คุณหนูจะเป็นลม

'นี่มันเรื่องบ้าอะไร'

คนสวยซึ่งยืนใบหน้างอง้ำอยู่ภายในห้องทำงานโออ่าที่เธอมีโอกาสได้เข้ามาเป็นครั้งแรกนึกอยากตะโกนถามเจ้าของห้องทว่า ทิฟฟานี่ ภควรัญ กลับทำได้เพียงแค่กันตะโกนในใจเท่านั้นจริงอยู่ว่าเธอเป็นคุณหนูไฮโซที่ไม่เคยสนใจหน้าอิทร์หน้าพรหมมีเพียงแค่ญาติผู้ใหญ่ซึ่งเลี้ยงดูทิฟฟานี่มาตั้งแต่เยาว์วัยเท่านั้นที่หญิงสาวรักและเคารพราวกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ส่วนคนอื่นไม่เคยอยู่ในสายตาแต่เธอก็ฉลาดพอที่จะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

หญิงสั่งยาแผงฤทธิ์ใจแทบขาดเมื่อถูกบังคับพาตัวมาจากสนามบินอย่างไรมารยาท กลุ่มชายฉกรรจ์สวมสูทสีดำและมียานพาหนะเป็นรถยนต์สัญชาติยุโรปสีดำเช่นเดียวกับชุดจับเธอแยกจากอติรุจและ ศจีมาศภควรัญสองสามีภรรยาซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณอาของ

ทิฟฟานี่ทว่าหญิงสาวก็จะต้องสงบปากสงบคำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ทิฟฟานี่เป็นผู้หญิงสวยสะดุดตาและหญิงสาวก็รู้ว่าตัวเองสวยเสียด้วยเธอไม่ได้สวยเพียงแค่ใบหน้ารูปร่างก็ยังสะโอดสะองเย้ายวนใจขึ้นหญิงสาวโวยวายแล้วหนุ่มกัดมันพวกนั้นคิดรุมข่มขืนเธอเป็นการลงโทษเธอก็แย่น่ะสิหากว่าอยู่บนแผ่นดินไทย

ทิฟฟานี่คงไม่ต้องหวาดเกรงใครหน้าไหนเพราะ

อติรุจ ภควรัญ มีอิทธิพลพอตัวแต่ที่นี่คือลาสเวกัสเธอสวย เธอรวย เธอมั่น มันก็ใช่ แต่เธอไม่มีอิทธิพลอยู่ที่ลาสเวกัสนี่นา

"จะเก๊กอีกนานไหมเนี่ยรู้หรอกว่าหล่อ ล่ำ เร้าใจ

น่าหม่ำสุดๆ ไปเลย"

หญิงสาวทำปากขมุบขมิบสวดส่งเจ้าของห้องผู้ชายใบหน้าหล่อจัดแต่กลับไร้มารยาทสิ้นดีลูกตาคมกริบแสนสวยของเขามองไม่เห็นหรืออย่างไรว่าเธอยืนหัวโด่อยู่ในห้องทิฟฟานี่สวมเดรสราคาแพงยี่ห้อดังรัดรูปแบบสวยเก๋สีแดงสดขับผิวพรรณขาวผ่องอมชมพูของเธอให้ยิ่งผุดผาดบาดตาเท้าเรียวสวยห่อหุ้มด้วยรองเท้าส้นสูง 4 นิ้วสีเดียวกับชุดแน่นอนรองเท้าคู่นี้ราคาแพงระยับและสวยสุดใจจน ทิฟฟานี่ ต้องซื้อมาครอบครองแต่รองเท้าสวยไม่ได้หมายความว่าต้องใส่สบายตามราคาเธอยืนนานจนรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแต่ผู้ชายหล่อลากคนนั้นก็ยังไม่เอ่ยปากเชื้อเชิญให้เธอนั่งหล่อแต่ไร้น้ำใจสิ้นดี!

