หลังจากที่ทั้งสองได้เดินทางออกจากหุบเขา มังกรซินเทียร์ได้ตื่นเต้นกับสิ่งต่างที่นางเคยเห็นเเค่ในหนังสือเท่านั้น เเม้เเต่เมอรินก็ยังอดยิ้มไม่ได้ในความไร้เดียงสาของซินเทียร์ เมอรินเมื่อเขาได้มองเด็กสาวในความกระตือรือร้นในเเบบเด็กสาวโดยทั่วไป เเละการเดินก็คงไม่มีทางเงียบเหงาเพราะเสียงเจื้อยเเจ้วของซินเทียร์ทำเอาเมอรินอดมองด้วยความเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้เลย ในระหว่างทางซินเทียร์ก็ได้ถามอะไรต่อมิอะไรมากมายในสิ่งที่ไม่เคยเห็น เเม้คำถามมากมายเเต่เมอรินก็ตอบด้วยความสุขุมนุ่มลึก
เเม้คำถามถึงจะเยอะเเยะมากมายเพียงใด เมอรินก็ยังพยายามตอบให้ได้มากที่สุดเเละการตอบคำถามของซินด้วยรู้สึกถึงความเอ็นดูในความขี้สงสัยเเละซินเทียร์ก็ยังถามไม่หยุดไม่หย่อน ส่วนเมอรินก็เเนะนำเรื่องเรียนเเละเรื่องพื้นฐานต่างๆ เเละในเรื่องทั่วไป เเละการเดินทางก็ยังไม่มีความเงียบเเม้เเต่น้อยเลย ถึงเเม้การถามจะชวนน่ารำคาญเพียงใดก็ตาม เเต่เมอรินก็ยังพยายามตอบคำถามทีประเดประดังพรั่งพรูมากมายก็ยังถามมาเรื่อยๆ จนเมอรินจนต้องตัดจบการสนทนา
“นี้… ปู่ไอ้นี้คืออะไรเหรอปู่ แล้วไอ้ที่เรานั่งคืออะไรกันแถมใหญ่ยาวมากเลย” ซินเทียร์ถามไปด้วยความสงสัย แต่เมอรินก็ยังตอบคำถามของซินเทียร์ที่ถามมาอย่างไม่หยุดหย่อน
“อ้อนี้เหรอ เขาเรียกว่าบ้าน ส่วนเจ้านี้ก็คือรถไฟอย่างไงละ” แม้เขาจะตอบคำถามแรกไปเเล้ว แต่เด็กสาวก็ยังถามต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนเมอรินต้องตัดจบการสนทนาลงไป
“ว้าว… งั้นในเมืองต้องมีบ้านสวยๆ อีกละสิ งั้นในเมืองต้องมีเรื่องสนุกๆ อีกเยอะเเยะสินะ” เธอพูดขึ้นมาด้วยความไรเดียงสาพร้อมกับสายตาที่เปล่งประกาย ก็เพราะว่า ตั้งเเต่เด็กๆ ซินเทียร์ก็อยู่แต่ในถ้ำมังกรมาตั้งแต่แรกเลยไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นโลกภายนอกแม้เแต่น้อยเลย อย่างมากก็ปแอบขโมยแอปเปิ้ลของราชามังกรแห่งปฐพี เทอร่า ดราก้อนมากินเป็นประจำ
“ฮะๆเจ้านี้ช่างถามซะจริงถ้าเจ้าได้เห็นเจ้าจะได้สนุกกว่าที่เจ้าได้เห็นในหนังสืออีกเยอะ ที่เจ้าจะได้รู้มากกว่านี้อีกสาวน้อย ไปต่อกันเถอะ” เมอรินก็อดมองซินเทียร์ด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสาของซินเทียร์ และแอบยิ้มไป และมองด้วยสายตาที่เอ็นดู
"บู๋… ปู่ขี้งก เเค่นี้ก็ไม่บอก บอกข้านะ ได้โปรดเถอะนะ เเค่นี้เองนะปู่" เมื่อไม่ได้คำตอบจากเมอริน ซินเทียร์ก็ทำหน้ามุ่ย แอบเคืองเบาๆ ที่เมอรินไม่ปล่อยให้อยากรู้
"ก็… ข้าอยากให้เจ้าได้เรียนรู้เองจะดีกว่า ถ้าข้าบอกหมดเเล้วมันจะสนุกได้ยังไงละ ฮะฮะฮ่า..."เมอรินจึงเเกล้งหยอกซินเทียร์ ให้ทำหน้ามุ่ย เเละซินเทียร์ก็ทำหน้าเคืองแบบนี้จนไปสถานีรถไฟ
หลังการถามของซินเทียร์ได้ยุติลง เเละการเดินทางได้ดำเนินต่อไป การเดินทางไปด้วยความสนุกเพลิดเพลินกับความตื่นหูตื่นตาของซินเทียร์ เมื่อการเดินทางล่วงเลยมาเป็นเวลาสามวันจากดินเเดนราชามังกรเเห่งจุดจบจนมาถึงรถไฟเวทมนต์ที่ชานชาลา A-10-08-96 เพื่อไปเมืองคาเมรอตด้วยความตื่นตาตื่นใจของซินเทียร์ ครั้งเเรกที่ซินเทียร์ได้ที่ได้เห็นเเละสิ่งที่ไม่คาดฝัน คือซินเทียร์เมารถไฟอย่างรุนเเรง คงเป็นเพราะว่าซินเทียร์เธอไม่เคยขึ้นรถไฟก็เป็นได้
