถึงหน้าประตูบ้าน ผมรู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่คอยดึงร่างผมไว้ ก้าวแต่ละก้าวที่เดินไปมันหนักอึ้งเหมือนมีหินมาถ่วงไว้ ก่อนสติผมจะขาดหายผมเห็นเงารางๆของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาช้าๆ แต่ผมไม่สามารถที่จะพูดหรือมีเรี่ยวแรงพอที่จะยกแขนขึ้นมาได้เลย...

!!

"ตื่นแล้วหรอ" ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ขอบเตียงถามขึ้นมาในขณะที่ผมหรี่ตาขึ้นมามองช้าๆ"ใคร" ผมถามออกมาด้วยเสียงที่แหบติดลำคอ

"ฉันเป็นเพื่อนของพ่อเราน่ะ ฉันเป็นคนช่วยนายไว้เอง ผมมองร่างนั้นด้วยความสงสัย ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ชายวัยกลางคนดูดีมีอำนาจ สายตาเฉี่ยวคมจนผมต้องหลบสายตาคู่นี้ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องที่กว้างขวางถูกตกแต่งอย่างหรูหรา

" คุณไม่ต้องโกหก พ่อผมไม่เคยมีเพื่อน" ผมพูดพร้อมกับลุกออกจากที่นอน " ผมจะกลับบ้าน" ผมรีบเดินไปทางประตูก่อนจะมีคนมาขวางไว้

"จะรีบไปไหน ไม่อยากรู้หรอว่าใครฆ่าพ่อเรา" คำนี้ทำให้ผมหยุดฝีเท้า " "คุณรู้หรอ" ผมรีบกลับไปถามคนผู้นั้นทันที

"ฉันก็ไม่รู้แต่ฉันจะช่วยนาย ถ้านายเต็มใจอยู่ที่นี้ ฉันรับรองว่าฉันจะดูแลนายอย่างดี" คำพูด กิริยาท่าทางดูองอาจ จนทำให้ผมเชื่อใจเขาไปมากกว่าครึ่ง อีกอย่างคนผู้นี้เป็นที่เคารพของเหล่าลูกน้อง หน้าจะพูดอะไรที่น่าเชื่อถือได้ ใจผมเองก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อเหมือนกัน

"ได้ แต่ถ้าผมรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อแล้ว ผมจะไปจากที่นี่ทันที คุณตกลงไหม

" ได้สิ ฉันรับปากแต่นายต้องอยู่ที่นี้ในฐานะญาติห่างๆของฉัน เพื่อให้ไม่เป็นการสงสัยของคนอื่นได้ แล้วนายชื่ออะไรฉันจะได้เรียกถูก

"วินท์ครับ

"ฉันโซตนะ เรียกฉันคุณโซตก็ได้ไม่ต้องเรียกตามพวกนี้หรอกมันดูห่างเหิน

"ครับ" ผมไม่สนใจว่าเขาต้องการอะไรแต่สิ่งที่ผมสนใจคือว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อต่างหาก ถ้าผมรู้ผมจะไม่มีวันให้อภัยคนคนนั้นเด็ดขาด

##%%%###%%%%

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!