'อุตส่าห์ด่าในใจตั้งเยอะยังทำเฉย โอเค! ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษทิฟฟานี่คนนี้จะยอมให้เขาก่อนก็ได้'

" หน้าตาก็ดีอย่าบอกนะว่าเป็นใบ้ " ใจจริงก็อยากเตะปากทักทายอย่างเกรงอกเกรงใจ แต่เมื่อมองมนุษย์รูปงามราวกับเทพบุตรที่นั่งตัวตรงทำหน้านิ่ง เฉยปากของทิฟฟานีมันก็ลืมตัวขยับเก่าอาจารย์เหน็บแนมชายหนุ่มหญิงสาวยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก'ตายจริง!ดันพูดเสียงดังฟังชัดเสียด้วย อีตาเทพบุตรนั่นคงได้ยินเต็มสองหู' ทิฟฟานี แน่ใจว่าชายหนุ่มคงได้ยินคำพูดของเธอครบถ้วนทั้งประโยค ก็ดูดวงตาแสนสวยคู่นั้นสิ ยิ่งทวีความเย็นชาและดุดันขึ้นเรื่อยๆ จนเธอขนลุกฉันไปทั้งตัว เขาจะรู้หรือเปล่าหนอว่าเพียงแค่มอง ดวงตาของเขาก็สามารถสั่นสะเทือนความรู้สึกทหารกล้าของทิฟฟานีจนแทบย่อยยับ

"เฮ้อ! ฉันเครียดจะบ้าอยู่แล้วนะ คุณพาตัวฉันมาที่นี่แล้วก็เอาแต่นั่งมองหน้าฉัน แต่ไม่ยอมพูดยอมจา ฉันรู้ว่าฉันสวย คุณคงชอบมองคนสวยแต่ฉันไม่มีเวลาว่างมายืนให้คุณชมโฉมหรอกนะ ฉันขอเปิดการเจรจา มีธุระอะไรก็รีบพูดมา เราจะได้จบการเจรจา และฉันก็จะได้กลับไปนอนอาบน้ำแร่แช่น้ำนมที่โรงแรม" หญิงสาวสะบัดเส้นผมยาวสลวยจนถึงบั้นท้ายงอนงามสีดำสนิทแล้วกับแพรไหมราคาแพง กว่าจะเดินนวยนาดตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของชายหนุ่มเธอไม่ได้อยากเป็นฝ่ายเข้าหาเขาแต่ยืนนานจนขาแข็ง และเธอต้องการให้บั้นท้ายกลมกลึงสุดเซ็กซี่ของเธอพักผ่อนกับเบาะนุ่มๆ บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม ก่อนที่ขาของเธอจะรับน้ำหนักมากเกินไป จนเป็นสาเหตุของอาการเส้นเลือดขอด"คุณอติรุจไม่ได้บอกคุณอย่างนั้นหรอ"

"คุณอาจะเอาเวลาที่ไหนบอกฉันพอเหยียบเท้าลงที่สนามบินปุ๊บผู้ชายชุดดำตัวใหญ่เหมือนยักษ์ก็กรูกันเข้ามาจับฉันแยกกับคุณอาที่สนามบิน ทั้งหมดนั่นฝีมือคุณล้วนๆเลยใช่ไหม" "ผมขอเรียกมันว่าข้อตกลง" "ข้อตกลง? ข้อตกลงอะไร ช่วยพูดให้มันยาวๆและฟังเข้าใจง่ายหน่อยได้ไหมคะ ฉันเหนื่อย ฉันง่วงฉันหิว ฉันเพลีย ฉันต้องการใช้น้ำอุ่น สปาผิว และนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ฉันก็ต้องมานั่งอยู่ที่นี่ ฉันต้องการความกระจ่างค่ะ อ้อ...ถึงฉันอยากให้คุณพูดยาวๆ แต่มันก็ควรยาวอย่างมีสาระ เอาแต่น้ำ ไม่เอาเนื้อ เอาแบบสรุป ฟังเข้าใจง่าย ไม่เอาแบบเมื่อสักครู่นะคะ ฉันฟังไม่เข้าใจ"

ทิฟฟานีพูดไปเดินไปจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของบุรุษหนุ่มแปลกหน้าเมื่อมีโอกาสได้จ้องมองเขาในระยะประชิดหญิงสาวก็อดที่จะชื่นชมเขาในใจไม่ได้ 'ผู้ชายคนนี้หล่อระเบิดระเบ้อไปเลย'

หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ ถ้าได้ควงแขนไปโชว์โฉมสักวัน แก๊งเพื่อนสาวของเธอคงกรี๊ดสลบด้วยความอิจฉา และบางคนอาจถึงขั้นริษยาก็เป็นได้ ริมฝีปากจิ้มลิ้มอิ่มสวยของหญิงสาวระบายรอยยิ้มบางเบาเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของกลุ่มเพื่อนสาว เรือนกายเย้ายวนชนิดอกเป็นอก เอวเป็นเอวอย่างที่สาวๆ ครึ่งค่อนโลกใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยมาดของนางพญา "โอเค...เนื้อหาโดยสรุป ตอนนี้คุณอยู่ในสถานะผู้หญิงของผม" "พูดเล่นหรือพูดจริงเนี่ยผู้หญิงของคุณ? ฉันเป็นผู้หญิงของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่เราเพิ่งพบกันเมื่อสักครู่เดี๋ยวน้าขอฉันดูนาฬิกาก่อน

ทิฟฟานียกข้อมือขึ้นเพื่อมองเวลาบนนาฬิกาเรือนสวย ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอของใช้ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่สินค้าแบรนด์เนมราคาแพง และนั่นยิ่งทำให้ใช้หนูเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของผู้หญิงดีแต่สวยและไร้สมองมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด พวกเธอยอมพลีกายเสพสุขกับเซ็กเร้าร้อนๆไร้ข้อผูกมัดเพื่อแลกกับข้าวของ เงินทองและความพึงพอใจของร่างกายที่ต่างตอบแทนกันความสัมพันธ์มักเริ่มและจบลงอย่างง่ายดายไม่เคยสร้างพันธะหรือปัญหาไร้สาระให้ชายหนุ่มต้องขบคิด

"เราเพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึง 10 นาที ต่อให้คุณปิงฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า คุณก็ไม่มีสิทธิ์โมเมว่าฉันเป็นผู้หญิงของคุณคุณต้องเริ่มจีบฉันก่อนสิ ดอกไม้สักช่อ ดินเนอร์สักมื้อก็ยังไม่มีแต่ที่สำคัญฉันยังไม่ได้ตกเป็นแฟนของคุณเลยนะ อย่ามาคิดตู่"

"ผมไม่เคยจีบผู้หญิง"

ชายหนุ่มยกมือขึ้นถึงขมับเล็กน้อย เขาคุ้นเคยกับผู้หญิงสวยเซ็กซี่แต่ไม่เคยมีสาวสวยเซ็กซี่ คนไหนพูดมากเหมือนสตรีสาวตรงหน้ามาก่อน แถมเธอยังขยับทำเสียงสูงปรี๊ดระคายเคืองประสาทหูเขาชอบกลและคำตอบของสุภาพบุรุษสุดหล่อตรงหน้าก็ทำเอาทิฟฟานี่ต้องเผลอตัวส่งคอนให้ชายหนุ่มวงใหญ่ด้วยความหมั่นไส้ "แล้วใช้วิธีอะไรฉุดคร่า บังคับ หรือว่ามีวิธีการที่เลิศเลอกว่านั้น"

"ผมใช้วิธีแลกเปลี่ยน"

"แลกเปลี่ยน? ฉันพอเข้าใจ คุณอาจใช้วิธีนั้นซึ่งก็เป็นเรื่องของคุณ แต่กับฉัน ฉันไม่อยากจำได้ว่าเคยเจรจาแลกเปลี่ยนอะไรกับคุณ"

"คุณไม่ได้เป็นคนเจรจาแต่คนเป็นสินค้าแลกเปลี่ยน"

"สินค้าแลกเปลี่ยน!"

ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืน เสียงอุทานของหญิงสาวมันสูงปรี๊ดเสียดแทงโสตประสาทเสียจนชายหนุ่มต้องนิ่วหน้าเพราะรู้สึกระคายเคืองหูพิกล

"สินค้าแลกเปลี่ยนอะไร ไร้มารยาท! ดูฉันให้เต็มตาฉันเป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อ มีจิตใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ ฉันจะเป็นสินค้าได้ยังไง"

นอกจากจะเสียงดังใส่หน้าเขาชนิดไม่กลัวตาย และไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทิฟฟานี่ยังกล้าหาญมากกว่า นั้นเมื่อหญิงสาวชี้ไปนิ้วและยื่นแขนไปด้านหน้า เพื่อจัดการใช้นิ้วชี้ของเธอชี้หน้าชายหนุ่ม และกิริยาไม่น่ารักของเธอก็ทำเอาบุรุษหนุ่มตรงหน้าถึงกับหน้าตึงอย่างไม่พอใจ

"ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณหากว่าคุณ ไม่ยอมเป็นสินค้าแลกเปลี่ยน ก็จ่ายเงินชำระหนี้แทนมิสเตอร์อติรุจ และคุณก็ไปได้"

ชายหนุ่มเองไกลพิงผนังเก้าอี้ ดวงตาของเขากวาดมอง ทิฟฟานีอย่างประเมินราคา ดูเหมือนส่วนลึกภายในใจจะเริ่มคิดว่าเธอไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เสียงของเธอหวานใส แต่มันก็ไม่ชวนฟังเมื่อหญิงสาวใช้มันตะคอกใส่หน้าเขา

"ไม่มีทางที่คุณอาของฉันจะติดหนี้คุณ คุณอาของฉันท่านเป็นมหาเศรษฐี"

"เคยเป็นต่างหาก"

ดวงตาคมกริบของเขาที่ทิฟฟานี่เผลอไผลมองประสานสบด้วย ไม่มีแววบ่งบอกว่าเขากำลังล้อเล่นหญิงสาวถึงกับหอบหายใจ เพราะจังหวัดการเต้นของหัวใจมันรัวเร็วขึ้น จนมือไม้ของเธอชื้นเหงื่อ

ทิฟฟานี่ไม่เคยตกอยู่ในสถานะเป็นรอง เธอมักจะโดดเด่นและมีคนพะนอเอาอกเอาใจ เธออยู่ในวงสังคมไฮโซมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี เติบโตขึ้นมาบนกองเงินกองทองของอติรุจทว่าสายตาของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้กลับมองเธอเหมือนเป็นเพียงแค่ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น!

"เดินมาหาผม ทิฟฟานี่"

ชายหนุ่มเอ่ยปากออกคำสั่งสติของทิฟฟานี่หยุดชะงักไปชั่วคู่ร่างกายของเธอจึงเชื่อฟังคำสั่งของชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนตรงหน้าเก้าอี้ของบุรุษหนุ่มแปลกหน้าแต่หน้าไม่แปลกซึ่งกำลังใช้สายตามองเธออย่างคุกคาม

"ชื่อของผมคือ กีซัส แกรนด์นีส"

"ไม่นะ"

สติของเธอเริ่มกลับคืนมาเมื่อร่างอรชรถูกดึงให้นั่งลงบนตักแกร่งเขาแนะนำตัวพร้อมกับประกบริมฝีปากลูกคันธนูลงบนกลีบปากอ่อนนุ่มของเธอทิฟฟานี่อยากร้องกรี๊ดเพราะทว่าเสียงที่ออกมาก็กลายเป็นเพียงแค่เสียงอึดอักในลำคอ

'จูบแรกของฉัน'

หญิงสาวหวีดร้องอื้ออึงในใจ ถึงบุคลิกภายนอกของเธอจะเปรี้ยวเฉี่ยวหรูหราทว่าทิฟฟานี่ก็ทันสมัยเพียงแค่การแต่งตัวซึ่งเป็นรสนิยมความชอบส่วนตัวเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงเธอไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัว

ไม่นิยม ฟรีเซกส์ เธอมีความเชื่อที่ว่าจะมอบตัวให้กับเจ้าบ่าวในวันแต่งงานเท่านั้น

เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกันแรงปรารถนาของ กีซัส

ก็ฉีดพล่านอยู่ในกายของชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่งเขาแปลกใจเสียจนต้องออกแรงกดริมฝีปากหนักหน่วงเพื่อจูบพิตเธอให้ดื่มด่ำและลึกซึ้งยิ่งขึ้น กีซัส

เคยขาดแคลนผู้หญิงเขาไม่เคยต้องโหยหาเมื่อสตรีสาวสวยพร้อมที่จะเดินเข้ามาสนองความต้องการให้เขาถึงที่และเมื่อค่ำคืนก่อนชายหนุ่มก็พึ่งสั่งลานางบำเรอคนล่าสุดบนเตียงนอนอย่างสุดเหวี่ยงตั้งแต่หัวค่ำจรดเช้าตรู่ก่อนจะเซ็นเช็คให้เธอเพื่อปิดฉากความสัมพันธ์

"อื้อ"

ทิฟฟานี่ครางประท้วงแต่เมื่อสองมือบอบบางของเธอยกขึ้นทุบลงบนไหล่กว้างชายหนุ่มก็จัดการรวบข้อมือกลมกลึงไปไว้ด้านหลังเขาออกแรงเพียงแค่น้อยนิดและใช้เพียงแค่มือเดียวก็สามารถหยุดการเคลื่อนไหวต่อต้านของทิฟฟานี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ริมฝีปากของเธอมีรสชาติหวานหอมละมุนละไมกลิ่นกายก็หอมกลุ่มจรุงใจรวยรินเข้าจมูกเขาในช่วงเวลาที่เรือนกายของทั้งคู่เบียดเสียดกันแนบชิด

หญิงสาวร้องดิ้นแต่เธอเป็นคนสำออยเพียงแค่ขยับตัว กีซัส ก็ออกแรงบีบข้อมือจนเธอต้องหยุดนิ่งยอมให้เขาปล้นจูบอย่างเอาแต่ใจหัวใจของทิฟฟานี่ไหววูบเมื่อลิ้นอุ่นของเขาบุกรุกเข้าไปรุกรานโพรงปากนุ่มหวานที่ไม่เคยมีชายหนุ่มคนใดมีโอกาสลองลิ้มชิมรสเขาจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจูบเหมือนมีสิทธิ์จูบเหมือนเขาเป็นเจ้าของริมฝีปากของเธอและจูบจนกระทั่งหญิงสาวและประสบการณ์ตัวอ่อนอยู่ในวงแขนแข็งกระด้าง

"ไม่นะ..."

เมื่อชายหนุ่มผละริมฝีปากออกห่างหญิงสาวก็เปล่งเสียงครางประท้วง กีซัส สนใจเสียเมื่อไหร่ใช้หนุ่มใส่ใจปฏิกิริยาทางร่างกายของเธอมากกว่า

"ไม่อะไรเมื่อกี้ยังแลกลิ้นกันอยู่เลย"

"ฉันไม่ได้แลกลิ้นกับคุณ"

"ตอนนี้อาจไม่ใช่แต่เมื่อสักครู่ลิ้นคุณอยู่ในปากผม"

ดวงตากลมโตดำขลับของทิฟฟานี่ตวัดขึ้นมองใบหน้าคมคายของ กีซัส ประกายในดวงตาของหญิงสาววาวโรจน์เธอคงทั้งโกรธทั้งอายในเวลาเดียวกัน

"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ"