เมื่อรถไฟเคลื่อนออกไปด้วยกระเเสพลังเวทที่มาจากผลึกซิกที่ใช้เป็นพลังงานให้กับรถไฟขบวนนี้ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองคาเมรอต ซินเทียร์พกดาบที่ทำมาจากเกล็ดของมังกรแห่งจุดจบไว้ไม่ห่างกายเธอกอดมันราวกับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต เธอกอดมันด้วยสภาพที่เมารถ จนเมอรินมองด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของซินเทียร์ เเต่รถไฟก็ยังคงเคลื่อนที่ต่อไปรวดเร็ว เเต่ทันใดนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้เข้ามาหาเมอริน เเละได้หาเรื่องเมอรินด้วยถ้อยคำผรุสวาท
“เฮ้ย ไอ้เเก่ เเกรู้เปล่าว่าข้าคือใคร หน่อยไอ้แก่นี่ ทำไมยังไม่ลุกอีก เดี๋ยวพ่อก็ซัดหน้าให้” หลังจากที่ขึ้นรถไฟมาแล้วก็มีอันธพาลที่กำลังยืนหาเรื่องอยู่ตรงหน้าเมอริน แต่เขาก็ตอบด้วยความกวน ยิ่งทำให้อันธพาลยิ่งโมโหยิ่งขึ้น
“เเล้วใครมันจะไปรู้เรอะ ขนาดเเกไม่รู้ เเล้วข้าจะรู้เรอะ เรื่องแค่นี้ก็ยังมาถามอีกเฮ้อ....”เขาตอบไปอย่างกวนๆ จนอันธพาลมีอารมณ์โมโหยิ่งขึ้น
“หน่อย...เเกกวนงั้นเหรอไอ้เเก่ งั้นแกก็เตรียมเจ็บตัวได้เลยแก
“เเล้วเเต่เจ้าจะคิดเเล้วจะคิดแล้วกัน เฮ้อ…….” พูดพร้อมกับการถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย
“หน่อยเเก อึก! นี้มันบ้าอะไรกันเนี้ย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย….”เมื่อสิ้นประโยค ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
“ก็เเค่เวทตรึงเงาเท่านั้นเองอยู่อย่างนั้นต่อไปสักชั่วโมงเเล้วกัน และข้าขอเทศนาหน่อยละกันจนกว่าไปถึงคาเมร็อตละกันนะ ”การเทศนาของเมอรินก็ได้เริ่มขึ้น จนนายอันธพาลถึงกับต้องร้องข้อให้เมอรินหยุด และหลังจากนั้นนายอันธพาลนี่คงจะไม่หาเรื่องใครอีกแล้วละมั้งหวังว่านะ
หลังจากเมอรินได้จัดการอันธพาลด้วยการตรึงเงา จนไปขยับออกไม่ได้ด้วยความสามารถในการใช้เวทมนตร์อย่างช่ำชอง เเละความสามารถในการใช้เวทมนต์เกินจะบรรยายเเละเหตุการณ์นี้ก็จบลงที่นักเลงคนนั้นอยู่ในสภาพถูกตรึงเงาอยู่ตรงนั้นโดยที่เมอรินได้เทศนาจนกลับตัวกลับใจเป็น โดยที่เมอรินอุ้มซินเทียร์ที่อยู่ในสภาพเมารถอยู่ตรงนั้นตามสภาพที่เรียกได้ว่าเละ ในเวลาต่อมารถไฟเวทมนต์ได้มาถึงเมืองคาเมรอต
ณ เมืองคาเมรอต
บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเเละมีรูปปั้นของราชาอาเธอร์อยู่ในท่ายืนถือดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ยืนเด่นเป็นสง่า ในตอนนีี้ซินเทียร์ตื่นตาตื่นใจอยู่ในความยิ่งใหญ่ของรูปปั้นาราชาอาเธอร์ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมื่องนี้ได้ถูกคุ้มครองโดยราชาที่ทรงธรรม เเละทันใดนั้นเมอรินได้เรียกสติของซินเทียร์ด้วยไม้เท้าของเขา