ยอมรับก็ได้ว่าเมื่อสักครู่เธอตื่นตะลึงไปกับจูบพิษของเขาและเปิดตัวตอบสนองชายหนุ่มนิดหน่อยความจริงการสอดลิ้นเข้าไปในริมฝีปากของชายหนุ่มเพื่อทดลองเกี่ยวกับประวัติลิ้นนุ่มๆของเธอกับลิ้นอุ่นร้อนของเขาดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องนิดหน่อยแต่การกระทำทั้งหมด ทิฟฟานี่ ขอโยนความผิดให้กับ กีซัส

แกรนด์นีส เพราะเขาเป็นคนล่อลวงเธอริมฝีปากของเขากระตุ้นให้เธอทำแบบนั้นน่าอับอายนักที่เมื่อสักครู่หญิงสาวเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะเมื่อรู้ตัวเธอก็ต้องรีบกอบกู้ใบหน้าที่สูญเสียไปด้วยการกระทำเสียงเข้มสั่งให้เขาคลายอ้อมแขน

"ฉันบอกให้ปล่อย"

"ผมไม่เคยอนุญาตให้ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผมผู้หญิงของผมต้องเชื่อฟังและให้เกียรติผม"

"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณไม่ได้เป็นอะไรกับคุณจะบ้าเหรอเจอกันวันแรกก็มาจูบปากฉันจ๊วบๆ จูบแรงจนปากบวมหรือเปล่าก็ไม่รู้แล้วลิปสติกล่ะเลอะหรือเปล่าเนี่ย"

ทิฟฟานี่ทำตัวไม่ถูกจนต้องรั้วคำพูดไร้สาระออกไปเธอไม่เคยต้องนั่งตักผู้ชายหล่อลากดินแล้วโดนปล้นจูบมาก่อนหญิงสาวจึงตัดสินใจไม่ถูกว่าเธอควรจะใช้วิธีการแบบไหนรับมือเขาใช่! เธอควรจะตบเขาสักฉากแต่สองมือก็โดนชายหนุ่มรวบจากเอาไว้แค่ขยับตัวยังรู้สึกเจ็บปวดกล้ามเนื้อแล้วเธอจะมีปัญญาไปตบเขาได้อย่างไร

"ก็คงเหลือแต่ไม่เป็นไรเช็ดออกได้"

หญิงสาวค้อนควักเมื่อได้ยินปากเธอคงไม่ได้เลอะคนเดียวหรอกเพราะริมฝีปากของ กีซัส ก็เปอะลิปสติกสีชมพูหวานของเธอเช่นเดียวกัน

"กรี๊ด! อีตาบ้า! คุณทำอะไร"

ทิฟฟานี่หอบหายใจทั้งโกรธทั้งอายเมื่อชายหนุ่มซุกซบใบหน้าของเขาลงบนเนินเนื้ออวบอิ่มกลมกลึงของอกสาวสะพรั่งซึ่งโผล่พ้นขอบชุดขึ้นมาเพื่ออวดความเซ็กซี่ของคนสวม กีซัส เกลือกกลั้วริมฝีปากของเขาจนบนเนื้อขาวผ่องอมชมพูเนียนละเอียดเขาทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนเจ้าของเรือนร่างแทบเป็นลมหมดสติกับความใกล้ชิดที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้

"เช็ดลิปสติกของคุณออกจากริมฝีปากของผม"

"มีใครเช็ดลิปสติกแบบนี้กันบ้างล่ะปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้มหาโจรลาสเวกัสไอ้คนบ้ากามไอ้รูปหล่อโรคจิต"

หญิงสาวบริภาษชายหนุ่มซึ่งถ้อยคำที่หลุดออกมาแต่ละประโยค ทิฟฟานี่ รู้สึกว่ามันช่างงี่เง่าสิ้นดีแต่ก็ช่างมันเถอะเธอเป็นผู้หญิงและอยู่ในช่วงอารมณ์ที่กำลังอยากโวยวายอยากตั้นหน้าคนที่ไม่ให้เกียรติและอย่าหมิ่นเธอเพราะฉะนั้นทิฟฟานี่ย่อมมีสิทธิ์ด่าทอเขาตามใจชอบ

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! หน้าอกฉันเลอะหมดแล้ว"

"ตรงนี้เขาเรียกว่าเนินอกถ้าหน้าอกก็ต้อง..."

ทิฟฟานี่อยากเอาหน้ามุดดินให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเมื่อชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างรูดซิปชุดเดรสของเธอและใช้มันกอบกุมส่วนขาวผ่องของวัยสาวสะพรั่งเขามันเสือผู้หญิงชัดๆเพราะบราแบบไร้สายกระชับทรวงอกของเธอถูกชายหนุ่มปล้นออกไปจากเรือนกายอย่างคล่องแคล่วขนาดใช้มือเพียงข้างเดียวก็ยังถอดเร็วกว่าเธอถอดเองด้วยซ้ำ!

"คนบ้า!คนเลว!คนแปลกหน้า!คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!"

"ทำได้สิคุณเป็นสมบัติของผม"

"ฉันไม่เคยเป็นสมบัติของใครและบอกไว้ก่อนนะฉันไม่ยอมคบคนนิสัยแย่อย่างคุณเป็นแฟนแน่นอนปล่อยฉัน!เราต้องเจรจากัน"

"คุณไม่ได้รับเกียรติให้เป็นแฟนของผมหรอกอย่างคนก็เป็นได้แค่ผู้หญิงชั่วคราวหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่านางบำเรอของ กีซัส แกรนด์นีส เท่านั้น"

"คนบ้าบอ!ใครจะไปเป็นนางบำเรอของคุณ ฉันไม่เป็นตำแหน่งนี้ฉันไม่รับไม่อยากได้เอาคืนไปอย่านะ!อย่ากินนะ!"

ไม่รู้ว่าควรใช้คำแบบไหนห้ามปรามการกระทำของชายหนุ่มสิ่งที่มนุษย์เราส่งผ่านการเข้าริมฝีปากจุดประสงค์ก็เพื่อการกินหรือดื่มและตอนนี้เขาก็กำลังใช้ปากร้อนผ่าวนั้นงับเอายอดทรวงสีชมพูระเรื่อของเธอเข้าปากในเมื่ออกเธอไม่ใช่ของเหลวก็คงเป็นการ'กิน'ไม่ใช่การ'ดื่ม'

"บอกว่าอย่ากิน อย่ากินฉัน...โธ่..."

"ก็น่ากินออกอย่างนี้"

กีซัส พึมพำและยังคงใช้จมูกกับริมฝีปากจูบก้อนเนื้อเต่งตึงคู่แฝดนั้นไม่ยอมหยุดหญิงสาวได้รับการประคบประหงมเลี้ยงดูมาอย่างดีเธอเป็นไข่ในหินของคุณอติรุจและคุณศจีมาศทุกสัดส่วนบนเรือนกายสาวได้รับการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันตั้งแต่เล็กจนโตเส้นผมของเธอดำขลับมีน้ำหนักทิ้งตัวสลวยผิวกายขาวเนียนผ่องพรรณอ่อนนุ่มหอมกรุ่นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและเท่าที่เขาสัมผัสทรวงอกสาวหนั่นแน่นอวบหยุ่นแม้ไม่มีกรวยของบราห่อหุ้มทรวดทรงก็ยังกลมกลึงอวบใหญ่ไม่มีหย่อนคล้อยสวยงามไร้ที่ติ

"ยี้!เปียกหมดแล้ว อีตาบ้า!"

หญิงสาวพยายามสะบัดตัวหนีแต่เธอก็ไปไหนได้ไม่ไกล กีซัส จูบฟัดและใช้ลิ้นร้อนผ่าวของเขาลิ้มรสชาติทรวงอกขาวผ่องของเธอจนอกนุ่มหยุ่นนั้นเลอะลิปสติกที่ชายหนุ่มได้มันมาจากกลีบปากอิ่มนุ่มของเธอถึงแม้จะรู้สึกหวั่นไหวและวาบหวามต่อการ กระทำของชายหนุ่มไม่น้อยทว่าเธอจะยอมให้เขาเชยชมทั้งตัวไม่ได้เด็ดขาด

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***