“เหม่ออะไรของเจ้า เดี๋ยวก็หลงกับพอดี นี่แน่ะ หายเมารถรึยัง” เขาได้เข็กหัวซินเทียร์ ที่กำลังเหม่อๆ
“โอ้ย! มันเจ็บนะปู่ ก็เเค่คิดว่าเมืองมันจะใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?” ในหัวข้องซินเทียร์มีแต่คำถามมากมาย จนเมอรินพูดขึ้นมา
“ตรงนี้เเค่เขตเดียวเท่านั้นเอง แต่ว่าเจ้ารีบเดินดีกว่า”
“หา!!! เเล้วมันจะใหญ่ไปไหนเนี่ย!!! อะไรกันเนี่ย
“นี้ยังเเค่ส่วนเดียวของเมืองคาเมรอต เด็กหนอเด็กช่างมัน
“ เเล้วเราจะหลงมั้ยคะปู่” ซินเทียร์ถามดวยความสงสัย เพราะโลกภานอกเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับซินเทียร์
“ไม่หรอกๆ เพราะว่าเราไปลงทะเบียนเข้าสอบกันก่อนเลย”
“เเต่พวกเราต้องลงทะเบียนด้วยเหรอคะ”
“ซินเทียร์ เป็นเรื่องปกติเเวลาที่ก่อนจะเข้าเรียน”
“ค่า…. เเล้วเราต้องไปที่ไหนกันคะ”
“ตามข้ามา เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ตามมาเถอะ
หลังจากนั้นเมอรินได้นำทางไปยังสถานที่ลงทะเบียนเตรียมสอบ เเละหลังจากนั้นซินเทียร์ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าสอบ ก่อนการสอบจะเริ่มภายในอีกสามวัน ทันใดนั้นมีคนมาชนไหล่ของซินเทียร์เเละเรื่องก็ได้เริ่มขึ้น เด็กชายที่เดินมาชนไหล่ได้ทำการดูถูกซินเทียร์ต่างๆนานา เเต่ซินเทียร์ก็อดทนต่อคำยั่วยุจากเด็กคนนั้นด้วยความอดทน เเต่ความอดทนก็หมดลง เเต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเด็กคนนี้ นางจึ่งเกิดความโมโหขึ้นมาจากคำพูดของเด็กชายคนนั้น
“หน็อย..ทำไมเจ้าไม่หลบละ เเค่สามัญชนยังมามองหน้าอีกเเล้ว เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้าคือใคร”มีเด็กชายที่ทำท่าทางอวดเบ่งและมองด้วยสายตาที่หยามเหยียด
“เเล้วจะรู้กับเเกเรอะ เเกต่างหากที่ต้องขอโทษพวกเรา”
“ข้าคือองค์ชายคิม บาบาเนียร์ลำดับที่สามเเห่งอาณาจักรบาบาเนียร์ เจ้าต่างหากที่ควรมาขอโทษเรา ก็เเค่สามัญชนกระจอกๆเเบบนี้ ข้าจะสั่งให้องครักษ์ของเราสังหารเจ้าซะ ไรดีน สังหารนางซะ
“น้อมรับคำสั่ง จะจัดการให้ขอรับ นายน้อย
“ใครมันจะกลัวเเกฟะ ไอ้เบื้อกนี้นะเหรอ
“เฮ้อออ เอาที่สบายใจเลย ได้นิสัยเจ้านั้นชัดๆ” เมอรินได้นึกถึงราชามังหนุ่มที่เป็นสหายของตนเป็นอย่างมาก
“ข้าวิงวอนต่อเทพเจ้าดาบ ด...ดาบ”เขายังไม่ทันร่ายเวทยังไม่ทันจบดี แต่โดนโจมตีโดยที่ไม่ทันตัั้งตัว
ผัวะ!! เสียงที่ดังขึ้นด้วยกำปั้นที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีนิลที่ปะทะเข้าใบหน้าขององค์รักษ์ขององค์ชายคิมอย่างเต็มเเรง ทำให้ผู้คนเเถวนั้นเเตกตื่นเป็นอย่างมาก เปลวเพลิงสีนิลที่ไม่มีใครเห็นมานานหลังมหาสงครามเเห่งการกลืนกินเมื่อนานมาเเล้วซึ่งเป็นเวทของราชามังกรเเห่งจุดจบ เเต่สิ่งที่องค์ชายคิมเห็นนั้นคือเงาของมังกรสีดำช่างดูน่าเกรงขามดูดุดัน เหมือนพร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งให้มลายสิ้นที่เเเผ่ออร่ามาจากร่างเด็กสาวเเละความน่ากลัวนี้ได้ฝังลงไปในจิตใจของชายคิมอย่างถึงที่สุด
“เอือกกกกก”ไรดีนได้หมดสติลงไปนอนกองกับพื้นด้วยหมัดของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
“มัวเเต่ร่ายนั้นเเหละ ช้าเป็นบ้า ไม่ต้องชักดาบของพ่อมาให้เสียคมหรอก ไอ้จ๊าดง่าว”
“ไรดิน ป...เป็นไงบ้าง ย... อย่าเข้ามานะอย่า ร….ไรดินตื่นขึ้นมาสิวะ”เขาพูดด้วยความร้อนรนและหวาดกลัวที่มีต่ซินเทียร์
“ไอ้ความเก่งเมื่อกี้ มันหายไปไหนเเล้วละ ไอ้องค์ชายเด็กน้อย” ซินเทียร์ได้มองด้วยสายตาที่น่าสมเพชต่อองชายคิม
“ค..ใครกลัวเเกฟะ เวทเพลิงอสรพิษสีชาดเเกจงหมอดไหม้ไปซะ ฮ่าๆๆๆเเกมันก็เเค่สามัญชน”องค์ชายได้ใช้เวทด้วความมั่นใจ และไม่สนใจผู้คนที่อยู่แถวนั้นเลยแม้แต่น้อย
“เเหวะ!! เป็นไฟที่มีรสชาติที่ห่วยมาก เเน่ใจนว่าโจมตีเต็มกำลังเเล้วเหรอนั้น ช่างอ่อนเเอจริงๆ”เวทเพลิงขององชาขยคิมกับไร้ผลต่อซินเทียร์ในตอนนี้ซินเทียร์ได้ดูดเอาไฟทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีใครโดนลูกหลงจากการใช้เวทอย่างไม่ระวัง
“เเกมันปีศาจ ข้าไม่เคยเห็นเวทที่กลืนกินเวทเเบบนี้มาก่อน”องค์เขาไม่เคยเห็นเวทชนิดนี้มาก่อน เพราะเวทที่ซินเทียร์ใช้เป็นเวทมนต์โบราณ ที่หายากมาก จนกลายเป็นตำนาน
“เเกจะไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกหรอกเพราะที่ฉันใช่คือเวทดราก้อนสเลเยอร์ยังไงละ”ซินเทียร์ยิ้มด้วยความภูมิใจที่พ่อผู้เป็นมังกรสอนให้เป็นอย่างดี
“:เป็นไปไม่ได้เวทมนต์นี้ไม่มีอยู่จริงนี้อย่ามาหลอกข้าให้ยาก”เขาพูดขึ้นมาเพื่อกลบเกลือนความกลัวที่มีต่อซินเทียร์
“ไอ้นีมันคือเวทดราก้อนสเลเยอร์เเน่นอน เป็นเวทที่ไม่ต้องร่ายเเต่อนุภาพเกินคำบรรยาย”และไรดีนได้สติขึ้นมา เขาได้ทำการยืนยันว่าเวทมนต์ที่เด็กสาวใช้นั้นเป็นเวทดราก้อนสเลเยอร์ของเเท้แน่นอน
หลังจากนั้นทั้งสองได้หนีไปอย่างน่าอับอายเเละหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เเละตอนนี้เเต่ตอนนี้มีสายตาคู่เเอบจ้องมองมาจากที่เเห่งหนึ่งเขาเป็นใครเเล้วเป็นใครกัน ต่อมาเหตุการณ์ก็คลีคลายลง เเละซินทียร์ก็ได้ไปพักผ่อนที่หอรับรองของผู้เข้าสอบ เพื่อพักผ่อนด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทางเเละตอนซินเทียร์ก็ได้หลับไหลลงไป
ซินเทียร์ที่กำลังพักผ่อนด้วยความเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไปทั้งสภาพที่ยังไม่ได้อาบน้ำยังต้องมาเจอปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆนานา เเละทันใดนั้นซินได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เเต่สิ่งที่เเปลกก็คือความรู้สึกนั้นมันช่างอบอุ่นเหลือเกินเเละเต็มเปี่ยมไปความห่วงใยที่มากมาย เเละน้ำเสียงที่อ่อนโยนราวกับปุยนุ่นที่ชวนให้คิดถึงคนึงหาเเละเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าที่เเก้มของเธออาบไปด้วยคราบน้ำที่เปรอะมากมาย เเต่ซินเทียร์ได้เเต่เก็บความสงสัยไว้ในใจอยู่อน่างนั้นเเต่ตอนนี้
ซินเทียร์ควรอาบน้ำได้เเล้วนะ
“รู้เเล้วย่ะ เเกก็ด้วยนะ ไอ้คนเขียนเดี๋ยวก็โดนอัดซะหรอก”
โปรดติดตามตอนต่อไป...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 22
Comments